Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 130
Chapter 130 เจเนต แจ็คสันคนต่อไป
ขณะที่ทุกคนไม่ได้สนใจ จาวเหยาอุ้มมัจฉะไปที่มุมหนึ่งของร้านใกล้กับห้องน้ำ และเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ มัจฉะต้องเดินถอยหลังเข้าไปในนั้น
“นี่มันบ้าชะมัด” มัจฉะบ่นขณะเดินถอยหลังเข้าไปในห้องน้ำ
เมื่ออยู่ในที่ลับสายตา มัจฉะนั่งลงกับพื้นโดยไม่สนใจว่าภาพลวงตาทำให้มันนั่งทับหัวตัวเอง “จาวเหยา เสร็จหรือยัง?” มันเร่ง
“เดี๋ยวก่อน ยุ่งอยู่ รออยู่ในนั้นไปก่อน”
มัจฉะมองไปรอบๆ ห้องน้ำ “ไหนๆ ก็อยู่ในนี้แล้ว เข้าหน่อยละกัน” ทันใดมันก็เดินเข้าไปในกล่องห้องน้ำอัตโนมัติกล่องหนึ่ง
ในเวลาเดียวกันลูกฝุ่นออกมาจากกล่องห้องน้ำและเห็นแมวอ้วนนั่งลงบนหน้าของมัน เสียงแปลกๆ ดังตามออกมา
มันแทบอยากลืมภาพที่เพิ่งเห็น เจ้าแมวอ้วนอ้วกอึออกมาจากปาก
มันถอยหลังอย่างช้าๆ เหงื่อเย็นซึม มันอ้าปากน้อยๆ อย่างอยากจะอาเจียน
แมวอ้วนออกมาจากกล่องห้องน้ำทั้งท่าถอยหลัง มันพยักหน้าให้ลูกฝุ่นด้วยแก้มก้น ลูกฝุนยังเห็นเศษที่ติดอยู่ริมฝีปากของอีกฝ่าย แก้มก้นของแมวอ้วนขยับไปมาอีกครั้งอย่างพยายามจะคุยกับมัน
“โอ้ ลูกฝุ่นใช่มะ? มาเข้าห้องน้ำเหมือนกันเหรอ?”
ลูกฝุ่นตกใจรีบวิ่งหนีไปทันที
“ทำไมวิ่งหนีล่ะ?” มัจฉะบ่นพลางเลียขนตัวเอง “หรือว่าตกใจกับออร่าของฉัน?”
จาวเหยาใช้พลังหยุดเวลาก่อนใช้ภาพลวงตาแก้ไขสถานการณ์ในร้านของเขา
ลูกค้าก็ยังคงเข้าร้านมาเรื่อยๆ รวมๆ แล้วกว่า 60-70 คน แมวแต่ละตัวต้องรับลูกค้าพร้อมกันถึง 3-4 คนในคราวเดียว
แต่เพราะมีพลังควบคุมลับเลยทำให้หลายคนยังไม่ไปไหน อีกทั้งจำนวนคนที่รักแมวในจีนก็มีเพิ่มมากขึ้น เหตุผลอีกข้อก็คือจาวเหยาที่อยู่ในร่างคริสวู
ไม่มีใครอยากออกไปจากร้านจนกว่าจะถึงเวลาร้านปิดตอน 2 ทุ่ม
อันซินมองแบบสอบถามในมือและไม่สามารถเขียนลงไปได้ว่าแมวตัวไหนเป็นตัวที่น่ารักที่สุด
“ฉันว่าแมวหัวโตๆ น่ารักที่สุด”
“คุณอันครับ ทำแบบสอบถามเสร็จหรือยังครับ?” จาวเหยาเลิกคิ้วถามขณะกำลังเก็บแบบสอบถาม เขาหยิบกระดาษไปก่อนถอนหายใจ “มัจฉะอีกแล้ว สงสัยจะได้คะแนนดีเพราะมายากล”
จ้าวเหล่ยเดินมาหาจาวเหยาพร้อมกับส่งแบบสอบถามให้ เธอส่งวิงค์และยิ้มอย่างมีเลศนัยให้เขาก่อนเดินจากไป
จาวเหยามองแบบสอบถามที่เธอยื่นมาให้และเห็นว่าเธอโหวตให้อลิซาเบธ ยิ่งไปกว่านั้นยังทิ้งเบอร์ไว้มุมกระดาษอีกด้วย
จาวเหยาถอนหายใจเมื่อเข้าใจว่ายิ้มของเธอคืออะไร เขาเก็บแบบสอบถามใบนั้นเข้ากองและทำเหมือนไม่เห็นอะไร เขารู้ว่าเบอร์นั้นมอบให้ ‘ใบหน้า’ ของเขา ไม่ใช่เขา
ซุนเคอเคอที่อยู่ในชุดนักเรียนญี่ปุ่นมีแต่ขนแมวเต็มกระโปรงและถุงเท้า หลังจากส่งแบบสอบถามเธอก็เบิกตากว้างอย่างตื่นเต้น “ขอโทษนะคะ คุณขายแมวที่นำมาแสดงวันนี้ไหม?”
“โอ้ คุณสนใจจะซื้อแมวงั้นหรือครับ?”
“ใช่ค่ะ” ซุนเคอเคอมีท่าทางเขินอายเมื่อตอบกลับไป เธอก้มหน้าก่อนพูดต่อ “ฉันชอบแมวพวกนี้จริงๆ ค่ะ ฉันสัญญาว่าจะดูแลแมวพวกนี้ให้เหมือนเจ้าหญิง ฉันยินดีจ่ายเพื่ออลิซาเบธค่ะ เท่าไหร่ก็ได้” เธออยากจะครอบครองอลิซาเบธและนำกลับบ้านกับเธอเดี๋ยวนี้ เธอไม่อยากเห็นใครกอดหรือหอมอลิซาเบธอีกต่อไป เธอต้องการให้อลิซาเบธเป็นของเธอคนเดียว
จาวเหยาเกาหัวก่อนตอบ “ขอโทษด้วยนะครับ เราไม่ขายแมวในร้านนะครับ”
“ฉันจ่ายให้ 100,000 เลยค่ะ ฉันอยากซื้ออลิซาเบธจริงๆ นะคะ ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธออย่างดี”
จาวเหยามองซุนเคอเคอที่อยากได้อลิซาเบธอย่างมาก ‘ก็รู้หรอกนะว่าเธอรวย แต่ไม่คิดว่าจะจ่ายเป็นแสนเพื่อแมวตัวหนึ่ง ป๋าจริงๆ’ เขาคิด
ดวงตาของเธอสั่นไหวด้วยความคาดหวังขณะมองจาวเหยา แต่แม้จะอ้อนวอนยังไงก็ไม่มีประโยชน์
กว่าจะส่งลูกค้าคนสุดท้ายก็เป็นเวลา 3 ทุ่ม เสี่ยวฉือยู่และไป๋ช้วนมองร้านที่ต้องเก็บกวาดตรงหน้า และจาวเหยาก็พูดขึ้น “ขอบใจพวกนายมากที่ตั้งใจทำงานวันนี้ สิ้นเดือนนี้ฉันจะให้รางวัลพวกเธอเป็นซองแดงอ้วนๆ นะ!”
“หืม ไม่เหมือนจาวเหยาเลยนะ” เสี่ยวฉือยู่เลิกคิ้วพลางมองจาวเหยา “ถูกหวยมาหรือไง?”
“อะไรกัน? ฉันจาวเหยานะ ฉันใจดีอยู่แล้ว” จาวเหยาพูดอย่างภูมิใจ
ค่าประสบการณ์ที่เขาจะได้รับตอนสิ้นเดือนขึ้นอยู่กับกำไรที่เขาได้รับ ดังนั้นจาวเหยาต้องลดรายจ่ายเพื่ออัพรายได้นั่นเอง
เขาค่อนข้างเข้มงวดกับเงินค่าสาธารณูปโภค ค่าอาหารและขนมแมวก็ราคากว่าหมื่นหยวนต่อเดือน แม้เขาจะใช้ผงชงกาแฟราคาถูก แต่ทำกับแมวเขาแบบนั้นไม่ได้ เขามักจะซื้ออาหารคุณภาพดีที่ให้สารอาหารครบถ้วนกับแมวเขาเสมอ
ยิ่งไปกว่านั้นการใช้ห้องน้ำแมวอัตโนมัติยังมีราคาสูงกว่าห้องน้ำแมวทั่วไป แมวกว่ายี่สิบตัวทำให้ต้องจ่ายค่าบำรุงหลายพันต่อเดือนเลยทีเดียว
จาวเหยาต้องการจ่ายค่าตอบแทนให้กับแมวและผู้ช่วยของเขาที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งเดือน
“ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันไม่ต้องจ่ายค่าเช่าร้านกับภาษี ถ้าต้องจ่ายขึ้นมาละก็วุ่นวายแน่ๆ การเปิดร้านนี่ยากจริงๆ”
จาวเหยารวบรวมแบบสอบถามของค่ำคืนนี้และเริ่มนับผลคะแนนโหวต
มัจฉะมองจาวเหยาพลางขมวดคิ้วเข้าด้วยกัน มันสวดมนต์อ้อนวอนในใจ ‘เป็นฉันเถอะ เป็นฉันทีเถอะ’
โรลี่โพลี่กับลูกฝุ่นก็มองไปทางเดียวกัน แม้อลิซาเบธที่ดูจะลอยตัวก็ยังลุ้นไปด้วย
10 นาทีต่อมา จาวเหยามองผลคะแนนในมือพลางส่ายหน้า “ไม่อยากจะเชื่อ”
เขามองแมวที่กำลังลุ้นผลจนตัวโก่งก่อนประกาศ “ผู้ชนะในค่ำคืนนี้คือมัจฉะ ตามมาด้วยอลิซาเบธ โรลี่โพลี่ แล้วก็ลูกฝุ่น”
“เมี้ยวฮะฮ่าฮ่าๆ” มัจฉะยืนทั้งสี่ขาพลางข่มคำรามหัวเราะ “ฉันว่าแล้ว! ฉันเป็นแมวที่น่ารักที่สุดในพวกนาย!”
“ชิ” อลิซาเบธจ้องจาวเหยาก่อนจะถาม “จาวเหยา แน่ใจนะว่านับดีแล้ว? คิดว่าฉันจะแพ้เจ้าโง่นี่จริงๆ เหรอ?”
“พวกเธอจะมาเช็คผลโหวตเองก็ได้นะ” จาวเหยาวางผลโหวตลงบนโต๊ะ “ที่มัจฉะชนะในครั้งนี้ก็คงเป็นเพราะเรื่องมายากลนั่นแหละ”
“เมี้ยวฮ่าๆ ไม่ต้องเสียใจไปหรอกนะอลิซาเบธ” มัจฉะพับหูของมันลงมาก่อนเยาะเย้ย “ไม่ใช่ว่าแมวทุกตัวจะมาแข่งกับฉันได้หรอก ดีใจเถอะอย่างน้อยที่เธอก็ชนะแมวจรจัดพวกนั้น”
อลิซาเบธกลอกตาใส่มัจฉะและไม่สนใจเจ้าอ้วนอวดดีอีก
โรลี่โพลี่เองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “อาจจะดีกับเราแล้วก็ได้ พอชนะไปแล้วเจ้านั่นจะได้มาขอเงินฉันอีก”
มัจฉะรีบวิ่งไปหาจาวเหยาพลางสีตัวกับขาของเขา “จาวเหยา! 500 หยวนเร็วๆ!”
“สิ้นเดือนค่อยให้” จาวเหยาตอบนิ่งๆ มัจฉะหุบยิ้มก่อนกลับเข้าไปมุมเดิมทันที
คาเฟ่แมวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากประสบความสำเร็จในกิจกรรม Star Cats’ Night การที่มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาในร้านเป็นความสุขของจาวเหยา
และจาวเหยาก็ยังคงต้องใช้ภาพลวงตากับซูเปอร์แคททั้ง 4 ตัวอยู่ดีเพื่อบดบังหัวล้านๆ ของพวกมัน
เวลาผ่านไปจนมาถึงสิ้นเดือน เป็นวันที่จาวเหยาจะได้รับค่าประสบการณ์จากภารกิจรายเดือน