Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 243
Chapter 243: สังหารในค่ายกล
“นี่..คืออะไร?”
ในค่ายกลโลหิต เทพมังกรทองเปล่งรัศมีออกมาขณะต่อสู้กับค่ายกลพันธนาการ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
“ช่วยข้าด้วย องค์ราชา!”
ท่ามกลางละอองเลือด ภาพมายามากมายปรากฏขึ้น แรกเลยเป็นสัตว์ตัวหนึ่งที่มีขนแบบกระเรียนและกระดองแบบเต่ามันดูร้ายกาจ แต่เงาร่างของมันกลับไม่สมบูรณ์ ดวงตาของมันแดงก่ํา “องค์ราชา… ข้าเจ็บ!”
“เทพมังกร! เทพมังกร!”
ที่ด้านหลังวิญญาณมากมายพุ่งเข้ามาและทั้งหมดล้วนมีหมอกสีดําปกคลุม
“ท่านเทพได้โปรดช่วยปกป้องชาวเกาะทั้งหลายด้วย!”
ชาวเกาะพวกนั้นล้วนกระดูกหักยับเยิน และยังสภาพราวกับเป็นวิญญาณอันทุกข์ทรมานเข้ามาล้อมอยู่รอบ ๆ เทพมังกรทอง
“นี่มันอะไร…”
เห็นภาพนี้แล้ว สีหน้าของฟางหยวนก็เปลี่ยนไป
“เหอเหอ… ค่ายกลโลหิตพันวิญญาณของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
ที่ข้าง ๆ เขา ผู้อาวุโสมังกรเพลิงและดอกบัวสวรรค์พิสุทธิ์ปรากฏกายขึ้น “ข้าสร้างค่ายกลโลหิตนี้ขึ้นมาส่วน เหล่าวิญญาณทุกข์เหล่านั้น เป็นเคล็ดวิชาทางธรรมของดอกบัวสวรรค์พิสุทธิ์มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เทพนี่จะประสบกับกรรมเช่นนี้กับการที่เขามีข้อตกลงที่จะอยู่ร่วมกับมนุษย์!”
“ข้าทราบแล้ว!”
ฟางหยวนพยักหน้า “จ้าวกลไกทั่วไปนั้นเพียงรู้วิธีการร่ายค่ายกลและที่ทําได้มากที่สุดก็คืออาศัยสภาพพื้นที่ในการร่ายค่ายกล แต่ว่า พวกท่านทั้งคู่กลับสามารถทําให้มันเกิดขึ้นได้หลังจากนําเอาเรื่องหลังของเทพเจ้ามังกรมารวมด้วยและร่ายมันออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ! ยอดเยี่ยมมาก!”
เหล่าวิญญาณทุกข์และชาวเกาะเหล่านี้ไม่เพียงแค่ถูกฟางหยวนสังหารแต่หลังจากตายตกลงไปกลับยังถูกนําเอามาจัดการกับราชามังกรทองด้วย พวกเขาช่างน่าสงสารที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทั้งยามเป็นและยามตาย
แต่การสร้างค่ายกลกักราชามังกรทองเอาไว้ก็ยังน่าตื่นตะลึงมาก
“พวกเขาทั้งสอง… ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ! แต่การฝึกและบรรลุถึงระดับสวรรค์มายาได้ พวกเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือใดมาก่อนจริงหรือ?”
ฟางหยวนคิดกับตัวเองเงียบ ๆ สายตามองไปที่ค่ายกล
“องค์ราชา…”
“องค์หญิง…”
“ช่วยพวกเราด้วย!”
ในค่ายกลโลหิต วิญญาณทุกข์ทั้งปวงล้วนวุ่นวายอยู่กับเทพมังกรทอง
“พวกเจ้ากล้าดีอย่างไร! พวกเจ้าไม่เชื่อฟังคําสั่งของข้าแล้วใช่หรือไม่?”
ราชามังกรทองถอยหลังไปสองก้าวและเผยสีหน้ามุ่งมั่น “พวกเจ้าทั้งหมดต้องการถูกกําจัดและหายไปจากโลกใบนี้ใช่หรือไม่?”
“ครืน!”
ขณะที่เขาพูด พลังแห่งอาณาจักรเข้มข้นก้อนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นจากร่างของเขาและลอยสูงขึ้นช้า ๆ ราวก่อนเมฆจนมองเห็นได้ในรัศมีแปดร้อยล้ํารอบทะเลสาบมังกรทอง
“ซี่! ซี่!”
วิญญาณที่เข้ามาถึงตัวเขาล้วนละลายและสลายไปราวกับหิมะกลางแสงแดด
“ครืน! ครืน!”
พลังที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกระแทกเข้ากับค่ายกลเป็นระลอก
“พลังแห่งอาณาจักรของเขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!”
ที่ด้านนอก ผู้อาวุโสมังกรเพลิงและดอกบัวสวรรค์พิสุทธิ์ล้วนตื่นตระหนก “พลังแห่งอาณาจักรส่วนมากที่พวกเราเห็นล้วนมาจากเจ้าคงคาใครจะคิดว่าเทพมังกรทองผู้นี้กลับมีพลังแห่งอาณาจักรมากถึงเพียงนี้!”
“พวกเราไม่สามารถปล่อยให้เขาทําลายค่ายกลออกมาได้ ไม่อย่างนั้นเขาจะหนีลงน้ําไป”
ดอกบัวสวรรค์สูงสุดร้องก้องและวางมือทั้งสองข้างของนางลงที่ค่ายกล
“ซี่! ซี่!”
ภายในไม่กี่วินาที แขนของนางก็แห้งเหี่ยวลงเหลือแต่หนังหุ้มกระดก ราวกับพลังชีวิตถูกสูบออกไปจากแขนของนาง
“เขาไม่หนีหรอก เขาเพียงต้องการใช้พลังแห่งอาณาจักรจากทะเลสาบมังกรทองทําลายพวกเราอย่างหมดจรด!”
ผู้อาวุโสมังกรเพลิงสบตาด้วยดวงตาเย็นชาของเทพมังกรทอง เขาวางมือบอบบางของตนลงที่ค่ายกลเช่นเดียวกับดอกบัวสวรรค์พิสุทธิ์
หลังจากใช้พลังชีวิตจากทั้งสองคนแล้ว ค่ายกลโลหิตก็เริ่มนิ่งขึ้น แม้ว่ามันจะดูไม่มั่นคงนัก มันก็ยังสามารถรับการโจมตีรุนแรงจากเทพมังกรทองได้
แต่ว่า ทั้งสองคนก็มีสีหน้าซีดเผือดราวกับกําลังจะตาย
“พวกเราสละอายุขัย 20 ปีเพื่อให้ได้พลังแห่งอาณาจักรจากเทพมังกรทอง ฟางหยวน รีบเข้าไปในค่ายกลและสังหารเขาเสียไม่อย่างนั้นพวกเราอาจจะตายกันหมด!
เสียงของพวกเขาดังอยู่ในใจฟางหยวน ทําให้เขากลอกตาไปมา
แต่ว่า เขาก็เข้าใจในค่ายกลและสามารถบอกได้ว่าทั้งสองคนนั้นใส่พลังของตนลงไปแล้วหากเขายังจะให้ทั้งคู่สู้กับเทพมังกรทอง มันก็จะลําบากพวกเขาเกินไป
นอกจากนี้ เมื่อเวลาผ่านไป พลังชีวิตของทั้งคู่เริ่มหมดไป ผมของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวเป็นหลักฐานว่าได้สละอายุขับหลายปีไป
“หากไม่มีความช่วยเหลือจากพลังแห่งอาณาจักร ราชามังกรก็เป็นเพียงนักรบศักดิ์สิทธิ์ขอบเขตแยกธาตุและอู่จงผู้หนึ่ง!”
ฟางหยวนส่ายหน้าและก้าวเท้าเข้าไปในค่ายกล
“ครืน!”
วินาทีต่อมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
เลือดสาดกระจายไปทั่วและความรู้สึกกดดันก็แผ่ไปทุกที่
ที่ตรงกลาง ร่างกายของเทพมังกรส่องประกายเรื่องราวขณะขับไล่ละอองโลหิตที่อยู่ในค่ายกลมีเส้นสายของพลังแห่งอาณาจักรอยู่บนศีรษะของเขาซึ่งถูกผนึกโดยประกายโลหิตจากค่ายกล
“เจ้าหัวขโมย เป็นเจ้าอีกแล้ว!”
เมื่อเห็นฟางหยวน เทพมังกรทองก็สีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง
หากไม่เพราะคนผู้นี้ เขาจะออกจากทะเลสาบอย่างไม่ระวังและถูกจับตัวได้อย่างไร?
เขาต้องการสังหารฟางหยวนและดื่มเลือดของฟางหยวนลงไป!
แต่ว่า มันคือเทพผู้มีประสบการณ์ผู้หนึ่ง “พวกเรากลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันก็เพียงเพราะการตายของเจ้าคงคาเท่านั้นข้ามีบุตรชายเช่นเขาอีกถึง 8 ตน และยังกองทัพกระดองแข็งอีกนับไม่ถ้วน! เหตุใดจึงไม่หยุดสู้กัน เท่านั้น… ด้วยทรัพย์สมบัติของข้า ข้าชดเชยให้เจ้าได้ทุกสิ่งที่เจ้าต้องการ!”
“โอ๋? เจ้าฉลาดขึ้นแล้ว!”
ด้วยสีหน้าลึกลับ ฟางหยวนส่ายหน้า “น่าเสียดาย… พวกเราไม่ต้องการทรัพย์สมบัติของท่านแต่ต้องการพลังแห่งอาณาจักรของทะเลสาบรัศมีแปดร้อยล์นี้!”
“นั่นเป็นแหล่งพลังของข้า!”
ราชามังกรทองดูจนปัญญา “ดูเหมือนว่า… พวกเราคงต้องสู้กับจนตายไปข้างหนึ่ง!”
ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็พุ่งมาข้างหน้าและเปลี่ยนร่างเป็นมังกรน้ํา หางของเขาพลิกเปลี่ยนทิศทางกะทันหันตวัดเข้าใส่ฟางหยวน
“ผัวะ!”
ฟางหยวนถูกหางนั่นฟาดใส่และลอยขึ้นไปเหนือค่ายกล เขายืนขึ้นและราวกับไม่ได้รับบาดเจ็บเขาปัดฝุ่นที่หน้าอก “จริงด้วย… เมื่อไม่มีความช่วยเหลือจากพลังแห่งอาณาจักรเจ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามอีกต่อไป!”
“เจ้า!”
มังกรน้ําในค่ายกลโลหิตเบิกตากว้าง “เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร?”
“ทําไมไม่ได้?”
ฟางหยวนลูบหน้าอก เมื่อลูบ เสื้อผ้าของเขาก็สลายออกเป็นชิ้น ๆ ลอยไปตามกระแสลมราวกับผีเสื้อ เผย ให้เห็นร่างทองคําของเขา
มันคือพลังของอินทรียักษ์กายาเหล็กร่วมกับการป้องกันของร่างทองคําร้อยพิษ!
“ไม่มีคนเช่นเจ้าในประเทศเลี่ยที่ไม่ต้องใช้พลังของจักรราศี… เจ้าเป็นเทพใดกัน?”
มังกรน้ําถาม น้ําเสียงดูจุนงง
“เจ้าเป็นมังกรที่ตายแล้ว เหตุใดจึงอยากรู้อะไรมากนัก?”
ฟางหยวนหัวเราะออกมาและชี้มือขวาออกไป “พันศร โจมตีพร้อมกัน!”
“ฝูบ! ฝูบ!”
ในโลกแห่งความฝันอันแท้จริงของเขา ค่ายกลดาบแปดประตูสั่นไหว
ปราณดาบสีแดงจํานวนนับไม่ถ้วนลอยเต็มค่ายกลโลหิต และในค่ายกลก็มีเสียงคํารามด้วยความโกรธแค้นและเจ็บปวด
“ซี่! !”
“ครืน!”
ในค่ายกลโลหิต มังกรน้ําหลบปราณดาบขณะที่พวกเขาคืบไปทางริมทะเลสาบอย่างช้า ๆ
ทุกครั้งที่ค่ายกลสั่นสะเทือน ผู้อาวุโสมังกรทองและดอกบัวสวรรค์พิสุทธิ์ก็กระอักเลือดออกมา ภายในไม่กี่ นาที มือของพวกเขาก็ซีดเผือด
“มังกรนี่มีพลังมากกว่าที่พวกเราคาดไว้”
มีเลืากของดอกบัวสวรรค์พิสุทธิ์ “หาไม่ใช่เพราะชะตาลิขิตให้พวกเราพบฟางหยวน พวกเราคงจะจบลงด้วยการตายเมื่อลงมืออย่างรู่วาม!”
“จริงทีเดียว!”
ผู้อาวุโสมังกรเพลิงมีสีหน้าไม่น่าดูนัก “ข้าเกรงว่าเพื่อนของพวกเราจะไม่สามารถจัดการกับเจ้ามังกรได้ในเวลาอันสั้นหากเขาใช้เวลานานกว่านี้อีกเพียงนิดเดียว พวกเราย่อมตายตกและกลับไปสู่อาณาจักรของพวกเราอเทียนโหลวย่อมต้องหัวเราะพวกเราเป็นแน่!”
“ครก!”
ในตอนนี้เอง พลังอันแข็งแกร่งกระแทกเข้ากับค่ายกลและเริ่มปรากฏรอยแตกที่ด้านข้าง
ในค่ายกล ฟางหยวนปล่อยปราณดาบไปรอบ ๆ และเริ่มใช้วิชาดาบกับร่างของมังกรน้ํา
ขณะที่มังกรน้ําปลิวลอยไป เลือดก็สาดไปทั่วบริเวณ มันกระแทกเข้ากับกําแพงค่ายกล
ทุกอย่างสั่นสะเทือน เกล็ดของมังกรน้ําจํานวนมากรวมถึงเลือดกระจายลงพื้นราวกับห่าฝน
“ครืน!”
เลือดที่เต็มไปด้วยพลังแห่งอาณาจักรส่องประกาย ค่ายกลโลหิตสั่นสะเทือนและเริ่มแตกออกจากแรงกดดันมหาศาลพลังแห่งอาณาจักรภายในนั้นพยายามดิ้นรนให้เป็นอิสระราวกับจะหลุดออกมาได้ในทุกเมื่อ
“พวกเราทนต่อไปไม่ไหวแล้ว พวกเราต้องสังหารมังกรนั่นเดี๋ยวนี้!”
ด้วยเจตจํานงเวทย์ของเขา ฟางหยวนสามารถสัมผัสได้ว่าทั้งสองคนนั้นใช้พลังของตนหมดไปแล้ว “หากพวกเราปล่อยมันหนีไปได้ ข้าเองก็อาจจะตาย และมันยังมีผลทําให้กายเนื้อของพวกเราบาดเจ็บได้!เช่นนั้นก็ไม่คุ้มแล้ว!ใช้พลังสุดท้ายของเจ้าเสีย!”
ขณะที่ราชามังกรทองสัมผัสได้ว่าพลังแห่งอาณาจักรกําลังจะหนีไปได้มันก็มีสีหน้ายินดีและยิ่งสงบลงกว่าเดิม
“คริน!”
ตรงหน้าเขา ชีพจรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามปรากฏขึ้นบนร่างของฟางหยวนในรูปเกราะวิเศษปกคลุมทั่วร่าง
“ฝบ!”
ในเวลาเดียวกัน ดาบเพลิงโปร่งแสงก็ส่องประกายอยู่ในมือฟางหยวน ที่ด้ามจับมีรูปมังกรตัวหนึ่งสลักเอาไว้คือดาบเพลิงผลาญ
“พลังธาตุระดับหก ดาบเพลิงผลาญ ฆ่า!”
ฟางหยวนพุ่งเข้าใส่ราชามังกรทองอย่างรวดเร็วจนเห็นเป็นเพียงเงาหนึ่ง
เกราะวิเศษส่องประกาย ป้องกันการจู่โจมส่วนใหญ่เอาไว้
ด้วยความมุ่งมั่นในดวงตา ฟางหยวนราวกับเริงระบําอยู่รอบตัวมังกรน้ําและเหวี่ยงดาบออกไปอย่างสุดพลังเขาเล็งที่คอของมังกรน้ําแล้วก็กระโจนเข้าไป!
“โฮก! โฮก!”
มังกรน้ําคําราม ราวกับมันไม่สามารถทนรับได้อีกต่อแล้ว
เกล็ดบนคอของมันหลุดร่วงลง ฟางหยวนยังคงโจมตีใส่ร่างของมังกรน้ํา ปล่อยให้ปราณดาบระเบิดอยู่ภายในร่างนั้น
“โกรก!”
หลังจากเสียงทึบ ๆ ดังมา ท้องของมังกรน้ําก็ขยายใหญ่ขึ้นราวกับมันกลืนพระอาทิตย์ร้อนแรงดวงเล็ก ๆลงไป
ท้องของมันขยายโตขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดมันก็ทนไม่ไหวแล้วระเบิดออก
เลือดพุ่งขึ้นฟ้าซากศพมังกรน้ําแยกออกเป็นสองส่วนหล่นลงจากฟ้ากระทบพื้นฝุ่นตลบไปหมด
“ในที่สุด… มันก็จบลงแล้ว!”
ฟางหยวนโบกมือ รับเกล็ดที่ได้มาจากคอของมันเอาไว้
มันเป็นเกล็ดย้อน และแตกต่างไปจากเกล็ดอื่น ๆ มันดูราวกับทองคําบริสุทธ์ ทําให้ฟางหยวนสะดุดตา
“ครีน!”
ในวินาทีถัดมา ค่ายกลโลหิตก็ถล่มลง
“ฟู… ในที่สุดมันก็ตาย!”
“เจ้ามังกรจี้เง่านี่ร้ายกาจจริง ๆ… เดี๋ยวนะ รีบเก็บพลังแห่งอาณาจักรเร็วเข้า!”
ดอกบัวสวรรค์พิสุทธิ์และผู้อาวุโสมังกรเพลิงโซเซไปมาแต่ยังตั้งตัวได้และเรียกใช้เคล็ดวิชากักเก็บพลังแห่งอาณาจักรไว้กลางอากาศ
“ดี!”
โดยไม่รั้งรอ ฟางหยวนลงมือช่วย และทั้งสามก็ร่วมมือกันใช้เคล็ดวิชาออกมา
“ครืน! ครืน!”
ท่ามกลางอักขระเวทย์ เส้นพลังสีขาวก็เลื้อยไปมาอย่างมังกรและชนเข้ากับผนึก
“ยอดเยี่ยมมาก!”
ฟางหยวนกัดฟัน “พลังอันร้ายกาจ! พลังแห่งอาณาจักรของทะเลสามมังกรทองทั้งแปดร้อยลี้!”