เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 665-666
นิยาย เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 665 เธอคือ Dr. FS 1
มีคนอื่นมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาอีกงั้นเหรอ?
“เราอยู่ในวงการเดียวกัน” หลัวซิ่วเฉินตอบ จากนั้นเธอกล่าวเสริมขึ้นมาอีกว่า “ออกไปให้พ้นทางเดี๋ยวนี้ แล้วให้อีหลิงเข้าไปในห้องผ่าตัด
ด็อกเตอร์นูรีบพูดกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย “อย่าปล่อยให้แพทย์ฝึกหัดคนนี้เข้าไปในห้องผ่าตัดเด็ดขาด! ถ้าหากข่าวนี้แพร่ออกไป ชื่อเสียงของโรงพยาบาลของเราจะต้องพังทลายอย่างแน่นอน”
เป็นรัวยังคงดุเจียนอีหลิงอย่างดุเดือด “เจียนอีหลิงแกคิดจะทําอะไร! หรือว่าแกพยายามจะฆ่าพ่อฉันงั้นเหรอ? แกมาไกลเกินไปแล้ว! ทั้งๆที่หมอกําลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยพ่อฉัน แต่แกกลับมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาเท่านั้น! ฉันอยากจะรู้ว่าเจตนาของแกคืออะไรกันแน่?”
จุสื่อโมรีบพูดถึงพฤติกรรมของเจียนอีหลิงทันที “ตอนนี้เธอรู้ไหมว่าตัวเองกําลังทําอะไรอยู่? ฉันรู้สึกว่าทางโรงพยาบาลควรโทรแจ้งตํารวจเดี๋ยวนี้”
หลัวจิ๋วเอินถอนหายใจออกมาทันทีเมื่อเธอได้ยินเรื่องนี้ จากนั้น เธอก็หันมาพูดกับเจียนอีหลิง “เวลาไม่เคยคอยใคร เธอเข้าไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันจะหยุดคนพวกนี้เอง”
เจียนอีหลิงรับยาตัวใหม่จากมือหลัวซิ่วเอ็น และรีบเข้าไปในห้องผ่าตัดในทันที
เมื่อ รปภ.เห็นเจี่ยนอีหลิงที่กําลังวิ่งเข้าไปในห้องผ่าตัด พวกเขาก็รีบวิ่งตามไปหยุดเธออย่างรวดเร็ว แต่ทว่าพวกเขาทั้งหมดกลับถูกหลัวซิ่วเอินจับกระแทกลงพื้นอย่างไร้ความปราณี
มี รปภ. อยู่ทั้งหมด 6 คน แต่ไม่มีใครสามารถจัดการกับหลัวซิวเอ็นได้แม้แต่คนเดียว พวกเขาทั้งหมดถูกเธอจัดการล้มลงราวกับใบไม้ร่วง
“ถ้าฉันอยู่นี่ที่! ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่สามารถหยุดเธอได้!”
สายตาของหลัวซิวเอ็นนั้นดุร้ายดังเสือโคร่ง เมื่อดวงตาของเธอกวาดมองผู้คนที่อยู่ข้างหน้าเธอ
จากนั้น หลัวซิวเอ็นก็ถามหมอและรปภ.ด้วยน้ําเสียงจริงจังว่า “พวกนายมีสมองกันไหม? คนที่อยู่ในห้องผ่าตัดนั่นคือลุงของเธอ และถ้าไม่มีความมั่นใจว่าจะช่วยเขาได้ แล้วเธอจะเข้าไปข้างในทําไม? ซึ่งมันไม่เกิดผลดีกับตัวเธอแม้แต่น้อย และที่สําคัญใครจะกล้าพูดเล่นในเรื่องแบบนี้กัน?”
จากนั้น หลัวซิ่วเอ็นก็หันกลับมาถามตระกูลเจียนว่า “พวกคุณไม่รู้เหรอว่าอีหลิงเป็นคนแบบ ไหน? แล้วพวกคุณรู้ไหมว่าอีหลิงไม่เคยกระทําสิ่งใดด้วยความประมาท?”
เจียนชูฉิงและเป็นนวนถึงกลับหยุดนิ่งไปทันที
จากนั้น เป็นนวนก็พูดว่า “ฉันเชื่อในตัวอีหลิง! ว่าจะไม่ทําสิ่งนี้ด้วยความประมาท! และจะไม่มีวันทําอย่างนั้นเป็นอันขาด!”
แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่สมเหตุผล แต่เป็นนวนก็ยังเชื่อในตัวลูกสาวของเธอ และเธอต้องเชื่อในตัวอีหลิง
เจี่ยนชูจึงรีบกล่าวเสริมผู้เป็นภรรยาทันที “ใช่ ลูกสาวของผมจะไม่ยุ่งกับสถานการณ์แบบนี้ แต่ว่าตอนนี้เธอต้องการจะช่วยลุงของเธอเท่านั้น!”
“การต้องการช่วยใครสักคนนั้น ต่างจากการสามารถช่วยใครสักคนได้” ด็อกเตอร์ฉ่ตะโกนออกมาอย่างโกรธจัด “ถ้าใครสามารถช่วยใครสักคนเพียงเพราะพวกเขาต้องการที่จะช่วย แล้วจะมีหมอไว้เพื่อประโยชน์อะไร? ทําไมคนเราถึงต้องการหมอตั้งแต่แรก?”
เมื่อได้ยินคํากล่าวนั้น เป็นนวนก็ตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “ไม่ ลูกสาวของฉันรู้ว่าตัวเองต้องทําอะไร และไม่ควรทําอะไร ฉันเชื่อในตัวเธอ”
เป็นรั้วโกรธมากจนอยากสู้กับเวินน่วน “แน่นอน พวกแกก็พูดได้นี่ ว่าพวกแกเชื่อในตัวลูกสาว แต่ว่าคนที่นอนอยู่ในนั้นคือพ่อของฉัน แล้วทําไมพวกแกถึงปล่อยให้หมอผ่าตัดพ่อฉันไม่ได้ ลูกสาวพวกแกจะสามารถทําอะไรได้เมื่ออยู่ในห้องนั้น? หรือต้องการอยู่ที่นั่นเพื่อขัดขวางการผ่าตัดของแพทย์ใช่ไหม?”
จุสื่อโม่รั้งเวินรั่วไว้ข้างหลังเขา ในอีกด้านหนึ่งเจี่ยนชูฉิงก็ปกป้องภรรยา
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยายามเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ว่าหลัวซิ่วเฉินไม่ยอมให้พวกเขาได้ผ่านไปได้แม้แต่ก้าวเดียว
บริเวณทางเข้าห้องผ่าตัดในตอนนี้ ช่างดูโกลาหลวุ่นวายเป็นอย่างมาก
“หยุด! ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้!”
ผู้อ่านวยการของโรงพยาบาลรีบวิ่งเข้าไปห้ามในทันที
ด้านหลังมีชายชราคนหนึ่งแต่งตัวเรียบร้อยและดูภูมิฐาน เขากําลังเดินตามผู้อํานวยการมาอย่างเงียบๆ
เจียนชุฉิง เวินน่าน และเป็นรั่วจ่าชายชราคนนี้ได้ในทันที
ชายชราคนนี้คือท่านผู้เฒ่าหวิน ซึ่งเขาเคยไปที่นั่นเพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดปีที่สิบแปดของอีห ลิ้ง
และด็อกเตอร์จี้ ก็จ่าท่านผู้เฒ่าหวินได้เหมือนกัน
เมื่อเห็นว่าผู้อํานวยการและท่านผู้เฒ่าหวินอยู่ด้วย ด็อกเตอร์จี้ก็รีบบอกพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นทันที
“ผู้อํานวยการ! มีแพทย์ฝึกหัดคนหนึ่งได้เข้าไปในห้องผ่าตัด! และถ้าหากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา ทางโรงพยาบาลของเราจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ!”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ผู้อ่านวยการก็ตอบกลับว่า “ไม่เป็นไร เธอไม่ใช่แพทย์ฝึกหัด แต่ว่าเธอเป็นหมอ นอกจากนี้เธอยังมีคุณสมบัติที่จะทําการผ่าตัดในครั้งนี้อีกด้วย”
ผู้อ่านวยการทราบรายละเอียดในเรื่องนี้แล้ว
ซึ่งท่านผู้เฒ่าหวินมาเยี่ยมเขาก็เพราะเรื่องในวันนี้
บทที่ 666 เธอคือ Dr.FS 2
จากนั้น ผู้อํานวยการก็รีบบอกแพทย์ที่อยู่ข้างๆเขาว่า “เข้าไปข้างในและบอกด็อกเตอร์จางให้พยายามช่วย Dr.FS ในการผ่าตัดในครั้งนี้ให้ดีที่สุด”
ด็อกเตอร์…DrFS?
เมื่อกี้พวกเขาเพิ่งได้ยินชื่อของใครกัน?
ผู้อ่านวยการพูดว่า Dr.FS งั้นเหรอ?
แต่ว่า Dr.FS อยู่ที่ไหนกัน?
“ผู้อํานวยการท่านกําาลังพูดว่าอะไร? Dr.ES งั้นเหรอ? แล้ว Dr.FS ที่ว่านั่นคือใครกัน” ด็อกเตอร์ฉ่ถามขึ้นมาด้วยสีหน้างุนงง
“ก็แพทย์ฝึกหัดที่คุณกําลังพูดถึงนั่นไง! เธอมีชื่อว่าเจียนอีหลิง!” ผู้อํานวยการอธิบายด้วยน้ําเสียงหอบเล็กน้อย
ผู้อํานวยการรีบวิ่งมาทางนี้ ดังนั้น ตอนนี้เขากําลังพยายามผ่อนลมหายใจของตัวเองให้คงที่อยู่
“เจียนอีหลิง? คือ Dr FS งั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้! ตอนนี้เธอเป็นแค่แพทย์ฝึกหัดของที่นี่!”
ด็อกเตอร์ฉ่ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ จึงทําให้น้ําเสียงของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
แต่ทว่า ไม่ใช่เขาคนเดียวที่ตกตะลึง แม้แต่เจี่ยนชูฉิง เวินน่วน เวินรั่ว และจูสื่อโม่แฟนหนุ่มของเวินรั่วก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน
แม้แต่ยามรักษาความปลอดภัยโดยรอบก็ตกตะลึงกันทุกคน
เจียนอีหลิง คือ DrFS?
เป็นไปได้ยังไงกัน?
DrFS เป็นหมอที่มีชื่อเสียงมาก ดังนั้นเจียนอีหลิงจะเป็น DrFS ได้ยังไงกัน? เพราะเธอยังเป็นแค่นักศึกษาแพทย์
แม้แต่เจี่ยนชุฉิง และเป็นน่วนก็ไม่รู้เรื่องนี้
“ใช่ เธอคือ Dr.FS” หลัวซิ่วเฉินพูดขึ้นมาอีกรอบด้วยน้ําเสียงที่ชัดเจน
หลัวซิ่วเอ็นรู้ว่าเรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆอย่างแน่นอน ถ้าหากวันนี้ยังคงไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเจียนอีหลิง
เจียนอีหลิงก็รู้เรื่องนี้เช่นเดียวกัน และนี่คือเหตุผลที่เธอขอให้ท่านผู้เฒ่าหวินมาในวันนี้
“เธอจะเป็น Dr.FS ไปได้ยังไง? เธอเป็นแค่นักศึกษาแพทย์! แล้ว Dr.FS ได้โด่งดังอย่างมากเมื่อสามปีที่แล้ว!”
แม้ว่าคําพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากของผู้อํานวยการ แต่ด็อกเตอร์จี้ก็ยังไม่อยากเชื่อเรื่องนี้
อยู่ดี
และท่านผู้เฒ่าหวินก็พูดขึ้นว่า “เธอคือ DrFS จริงๆ เมื่อสามปีที่แล้วเธอยังอยู่ในโรงเรียนมัธยม แต่ว่าเธอได้ผ่านการทดสอบ อีกทั้งได้ทําการสอบแบบมืออาชีพมาหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งหลังจากที่เธอผ่านการทดสอบและการสอบเหล่านั้นมาแล้ว จึงท่าให้เจียนอีหลิงได้กลายเป็นหมออย่างเต็มตัว”
ท่านผู้เฒ่าหวินเป็นบุคคลสําคัญในวงการนี้ ซึ่งทําให้คําพูดเหล่านั้นมีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก แล้วพวกเขาทุกคนจะไม่เชื่อในคําพูดของชายชราคนนี้ได้อย่างไร
จากนั้น หลัวซิวเอ็นก็พูดขึ้นมาอีกว่า “ฉันมาจากสถาบันวิจัยทางการแพทย์สุ่ยหลิง คุณสามารถค้นหาชื่อได้จากเว็บไซต์ของสถาบัน ในนั้นมีภาพถ่ายและข้อมูลของฉันอยู่บนอินเทอร์เน็ต ดังนั้น ฉันสามารถพิสูจน์ได้ว่าอีหลิงคือ Dr.FS ของสถาบันของเราจริงๆ”
หลัวซิ่วเอ็นได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอต่อหน้าสาธารณชน ซึ่งการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเธอนั้นจึงค่อนข้างง่ายดาย
และยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนรู้ว่า DrFS เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ฮียหลิง
ดังนั้น คําพูดของเพื่อนร่วมงานของ Dr.FS จะต้องเชื่อถือได้อย่างแน่นอน
ด็อกเตอร์จี้ก็ยังคงไม่เชื่ออยู่ดี เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูในเว็บไซต์ของสถาบันอย่างรวดเร็ว และสิ่งนี้ทําให้เขาประหลาดใจอย่างมาก เขาพบว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เป็นนักวิจัยของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ชุ่ยหลิงจริงๆ นอกจากนี้ เธอยังเชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยาอีกด้วย
ดังนั้น คําพูดของท่านผู้เฒ่าหวินที่ควบคู่ไปกับตัวตนของหลัวซิ่วเอิน จึงเผยให้เห็นความจริงที่น่าตกใจสําหรับทุกคน ว่าเจียนอีหลิงคือ Dr.FS จริงๆ!
“เป็นไปไม่ได้…จะเป็นไปได้ยังไงกัน..?” ด็อกเตอร์ฉ่พูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกับว่าโลกทัศน์ทั้งใบได้พังทลายลงในชั่วพริบตา
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาดูไม่เหมือนนักวิจัย แต่เธอกลับเป็นคนของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ฮุ่ยหลิงที่โด่งดังจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น แพทย์ฝึกหัดที่เขาไม่ถูกชะตาตั้งแต่แรก ยังเป็นถึงศัลยแพทย์ลึกลับนาม DrFS อีกด้วย!
“ไม่มีทางเป็นไปได้! เธออายุแค่สิบแปดปี แล้วเธอจะเป็น Dr. FS ได้ยังไงกัน?ฉันไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด!”
ความเป็นจริงนี้ ช่างน่าตกใจเกินกว่าที่ด็อกเตอร์ฉ่จะสามารถยอมรับได้
เขาอยู่ในวัยสามสิบปีแล้ว แต่ว่าเขายังเป็นได้แค่หมอธรรมดาเท่านั้น
ในอีกทางหนึ่ง เจียนอีหลิงมีอายุเพียงสิบแปดปี แต่ว่าเธอได้กลายเป็นศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียงไปแล้ว
แล้วเขาจะยอมรับสิ่งนี้ได้ยังไง?