Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 262
ตอนที่ 262 เครื่องจักรนักทําแต้ม
ในสนามฝึกโทรมๆนั้นเอง อัลเลนแฮมป์ตั้นฝึกโดยจําลองเนื้อหาการฝึกจากวีดีโอด้วยอุปกรณ์ที่โทรมกว่า เป็น10เท่า ข้างๆเขา หลี่ไต้กําลังมองแล้วส่ายหัวในฐานะของโค้ช สิ่งที่อัลเลนทําอยู่ตอนนี้มันไม่มีอะไรเลย นอกไปจากการฝึกโดยไร้เป้าหมาย
“ฝึกแบบนี้ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก”หลีไต้พูดทันที
“ทําไมละ”อัลเลนหยุดแล้วปาดเหงื่อก่อนจะพูดต่อ
ถึงแม้อุปกรณ์ของเราจะโทรมแล้วโจกับเดวิดก็ไม่ใช่คู่ซ้อมที่ดีขนาดนั้น แต่การฝึกของฉันมันทําตามวีดีโอเป๊ะๆเลยนะ แล้วฉันก็ไม่ได้อ้ด้วย”
“รู้แล้ว แต่ตอนนี้นายยังไม่เข้าใจการฝึกเลยว่าทําไปเพื่ออะไร นี้มันแคมป์บาสอดิดาสนะ นายคิดว่าแคมปป์นี้จะสามารถช่วยให้นักกีฬาพัฒนาความสามารถได้จริงๆเหรอ?”หลี่ไต้
“เอ้า ไม่ใช่เหรอ”อัลเลนถามกลับ
“ก็ไม่ใช่หน่ะซิ”หลี่ได้ส่ายหัวแล้วพูด “การฝึกนั้นมันตั้งโปรแกรมมาให้แสดงศักยภาพทั้งข้อดีและข้อเสียออกมาให้ผู้ชมเห็นมากที่สุดเท่าที่จะทําได้ ผู้ชมพวกนั้นรวมไปถึงพวกแมวมองหรือโค้ชจากมหาลัยต่างๆด้วย”
อัลเลนไม่ใช่พวกโง่เลยเข้าใจได้อย่างง่ายได้ “เข้าใจละ ยิ่งแสดงศักยภาพออกมามากเท่าไรก็จะยิ่งทําให้โค้ชกับแมวมองเลือกหยิบตัวผู้เล่นได้ง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นที่ฉันฝึกไปนี้พวกเขาก็ไม่ได้เห็นฉันฝึกใช่ไหม เพราะงั้นที่ฝึกมาก็ไม่มีความหมายละซิ”อัลเลนพูดอย่างเศร้าๆ
“ก็ใช่นะซิ มันไร้ประโยชน์สุดๆเลยถ้านายฝึกตามนั้นอะ เพราะยังไงก็ไม่มีโค้ชหรือแมวมองคนไหนมาเห็นนายฝึกนี้นอกจากฉัน เพราะงั้น นายต้องการแผนการฝึกที่เหมาะกับนายมากกว่านี้”หลีไต้พูด
“ฉันรู้ แต่ฉันไม่มีเงินนี้ ฉันจ่ายค่าโค้ชตัวต่อตัวไม่ไหวหรอก”อัลเลนพูดแบบประชดชีวิต
“ลืมแล้วเหรอว่าฉันก็เป็นโค้ช”หลี่ได้ส่ายนิ้วชี้ไปมา “อีกอย่างฉันทําให้ฟรีด้วยนะ!”
“หลี่ นายจะช่วยฉันเหรอ”อัลเลนพูดอย่างตื่นเต้นนิดๆ
หลีไต้พยักหน้า “อย่างน้อยก็ในอีก10วันข้างหน้าละนะ”
“ขอบใจมากนะ!”อัลเลนแทบจะโดดกอด
หลี่ไต้พูดต่อ “แต่ว่าฉันไม่ใช่โค้ชบาสมืออาชีพเพราะงั้นฉันคงแนะนําเรื่องกลยุทธบาสไม่ค่อยได้ เพราะงั้นฉันช่วยได้น้อยมากๆในเรื่องบาสด้วยซ้ํา แต่ฉันเก่งเรื่องของการฝึกร่างกาย ฉันจะทําให้นายวิ่งได้เร็วขึ้น กระโดดได้สูงขึ้น และแกร่งยิ่งขึ้น”
ด้วยการช่วยเหลือของเครื่องตรวจสอบ หลี่ได้รู้หมดว่าอัลเลนมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง รวมไปถึงรู้จุดบอดของเทคนิคเขาด้วย แต่ถึงอย่างนั้น เขาเองก็ไม่ใช่โค้ชบาสเก็ตบอลอยู่ดี
บางทีถ้าเป็นเรื่องเชิงเทคนิคบาสเขาอาจจะกากกว่าอัลเลนด้วย แต่สิ่งที่หลี่ไต้ทําได้ คือการบอกจุดบอดของนักบาส แต่เขาไม่รู้ว่าจะช่วยแก้จุดบอดนั้นยังไง
ก่อนที่หลี่ไต้จะมาโค้ชให้นักวิ่ง เขาเองก็เตรียมรายละเอียดและข้อมูลแผนการฝึกมาเยอะมากเพื่อที่จะแก้ไข จุดบอดของนักกีฬาแล้วทําให้พวกเขาเก่งขึ้น ซึ่งความรู้ทั้งหมดนั้นหลไม่ได้มาจากซูหลี่ แต่เขาไม่สามารถใช้ ความรู้พวกนั้นในการฝึกบาสได้
ตัวอย่างเช่น เครื่องตรวจมันบอกว่านักบาสคนนึงมีจุดบอดตรงที่ฐานความมั่นคงของศูนย์ถ่วงไม่คงที่ตอนชู้ต หลี่ได้รู้นะว่ามีจุดบอดนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าจะมีวิธีการฝึกไหนสามารถแก้เขาปัญหานี้ได้บ้าง เขาไม่ใช่โค้ชบาส และความรู้เรื่องการฝึกบาสของเขามันไม่เพียงพอเลย
แน่นอนละว่ามันเป็นธรรมชาติว่าถ้าเทียบกับโค้ชบาสตัวท็อปแล้วหลี่ไต้ตอนนี้เป็นแค่เด็กอนุบาลตาดําๆด้วย
และในสายตาของนักบาสตัวท็อป มีแต่โค้ชบาสตัวท็อปเท่านั้นที่ควรค่าพอจะมาสอน แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้ อัลเลนแค่มีอโค้ชจริงๆมาช่วยเขาก็ดีใจพอแล้ว
หลี่ได้เดินไปหาอัลเลนแล้วพูด “จากที่ฉันสังเกตดู นายไม่ได้เป็นแค่การ์ดจ่ายอย่างเดียว แต่นายเป็นการ์ดผสมเลย เพราะงั้นฉันว่ามันน่าจะได้ผลมากกว่าถ้านายจะทําแต้มตรงๆไปเลยดีกว่าส่งบอลให้คนอื่น ข้อดีที่สุดของนายคือความสามารถทางร่างกายกับความเร็ว ดังนั้น ถึงนายจะไม่ได้สูงมาก แต่การตั้งรับของนายถือว่าดีที่ เดียว มันค่อนข้างทําให้ศัตรูตายใจเพราะยังไงนายก็แย่งบอลเก่งมากด้วย แต่การทําแต้มของนายไม่มีความเสถียรเลย ฉันไม่เคยเห็นนายชู้ต3แต้มเลยซักครั้งเลย แถมเปอร์เซนการชู้ตเข้าในขอบ2แต้มก็ไม่ได้สูงเลยด้วย ฉันสังเกตเห็นว่านายรีบซิตไปหน่อย เหมือนกับว่านายกลัวว่าการยิงของนายจะโดนตบกลับมาใช่ไหม?”
อัลเลนพยักหน้า “เอาจริงๆ ฉันไม่เก่งเรื่องการชู้ต3แต้มเลย ฉันวางแผนที่จะฝึกมันอยู่”
“ไม่จําเป็นหรอก อย่างน้อยก็ช่วงนี้อะ นายไปฝึกยิง3แต้มตอนที่นายขึ้นมหาลัยก็ได้”หลี่ไต้เบรกแล้วพูดต่อ “ตอนนี้นายควรจะตั้งเป้าไปที่การหามหาลัยที่มีทุนให้นาย นายต้องทําให้โค้ชบาสของมหาลัยนั้นประทับใจจนปาทุนใส่หน้านายให้ได้ เพราะงั้น นายจําเป็นที่จะต้องฉายแววจุดเด่นของนายออกมาให้เด่นที่สุด”
“จุดเด่นเหรอ? นายหมายถึงความเร็วฉันเหรอ?”อัลเลนถาม
“ใช่แล้วความเร็ว! นายแค่ใช้ความเร็วของนายพุ่งทะลวงอีกฝ่ายแล้วทําแต้มเองด้วยการเลย์อัพหรือไม่ก็เรียกฟาว หรือไม่ก็เฟดอเวย์เอา วีธีพวกนี้น่าจะเป็นวิธีการทําแต้มที่เหมาะกับนายที่สุดละ ประเด็นคือนายควรที่จะเพิ่มโอกาสที่จะชู้ตในเส้นให้เข้ามากกว่านี้ เอาง่ายๆว่านายต้องใช้ความเร็วเพิ่มเปอร์เซนการทําแต้มของนายเอา” ส่วนเรื่องปัจจัยอื่นๆอย่างเช่นการส่งบอล ฉันว่าตอนนี้นายควรจะเมินมันไปก่อน ชั่วคราวหนะ ฉันรู้ว่านายมี เทคนิคการจ่ายบอลที่ดีอยู่แล้ว แต่การ์ดหลายๆคนก็จ่ายบอลได้พอๆกับนายเหมือนกัน มันจะทําให้พวกแมวมองมีตัวเลือกเยอะขึ้น ดังนั้น นายต้องเปิดตัวอลังการไปเลยว่านายเป็นตัวทําแต้ม!”
“แต่ฉันเป็นการ์ดจ่ายนะ ถ้าฉันไปทําแต้ม ฉันก็กลายเป็นการ์ดยิงไปอะดิใช่ไหม ฉันเตี้ยไปจะเป็นการ์ดยิงนะ”อัลเลนพูด
หลีไต้ยิ้ม “นายเคยวิเคราะตัวเองไหมว่าระหว่างการส่งบอลให้เพื่อนกับเลย์อัพบอลเองแม่งเลยอันไหนมันมีโอกาสได้แต้มมากกว่ากัน?”
“เออออ….”หลังจากคิดซักพักใหญ่ๆ อัลเลนก็รู้สึกว่าหลีไม่มีเหตุผลขึ้นมา เพราะมีครั้งนึงตอนอยู่ม.ปลายเขาโยนบอลขึ้นฟ้าให้เพื่อนทําแต้มแบบสวยงาม แต่เพื่อนดันจับบอลพลาดซะงั้น ในขณะที่ถ้าเขาเองเลย์อัพ ไม่เคยมีใครจับเขาได้ซักคน
“อัลเลน ร่างกายของนายคืออาวุธชั้นยอดเลยนะ ไม่มีใครแกร่งหรือเร็วเท่านายแล้ว นายต้องใช้ร่างกายและความเร็วของนายให้เป็นประโยชน์สูงสุด สิ่งที่นายต้องทําก็แค่ใช้ร่างกายในเป็นเหมือนอาวุธในมือนักรบชั้นยอดแค่นั้นเอง”หลี่ไต้พูดต่อ
“เข้าใจละ”อัลเลนพูด “ขอบใจหลี่ ขอบใจนายมากนะ”
หลีใต้เตรียทแผนการฝึกที่เหมาะกับอัลเลนโดยเฉพาะ ซึ่งจะเสริมสร้างในเรื่องของความเสถียรของร่างกายตอนเข้าปะทะกับผู้เล่นคนอื่น
หลี่ได้วางแผนที่จะปั้นอัลเลนให้กลายเป็นตัวทะลวงล้วงชั้นยอด แต่ถึงอย่างนั้น อัลเลนเองก็สูงไม่ถึง 180เซน เขาไม่สามารถไปปะทะร่างกายรุนแรงได้ตอนที่เขาจะเข้าถึงแป้น เพราะงั้น ความเสถียรของร่างกายจึงสําคัญมาก ถึงแม้ว่าเขาจะแพ้ในการปะทะตัวๆ แต่อย่างน้อยตราบใดที่เขายังรักษาความเสถียรได้เขาก็ยังสามารถทําแต้มได้จากการเลย์อัพหรือไม่ก็เรียกฟาวน์จากผู้เล่นด้านในได้
หลี่ไต่ไม่ได้วางแผนการฝึกนี้เพื่อแก้จุดอ่อนของอัลเลน อย่างการชู้ตไม่เสถียร เพราะเขาเองก็ไม่รู้จะแก้ยังไง และตอนนี้เวลาก็มีจํากัดมาก ตอนเช้าหลีใต้ก็ต้องไปเข้าศูนย์ฝึกAP ส่วนตอนเย็นเขาก็ต้องมาฝึกกับอัลเลนต่อ
ระหว่างการฝึกนี้เอง หลี่ได้รู้สึกได้ถึงประโยชน์ของการโค้ชให้นักกีฬาระดับS คือการได้ค่าประสบการณ์อย่างมหาศาล ก่อนหน้านี้ตอนที่หลี่ได้เจอหลินเฟยเหลียงที่ศูนย์ฝึกเปียโข่ว หลี่ไต้ทําได้แค่ช่วยการฝึกของหลินเฟยเหลียงเท่านั้น เอาง่ายๆว่าเป็นลูกกระจ๊อกไฮคลาสหน่อยก็ว่าได้ แต่ตอนนี้หลี่ไต้ได้เป็นหัวหน้าโค้ช (และเป็นโค้ชคนเดียว) ของอัลเลนที่คุมการฝึกทุกอย่าง ค่าประสบการณ์ของเขาเลยพุ่งอย่างรวดเร็ว เร็วกว่า ตอนอยู่ศูนย์ฝึกเปียโข่วเยอะ
และไม่นาน 1อาทิตย์ ผ่านไป อัลเลนพัฒนาไปได้อย่างก้าวกระโดด เป้าหมายที่จะเป็นเครื่องจักรนักทําแต้มของเขา ค่อยๆเป็นจริงขึ้นมาเรื่อยๆ