เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 795-796
เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 795 ขอโทษเจียนอีหลิง
หลัวซิ่วเอ็น “แล้วถ้าอีหลิงไม่มีแผนล่ะ”
เฉิงอี้ “ถ้าอย่างนั้น เขาก็ทําอะไรกับอีหลิงไม่ได้อยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่พบทางเลือกที่ดีกว่าเราสองคน”
หลัวซิ่วเอินคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเธอก็พูดว่า “อึม แต่ควรให้อีหลิงรู้ล่วงหน้าดีกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ถ้านายสร้างปัญหาให้อีหลิง นายต้องชดใช้ด้วยความตาย
เฉิงอี้ “เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว”
เขาคงไม่กล้าขัดคําสั่งพี่สาวซิ่วเฉินหรอก
“พ่อคะ ตามหาหนูอยู่แหรอคะ?” ฉินหยฝานพูดกับฉินหงจื้อ เธอพยายามทําตัวให้น่ารักที่สุด “คือเรื่องเมื่อวานพ่อไม่ดีเอง พ่ออยากขอโทษเพื่อนลูก” “หมายถึงอีหลิงเหรอคะ?” ฉินหยุฝานถามขณะมองพ่อของเธออย่างสงสัย พ่อเธอไม่ใช่คนที่จะขอโทษใครง่ายๆ
เขาเอาแต่ใจตัวเองมาตลอด ถ้าเขาตัดสินใจว่าอะไรถูกต้อง คําพูดของคนอื่นก็เปลี่ยนความคิดไม่ได้
“ใช่ ชวนเธอมาบ้านสิ พ่ออยากจะขอโทษเธอด้วยตัวเอง” ฉินหงจื้อพูด
“พ่อคะ ต้องการอะไรกันแน่?” ฉินหยฝานถาม เธอไม่เชื่อว่าพ่อของเธออยากจะขอโทษเจียนอีหลิงจริงๆ
“พ่อว่าพ่อบอกไปแล้วนะ พ่อแค่อยากขอโทษเพื่อนลูก” “แต่เมื่อวานพ่อไม่ได้พูดแบบนั้น” ฉันหยุฝานตอบ เธอไม่ได้โง่
เมื่อเห็นว่าเขาไม่สามารถซ่อนความตั้งใจได้ ฉันหงจื้อจึงบอกความจริงกับลูกสาวเขา
เมื่อได้ยินคําพูดของฉินหงจื้อ ฉันหยุฝานยิ้มอย่างขมขึ้น “อาา…พ่อเปลี่ยนท่าทางต่อเธอหลังจากที่รู้ว่าเธอมีประโยชน์ต่อพ่อ พ่อทําให้หนูผิดหวังจริงๆ”
ฉินหงจื้อถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย “อืม ลูกจะคิดอย่างนั้นก็ได้ แค่บอกพ่อมาว่าลูกเต็มใจจะช่วยพ่อไหม ตอนนี้พ่อไม่มีทางเลือกอื่น”
“หนูช่วยพ่อก็ได้” ฉันหยุฝานตอบ เธอไม่มีทางเลือกอื่นเหมือนกัน
แม้ว่าเธอจะไม่เห็นด้วยกับความตั้งใจนี้ แต่เขายังคงเป็นพ่อของเธอ ดังนั้นฉันหยุฝานจึงโทรไปขอให้เจี้ยนอีหลิงมาที่บ้านตระกูลฉิน เนื่องจากเป็นคําขอของฉันหยุฝาน เจียนอีหลิงจึงไม่ปฏิเสธ
ฉันหยุฝานรอเจียนอีหลิงที่ประตู ทันทีที่เธอเห็นเจี้ยนอีหลิง ฉินหยุฝานก็ขอโทษ “ฉันขอโทษนะ”
เจียนอีหลิงมองฉันหยฝานด้วยสีหน้างุนงง “ขอโทษทําไม?”
เฉินหยุฝาน “เพราะมันอาจทําให้เธอเสียเวลา”
ฉินหงจื้อกําลังรอเจียนอีหลิงอยู่ในห้องนั่งเล่น ครั้งนี้ฉินหงจื้อปฏิบัติต่อเจียนอีหลิงอย่างใจดีและเป็นมิตรมากขึ้น “คุณหนูอีหลิง ฉันขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ฉันแค่อารมณ์ไม่ดีหลังจากรู้ว่าฉันเป็นลูคีเมีย ฉันขอโทษที่เสียอารมณ์กับเธอ ฉันหวังว่าเธอจะอภัยให้กับความหยาบคายของฉัน”
คําขอโทษของฉันหงจื้อกะทันหันเหลือเกิน
แต่ทว่าเจียนอีหลิงกลับไม่ตอบ เธอมองเขาด้วยสายตาเย็นชา
ฉินหงจื้อพูดต่อว่า “อันที่จริง ฉันพบด็อกเตอร์เฉิงและด็อกเตอร์หลัวจากสถาบันของเธอเมื่อวานนี้ หลังจากได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดเกี่ยวกับเธอ ฉันก็ตระหนักได้ว่าเธอเป็นมากกว่าศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียง แต่เธอเป็นถึงศัลยแพทย์ที่ประสบความสําเร็จอย่างมากในการวิจัยด้านเภสัชกรรม”
เมื่อได้ยินดังนั้นเจี่ยนอีหลิงก็เข้าใจเจตนาของฉันหงจื้ออย่างคร่าวๆ
ฉินหงจื้อไม่พบไขกระดูกที่เหมาะสมกับเขา ด้วยเหตุนี้ วิธีเดียวที่จะควบคุมสภาพเขาได้ก็คือ การใช้ยา ดังนั้นเขาจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากสถาบันวิจัยทางการแพทย์ขี่ยหลิง
จากนั้น เขาก็รู้จากเฉิงอี้และหลัวซิ่วเอ็นว่าเธอสามารถช่วยเขาได้
“อื้อ”
เจียนอีหลิงตอบกลับฉินหงจื้ออย่างเฉยเมยและเย็นชา
แต่ทว่าฉันหงจื้อยังคงพูดอย่างเป็นมิตร “ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทํายังไงที่จะขอให้คุณหนูอีหลิงช่วย ถ้าคุณหนูอีหลิงสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยของฉันได้ ฉันจะจ่ายให้เธอเป็นจํานวนมาก”
“หุ้นของฉันกรุ๊ป” เจียนอีหลิงตอบ
“เธอพูดว่าอะไรนะ?” ฉินหงจื้อมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
บทที่ 796 หน้าด้าน
“ฉันช่วยเธอได้ แต่ค่าตอบแทนขอเป็นหุ้นของฉินกรุ๊ป”
“มันจะมากไปแล้วนะ!”
“ฉันระบรางวัลที่ต้องการแล้ว ตกลงหรือไม่? มันเป็นเรื่องของธุรกิจ”
ฉินหงจื้อโกรธมาก หน้าอกของเขาขยับขึ้นลงอย่างรุนแรง
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เยือกเย็นลงและพูดกับเจียนอีหลิงว่า “คุณหนูอีหลิง ฉันรู้ว่าเงินธรรมดานั้นยากที่จะสร้างความประทับใจให้เธอ แต่หุ้นของฉันกรุ๊ปของฉันไม่ควรให้กับคนนอก แน่นอนเธอสามารถคิดเป็นอย่างอื่นแทนได้ ฉันสัญญาว่าตราบใดที่ไม่ใช่หุ้นของฉินกรุ๊ปทุกอย่าง สามารถใช้เป็นเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนได้
“ฉันสนใจแค่หุ้นของฉินกรุ๊ป” เจี่ยนอีหลิงตอบ คําตอบเธอไม่เปลี่ยนแปลง
ฉินหงจื้อกัดฟัน “คุณหนูอีหลิงคิดจะดื้อรั้นต่อไปจริงๆงั้นเหรอ”
“ถือ” เจียนอีหลิงให้ค่าตอบยืนยัน
“ดี ดี” ฉินหงจื้อโกรธจัด จากนั้นเขาก็พูดอย่างโกรธเคือง “ถ้าอย่างนั้นก็พอแค่นี้เถอะ ฉันยุ่ง ช่วยส่งคุณหนูอีหลิงกลับบ้านด้วย”
ทันทีที่เธอได้ยิน เจี๋ยนอีหลิงก็ลุกขึ้นเดินออกไป
หลังจากที่เจียนอีหลิงออกไป ฉินหงจื้อก็โกรธจัด “นี่ไร้เหตุผลเกินไปแล้ว ฉันไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเธอจะช่วยได้จริงๆรึเปล่า แต่เธอกล้าพูดแบบนี้ตอนนี้ ทั้งที่เธอไม่ใช่ทางเดียวที่ฉันไปได้”
ยังมีสถานที่อื่นอีกมากมายที่เขาสามารถขอความช่วยเหลือได้
มีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นอีกมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นมีสถาบันวิจัยทางการแพทย์อื่นด้วย ไม่ต้องพูดถึงโรงพยาบาลรั่วไห่เซินก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน และเขายังมีโอกาสที่จะหาไขกระดูกที่ตรงกับเขาสําหรับการปลูกถ่ายไขกระดูก
เจียนอีหลิง เธอหน้าด้านเกินไป
หลังจากที่เจียนอีหลิงออกไป ฉันหงจื้อก็โทรหาฉันหยุฝานอีกครั้ง
“ดูเพื่อนลูกสิลูกบอกว่าเธอคือเพื่อนลูกใช่ไหม แล้วลูกได้ยินไหมว่าเธอต้องการอะไรจากพ่อ เธอต้องการหุ้นของฉินกรุ๊ป ดูสิว่าเธอมีความทะเยอทะยานมากแค่ไหน
”
“พ่อคะ เธอมีสิทธิที่จะขอสิ่งนั้น อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ความร่วมมือเกิดขึ้น ทั้งสองฝ่ายต้องเต็มใจ”
ฉินหงจื้อพูดว่า “แล้วคนทั่วไปจะตั้งเป้าไปที่ทุนทันทีที่พวกเขามีโอกาสงั้นเหรอ?” เฉินหยฝานโต้กลับ “แต่อีหลิงไม่ได้ขาดแคลนเงิน เธอเป็นคู่หมั้นของนายท่านเชิงไม่ใช่เรื่องปกติที่จะมีอะไรแตะต้องเธอได้?”
ฉินหงจื้อ “พ่อคิดว่าเธอกําลังช่วยตระกูลยพูดเลือดเนื้อตระกูลฉินของเรา”
ฉันหยุฝานรู้สึกหมดหนทางขณะที่เธอพูดว่า “พ่อคะ พ่อป่วยอยู่ ช่วยห่วงสุขภาพก่อน ก่อนที่พ่อจะสนใจเรื่องเงิน ให้ทุนไปแล้วยังไง มันจะส่งผลยังไงต่อเรา?”
“ตระกูลฉันมีรากฐานที่ยาวนานนับศตวรรษ และต้องไม่มีล่มจมในมือของฉัน แม้ว่าฉันจะตาย ฉันจะไม่มอบหุ้นของตระกูลฉันให้คนนอก”
จากนั้นฉันหงจื้อกล่าวเสริมว่า “หยุฝานพ่อผิดหวังในตัวลูกมาก พ่อจะวางอนาคตของตระกูล ฉันไว้ในมือลูกได้ยังไง ในเมื่อลูกยังใจอ่อนขนาดนี้ ความไม่พอใจในตัวลูกไม่ใช่แค่เพราะลูกเป็นผู้หญิง แต่เป็นเพราะลูกมีอารมณ์อ่อนไหวเกินไป เมื่อต้องรับมือกับสิ่งต่างๆ พ่อเดาว่าท้ายที่สุดก็คือผู้หญิงเป็นพวกอารมณ์อ่อนไหวเกินไป”
เมื่อได้ยินดังนั้นฉันหยุฝานยิ้มอย่างขมขึ้น “งั้นก็วางมันไว้ในมือของฉันชวน”
เฉินหยฝานรู้สึกว่าฉันชวนจัดการตระกูลฉันได้ดีกว่าตัวเอง
ท้ายที่สุด ฉันชวนก็มีมนุษยธรรมมากกว่าพ่อของเธอ เฉินหยุฝานทัศนคติที่ไม่แยแสทําให้ฉินหงจื้อโกรธอย่างอธิบายไม่ถูก “ปีกกล้าขาแข็งนักนะ เป็นเพราะกําลังถือหุ้นส่วนของลุงอยู่ในมือใช่ไหม ถึงกล้าพูดแบบนี้?”
ดวงตาของฉันหยุฝานน้ําตาซึม ขณะที่เธอพูดว่า “พ่อป่วย หนูแค่อยากให้พ่อดีขึ้น หนูไม่อยากทะเลาะกับพ่อ”
เมื่อฉันหงอมองดูน้ําตาของฉันหยุฝานที่น้ําตาคลอเบ้า หัวใจก็อ่อนลงเช่นเดียวใบหน้าที่ผ่อนคลายลง
“พ่อขอโทษ พ่อไม่ควรโกรธลูก” ฉินหงจื้อขอโทษฉินหยฝาน “แต่เรื่องนี้ไม่มีการเจรจา พ่อจะหาวิธีอื่นในการรักษาอาการ”