Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ) - ตอนที่ 336
บทที่ 336 – ร้านค้าอิสระ
ไม่เกินรอค่ายของเจ่าไห่ก็เริ่มเก็บของเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางทันที แต่ตอนนี้พวกเขาก็เห็นชายคนนึ่งเดินมาทางค่ายของพวกเขา
ชายคนนั้นใส่เสื้อผ้าดูดีเลยก็ว่าได้ เพราะมันไม่ใช่เสื้อผ้าที่คนทั่วไปจะใส่ แม้ว่าเขาจะแต่งตัวแบบนั้น เจ่าไห่ก็คิดว่าผู้ชายคนนั้นกําลังคิดอะไรอยู่ แต่ถ้ามองดูดีๆชุดที่เขาเสื้อเหมือนกับเสื้อผ้าของทหาร
เจ่าไห่มองไปที่ชายคนนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเขา ชายคนนั้นไม่ได้เอาอาวุธมาด้วย ใบหน้าของเขามีเพียงรอยยิ้ม เขาดูเหมือนจะไม่เป็นอันตรายใดๆ
ชายคนนี้ยืนอยู่ห่างจากรถของเจ่าไห่ประมาณ 5 เมตร และก็คํานับเข่าไห่ ขณะที่เขาพูดว่า “ข้าน้อยคนนี้เป็นคนของร้านค้าแม็คซี ฉันไม่ได้มีเหตุผลอื่นที่จะมาหานายน้อยในวันนี้ ฉันแค่อยากเดินทางไปด้วยเท่านั้น ฉันไม่รู้ว่านายน้อยจะเห็นด้วยกับคําขอของฉันหรือไม่?”
เจ่าไห่รู้สึกประหลาดใจมาก แม้ว่าชายคนนี้จะดูธรรมดา แต่ขบวนรถของเขาก็ไม่เล็กเลยนะ เจ่าไห่มองไปที่ขบวนรถและก็เห็นว่าในขบวนน่าจะมีรถประมาณ 200 คัน
ชายคนนั้นมองไปที่เจ่าไห่แล้วพูดอย่างรวดเร็วว่า “นายน้อยโปรดอย่าเข้าใจผิด เราไม่ได้เหมือนโจรในหุบเขา ร้านค้าแมกซี่ของเรามีประวัติการทําธุรกิจมาแล้วกว่า 100 ปีระหว่างจักรวรรดิโรเซ่นและจักรวรรดิอาร์ซูฉัน คุ้นเคยกับนักเดินทางในหุบเขาเป็นอย่างดี ตอนนี้ฉันอยากจะรู้จักกับนายน้อย ฉันไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี”
เจ่าไห่มองไปที่ชายคนนั้นแล้วพูดว่า “ก็ดีเหมือนกัน ฉันเพิ่งเคยที่จะได้เดินทางไปจักรวรรดิโรเซ่น แล้วก็ยังไม่รู้จักประเพณีท้องถิ่น ฉันอาจจะถามนายได้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ นายเห็นด้วยกับฉันไหม? และชื่อของฉันก็คือเวลส์ แล้วนายล่ะชื่ออะไร?”
ชายคนนั้นก็รีบตอบกลับเจ่าไห่ทันทีว่า “ข้าน้อยเป็นคนคอยร้านค้าแม็กซี่ชื่อว่าสตรอง เราจะทําตามคุณทุกอย่างที่คุณตัดสินใจ”
เจ๋าไร่ก็ยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า “ดีมาก เราจะไปพร้อมกันสตรอง” สตรองก็ยิ้มแล้วกลับไปที่รถของเขา
เจ๋าไร่ไม่รู้ว่าความต้องการที่แท้จริงของเค้าคืออะไรทําไมเค้าถึงต้องการที่จะเดินทางไปกับพวกเขา หลังจากที่เจ่าไห่เข้ารถมาเขาก็ถามลอร่าว่า “ลอร่าเธอเคยได้ยินชื่อร้านค้าแม็กซี่ไหม?”
ลอร่าพยักหน้าแล้วก็พูดว่า “แน่นอนฉันเคยได้ยินชื่อของพวกเขา พวกเขาเป็นร้านค้าขนาดกลางของจักรวรรดิโรเซ่น ขนาดของร้านค้าก็ไม่ใช่เรื่องสําคัญอะไรของพวกเขา พวกเขาได้ค้าขายบ่อยครั้งกับจักรวรรดิโรเซ่น และจักรวรรดิอาร์ซู และเพอร์เซลล์อยู่ค่อนข้างไกลทําให้การดําเนินการค้าของพวกเขาไปไม่ถึงที่นั่น”
เจ่าไหก็พยักหน้าแล้วถามอีกครั้งว่า “แล้วชื่อเสียงของพวกเขาเป็นยังไง? ตอนนี้เรากําลังจะเข้าสู่จักรวรรดิโรเซ่น มันก็คงจะดีใจที่มีคนรู้จักที่นั่นดีกว่าเรา”
ลอร่าพยักหน้าและพูดว่า “แน่นอนชื่อเสียงของเค้าดีมาก ร้านค้าของพวกเขามีชื่อเสียงในเรื่องความซื่อสัตย์ และความน่าเชื่อถือมาก ถึงแม้ว่าร้านค้าของพวกเขาจะไม่ใช่ร้านค้าที่มีขนาดใหญ่มาก แต่พวกเขาก็มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ”
เจ่าไห่ยิ้มแล้วก็ตอบว่า “นี่ก็เป็นสิ่งที่ดีนะ แต่เธอคิดว่าทําไมพวกเขาถึงเข้ามาหาฉันในตอนนี้? เราไม่ได้มีการติดต่อกับพวกเขาแต่เราก็มีขบวนรถเพียงแค่ 2 คันเท่านั้น ฉันคิดว่าเมื่อเห็นรถที่เราใช้แล้วพวกเขาก็คงไม่คิดที่จะทําธุรกิจกับเรา”
ลอร่ายิ้มและพูดว่า “แม้ว่าเรานั้นจะดูเหมือนคนธรรมดา แต่ฉันคิดว่าพี่ไหก็น่าจะเป็นคนที่สําคัญมากในอนาคต อย่าลืมสิว่าพี่ได้จัดการโจรพวกนั้นโดยที่ไม่ได้ใช้พลังอะไรเลย พี่แค่ให้เงินแก่พวกเขาและนอกเหนือจากนั้น พวกเขาก็เป็นยามเฝ้าพวกเราในเวลาการคืน ฉันคิดว่าตรงนี้แหละที่คนจํานวนมากชอบพี่”
เจ๋าไร่ก็ยิ้มและพูดว่า “ฉันแค่ต้องการให้โจรออกมาเท่านั้นเอง ฉันไม่คิดว่าคนรอบๆจะสนใจพวกเรา ฉันก็ไม่คิดว่าทหารที่มาด้วยจะไม่เห็นโจรพวกนั้น หรือพวกเขาจะทําเป็นแกไม่เห็นกันแน่นะ? แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีความสัมพันธ์บางอย่างเกิดขึ้นที่หุบเขาแห่งนี้ ฉันจึงเลือกที่จะไม่ทําอะไรจนพวกนั้น”
อันที่จริงเจ่าไห่เห็นพวกโจรมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทําไมทหารป้องกันถึงไม่เห็นพวกมัน ฉันคิดว่าทหารป้องกันพวกนี้ได้ตั้งเงินให้พวกเขาจ่าย “คิดเสียว่ามันเป็นค่าคุ้มครอง” พวกเขาได้บอกกับทุกคนที่เดิ นทางผ่านทางนี้เกี่ยวกับทหารของพวกเขา แล้วก็เห็นได้ชัดว่าการที่จะสร้างทหารพวกนี้จะต้องมีความแข็งแกร่ง แล้วก็ต้องมีคนที่อยู่เบื้องหลังที่ดี
โจรพวกนี้จะขโมยของจากหุบเขาและเอาไปขายให้กับป้อมปราการสายลมและป้อมปราการสายน้ํา แล้วก็เป็นไปไม่ได้เลยที่โจรพวกนี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทหารป้องกันที่อยู่ระหว่างสองป้อมปราการนี้ ตอนนี้เจ่าไห่ก็ยังไม่ถึงป้อมปราการสายน้ําและเขาก็ไม่ต้องการก่อความวุ่นวายให้กับกองทหาร เขาจึงตัดสินใจที่จะให้เหรียญทอง 1000 เหรียญกับโจร
ลอร่าเธอไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือวิธีการนี้ แม้ว่าเหรียญทอง 1000 เหรียญจะเป็นเงินจํานวนมาก สําหรับคนธรรมดา แต่สําหรับลอร่าและกลุ่มของเค้าเงินนั้นก็ไม่ได้มีความสําคัญอะไรมากนัก เพื่อแลกกับความสัมพันธ์ที่ดีกับโจรและให้พวกเขามาเป็นยามตอนกลางคืนมันก็เป็นอะไรที่คุ้มแล้ว
เมื่อขบวนรถของพวกเขาได้เดินทางต่อไปเจ๋าไร่ก็ได้ยินเสียงออกมาใกล้ๆว่า “นายน้อย กระผมขอเชิญนาย น้อยไปที่รถของกระผมได้ไหม? กระผมได้เตรียมอาหารกับไวน์ผลไม้ไว้ให้ท่านแล้ว โปรดไปดื่มและรับประทาน อาหารที่นั่นไดไหม?”
เจ่าไห่ยิ้ม แล้วก็หันไปหารอล่าและพูดว่า “ฉันจะลองไปดู” จากนั้นลอร่าก็หัวเราะเสียงดังและตอบว่า “ฉันก็ คิดแบบนั้น” จากนั้นเจ่าไหก็เปิดประตูรถแล้วเดินออกไปข้างนอก
ในขณะที่รถชะลอตัว เจ่าไห่ก็มองดูข้างนอก ดูเหมือนว่ารถม้าที่สตรองนั่งมานั้นจะไม่ใช่รถธรรมดา สตรองนั่งอยู่ในรถแล้วยิ้มให้เจ่าไห่ ทั้งสองได้อยู่ใกล้กันแล้ว ขอแค่เดินไม่กี่ก้าวก็มาถึงรถแล้ว ตอนนี้เจ่าไห่ยิ้มแล้วเดิน ไปทางสตรอง
สตรองคํานับเข่าไร่อยู่บนรถ ดูเหมือนว่าภายในรถของสตรองนั้นจะคล้ายๆกับรถของเจ่าไห่ ดูเหมือนว่าการออกแบบ แบบนี้จะมีชื่อเสียงมาก
บนโต๊ะในรถม้าจะมีจารเล็กๆอยู่สี่ใบพร้อมทั้งไวน์สองแก้ว เจ่าไห่มองไปที่จารและในนั่นก็มีแต่ผักเวทย์ที่นิยมกินกัน และพวกผักก็ถูกปรุงมาแล้ว
และต้องรู้ก่อนเลยว่าการที่จะได้กินผักเวทย์ในช่วงฤดูหนาวแบบนี้มันจะเป็นเรื่องที่คนธรรมดาจะไม่สามารถทําหรือกินมันได้
เจ่าไห่ก็ได้ไม่พูดอะไร เพราะลอร่าเคยบอกว่าร้านค้าแม็กซี่เป็นร้านค้าขนาดกลาง ร้านค้าขนาดกลางนั้นมีสถานะพิเศษในทวีป ถึงแม้ว่าจะมีจํานวนลูกค้ามากพอสมควร แต่ต้องเป็นร้านค้าขนาดเล็ก ถ้าหากมองร้านค้าทั้งหมดของทวีป
หลังจากที่สตรงอเชิญเจ่าไห่มา เขาก็พูดว่า “การได้พบกับนายน้อยในการเดินทางครั้งนี้ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี” เจ่าไหถือไวน์ของเขาและดื่มมันพร้อมกับสตรอง
เจ่าไห่เพียงแค่จิ้บไวน์เท่านั้น จากนั้นเขาก็วางมันลงและถามขณะที่ยิ้มว่า “ทําไมนายถึงต้องการที่จะเดินทางไปกับฉัน?”
สตรองรู้สึกงงๆ เขาไม่คิดว่าเจ่าไห่จะถามเขาแบบนี้ แต่เขาก็ยิ้มและตอบว่า “วิธีการที่จัดการกับโจรเมื่อวาน มันเป็นวิธีที่ดีมากๆ ฉันต้องของชมนายน้อยเลย ทุกคนในหุบเขารู้เรื่องโจรพวกนั้น กระผมเห็นว่านายน้อยนั้นเป็น คนที่มาใหม่ กระผมจึงรู้อยู่แล้วว่านายน้อยจะถูกโจมตีในคืนนั้น อย่างไรก็ตามนายน้อยได้จัดการกับเรื่องนี้ได้ สวยงามมากๆ ฉันรู้สึกชื่นชมนายน้อยจริงๆ
เจ่าไห่ยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก จริงๆแล้วมันก็เป็นเรื่องง่ายสําหรับฉันอยู่แล้ว แต่ฉันก็กลัวว่า พวกเขาจะเกี่ยวข้องกับทหารป้องกัน ฉันจึงไม่กล้าที่จะทําอะไรมากว่านั้น”
สตรองพยักหน้าและพูดต่อว่า “นายน้อย โจรพวกนั้นมีการติดต่อกับป้อมปราการ อย่าคิดว่าของที่พวกโจรได้ปล้นไปจะเป็นของพวกเขา ของส่วนใหญ่จะถูกส่งให้แก่คนภายในป้อมปราการสองแห่งนี้ เราก็รู้เรื่องแบบนี้ดี”
เจ่าไห่ไม่กําลังสับสนและถามต่อว่า “แต่ทําไมพวกเขาถึงทําแบบนี้? ไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาต้องการความคุ้มครองจากป้อมงั้นหรอ?”
สตรองพยักหน้าและตอบว่า “นายน้อยไม่ได้สังเกตเห็นหรอ? ขนวบรถส่วนใหญ่ในหุบเขานั้นเป็นขบวนใหญ่ นายน้อยคิดว่าป้อมปราการจะกล้าขอเก็บภาษีกับขบวนพวกนี้ไหม? โจรก็เป็นแผนการของพวกเขาที่จะทําเรื่อง แบบนี้และป้อมปราการจะได้ค่าคุ้มครอง ทุกคนเข้าใจเรื่องนี้ดี จึงไม่มีใครคิดที่จะทําอะไรโจรพวกนี้”
เจ่าไห่พยักหน้า เขาเข้าใจว่าสิ่งที่สตรองพูดมันเป็นความจริง ไม่มีใครสามารถดูถูกดูแคลนพลังแห่งความสามารถที่ยิ่งใหญ่ในทวีปนี้ได้ ทุกคนที่ทําเช่นนั้นก็จะต้องตาย
วิธีที่ที่ดีที่สุดก็คือโจร พวกเขาจะเป็นคนที่ปล้นขบวนรถขนาดเล็ก แม้ว่าคนที่คิดว่าการใช้โจรนั้นจะมีมากเกินไป แต่ก็เป็นการแลกเปลี่ยนที่ดีในการแลกเปลี่ยนความขัดแย้งกับกองทหารเพราภาษี
สตรองมองเจ่าไห่และพูดว่า “นายน้อยตั้งใจจะทําอะไรในจักรววรดิโรเซ่น? ตราบนรถของนายน้อยดูเหมือนว่านายน้อยเป็นคนที่มาจากเพอร์เซลล์ของจักรวรรดิอาร์ซู และจากรถที่อยู่ข้างหลังนายน้อยดูเหมือนจะมาจากเพอร์เซลล์จริงๆ กระผมพูดถูกไหม?”
เจ่าไห่พยักหน้าและพูดว่า “ถูกต้อง ฉันเป็นนายอําเภอของเพอร์เซลล์ รถที่อยู่ข้างหลังฉันเธอเป็นนายหญิง ของเพอร์เซลล์ เธอจะไปที่เมืองคาสันเพื่อไปเรียนต่อ”
สตรองพยักหน้าและพดูว่า “เมืองสกาวเป็นสถานที่ที่ดี แ
ละเป็นเมืองที่ดีมากสําหรับการค้า นอกจากนี้ภาษียังไม่แพงมาก ไปที่นั่นเพื่อทําธุรกิจก็เป็นความคิดที่ดี ถ้านายน้อยต้องการทําธุรกิจที่นั่นนายน้อยสามารถบอกฉันได้”
จบบทแล้วนะครับ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ