เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 787-788
บทที่ 787 การสืบสวน ซึ่งกันและกันของสามีภรรยา 2
เขาชื่นชมสาวน้อยเจียนอีหลิงคนนี้ที่เรียกเขาว่า ลุงเฟิง”
ในชีวิตประจําวันเจี้ยนอีหลิงดูเหมือนจะเป็นเด็กสาวที่ต้องได้รับการดูแลและปกป้องจากผู้อื่น
แต่ที่ทํางาน เธอเป็นบอสที่มีคุณสมบัติครบถ้วน
เจียนอีหลิงเป็นคนที่ดูอ่อนโยนในวันธรรมดา แต่ในแง่ของการจ้างคน เธอมีความคิดที่ดี และเธอก็ยังใจดีต่อคนที่ทํางานกับเธอทุกคนและน่าเชื่อถือมาก
แน่นอนเพิ่งเหว่ยชื่นชมมากกว่าคือโรงพยาบาลรั่วไห่เซินที่ก่อตั้งขึ้นโดยเจียนอีหลิง
โรงพยาบาลพิเศษนี้มีมาตรฐานในการรักษาทางการแพทย์ขั้นสูง
หากกล่าวว่าบริษัทโปลังมุ่งหวังที่จะทําเงิน โรงพยาบาลลั่วไห่เซินก็มีเป้าหมายที่จะรวบรวมกลุ่มบุคคลประหลาดที่มีความสามารถโดดเด่น
ตัวอย่างเช่น หลี่จิ๋วเจียปัจจุบันรับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์สัมพันธ์ของโรงพยาบาลลั่วไห่เซ็น ยังไงก็ตามเขาเคยเป็นหมอที่เก่งมากในอดีต
หลังจากอุบัติเหตุทางการแพทย์ ครอบครัวของผู้ป่วยตอบโต้อย่างรุนแรง ทําให้ภรรยาของเขาเสียชีวิต และลูกสาวคนเดียวเขาก็อยู่ในสภาพที่นอนนิ่งเป็นผัก
เรื่องนี้ทําให้หลี่จั่วเจียท้อแท้ สาบานว่าเลิกเป็นหมอไม่อยากรักษาชีวิตใครอีกต่อไป
อันที่จริง เขาอยากเดินไปตามถนนและเป็นขอทานมากกว่า
แต่เจียนอีหลิงได้ช่วยลูกสาวของเขาฟื้นขึ้นมา ในขณะเดียวกันเธอก็มอบงานที่เกี่ยวข้องกับวงการการแพทย์แก่เขา แต่เป็นงานที่ไม่ต้องการให้เขาต้องผ่าตัดด้วยตนเอง เธอช่วยให้เขาค้นพบจุดมุ่งหมายในชีวิตอีกครั้ง
เช้าแล้วแต่จํายหวินเชิงยังไม่ตื่น
เจียนอหลังตัดสินใจเปิดประตูห้องของจํายหวินเชิง เสียงเพลงที่ดังลั่นห้องนี่ไม่ใช่เพลงกล่อมแน่
แปลกที่เขาเผลอหลับได้ด้วยเสียงเพลงแบบนี้
เจียนอหลังเดินเข้ามาเงียบๆ
เขานอนอยู่บนเตียงโดยเปลือยท่อนบนและคลุมด้วยผ้าห่มผืนบาง
ส่วนผ้านวมคลุมแค่ช่วงเอวและเหนือเข่าเท่านั้น
เจียนอีหลิงเดินมาถึงที่เตียง
ทันใดนั้นจ่ายหวินเชิงก็คว้าตัวเจี่ยนอีหลิงมากอดก่อนพลิกกลับ
จํายหวินเชิงเอาหัวซบที่คอของเจียนอีหลิงแล้วหายใจเข้าลึกๆ
ถามเจียนอีหลิงด้วยเสียงแหบห้าวที่กึ่งหลับกึ่งตื่นว่า “กระต่ายน้อยที่เดินมาเสริฟถึงที่ควรกิน แค่คําเดียวรจะกินให้หมดเลยในคําเดียวดี?”
ดวงตาของเจียนอีหลิงเบิกตากว้างทันที
สถานการณ์ตรงหน้าทําให้สมองของเธอว่างเปล่า
เธอแค่…เธอแค่แวะมา…
ลมหายใจร้อนๆของเขาสัมผัสกับหูของเธอตามมาด้วยการงับเบาๆ
ความรู้สึกจักจี้ทําให้นิ้วเท้าของเจี่ยนอีหลิงงอตัว
เธอครางเบาๆโดยไม่รู้ตัว
จากนั้นจํายหวินเจ๋งพลิกตัวนอนลงข้างๆเธอ ขณะที่หายใจหอบ “อาา…ฉันควรเอาของที่หันเหมิงอวี่ให้กลับมาจริงๆ”
“เขาให้อะไรนาย?”
เจียนอีหลิงถามด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไร เข้ามาในห้องทําไม?”
“นายตื่นไม่ตรงเวลา”
“ไม่ได้เป็นอะไร เมื่อคืนฉันนอนดึก”
“ฉันปลุกนายเหรอ?”
“อื้อ”
“ขอโทษ”
เมื่อได้ยินดังนั้นจํายหวินเชิงก็พลิกตัวอีกครั้ง เขากอดเจียนอีหลิงไว้ในอ้อมแขน ขณะที่พูดว่า “งั้นนอนต่อกันอีกสักพักเถอะ”
เจียนอีหลิงนิ่ง สักพักเธอก็พึมพํา “เสียงเพลงดังเกินไป”
จํายหวินเชิงไม่ยอมขยับ ผ่านไปสักพักไม่นานเขาก็หยิบรีโมทคอนโทรลขึ้นมาปิดเพลงอย่างเกียจคร้าน จากนั้นเขาก็กลับไปนอนโดยมีเจียนอีหลิงอยู่ในอ้อมแขน
ตื่นมาอีกทีก็เก้าโมงครึ่งแล้ว
จํายหวินเชิงมองไปที่เจี่ยนอีหลิงที่ยังหลับอยู่ในอ้อมแขนของเขา
เจียนอีหลิงก็ผล็อยหลับไปเช่นเดียวกัน
เธอมักจะเหนื่อยและไม่มีเวลานอนเพียงพอ
## หัวเดียวกระเทียมลีบ ส่งข้าวส่งน้ําผู้แปลหน่อยนะครับ
จากนั้นจ่ายหวินเชิงก็มองไปรอบๆห้อง
เป็นเวลานานแล้วที่เขาไม่ได้ผล็อยหลับไปในสภาพแวดล้อมที่เงียบเหงาแบบนี้
บทที่ 788 การสืบสวนซึ่งกันและกันของสามีภรรยา 3
จํายหวินเชิงตัดสินใจไม่ปลุกเจียนอีหลิง เขามองดูเจี้ยนอีหลิงนอนบนแขนเงียบๆ
เมื่อเจียนอีหลิงลืมตาขึ้น เธอพบว่าจํายหวินเซึ่งกําลังมองเธออยู่
เธอเขินอายเล็กน้อย “ตื่นแล้วทําไมไม่ปลก”
“ไม่อยาก”
เมื่อได้ยินดังนั้นเจียนอีหลิงก็ดึงผ้าห่มมาคลุมศีรษะ
ยังไงก็เถอะ มันค่อนข้างน่าอาย
จํายหวินเชิงดึงผ้าห่มออกจากหัวของเจี่ยนอีหลิงก่อนจะหัวเราะเล็กน้อย “วันนี้เธอปืนขึ้นมาบนเตียงเอง”
“ฉันเปล่า” เจียนอีหลิงประท้วง
เห็นได้ชัดว่าเธอแค่เข้ามาในห้องเท่านั้น
เขาเป็นคนดึงเธอขึ้นเตียงเอง
จากนั้นจ่ายหวินเชิงก้มหน้าลงหอมแก้มของเจียนอีหลิงอย่างอ่อนโยน
“ลุกได้แล้ว เด็กน้อยจอมขี้เกียจ”
พูดจบจ่ายหวินเชิงก็ลุกไปเข้าห้องน้ํา
เมื่อได้ยินเสียงน้ําออกมาจากห้องน้ํา เจียนอีหลิงก็ค่อยๆลุกจากเตียง
เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่นอนก่อน…จากนั้นเขาก็ให้เธอนอนกับเขาต่ออีกชั่วโมง…
แล้วทําไมเธอถึงถูกเรียกว่าจอมขี้เกียจ
เธอถูกกล่าวหา
จํายหวินเพิ่งที่เดินออกจากห้องน้ําก็พบว่าเจียนอีหลิงไม่อยู่ในห้องเขาแล้ว
สายตาของจํายหวินเชิงเหลือมองไปเห็นนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกทิ้งไว้บนเตียงของเขา
นาฬิกาเรือนนี้เป็นของเจียนอีหลิง เขาจําได้ว่าเคยเห็นเธอใส่มาก่อน
ปกติเธอจะใส่มันไว้เมื่อออกไปข้างนอก และถอดออกตอนอยู่บ้าน
ดูเหมือนเธอจะลืมนาฬิกาไว้บนเตียง
จํายหวินเชิงเดินไปหยิบนาฬิกาขึ้นมา ก็เห็นข้อความหนึ่งบรรทัดปรากฏขึ้นบนหน้าจอของนาฬิกา
มันคือที่อยู่ IP
ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นที่อยู่ IP ที่จ่ายหวินเชิงไม่คุ้นเคย
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เป็นรั่วมาที่สํานักงานของเจี่ยนหยุ่นเฉิงค่อนข้างบ่อย
แม้แต่ชั่วอก็ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“หยุ่นเฉิง เกิดอะไรขึ้น? ทําไมช่วงนี้เธอมาหานายบ่อยๆ”
“ไม่รู้” เจียนหยุ่นเฉิงตอบ เขาไม่ได้สนใจเป็นรั่วแม้แต่น้อย
ความสงสัยในตัวของเวินรั่วยังไม่คลี่คลาย ครั้งล่าสุดคือเธออาจเป็นคนที่เปิดเผยตัวตนของเจียนอีหลิงคือ D.r. FS. ต่อสาธารณชน
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไว้ใจเวินรั่ว
“ว่าแต่ ถ้วยสองใบบนโต๊ะนี่มาจากไหน ดูเหมือนนายจะไม่ได้เป็นคนซื้อนะ”
“ฉันยกให้” เจี่ยนหยุ่นเฉิงแค่ไม่มีเวลาจัดการกับมัน ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสนใจถ้วยสอง
ใบนี้
“หือ ใจดีจัง?” ชั่วอวหยิบถ้วยขึ้นมามองแล้ววางกลับที่เดิม “ลืมมันไปเถอะ ฉันไม่อยากได้ของที่ไม่ทราบที่มา เผื่อว่าผู้หญิงคนนั้นให้เพื่อสารภาพรัก ฉันจะรับมันมาโดยไม่เลือกไม่ได้ พระเจ้าคงจะประณามฉันแน่”
“มีอะไรจะพูดอีกไหม” เจี่ยนหยุ่นเฉิงถาม เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองชั่วอวี่ ในทางกลับกันสายตาเขากําลังเพ่งไปที่สัญญาในมือ
“โอเค ฉันจะคุยเรื่องธุรกิจเดี๋ยวนี้ นายเคยได้ยินชื่อเฟิงเหว่ยไหม?”
“เคยได้ยินมาบ้าง มีปัญหาอะไร?
ไม่มีใครในเป่ยจิงที่ไม่เคยได้ยินชื่อบุคคลนี้มาก่อน
แน่นอนว่าเจียนหยุ่นเฉิงก็ไม่มีข้อยกเว้น
“ภูมิหลังของบุคคลนี้แข็งแกร่งมาก แม้แต่ตระกูลฉินและตระกูลจํายก็ยังต้องแสดงความเคารพต่อชายคนนี้ในระดับหนึ่ง”
“แล้วไง?”
“ตอนนี้เขากําลังรอนายอยู่ที่ห้องรับแขกของบริษัทเรา”
ทันใดนั้น เจี่ยนหยุ่นเฉิงตบโต๊ะอย่างแรง และลุกขึ้นยืนอย่างโกรธเคือง
ขณะที่เขาเดินออกจากสํานักงาน เขาหันมาพูดกับชั่วอวว่า “ฉันจะจัดการกับนายที่หลัง”
ฮั่วอวเอามือแตะจมูกอย่างสับสน เขาทําอะไรผิดงั้นเหรอ?
จากนั้นเจียนหยุ่นเฉิงก็ไปพบกับเฟิงเหว่ย
เพิ่งเหว่ยได้รับเกียรติจากทุกคน
เช่นเดียวกับจางชวี่หมิง ท่าทางของเฟิงเหว่ยที่มีต่อเจียนหยุ่นเฉิงก็เป็นกันเองอย่างคาดไม่ถึง
อันที่จริงเขาเป็นมิตรมาก จนเจียนหยุ่นเฉิงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย