Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 260
ตอนที่ 260 โอกาสเดียว
โรงแรมที่หลี่ไท่อยู่นั้นไม่ได้หรูหราอะไรมากนะ แต่ความปลอดภัยรอบๆนั้นก็ถือว่าดีพอที่จะให้แขกเดินเตร็ดเตร่แถวๆนั้นตอนกลางคืนได้โดยไม่ต้องห่วงว่าจะโดนจี้ปล้น แต่ถึงอย่างนั้น ที่ๆอัลเลนพาหลี่ไท่ไปนั้น มันแตกต่างอย่างชัดเจน มันเป็นตรอกและดูไม่มีความปลอดภัยเหมือนกับว่าจะโดนปล้นได้แม้กระทั่งในตอนกลางวัน ยาเสพติด ปืน อาชญากรรมถือว่าเป็นเรื่องที่ปรกติของที่นี่
บ้านเรือนที่นี้โทรมมากๆ เหมือนกับว่าไม่ได้ซ่อมแซมมานาน กระจกบางบ้านก็ปล่อยแตกไว้อย่างนั้นแล้วปิดด้วยเทปแทน มีกราฟิตี้เต็มกําแพงแสดงให้เห็นถึงความเป็นวัฒนธรรมของคนผิวสี ตามถนนเต็มไปด้วยรถเก่ามากๆ หลี่ไท่ยังคิดเลยว่าบางคันอาจจะแก่กว่าเขาอีก กระจกของรถแตกและมีเด็กผิวสีหลายๆคนเล่นอยู่แถวๆนั้น
หลีไท่มองไปรอบๆแบบกลัวๆเล็กน้อยผสมกับสงสัยอีกมากๆ อัลเลนเดินข้างๆกับเขาแล้วพูด “เอาจริงๆระบบความปลอดภัยสาธารณะของLAก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ แถวนี้มันยังดีกว่าแถวฝั่งตะวันออกกลางเยอะ ถ้านายไปอยู่ดีทรอยส์นายจะไม่กล้าแม้กระทั้งขับรถผ่านสลัมเลย เพราะจู่ๆนายก็จะโดนปืนจ่อคอหอยหรือหินลอยมาอัดกระจกรถเอาได้ง่ายๆ”
มีกลุ่มชายฉกรรจ์หน้าตาเหี้ยมเกรียมพร้อมรอยสักดุดันยืนรวมตัวกันอยู่ข้างถนน 1ในนั้นเป็นชายร่างยักหนักประมาณ150กิโลทําหน้าตาโหดเหี้ยมเหมือนจะเขมือบหัวหลิ่ได้ให้ได้
ความคิดที่จะวิ่งเข้ามาหัวหลี่ไท่แวบนึง ก่อนที่อัลเลนจะตะโกน “เห้ย มาติน อย่ามาทําหน้าแบบนั้นซิ นี่เพื่อนฉันเอง อย่าไปยุ่งกับเขา”
ชายร่างยักที่ชื่อมาตนทําตามที่อัลเลนพูดแล้วยิ้ม เขาเลิกทําหน้าน่ากลัวใส่หลี่ไท่แล้วไม่สนใจหลี่ไท่อีก
“เห็นไหม ปลอดภัยถ้ามีฉัน!”อัลเลนพูดอย่างภูมิใต
“นายอยู่แถวนี้เหรอ?”หลี่ไท่ถาม
“ไม่อะ ครอบครัวฉันอยู่ในเวอร์จิเนียแล้วฉันก็โตที่นั้น ฉันมาLAเพื่อมาเข้าแคมป์อดิดาสเนี่ยละ แล้วก็หามหาลัยที่ให้ทุนฉันได้ด้วย”อัลเลนพูดด้วยสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติซักเท่าไร
“แล้วทําไมนายถึงไม่เข้าแคมป์อดิดาสละ?”หลี่ไท่ถาม
“ฉันไม่ได้ส่งคํายืนยันกลับไป
หน่ะซิ”อัลเลนพูด “แคมป์อดิดาสส่งบัตรเชิญให้ฉันแล้ว แต่ฉันยืนยันสิทธิ์ไม่ทันเวลา พวกเขาเลยยกเลิกสิทธิ์ของฉันไป
“ทําไมละ”หลี่ไท่ถามต่อ
อัลเลนลังเลก่อนจะตอบ “เพราะตอนนั้นฉันเข้าคุกอยู่ไง”
หลี่ไท่ไม่ได้ถามต่อ แต่อัลเลนอธิบายด้วยตัวเอง “ตอนที่ฉันอยู่ในทีมฟุตบอลม.ปลาย ฉันเป็นตําแหน่งควอเตอร์แบค และเป็นควอเตอร์แบคที่เก่งที่สุดในเวอร์จิเนียด้วย ฉันได้แชมป์รัฐมาด้วย แล้ววันนึ่งในการฉลองความสําเร็จของฉัน ก็เกิดการต่อกันขึ้น ประเด็นมันเริ่มมาจากที่ว่าพวกคนขาวดันมาเรียกว่าเราว่า”นิกการ์“แม่งโคตรเป็นคําที่เหยียดสุดๆเลย เราเลยขึ้นกันเลยหวดหน้าไปที่นึงแล้วการตะลุมบอนก็เริ่มขึ้น พวกคนขาวชนะเราไม่ได้หรอก พวกมันเลยตามเรียกพวกมาเพิ่ม แล้วเราก็ทําแบบนั้นเหมือนกัน แล้วสุดท้ายจากการตะลุมบอนมันก็ก ลายเป็นสงครามของคนมากกว่า50คน และแน่นอนว่าเราชนะอยู่แล้ว มีคนมากกว่า10คนของฝั่งโน้นไปนอน หยอดข้าวต้มอยู่ที่โรงบาล ฝั่งเราเองก็มีคนบาดเจ็บเหมือนกัน จากนั้น พวกฉัน4คนโดนสั่งไปนอนซังเต15ปี ฉันเองก็โดน5ปีเหมือนกัน แต่ไอ้พวกคนขาวที่หาเรื่องดันโดนโทษแค่ไปบําเพ็ญประโยชน์เฉยๆเลย คนดําอย่างเราก็ไม่มีสิทธิ์จะไปแย้งด้วย แต่อย่างน้อยคนดําก็ไม่ทิ้งกันเอง กลุ่มคนดําบางส่วนก็ช่วยพวกเรา ทนายก็ปกป้องเราเต็มที่ สุดท้ายเราเลยชนะคดี แต่ฉันก็ยังต้องไปนอนคุก4เดือนอยู่ดี”
“เข้าใจละ”หลี่ไท่พยักหน้า
ถึงแม้การทะเลาะวิวาทจะเป็นคดีที่เท่าเทียมกันก็จริง แต่การเหยียดเชื้อชาติและสีผิวก็เป็นสิ่งที่มีผลมากในอเมริกา ความต่างของสีผิวนั้นมีผลมากแม้กระทั้งในชีวิตประจําวัน พอต้องเจอกับคดีเหยียดๆแบบนี้ คนจีนอย่างเราก็ต้องยอมอดทน ในขณะที่พวกคนดําเลือกที่จะใช้กําปั้นหวดหน้าแทนใช้ปากคุยกันมากกว่า
อัลเลนเสริม “4เดือนที่อยู่ในคุกนั้นฉันศูนย์เสียโอกาสไปมากมาย ก่อนหน้านี้ฉันโดนทาบทามโดยโค้ชฟุตบอลจากหลายมหาลัย พวกเขาอยากได้ฉันไปเข้าทีม เอาจริงๆแล้วถ้าให้เลือกระหว่างบาสกับฟุตบอล ฉันก็เลือกฟุตบอลมากกว่านะ ฉันรู้สึกชนะตอนที่วิ่งเอาบอลหนีฝูงชนมากกว่า”
“ฉันเองก็คิดว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่ก็เลือกฟุตบอลนะ”หลี่ไท่เห็นด้วย
อเมริกันฟุตบอลนั้นดังที่สุดในอเมริกาถ้าเทียบกับกีฬาอื่นๆแล้ว กีฬานี้มันเป็นกีฬาเพื่อปวงชนของอเมริกาอย่างแท้จริง คนอเมริกาทุกคนชอบอเมริกันฟุตบอล
“และเพราะการต่อยกันครั้งนั้น ฉันเลยไม่ได้ทุนฟุตบอลไหนเลยซักที ไม่มีมหาลัยไหนอยากรับคนที่เข้าคุก เพราะทะเลาะวิวาทหรอก”อัลเลนถอนหายใจ
การเข้าคุกนั้นแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ มันใหญ่จนถึงขั้นกระทบแม้กระทั้งกับตอนสมัครงาน แม้แต่ในอเมริกา ไม่มีมหาลัยไหนอยากที่จะรับคนที่พึ่งออกมาจากคุกหรอก
อีกทั้งอเมริกันฟุตบอลเองก็เป็นกีฬาที่กดดันมาก ผู้เล่น2ฝั่งต้องพุ่งชนเข้าหากัน และการแข่งก็ดุเดือดมาก การต่อกันหลังจากจบการแข่งเลยเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่การต่อยกันระหว่างการแข่งนั้นเป็นข้อห้ามร้ายแรง แม้กระทั้งในการแข่งมืออาชีพอย่างลีคNFL
กีฬาที่รุนแรงอย่างนั้นแน่นอนว่าไม่ต้อนรับอัลเลนแน่นอน ในฐานะคนที่เคยก่อเหตุทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่มาแล้ว โค้ชเลยตัดสินว่าอัลเลนอยู่ในสภาพที่ไม่เสถียรพอจะเข้าทีม ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นควอเตอร์แบคที่เก่งที่สุดในเวอร์จิเนียก็จริง แต่ไม่มีโค้ชคนไหนก็อยากรับเขาเข้าทีมอยู่ดี
อัลเลนพูด “อาชีพนักฟุตบอลของฉันมันจบลงนานแล้วละ ตอนนี้ความหวังเดียวของฉันคือบาสเก็ตบอล มันเป็นอย่างเดียวที่ช่วยให้ฉันได้ทุนมหาลัยได้ ขอแค่ให้ฉันได้เล่นบาสซักปี-2ปีเถอะ ฉันจะได้เข้าไปแข่งในNBAแน่ๆ
ดวงตาของอัลเลนนั้นส่องประกายมากตอนที่พูดถึงNBA
“ฉันมั่นใจเลยว่านายจะได้เข้าNBAแน่ๆ”หลี่ไท่พูด
เพราะยังไงซะ อัลเลนก็เป็นนักบาสระดับS ที่มีอยู่น้อยคนมากในโลก แม้แต่ในNBAก็ตาม หลี่ไท่คิดว่าตราบ ใดก็ตามที่ผู้จัดการทีมของNBAไม่ได้ตาบอด เขาก็คงได้เจอตัวอัลเลนได้ไม่ยากแน่นอน
“แต่ที่สําคัญที่สุด ฉันต้องหามหาลัยที่รับฉันได้ซะก่อน ในแถบตะวันออกชื่อเสียฉันกระจายไปทั่วละ ฉันเลยหวังที่จะมาลองเผชิญโชคที่ตะวันตกเนี่ยละ ฉันเข้ามหาลัยไม่ได้ถ้าฉันไม่ได้ทุน” อัลเลนพูด “ฉันต้องได้ทุนแล้ว เข้ามหาลัยให้ได้ นั้นเป็นโอกาสเดียวของฉัน