Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 256
Chapter 256: เข้าร่าง
“แต่ว่า ข้ามีความคิดหนึ่งที่รับรองความปลอดภัยของเจ้าได้!”
บนแผ่นหยกของเขา เจตจํานงของเฟิงซินจือนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“โอ๋? ข้ารอฟังอยู่!”
ฟางหยวนยิ้มและเดาไว้แล้วว่าเฟิงซินจ่อต้องการจะเสนออะไร อย่างไร เฟิงซินจ่อก็ยังไม่บรรลุวิชาแปรธาตุและดังนั้นย่อมไม่มีความสามารถในการปกป้องเขา ดังนั้น มันก็น่าจะเป็นการแนะนําฟางหยวนให้แก่ใครสักคนที่อยู่เบื้องหลังเขา
แล้วก็จริง เฟิงซินจือพูดต่อ “บรรพตพันปีกล้าลงมือกับเจ้าเพราะว่าเจ้าไม่มีผู้สนับสนุนเบื้องหลังสหพันธ์แห่งอาณาจักรนั้นเป็นหนึ่งในห้าสํานักที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่จ้าวแห่งฝันหากเจ้ายินดีเข้าร่วมดูจากความสามารถและความแข็งแกร่งของเจ้าแล้วเจ้าย่อมนับว่ามีคุณค่าบรรพตพันปีจะทําอะไรเจ้าได้อีก?”
“ความสามารถและความแข็งแกร่งของข้า?”
ฟางหยวนอึ้งไปขณะค่อย ๆ คิด
ความสามารถของเขานั้นไม่ได้เผยออกมามากนักในอาณาจักรหย แต่อย่างน้อยมันก็เทียบได้กับจ้าวแห่งฝันผู้มีประสบการณ์คนอื่น ดังนั้น คนพวกนี้จึงคิดว่าเขาซ่อนความสามารถที่แท้จริงเอาไว้ในการทําภารกิจสํารวจก่อนหน้านี้
อันที่จริง มันเป็นเพราะว่าพวกเขาถูกจํากัดจากอาณาจักรที่ต่างกันและฟื้นฟูความสามารถของตนได้เพียงกึ่งหนึ่งในขณะที่ข้าอยู่ในระดับสูงสุดของตัวเอง…
เฟิงซินจ่อนั้นเป็นจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่ 3 หรือ 4 และมีความสามารถอยู่เพียงกึ่งเดียวในอาณาจักรหุยตรงกันข้าม ฟางหยวนนั้นใช้ความสามารถของตนเองได้อย่างเต็มที่ และมันก็เทียบเท่ากันกับเขาอย่างไรก็ตามอันที่จริงแล้วมีเพียงฟางหยวนที่รู้ว่าตัวเองใช้ความสามารถที่มีได้อย่างสมบูรณ์
“ข้ากลายเป็นผู้มีพรสวรรค์ไปโดยไม่รู้ตัว?”
เขายิ้มและตอบ “นี่เป็นเรื่องใหญ่… ให้ข้าคิดดูก่อน!”
“ได้ จงรู้เอาไว้ว่าสมาพันธ์แห่งอาณาจักรนั้นมีข้อจํากัดของจ้าวแห่งฝันน้อยที่สุด นอกจากนี้ ข้ายังสามารถนําเจ้าไปที่สมาพันธ์ได้ด้วยตนเองและหนทางย่อมง่ายขึ้น…”
เฟิงซินจือพึมพําก่อนที่จะตัดการติดต่อไป
, แม้ว่าความสามารถของข้าจะไม่เลว แต่ข้าก็ยังไม่ถึงระดับที่นับได้ว่ามีพรสว:
ฟางหยวนส่ายหน้าและหัวเราะอื่น ๆ
เฟิงซินจือคงจะคิดว่าเขาเป็นผู้มีพรสวรรค์ยิ่งใหญ่
“มันเป็นไปได้ที่จะฝึกฝนจนถึงระดับนั้น แต่ระดับการฝึกตนของข้าตอนนี้ยังต่ําเกินกว่าที่จะคิดถึงเรื่องนั้น… ข้าเกรงว่าหากข้าเข้าสู่สมาพันธ์แห่งอาณาจักรข้าจะสูญเสียการเป็นนายเหนือชีวิตของตนเองไป…”
“ข้าต้องฝึกให้มากขึ้น!”
ฟางหยวนเดินออกจากจัตุรัสป้ายหินและไปถึงมุมหนึ่ง “วิญญาณแห่งอาณาจักร ข้าต้องการขอพื้นที่ว่างเพื่อการระบุตําแหน่งของอาณาจักรอื่น”
“ตึง! ข้ารับคําขอของท่าน และจะหักคะแนนภารกิจ 100 แต้ม!”
เสียงเย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้น และวินาทีถัดไป ฟางหยวนก็พบตัวเองอยู่ในพื้นที่ว่างเปล่าที่ถูกผนึกไว้โดยรอบ
ด้วยความสามารถของวิญญาณแห่งอาณาจักร พื้นที่ว่างที่มันสร้างขึ้นนั้นแข็งแกร่งพอที่จะรับการโจมตีจากนักรบศักดิ์สิทธิ์ระดับพลังธาตุที่แท้จริงและผู้ฝึกยุทธ์ระดับผู้บําเพ็ญเพียรที่แท้จริง
“ตามที่ผู้อาวุโสนักข้ามฝันอธิบายไว้ ก้าวแรกก็คือต้องมีพื้นที่ว่างเป็นค่ายพัก ดังนั้น มันจึงเป็นไปได้ที่จะลงมือในโลกแห่งความฝันอันแท้จริงของข้าเช่นกัน แต่นั่นนับเป็นการเอาชีวิตของข้ามาเสียงมันจะปลอดภัยกว่าที่จะทดลองในอาณาจักรแห่งฝัน!”
เพียงแค่พลิกมือ ผลไม้สีทองก็ปรากฏขึ้น รอบ ๆ ผลไม่มีอักขระเวทย์สีทองเป็นแถวอยู่รอบ ๆ ซึ่งทําให้มันดูลึกลับ
แต่ว่า เขารู้ว่านี่ไม่ใช่ผลไม้จริง ๆ แต่เป็นพิกัดของอาณาจักรอื่น และมันก็เพียงแค่ใช้รูปลักษณ์ของสิ่งของอื่นเท่านั้น
“การข้ามฝันสู่โลกอื่นนั้นยังเป็นวิธีการฝึกตนที่รวดเร็วที่สุดอยู่ดี!”
รางวัลก่อนหน้านี้ที่ฟางหยวนเก็บเกี่ยวได้ทําให้เขาอยากลองดูอีกครั้ง
นอกจากนี้ เขาบอกได้ว่าทั้งต้าเฉียนนั้นถูกจับตาดูอย่างจริงจัง หากไม่มีความสามารถในระดับหนึ่งแล้วการกระทําโดยขู่วามของเขาก็รังแต่จะดึงดูดความสนใจของผู้มีอํานาจและนําไปสู่ความตายของตัวเขาเอง
เทียบกันแล้ว การข้ามฝันสู่อาณาจักรอื่นนั้นสร้างปัญหาน้อยกว่า หากเขาโชคดี เขาก็สามารถเก็บเกี่ยวรางวัลมหาศาลและมันก็คุ้มค่าที่จะลอง!
“ข้าไม่ได้หวังว่าข้าจะต้องพบแหล่งทรัพยากรของจ้าวแห่งฝัน ข้าเพียงหวังว่า ข้าจะไปถึงอาณาจักรที่คล้ายกับอาณาจักรหย และได้พลังแห่งอาณาจักรมาสักนิด เพื่อสร้างดาบอีกสักหลายเล่มข้าก็พอใจแล้ว…”
มองรอบ ๆ ตัว ฟางหยวนก็ไม่ลังเลอีก เขาทําตามคําอธิบายของผู้อาวุโสนักข้ามฝันและเริ่มแตะนิ้วที่ผลไม้สีทอง
“ครืน!”
ผลไม้สีทองสั่น เปลวไฟสีทองเริ่มลูกเผาผลาญมัน อักขระเวทย์รวมตัวกันอย่างช้า ๆ และวนไปรอบ ๆ ผลไม้ราวกับสายน้ำ ทันใดนั้น มันก็ระเบิดออกและก่อตัวเป็นประตูเพลิงบานหนึ่ง
ด้วยแรงดูดรุนแรง ร่างของฟางหยวนก็ถูกสูบเข้าไปในนั้น
“เอ๋?”
ฟางหยวนอยากจะค่อย ๆ สัมผัสความรู้สึก แต่ว่า เขารู้สึกมึนงงไปในทันทีและสัมผัสได้ถึงแรงมหาศาลนั้นที่ แทรกซึมเข้าไปในอาณาจักร จิตใจของเขาแทบจะชะงักไป
หลังจากนั้นเป็นนาน เขาก็ลืมตาขึ้นและโลกใหม่ก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขา
มันเป็นโลกที่เต็มไปด้วยน้ำ
มีทั้งแม่น้ำและลําธาร ทะเลสาบและทะเลปกคลุมไปทั่วทั้งโลก มีพื้นดินเพียงน้อยนิดและล้วนอยู่ภายใต้น้ำ ในอาณาจักรนี้
ที่กลางอากาศ มีพลังธาตุธรรมชาติเข้มข้น แน่นอนว่า ในโลกของเขาเองนั้น มันรู้จักกันในนามของพลัง วิญญาณ
ในวันที่สามเดือนเจ็ด มีฝนตกปรอย ๆ
เมื่อหมอกจางหายไป ก็เกิดเป็นน้ำหยดใหญ่ที่เกาะตัวอยู่บนใบบัว เมื่อหยดน้ำนั้นไหลลงไปในทะเลสาบ ก็ เกิดคลื่นวงเล็ก ๆ
“ฝบ!”
สายลมอ่อนพัดผ่านไปและใบบัวก็ไหวตามสายลม ท้องทะเลสีฟ้าอมเขียวเหยียดยาวสู่ขอบฟ้าจรดเข้ากับ แผ่นฟ้าอย่างไร้รอยต่อ
มีเสียงน้ำแตกกระจายดังมาเมื่อปลาหลีสีดําตัวหนึ่งกระโดดขึ้นจากผิวน้ำ
“อืม… ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่บ่อน้ำใหญ่ แต่เป็นทะเลสาบ!”
ในร่างปลาหลีสีดํา ฟางหยวนปลดปล่อยเจตจํานงเวทย์ออกมา ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ใครจะไป รู้ว่า… ในโลกนี้นั้น สัตว์ทั้งหลายเป็นผู้ครอบครอง และข้าเองก็กลายเป็นสัตว์ไปเช่นกัน!”
สําหรับเขา นี่ไม่นับว่าเป็นกระไรได้ อย่างไร เขาก็เคยมีประสบการณ์ในการแฝงฝันมาก่อน ไม่ช้า เขาก็ปรับ ตัวได้กับการไม่มีแขนและขาขณะค่อย ๆ ฝึกว่ายน้ำโดยใช้เพียงร่างกาย
หลังจากสํารวจดูแล้ว เขาก็รู้ว่าตนเองอยู่ที่ใด
เขาอยู่ในทะเลสาบใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งกินพื้นที่กว้างขวาง และยังเข้ามาอยู่ในร่างของปลาหลีสีดําที่ตัวไม่ได้ ใหญ่ไปกว่าฝ่ามือ หากเขาถูกจับได้ ย่อมกลายเป็นอาหารอันโอชะ
มีคําพูดหนึ่งเกี่ยวกับสัตว์ในต้าเฉียน “ปลาหลีนั้นครีบ ฟัน และหนวดแข็ง และไม่เหมาะจะเป็นอาหาร!”
ตอนนี้ฟางหยวนนั้นมีเกล็ดสีดําเงา
นอกจากนี้ ในอาณาจักรวารีนี้ยังดูอันตรายกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก
รอบ ๆ ล้วนมีปลาและสัตว์น้ำที่ดุร้าย กระทั่งในกอบัวเองก็ไม่ปลอดภัยไปกว่า
เมื่อคิดดูแล้ว กระทั่งปลาตัวเล็กสักตัวก็ยังมีพลังวิญญาณของตัวเอง น่าจะเป็นเพราะการมีพลังธาตุธรรมชา ติเข้มข้นอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ
“ในเมื่อข้าเป็นปลา ข้าก็จะเป็นผู้ปกครองแหล่งน้ำ! ไปทําเรื่องเฉพาะหน้าก่อนดีกว่า ฝึกฝน!”
ฟางหยวนว่ายไปที่ใบบัวและแฝงตัวเองอยู่ในเงาของใบบัวทั้งหลาย
“ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปลาเล็กกินกุ้ง และกุ้งกินดิน! ข้านับว่าตัวเล็กและอาจจะต้องลองกินกุ้งเพื่อให้ท้อง อิ่ม…”
ฟางหยวนปลอบตัวเองด้วยความจริงที่ว่าเขาไม่ได้เข้าไปอยู่ในร่างกุ้ง ดังนั้นจึงไม่ต้องกินดิน
นอกจากนี้ กุ้งในแม่น้ำยังอ้วนและน่าอร่อย และไม่แย่นักหากต้องกินดิบ ๆ
เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง เขาก็กลืนกุ้งสองสามตัวลงไป บังคับพลังของตนเองและลองกินปลาเล็ก ๆ ที่ขนาดไม่ ใหญ่ไปกว่านิ้วของเด็กทารกอีกสองสามตัว จนอิ่ม เขาก็ย่อยพวกมันอย่างช้า ๆ
หลังจากเรอออกมาอย่างพึงพอใจ เขาก็ไปที่ร่องหินแห่งหนึ่งเพื่อพักและสํารวจร่างกายของตัวเอง
“ค่าสถานะ!”
เพียงแค่คิด หน้าต่างบานหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
“ชื่อ: ฟางหยวน
เผ่าพันธุ์: ปลาหลีดํา (10 ปี)
พลังกาย: 0.3
พลังลมปราณ: 0.3
พลังเวทย์: 3.3
สายวิชา: ???
การฝึกตน: ???
วิทยายุทธ์: ???
ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 5)]”
“เอาละ ในเมื่อข้าเป็นปลาตัวหนึ่ง ข้าก็โชคดีพอแล้วที่สามารถรักษาค่าพลังเวทย์เอาไว้ได้ถึงหนึ่งในสิบ ส่วน…”
หลังจากมองหน้าต่างสถานะของตัวเอง ฟางหยวนก็หมดคําพูด
ความสามารถของตัวเอง
ด้วยความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ของค่าสถานะถาวรของเขา เขาสาม ได้อย่างรวดเร็ว
แต่ว่า ปลาตัวหนึ่งจะฝึกฝนอย่างไรเล่า? นี่เป็นคําถามสําคัญ
“ในเมื่อข้ามีระดับพลังเวทย์สูงที่สุด ข้าน่าจะเหมาะสมกับการเป็นจ้าวแห่งฝันที่สุดและฝึกวิชาที่ต้องใช้พลัง กายและพลังเวทย์!”
เรื่องดีก็คือเขามีประสบการณ์แล้ว เมื่อคิดถึงสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้ว เขาก็สรุปออกมาอย่างรวดเร็ว “นอกจากนี้ มันยังไม่เหมาะสมที่ข้าจะฝึกแบบมนุษย์ ดังนั้น ข้าจึงไม่สามารถฟื้นฟูเคล็ดวิชาเดิมของข้าได้ แต่ว่า ข้าเคยเห็นเคล็ดวิชาในวังมังกรทองเมื่อครั้งก่อน แม้ว่าจะต่างอาณาจักรกัน ความแตกต่างก็ไม่มากและข้าน่าจะ สามารถฝึกวิชาพวกนั้นได้!”
“แน่นอนว่า ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ของข้า ข้าต้องซ่อนตัวก่อน ไม่อย่างนั้น มันก็คงเสียเรื่องแล้วหากมีปลา ใหญ่สักตัวตามมาและกินข้าลงไป…”
ฟางหยวนตัดสินใจแล้ว
ถึงตอนนี้ ก็มีกระแสน้ำรุนแรงราวกับแม่น้ำไหลลงสู่ทะเล รบกวนทุกอย่างที่อยู่ใต้น้ำ
“อะไรน่ะ?”
กระแสพลังรุนแรงสัมผัสได้แม้ใต้น้ำ นี่เป็นการสําแดงพลังของผู้แข็งแกร่งต่อผู้อ่อนแอ ราวกับมีผู้มีพลังเรียก หาผู้อ่อนแอไปรวมตัวกัน
ที่ใต้ดอกบัว ปลาหลีหลังดํา ปลาหลีแดง ปลากระจก งูน้ำ กุ้งและปู และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อีกหลายชนิดก็ ปรากฏตัวขึ้นเกาะกลุ่มกันเป็นสาย
ในทะเลสาบ มีคลื่นสีทองแผ่มา ปลาหลีหลายพันตัวเกาะกลุ่มกันและกลายเป็นคลื่นที่ส่องประกายวูบวาบ บนผิวทะเลสาบ
“ท่านเทพวารีเรียกหาพวกเรา!”
ในกระแสน้ำ ใบหน้าสีเขียวของผู้พิทักษ์ผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเปลือกหอยยักษ์ที่ใต้เท้าและหอกสอง ง่ามในมือ ดวงตาโต ปากกว้าง และใบหน้าแบบกบ มันคว้าเอาปลาใหญ่หลายตัวและจิ้มนิ้วใส่พวกมัน
ปลาที่ถูกจิ้มนั้นพลิกกลิ้งไปและเริ่มงอกแขนและขา ดูคล้ายมนุษย์ สิ่งเดียวก็คือยังมีลักษณะภายนอกอัน ประหลาดและมีผิวเป็นเกล็ด
“เปลี่ยนรูป?”
ด้วยเจตจํานงเวทย์อันแข็งแกร่ง ฟางหยวนยังคงควบคุมร่างกายของตัวเองไว้ได้ขณะซ่อนอยู่ในร่องหิน เขา มองเห็นทุกอย่างตรงหน้าและเริ่มหัวเราะ
การเปลี่ยนรูปนี้ใช้ออกโดยปิศาจเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้ใต้บัญชาและผู้รับใช้ วิธีการของพวกมันนั้นไร้ปรานีและไม่สมบูรณ์นักสัตว์ที่พวกเขาเปลี่ยนรูปนั้นยังมีลักษณะอันน่ากลัวและยังสูญเสียบางส่วนของพลังวิญญาณไป! พวกมันจะกลายเป็นคนรับใช้ไปตลอดชีวิต
“หากเทพวารีเป็นผู้ทําการเปลี่ยนรูปเอง ข้าก็ยังเข้าใจได้ แต่เจ้าเป็นเพียงผู้พิทักษ์วารี…
ขณะที่เขาคิดกับตัวเอง เขาก็ถดตัวลึกเข้าไปในร่องหิน
“ข้า เทพวารีแห่งทะเลสาบฉี ฝึกตนสําเร็จแล้ว ส่วนตอนนี้ผู้ใดจะครองทะเลสาบฉี ก็ขึ้นกับโชคชะตาแล้ว…”
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เสียงอันดังและทรงพลังก็ดังมา
“เทพวารีทะเลสาบฉี? ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเทพของสถานที่นี้ ฝึกตนสําเร็จแล้ว? เขากําลังจะขึ้นสวรรค์ไปหลังจากนี้หรือ?”
ขณะที่ฟางหยวนคาดเดาไป เขาก็พบประกายสีทองกําลังจางไปและสัตว์น้ำต่างเริ่มว่ายหนีไปเขาตัดสินใจทําตัวเป็นเต่าหดหัว
ด้วยความสามารถในตอนนี้ของเขา ต่อให้เขาได้ของมีค่าใดมาก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บเอาไว้กลับกันเขาอาจจะต้องสูญเสียชีวิตด้วยซ้ํา
หากจะต้องเสี่ยงชีวิตเขาซ่อนตัวอยู่เงียบ ๆ และฝึกฝนตนดีกว่า