Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 247

ตอนที่ 247 ความเร็วVSทีมเวิร์ค

การแข่งเริ่มต้นขึ้นทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น

ฉางเจียเหลียงเป็นนักวิ่งไม้แรกของที่ฮั่นเบ โดนเลือกมาโดยหลี่ได้

ฉางเจียเหลียงจริงๆแล้วไม่ใช่เป็นนักวิ่งที่เก่งอะไรแต่เขาเป็นคนใจเย็นซึ่งทําให้เขามั่นคงกับความสามารถและการแข่งขันด้วยบุคลิกแบบนี้มันทําให้เขาเหมาะกับการเป็นไม้แรก

ฟอร์มของเขาก็ยังคงเสถียรเหมือนเคย เขาเริ่มที่จะสงบใจลงแล้วเร็วขึ้นตามที่คิดไว้ เขาคงความเร็วไว้อย่างมั่นคงก็จริงแต่ก็มักจะโดนแซงโดยนักวิ่งคนอื่นตลอด

นี้มันเป็นช่องว่างทางความสามารถที่จางเจียเหลียงไม่ได้เก่งในเรื่องของการวิ่งให้ไว ถ้าเทียบกับนักวิ่งคนอื่นๆทําให้เขาโดนรั้งท้ายเป็นเรื่องปรกติ

ก็ใช่อยู่ที่เขาไม่ได้เร็วเหมือนคนอื่น แถมเขายังคงความเร็วนี้ไวตลอดไม่เร็วขึ้น ไม่ช้าลงทําให้เขาโดนแซงก็ไม่แปลกซูหลี่คิดขณะมองไปที่ลู่วิ่ง

หลี่ไต้ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด เขารู้ว่าฉางเจียเหลียงเป็นแค่นักกีฬาธรรมดาๆแต่เขาก็ยังเชื่อในฉางเจียเหลียงแล้วหวังว่าเขาจะไม่อยู่ที่โหล่แต่โชคร้ายที่มันไม่ได้อย่างหวังเขาเป็นคนสุดท้ายที่ได้ส่งไม่ให้ขาที่2

ในการแข่งรอบที่แล้ว กับรอบคัดเลือก พวกเราดันไปเจอกับทีมอ่อนๆ ฉางเจียเหลียงเลยยังรับมือได้อยู่แต่ถึงอย่างนั้นพอเป็นรอบชิงนักกีฬาทุกคนเก่งหมดฉางเจียเหลียงเลยเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด

ฉางเจียเหลียงเป็นคนที่เสถียรมาก เป็นคนที่จะไม่พลาดแม้จะอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานขนาดไหนก็ตามแต่ฉันก็ไม่ควรหวังว่าจะให้เขาไปไกลกว่านั้นไม่งั้นจะกลายเป็นว่าฉันคิดมากไปเอง หลี่ไต้หัวเราะกับตัวเอง

นักวิ่งขาที่2เริ่มเตรียมตัวรับไม้แล้ว ในจังหวะนี้แหล่ะจะเป็นตัววัดการทํางานกันเป็นทีมของแต่ละทีม

ฉางเจียเหลียงยังคงมั่นคง ในช่วงของการส่งและรับไม้ ทั้ง2คนผสานกันได้อย่างดี หลังจากที่ได้เข้ามือแล้วขาที่2เริ่มออกวิ่ง ฉางเจียเหลียงก็หมดงานของเขาแล้ว

เขาส่งไม่เร็วมาก เร็วจนเหมือนเห็นทีมไทยอยู่ในตัวเขาเลย! ซูหลี่คิดในใจ

ขาที่2เป็นนักกีฬาวัยหนุ่ม หรูหยีฮาว ทันทีที่เขาได้รับไม้ เขาก็เริ่มออกตัววิ่งอย่างเร็วทันที

ฉางเจียเหลียงเป็นคนสุดท้ายที่เข้าจุดเปลี่ยนไม้ แต่หรูหยีฮาว เป็นคนแรกที่ออกมาจากตรงนั้น

“ทีมฮั่นเบเป็นที่1แล้วหลังจากส่งไม้!”

“ทางโค้งมาแล้ว! นี้ฉันพลาดอะไรเนี่ย?”

โค้ชทุกคนเบิกตากว้างทันที ทุกทีมวิ่งกันอย่างรวดเร็ว และมันก็ยากที่จะตัดสินได้จากตาเปล่า ปรกติแล้วคนเราสามารถมองได้แค่1ถึง2ทีมเท่านั้น

แต่ถึงอย่างนั้น คนดูก็สังเกตได้อย่างชัดเจนจากคนแรกที่ออกมาจากจุดเปลี่ยนไม้ คนไหนที่ออกมาคนแรกก็คือคนที่ขึ้นนําอยู่

“พวกเขาโดนทิ้งท้ายไว้ตอนแรก แต่ทีมฮั่นเบกกลับมาขึ้นนําเป็นอันดับ1ได้หลังจากไม้แรกผ่านไปแถมพวกเขายังเร็วกว่าทีมอื่นๆตั้งเยอะเลยด้วย”

เพราะว่าคนดูหลายๆคนนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬา ทําให้พวกเขาสังเกตเห็นเรื่องนี้ได้

ส่วนหวูหยฮาวก็ทําผลงานได้ดีมากๆในฐานะขาที่2ของทีม

ในการแข่งวิ่งผลัด ขาที่2นั้นมีระยะทางการวิ่งที่สั้นที่สุด เพราะว่ามันเป็นทางตรง และใช้ความสามารถน้อยกว่าในหลายๆครั้งนักวิ่งขาที่2นี้จะเป็นคนที่อ่อนที่สุดถ้าเทียบกับสมาชิกทีมคนอื่นๆและนั้นกรวมถึงการแข่งวันนี้ด้วยเพราะว่าทุกทีมเอาคนที่อ่อนที่สุดมาวิ่งเป็นขาที่2

แต่ถึงอย่างนั้น หรูหยีฮาวไม่ใช่นักวิ่งที่อ่อนที่สุดของหลี่ไต้ เขารองเพียงแค่เฉียนตงคนเดียวเท่านั้นเหตุผลที่เขาวิ่งในขา2เป็นเพราะเขาวิ่งทางโค้งไม่เป็นเท่านั้นเอง

หวูหยีฮาวเป็นนักวิ่งระดับกลางๆ ในทีมหลี่ได้ แล้วต้องเจอกับนักวิ่งอ่อนสุดในทีมอื่นๆ นี้มันเป็นกลยุทธเทียนจี้กลยุทธเดียวกันกับที่ใช้ในการแข่งม้า คือการเอาม้าระดับกลางๆมาเจอกับม้าอ่อนๆดังนั้นถึงแม้หวูหยฮาวจะไม่ได้เก่งขนาดนั้นแต่ที่มฮั่นเบก็มีโอกาสชนะโดยใช้วิธีแบบนี้

“ขา2ของทีมฮันเบดูดีเลยนี้! ดูจากฟอร์มแล้วโอกาสชนะของเขามีสูงเลย”ซูหลี่เข้าใจแผนการของหลได้ทัน

ชูเหล็นฮาวที่นั่งอยู่ข้างๆเขาไม่ใช่คนที่เก่งการวิ่งเหมือนกับเขา เขาเลยไม่ได้ตัดสินใจอะไรเด็ดขาดเหมือนซูหลี่ชูเหล็นฮาวเลยทําได้แต่พยักหน้ารับ

ก็เป็นอย่างที่ซูหลี่พูด หรูหยีฮาวได้เปรียบจริง และเป็นคนแรกที่เข้าจุดเปลี่ยนไม้ด้วย

“ดูทีมฮั่นเบซะก่อน!พวกนั้นส่งไม้กันเร็วมาก!”

“ทีมเวิร์คอะไรขนาดนั้นวะ ต้องฝึกกันแบบไหนถึงได้แบบนั้นวะ!”

“ใช่ไหม ทีมเวิร์คแบบนั้นมันไม่ได้ฝึกกันง่ายๆเลย ต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็ครึ่งปีหรือปีนึงเลย”

“อ้อ หรือว่าพวกเขาจะฝึกพิเศษสําหรับทีมวิ่งผลัดโดยเฉพาะเลย!”

ขาที่2ของทีมฮั่นเบเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ โอกาสที่พวกเขาจะชนะเริ่มขยายขึ้นมา และในจังหวะนั้นโค้ชของทีมอื่นๆก็เริ่มรู้แล้วว่าทีมฮั่นเบนั้นฝึกพิเศษมาเพื่อการแข่งนี้โดยเฉพาะไม่งั้นคงทําได้ไม่ดีขนาดนี้แน่ๆ

“ฉันไม่คิดว่าจะเจอทีมไหนเล่นแบบนี้มาก่อน!”

“มันยากนะที่จะวัดว่าทีมเวิร์คกับความเร็วอันไหนมันดีกว่ากัน!”

“จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงที่เวลาที่พวกเขาใช้ในการเปลี่ยนไม่โดยใช้ทีมเวิร์คนั้นมันชดเชยสิ่งที่พวกเขาเสียไปในการวิ่งปรกติไปด้วย”

ทุกทีมเริ่มจบไม้2กันไปเรื่อยๆ มี2ทีมที่ส่งไม่ได้แย่ทําให้เกิดความผิดพลาดและเสียเวลาไปใหญ่

ตอนนี้มันเริ่มเกิดช่องว่างที่ชัดเจนขึ้นมาแล้ว และทีมที่ส่งไม้อย่างดีก็จะไปได้ไวกว่า

“นี้มันโค้งที่3แล้ว ทีมฮั่นเบช้าลงแล้ว!”

นักวิ่งคนที่3ของทีมเป็นนักกีฬาแก่ เฉินเค่อหนาน เขาพยายามวิ่งให้เร็วสุดเท่าที่จะทําได้แล้วแต่เพราะเขาอายุ30แล้ว ทําให้เขาวิ่งได้เร็วไม่ได้เท่าเด็กอายุ20

“นั้นเฉินเค่อหนานนี้ โถ่ว ไอ้เสือเฒ่า เขาอายุ30แล้ว วิ่งเร็วมากไม่ได้!”

และสุดท้ายเฉินเค่อหนานก็จบโค้ง

และเพียงโค้งเล็กๆนั้นเองที่ทําให้ความได้เปรียบของทีมวิ่งผลัดฮั่นเบน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด