Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 253
ตอนที่ 253 งานเข้า
การรอคอยมักจะทําให้คนใจเย็นลงไม่ได้เสมอ มันก็เหมือนกับการนั่งอยู่บนเรือที่มีคลื่นซัดเข้าใส่ตลอดเวลา ความรู้สึกกังวลเหมือนกับว่าเรือจะล้มเมื่อไรก็ได้ซึ่งก็มักจะทําให้โทษดวงที่ซวยได้ถึงขนาดนี้หรือไม่ก็กล่าวโทษโชคชะตาฟ้าดิน
แต่สุดท้าย โทรศัพท์ของเขาก็สั่นขึ้นมาผู้จัดการฉางรู้ดีว่ากรมของเขาต้องตอบกลับมาแน่ๆ เขารีบเปิดหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมาทันที
“ผู้จัดการครับ ผมได้ทําการยืนยันมาแล้วว่าไม่มีใครจากกรมแรงงานหรือสํานักงานวางแผนครอบครัวที่ไปที่อเมริกาแต่มีคนนึงจากหน่วยเจ้าหน้าที่ปลดประจําการเป็นหัวหน้าหน่วยเองเลยครับเฉียวฉวงจิน”
พอเห็นอย่างนี้ผจก.ฉางก็ทําหน้าตึงขึ้นมาทันที
“งั้นแปลว่า หัวหน้าเจียงจากหน่วยตรวจสอบรู้เรื่องนี้ละซิว่าแล้วว่าไอ้ตัวอย่างที่หัวหน้าเขียงพูดมันไม่น่าใช่ เรื่องบังเอิญเขากําลังพูดถึงเรา!” ผจก.ฉางรู้สึกเหมือนมีมีดมาจ่อหัวใจที่ตอนนี้มาจุกอยู่ที่คอหายเหงื่อของเขาแตกพร่านเหมือนตากแดดตอนเที่ยงประเทศไทย
“หมายความว่าหน่วยตรวจสอบกําลังใช้เราเตือนหน่วยอื่นๆงั้นเหรอถ้าเป็นงั้นจริงฉันก็ต้องรับผิดชอบเต็มๆ เลยนี่หว่า”ผจก.ฉางกําหมัดแน่นแล้วด่าเจ้าหลิวโชวเฉิงคนที่รับผิดชอบเรื่องโปรแกรมแลกเปลี่ยนที่อเมริกานี้แล้วก็เฉียวฉวงจินที่ก่อเรื่องด้วย
เฉียวฉวงจินมันสร้างปัญหาให้ฉันตลอดเลยวะ รอบนี้ก็ต้องให้ฉันบากหน้าไปรับกับหน่วยตรวจสอบของประเทศอีกไอ้โง่เอ้ยถ้าเรื่องนี้มันใหญ่กว่านี้เมื่อไร แม้แต่ฉันเองก็ต้องโดนเล่นงานด้วยแน่ๆยิ่งเขาคิดมากเท่าไรเขาก็ยิ่งกังวลใจมากเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นผจก.ฉวงก็มีประสบการณ์การทํางานมาหลายปีทําให้เขาสงบใจลงได้ไวแล้วเริ่มวิเคราะห์ปัญหาทันที
แต่ก็มีอีกนั้นละ มีแผนกตั้งหลายแผนกที่มีเรื่องเส้นสายเยอะกว่าอีก อย่างเช่นแผนกสังคมแผนกอสังหาริมทรัพย์แผนกทรัพยากรที่ดินแผนกภาษีอากรถ้าเทียบกับกรมการกีฬาแล้ว แม้แต่กรมวิทยาศาสตร์ การศึกษาวัฒนธรรมแม้แต่กรมสุขภาพยังดูเด่นกว่าเลยทําไมหัวหน้าเจียงถึงได้รู้แค่กรมของเราเพียงอย่างเดียว แล้วเขา ไปรู้ได้ยังไง หรือว่ามีใครบางคนในกรมของเราที่สนิทกับเขาแล้วใครกันที่มีเส้นสายกว้างขวางถึงขนาดไปเอากลุ่มผู้ตรวจการส่วนกลางมาเกี่ยวข้องได้เนี่ย
ผู้จัดการฉางถอนหายใจอย่างแรง เขาคิดไม่ออกว่าใครกันแน่
แต่ปัญหาตอนนี้มันอยู่ที่การจัดสรรสิทธิ์ที่จะไปดูงานต่างประเทศมากกว่า พอคิดได้อย่างงั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพิม
“บอกหลิวโชวเฉิงกับเฉียวฉวงจินให้มารอในออฟฟิศฉัน เดี๋ยวนี้”
เฉียวฉางจินยืนอยู่หน้าห้องออฟฟิศแล้วกังวล ไม่รู้ว่าทําไมเขาถึงโดนเรียกมาที่นี้
จากระยะไกล หลิวโชวเฉิงก็เดินเข้ามาหาแล้วทักเฉียวฉางจิน “อ้าวเฉียว มารายงานผู้จัดการฉางเหรอครับ”
เฉียวฉางจนาส่ายหัวแล้วตอบ “ผจก.ฉางบอกให้ผมมารอเขาที่นี้หน่ะครับ เขาเข้าไปประชุมกับฝ่ายบริหารเขตอยู่ยังไม่กลับมาเลยครับ”
“บังเอิญจังนะ ผมเองก็เหมือนกัน เขาก็บอกให้ผมมาที่นี้เหมือนกัน” หลิวโชวเฉิงพูด
“เขาได้บอกคุณไหมว่าทําไม?”เฉียวฉางจินถามเบาๆ
“ไม่ครับ เขาแค่บอกให้ผมมาที่ออฟฟิศ” หลิวโชวเฉิงถาม “แล้วคุณละ?”
“ผมก็เหมือนกัน เขาบอกแค่ว่าให้มาที่ออฟฟิศแค่นั้นเลย”เฉียวฉางจินตอบ
ทั้งคู่ตกอยู่ในบรรยากาศเงียบกริบ แล้วพยายามคิดว่าทําให้ผจก.ฉางถึงเรียกให้พวกเขา2คนมาที่นี้การคิดว่าหัวหน้ากําลังคิดอะไรอยู่นั้นมันเป็นทักษะพื้นฐานของพนักงานระดับกลางอยู่แล้ว
ทันใดนั้น เฉียวฉางจินก็ถามขึ้นมา “คุณหลิว ให้ผมไปอเมริกาจะดีจริงๆเหรอครับ?”
“ใช่ซิครับ ไม่มีปัญหาหรอก ทุกอย่างเรียบร้อยดีนี้ครับ” หลิวโชวเฉิงตอบอย่างมั่นใจ
“ผมหมายถึงโค้ชที่ผมไปแทน เขาจะไม่มีปัญหาหรอครับ?”เฉียวฉางจินถามอีกครั้ง
“โค้ชที่ชื่อหลี่ได้จากทีมกรีฑาอะนะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก หลี่ได้มาจากเมืองโหยวฮาวแล้วเขาก็ไม่ได้มีเส้นสายอะไรกับทางเมืองเรา นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
หลังจากประชุมเสร็จผจก.ฉางก็พุ่งตัวออกจากห้องประชุมทันที
ฉันต้องกลับไปหาให้ได้ว่ามันเกิดบ้าอะไรขึ้น พอคิดอย่างนั้นแล้ว เขาก็เดินเร็วขึ้นไปอีก
แล้วตอนนั้นเอง มีผู้ชายคนนึงโผล่มาข้างทางของเขา แล้วเดินตามความเร็วของผู้จัดการฉางเขาพูด “ฉางทําไมรีบเดินเร็วงละ? ทุกคนก็พึ่งจะออกกันหมดเดี๋ยวที่จอดรถก็เต็มไปด้วยคนแล้ว”
“อ้อ ตู้ นายนี้เอง!”ผจกฉางช้ลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดอย่างสนุกสนาน “การทําให้การจราจรปรกติมันเป็นงานของนายไม่ใช่เหรอตู้ไหนๆรถก็จะติดแล้วทําไมนายไม่ลงไปทํางานซะละ”
“ทําไงได้ละ ก็ถนนไม่แคบนี้!”ต์พูด
ชายแก่คนนี้เป็นผู้จัดการของแผนกต่ารวจจราจรในสํานักงานความมั่นคง ด้วยความที่กรมกีฬานั้นเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาและกิจกรรมทางร่างกายบ่อยๆ ทําให้เป็นเรื่องปรกติที่ต้องขอความช่วยเหลือจากตํารวจจราจรเพื่อช่วยจัดการเรื่องรถติดดังนั้นจึงเป็นเรื่องปรกติที่กรมกีฬากับผู้จัดการตู้จะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ผู้จัดการตู้พูด “ฉาง ฉันได้ยินว่าแผนกนายจะส่งคนไปอเมริกานี้ใช่ไหม”
“รู้ได้ไงอะ?”ผจก.ฉางถามอย่างตกใจ
“ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี้ใช่ไหมละ ก่อนหน้านี้มีโค้ชตั้งหลายคนจากกรมกีฬามาทําพาสปอร์ตหรือไม่ก็เปลี่ยนพาสปอร์ตกันตั้งเยอะ”ผู้จัดการอธิบาย
ตามกฏแล้ว การทําพาสปอร์ตสําหรับเจ้าหน้าที่ในสถาบันต่างๆนั้นจะต้องลงทะเบียนแบบพิเศษแล้วยิ่งเป็นคนที่ตําแหน่งใหญ่ๆแล้ว สามารถยื่นเรื่องทําพาสปอร์ตที่สถาบันของตัวเองได้เลยเพื่อความปลอดภัย
แต่ถึงอย่างนั้นผู้จัดการฉางขมวดคิ้วแล้วถาม “ตู้ นายคุมตํารวจจราจรไม่ใช่เหรอไปยุ่งกับหน้าที่ของสํานักงานตรวจคนเข้าออกตั้งแต่เมื่อไร?”
“ฉันบังเอิญไปเห็นหน่า!”เขาเบาเสียงลง “หัวหน้าเจียงมาที่แผนกของเราเพื่อตรวจเยี่ยมตอนเช้าแล้วเจอกับใครคนนึงที่เขารู้จักเข้าตรงหน้าทางออกสํานักงานเนี่ยแหล่ะ ใครคนนั้นกําลังมายื่นพาสปอร์ตไอ้คนๆนั้นมันต้องเกี่ยวข้องอะไรกับหัวหน้าเพียงแน่ๆ เราเลยไปสืบประวัติดูกลายเป็นว่าเขาเป็นโค้ชของเขตนี้เนี่ยละ”
“คนกรมเรารู้จักกับหัวหน้าเจียงด้วยเหรอ!” ทันใดนั้นหลังของผู้จัดการฉางก็เปียกซักเหมือนไปอาบน้ํามาทันที
“ตู้ หาให้หน่อยว่าโค้ชคนนั้นเป็นใคร!”ผู้จัดการฉางพูดทันที
“เอออ…”ผู้จัดการตู้ลังเล
“ฉันรู้ว่ามันแหกกฎ แต่มันสําคัญกับฉันมาก ตู้ ฉันขอละ!”ผู้จัดการพูดต่อทันที
“โอเคก็ได้ เดี๋ยวฉันดูให้” ผู้จัดการตอบรับในที่สุด
“ตูเรื่องนี้สําคัญมากนะหาให้ฉันทันทีเลยนะ”ผู้จัดการขอด้วยความเร่งด่วนเป็นที่สุด