เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 710
ตอนที่ 710 อสูรวัวไร้ผู้ต้าน
“ฮ” แวมไพร์ผู้มีประเด็นเค่นเสียงแสยะยิ้มมุมปากก่อนการโจมตีของอสูรวัวจะถึงตัว แวมไพร์หนุ่มได้ยื่นแขนกางฝ่ามือชี้ไปเบื้องหน้านิ้วทั้งห้าเกร็งค่อยๆงองุ่มหุบเข้าหากันราวกับกําลังคว้าจับบีบอากาศอย่างไงอย่างงั้น
อาการของอสูรวัวสอดคล้องกับท่าทางแวมไพร์หนุ่มอย่างยิ่ง ถูกแล้วนี่คือการโจมตีของแวมไพร์หนุ่มที่มุ่งเป้าไปที่อสูรวัวการโจมตีนี้เองเมื่อครู่ก็ถูกใช้ออกโดยแวมไพร์อีกตนที่มีเป้าหมายเป็นหนึ่งในผู้ติดตามของอู่เฉินพลังของมันอัศจรรย์เกินจินตนาการอย่างยิ่งมิต้องแตะต้องกายเป้าหมายดูจากท่าทางของมันยังแทบไม่ต้องออกแรงให้เสียเหงื่อเสียด้วยซ้ํา
พลังโจมตีที่มองไม่เห็น ไร้ขอบเขต ขอเพียงเป้าหมายอยู่ในระยะสายตาไม่ว่าจะไกลเท่าไหร่ก็มิอาจหลุดรอดเงื้อมมือไร้ผู้ต้านทานทรงอานุภาพยิ่งกว่าอื่นใดแม้แต่อสูรวัวร่างกายมหึมาสูงร่วมสามเมตรน้ําหนักตัวไม่ต่ํากว่าห้าร้อยกิโลกรัมยังยอมศิโรราบสิ้นอิทธิฤทธิ์ในบัดดล!
“ข้าล่ะชอบสีหน้าที่มันแสดงออกตอนนี้เสียจริง ฮ่าๆ”
“อย่าได้รีบฆ่ามันล่ะ ให้มันรับรู้ถึงความโง่เขลาที่อาจหาญกล้าท้าทายพลังของพวกเราให้มันตกตายทั้งเป็น!!”
“ชิห์ ทําไมเจ้าวัวโง่นั่นไม่พุ่งเป้ามาที่ข้าแทน ข้าจะได้ออกแรงแก้เบื่อบ้าง”
“ฮ่าๆ ดูพวกอสูรวัวข้างหลังนั่นสิ พวกมันยังยืนอึ้งอยู่เลย” เหล่าแวมไพร์หนุ่มสาวส่งเสียงกันอย่างสนุกสนานเต็มไปด้วยคําเย้ยหยันหัวเราะชอบใจ มองดูอสูรวัวตกอยู่ห้วงแห่งความทรมานอย่างสนุกสนาน
ฟูววง
ในตอนนั้นเองไม่มีใครสังเกตุเลยว่า อสูรวัวผู้นําทัพผู้ครอบครองร่างกายที่สูงร่วมสี่เมตรมันมีใบหน้ามืดหม่นอย่างยิ่งดวงตาหรี่จับจ้องแผ่นหลังของอสูรวัวผู้ทุรนทุรายดิ้นรนพยายามฝืนสู้กับความเจ็บปวด เล็กย่นจมูกแยกเขี้ยวเผยฟันอันแหลมคมขนาดใหญ่หายใจฟัดฟัดปล่อยลมร้อนใบหน้าของมันดุร้ายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อใครสักคน
มืออว์ม
เมื่อมันไม่อาจทนมองดูหนึ่งในสหายที่ตกอยู่ในสภาพน่าเวทนาได้อีกต่อไป เสียงคํารามกู่ร้องระเบิดสร้างพลังเสียงที่สามารถทําร้ายโสทประสาทของผู้อยู่ใกล้เคียง อสูรวัวก้าวเท้าข้างหนึ่งไปเบื้องหน้ากระทืบลงบนพื้นดิน กางแขนสองข้างเกร็งกล้ามเนื้อ ผิวหนังกระชับในบัดดลมัดกล้ามขยายขนาด ตั้งแต่ส่วนคอจรดเท้าที่มีร่างกายเสมือนมนุษย์ปรากฏเส้นเลือดนับสิบสายโป่งนูนเด่นชัดน่าเกรงขาม
ขวานยักษ์คู่กายในมือขวาชูขึ้นเหนือศรีษะควงหมุนหนึ่งรอบ เพียงคราเดียวรอบกายมันเกิดความปั่นป่วนสร้างลมหมุนขนาดย่อมก่อนที่จะฟาดฟันลงโดยมีศรีษะของแวมไพร์หนุ่มเป็นเป้าหมาย!!
เหล่าแวมไพร์วัยหนุ่มสาวมิได้เปลี่ยนท่าทีอันใด กิริยาที่แสดงออกยังคงเต็มไปด้วยความเย้ยหยันบางรายเค่นเสียงหัวร่อบางตนส่ายศรีษะมองดูอสูรวัวสูงส์เมตรที่หมายจะจู่โจมในท่วงท่าเดียวกันกับตนก่อนหน้าด้วยความเหยียดหยาม
“เฮอะ” แวมไพร์น้อยผู้ตกเป็นเป้าหาได้แตกตื่นตกใจไม่ เพียงแสยะยิ้มเค่นเสียงบางเบาเปลี่ยนท่วงท่าอย่างราบเรียบมือขวาผ่อนกําลังคลายพลังของตน
พริบตาต่อมา เจ้าวัวผู้ตกอยู่ในความทรมานแสนสาหัสได้หลุดพ้นจากวิชาพิศดาร ความผิดปกติของร่างกายหายวับราวกับภาพฝัน
แวมไพร์น้อยกางฝ่ามือขยับแขนเบี่ยงไปด้านข้างเล็กน้อยจนอยู่ในระนาบเดียวกันกับผู้นําอสูรวัว
ไม่พูดพร่ําทําเพลง นิ้วทั้งห้าเกร็งจนเส้นเอ็นแข็งตัวเส้นเลือดหลังมือนูนเด่นปลดปล่อยพลังที่มองไม่เห็นใช้พลังหัตถ์พิศดารโจมตีใส่เป้าหมายโดยไม่ร้องเตือน
อสูรวัวสูงสี่เมตรชะงักค้างกลางอากาศ
แวมไพร์หนุ่มฉีกยิ้มกว้าง ในความคิดมันเจ้าอสูรวัวเหล่านี้โง่งมไร้สติปัญญายิ่ง พวกมันไม่หลาบจําไม่ได้รับบทเรียนใดๆทั้งที่หนึ่งในนั้นพึ่งถูกโจมตีด้วยวิชาเดียวกัน แต่เจ้าอสูรวัวผู้นําขบวนเปรียบเสมือนผู้นําทัพตนนี้กลับถูกความโกรธครอบงําโจมตีตนด้วยท่วงท่าเดียวกันกับวัวโง่ตัวก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนไร้การพลิกแพลงฉะนั้นแล้วในไม่กี่อึดใจต่อมาเจ้าวัวยักษ์จักต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับสหายของมันอย่างไม่ต้องสงสัย
ทว่า…ภาพฝันของมันพลังทลายลงในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นอสูรวัวสูงสี่เมตรมันเพียงชะงักไปเสี้ยววิ!
การโจมตีของมันมิได้มีผลกับอสูรวัวผู้นี้เลย อสูรวัวผู้ตกเป็นเป้าในชั่วพริบตานั้นใบหน้าของมันดุร้ายแยกเขี้ยวเค้นกําลังมหาศาลให้การโจมตีของมันรวดเร็วรุนแรงขึ้นนับทวี ราวกับเติมเชื้อเพลิงในกองไฟแวมไพร์หนุ่มได้ไปกระตุกหนวดวัวเข้าให้แล้ว
รอยยิ้มมุมปากแปรเปลี่ยนหายไปในบัดดลแขนซ้ายที่เว้นว่างร้อนรนยกขึ้นกางฝ่ามือบีบอากาศในท่วงท่าเดียวกับแขนขวาสองมือส่งเสริมเกื้อหนุนใช้พลัง
ต่อการโจมตีสุดชีวิตของแวมไพร์ แววตาอสูรวัวฉายแววร่างกายไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆสีหน้าไม่แสดงถึงความเจ็บปวดแขนขาไม่อ่อนแรงโจมตีของมันไม่เร็วขึ้นหรือลงฟันในระนาบเดิมด้วยความเร็วคงที่!!!?
แม้จะทุ่มสุดตัวทว่าผลลัพธ์ดันไม่เป็นไปอย่างที่คิด แวมไพร์หนุ่มที่มีรอยยิ้มแสยะ แสดงถึงความเยาะเย้ยดูถูกจนออกนอกหน้าบัดนี้จําต้องกลับตารปัตร อ้าปากเหวอดวงตาเบิกโพรงลูกตาสีแดงหดเล็ก สิ่งมีชีวิตสูงศักดิ์เช่นมันไม่เคยพบเจอกับอันตรายมิเคยเผชิญกับสถานการณ์ที่ตนตกเป็นรองมาก่อนทั้งยังไม่เคยพบว่าสิ่งมีชีวิตใดที่ตกเป็นเป้าหมายจะไม่ถูกครอบงําด้วยพลังของตนอย่างเจ้าวัวยักษ์เบื้องหน้า
เหล่าแวมไพร์หนุ่มสาวที่ยืนรับชมอยู่เบื้องหลังหาได้รับรู้ไม่ พวกมันสนทนากันอย่างสนุกสนานหัวเราะเยาะเผ่าอสูรวัวโง่งมยังฉีกยิ้มกว้างรอชมภาพอสูรวัวสี่เมตรคุกเข่าทรมานอยู่กับพื้นด้วยความใจจดใจจ่อ
เมื่อการโจมตีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมันไม่เป็นผล แวมไพร์น้อยหมดสิ้นหนทางไร้วิธีการต่อกรมองดูคมขวานที่คืบคลานเข้าหาศรีษะของตนจนห่างเพียงคืบเดียวยากที่จะหลบเลี่ยงมันตัดสิใจดึงแขนทั้งสองข้างกลับฝ่ามือทั้งสองหงายขึ้นประสานกันเหนือศรีษะรวบรวมพลังเตรียมรับการโจมตี
ซึ่งแน่นอนว่ามือขาวๆของมันย่อมไม่อาจต้านทานคมขวานยักษ์ที่ฟาดมาด้วยพลังมหาศาลจากอสูรวัวได้ มันได้ทําไปเพียงสัญชาติญาณของตนเท่านั้น
พรบ
ในตอนนั้นเอง แวมไพร์วัยฉกรรจ์เพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มมาปรากฎกายเบื้องหน้าของแวมไพร์หนุ่มอย่างฉับพลันคั่นอยู่ระหว่างแวมไพร์น้อยและอสูรวัว ใบหน้าของมันดุดันหน้าผากย่นหัวคิ้วขมวดเข้าหากันตั้งแต่เริ่มการมีปากเสียงกันของสองเผ่าทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีมิมีช่องว่างให้แวมไพร์ฉกรรจ์รายนี้ได้ปริปากไม่มีเวลารับมือใดๆทั้งสิ้น
ปรายหางตามันลอบมองแวมไพร์หนุ่มที่อยู่ด้านหลังของตน
เข่าสองข้างย่อลงลดระดับความสูงสร้างฐานมั่นคง แขนซ้ายขวายกขึ้นเหนือศรีษะเกร็ง นิ้วทั้งสิบของมัน ปรากฏเล็บแหลมคมงอกออกมายาวกว่าหนึ่งคืบ
ฟันกรามขบแน่นแยกเขี้ยวยิงฟันฟองน้ําลายไหลออกจากริมฝีปาก กรงเล็บแหลมจากหัวแม่มือทั้งสองข้างคั่นขวางต้านคมขวาน กรงเล็บอีกแปดข้างที่เหลือสัมผัสกับใบขวานยืนยันดันกําลังบรรเทาพลังลดแรงเหวี่ยงเปลี่ยนวิถีการโจมตีของอสูรวัวออกด้านข้างเพื่อให้แวมไพร์ตัวน้อยได้รอดพ้นจากคมขวาน
ฮาา
มันตะเบ็งเสียงระเบิดพลังดวงตาแดงโลหิตรฉายแวว เสื้อผ้าปลิวไสว เงื้อง่างแขนสองข้างตะปบสองมือเข้ากับใบขวานสุดกําลัง พริบตาที่กรงเล็บของมันสัมผัสเข้ากับใบขวานทั่วร่างประดุจถูกสายฟ้าฟาดขาทั้งสองข้างจุดศูนย์รวมน้ําหนักถ่วงสมดุลทรุดลงในบัดดลร่างของมันคุกเข่ากระแทกพื้นโดยพลังที่ไร้ผู้ต้าน