cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

หมอหญิงพลิกธรรมเนียม - บทที่ 23

  1. Home
  2. All Mangas
  3. หมอหญิงพลิกธรรมเนียม
  4. บทที่ 23
Prev
Next

ฟังคำพูดนี้แล้ว ทุกคนต่างมองไปที่เฉิงชิงเสวี่ยเป็นตาเดียว หลวนอวิ๋นชูเองก็มองไป กลับเห็นนางยืนนิ่งไม่สะทกสะท้าน ไม่มีท่าทางกระวนกระวายใดๆ เพียงสองแก้มแดงขึ้นมาเล็กน้อย

ต้องเผชิญกับสถานการณ์กลืนไม่เข้า คายไม่ออกเช่นนี้ กลับยังสงบนิ่งอยู่ได้ ดีมาก!

ถอนสายตากลับมา หลวนอวิ๋นชูโบกมือบอก

“เจ้ากับฝูหรงคัดเลือกกันเองก็แล้วกัน”

ฝีมือเย็บปักถักร้อยของหลวนอวิ๋นชูในเมืองหลวนเฉิงนี้ยากจะหาใครเทียม การคัดเลือกงานปักนี้ใครจะกล้าแสดงฝีมือที่ต่ำต้อยต่อหน้านาง คิดได้ดังนี้สี่จวี๋จึงว่า “บ่าวจะกล้าวิจารณ์ต่อหน้าท่านได้อย่างไร”

“แม่นางสี่จวี๋กล่าวได้ถูกต้อง ฝีมือเย็บปักถักร้อยของสะใภ้สี่ในเมืองหลวนเฉิงยากจะหาใครเทียม วันนี้ไม่ว่าอย่างไรท่านก็ต้องวิจารณ์ด้วยตนเอง” วางถ้วยชาที่เพิ่งยกขึ้นมาลง หลี่หวามองหลวนอวิ๋นชูอย่างกระตือรือร้น “ท่านไม่รู้อะไร สาวๆ เหล่านี้พอได้ยินว่าท่านจะคัดเลือกสาวใช้ ต่างก็ตื่นเต้นราวกับอะไร งานปักที่เตรียมไว้แต่เดิมก็รู้สึกยังไม่พอใจ นอนไม่หลับลุกขึ้นมาขบคิดหาลวดลายใหม่ เพียงเฝ้ารอช่วงเวลานี้ สามารถได้รับการพยักหน้ายอมรับจากท่าน…” แล้วบอก “สะใภ้สี่ไม่รู้ คำวิจารณ์เพียงคำเดียวของท่าน เพียงพอให้พวกนางใช้ประโยชน์ไปชั่วชีวิตแล้ว”

คำพูดเพียงคำเดียวของหลี่หวาก็ประคองหลวนอวิ๋นชูขึ้นไปอยู่บนยอดเมฆแล้ว ภายในห้องโถงมีเสียงชื่นชมด้วยความเลื่อมใสดังขึ้นมาทันที ในหูของหลวนอวิ๋นชูมีเสียงดังอึงอล เสื้อแนบติดแผ่นหลัง คนเหล่านี้ไหนเลยจะรู้ นางทำงานเย็บปักถักร้อยไม่เป็นเลย จะให้นางแสดงความเห็นยังไม่สู้ให้นางกลับไปนอน

ทำอย่างไรดี

ความคิดหมุนไปอย่างเร็วรี่ หลวนอวิ๋นชูมองหลี่หวาแล้วยิ้มน้อยๆ

หลี่หวาเริ่มรู้สึกขนลุกขนพองขึ้นมา

ความคิดของหลวนอวิ๋นชูตนมองไม่ออกแม้แต่น้อย ด้วยเคยเห็นงานฝีมือของนางมาก่อน ตนจึงกล้าสรรเสริญเยินยอเช่นนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าคงตัวลอย ชิงโอ้อวดตัวไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าสะใภ้สี่ผู้นี้กลับ…

ไม่ได้ชอบใจและไม่ได้โกรธ

ส่ายหน้า…นี่เป็นการแสดงออกเช่นไรกัน

บอกกำลังยิ้ม แต่เหตุใดตนเห็นแล้วรู้สึกแปลกๆ ท่าทางลึกล้ำยากหยั่งถึง…

ความคิดพลันผุดขึ้น หลี่หวาตระหนักได้ในทันที อวิ๋นชูเป็นใคร เป็นบัณฑิตหญิง เป็นบัณฑิตหญิงผู้ยอดเยี่ยมแห่งยุคผู้สูงส่งเหนือผู้คน!

คนที่พูดคุยด้วยมีแต่นักปราชญ์ราชบัณฑิต คนที่คบหาสมาคมไม่มีใครมีความรู้ตื้นเขิน คนที่ไปมาหาสู่กับนางล้วนเป็นกวีลือนามของเมืองหลวนเฉิง งานปักที่คู่ควรให้บัณฑิตหญิงผู้ยอดเยี่ยมแห่งยุคเอ่ยปาก เกรงว่าคงมีแต่งานปักจากวังหลวงกระมัง ไม่ได้จะเปิดโรงงานปักผ้าเสียหน่อย ถึงจะให้นางคัดเลือกงานปักของเด็กสาวเหล่านี้ ถ้าเรื่องแพร่ออกไปก็จะเสื่อมเสียชื่อเสียงของนาง พอคิดมาถึงตรงนี้ หน้าผากหลี่หวาพลันมีเหงื่อเย็นผุดออกมา

จะตบสะโพกม้ากลับตบไปถูกขาม้าแล้ว!

ทำอย่างไรดี

น้ำที่สาดออกไปแล้ว คิดจะเก็บกลับคืนมาก็ไม่ทัน มองหลวนอวิ๋นชูด้วยสีหน้าเหยเก หลี่หวาคิดหาวิธีกอบกู้สถานการณ์

“สะใภ้สี่ ถ้า…”

คิดได้แล้วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่พอเอ่ยปากหลี่หวาพลันพบว่าคำพูดนี้ไม่อาจพูดออกมาได้ ดีไม่ดีกลับจะกลายเป็นไปว่าหลวนอวิ๋นชูใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้องเพื่อแสวงหาชื่อเสียงและคำสรรเสริญเยินยอ หลี่หวาผู้กลิ้งกลมไปทั่วทุกด้านหลังจากเรียก ‘สะใภ้สี่’ ออกมาจึงพูดอะไรต่อไม่ออก

ในขณะที่หลี่หวากำลังรู้สึกลำบากใจอย่างที่สุดอยู่นั้น หลวนอวิ๋นชูกลับหัวเราะเบาๆ แล้วเปิดปากขึ้น

“หลี่มามาคงไม่รู้ เสื้อผ้าของใช้ประจำวันในจวน แต่ไรมาล้วนส่งไปให้ร้านปักผ้าทำ ไม่ต้องให้สาวใช้ในจวนต้องลงมือ พวกนางก็เพียงปักพวกเหอเปา* ผ้าเช็ดหน้า งานเย็บปักถักร้อยแค่พอทำได้ก็พอ ไม่ต้องฝีมือยอดเยี่ยมอะไร จะให้ข้าวิจารณ์ พูดลึกไปตื้นไปมีแต่จะทำลายขวัญและกำลังใจของพวกนาง”

ไม่เสียทีที่เป็นบัณฑิตหญิงผู้ยอดเยี่ยมแห่งยุค พูดได้คำเดียว ‘เหนือชั้น!’

คำพูดนี้อ้อมค้อมนุ่มนวลมากพอ ทั้งปฏิเสธการพิจารณาคัดเลือกและเหลือศักดิ์ศรีให้ตนเองอย่างเพียงพอ หลี่หวาแอบท่องอมิตาภพุทธออกมาคำหนึ่ง ปาดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ที่หน้าผากพลางผงกศีรษะติดๆ กัน

“สะใภ้สี่กล่าวได้ถูกต้อง เป็นข้าที่คิดอะไรไม่รอบคอบมากพอ ผิดต่อเจตนาดีของท่านแล้ว ฝีมือของนางหนูเหล่านี้เทียบไม่ได้กระทั่งเล็บนิ้วมือเดียวของท่าน ท่านย่อมไม่เห็นอยู่ในสายตา คำว่า ‘ดี’ ย่อมพูดไม่ออก แต่หากท่านพูดคำว่า ‘ไม่ดี’ ออกมา คัดข้อเสียออกมามากไป เกรงว่านางหนูเหล่านี้คงมีคิดอยากตายอยู่บ้าง…ข้าได้ยินว่าแม่นางฝูหรงติดตามท่านมาหลายปี ฝีมือการเย็บปักถักร้อยก็ชั้นหนึ่ง แม่นางสี่จวี๋ก็ยิ่งมั่นใจได้ งานปักเหล่านี้ให้พวกนางมาตัดสินก็เพียงพอแล้ว”

ถูกหลี่หวาเตือน สี่จวี๋ก็ได้สติ มือที่ประคองงานปักสั่นน้อยๆ มองหลวนอวิ๋นชูด้วยความหวั่นหวาด

หลวนอวิ๋นชูไม่ได้พินิจพิเคราะห์ความหมายในคำพูดของหลี่หวาอย่างละเอียด เห็นอีกฝ่ายไม่ยืนกรานให้นางตัดสินก็โล่งอก เงยหน้าขึ้นมองสี่จวี๋

“เอาลงไปเถิด”

“บ่าวขอบคุณสะใภ้สี่!”

ราวกับได้รับการอภัยโทษ สี่จวี๋มองหลวนอวิ๋นชูอย่างซาบซึ้งใจแวบหนึ่ง ขณะจะหมุนตัวก็ถูกอีกฝ่ายเรียกไว้

“จริงสิ…”

สี่จวี๋ตัวสั่นเทา

“สะใภ้สี่มีอะไรจะสั่งเพิ่มหรือเจ้าคะ”

“เฉิงชิงเสวี่ยผู้นั้น…” หลวนอวิ๋นชูชี้ไปที่เฉิงชิงเสวี่ย “รอบนี้ไม่ต้องนับนางเข้าไปด้วย”

“สะใภ้สี่ นี่…”

เฉิงชิงเสวี่ยผู้นี้เป็นนักโทษของทางการ ไม่อาจเอาไว้!

น่าเสียดาย การทดสอบมารยาทนางทำได้สมบูรณ์แบบยิ่ง ภายใต้สายตาผู้คนที่จ้องมองอยู่หาจุดอ่อนไม่พบจริงๆ ก็รอด่านเย็บปักถักร้อยนี่แล้ว ไม่คิดว่าพอปากที่มีค่าดั่งทองคำของหลวนอวิ๋นชูเอ่ยออกมา ถึงกับมีคำสั่งละเว้นให้เฉิงชิงเสวี่ยเป็นกรณีพิเศษ

สี่จวี๋เรียกสะใภ้สี่ออกมาคำหนึ่ง คำพูดต่อจากนั้นค้างติดอยู่ในลำคอ เมื่อครู่นางเจ้ากี้เจ้าการจะให้หลวนอวิ๋นชูคัดเลือกงานปัก นับว่าฝ่าฝืนข้อห้ามแล้ว หลวนอวิ๋นชูไม่ได้ตำหนิก็ถือเป็นความเมตตาอย่างใหญ่หลวง เวลานี้นางไม่กล้าก่อเรื่องขึ้นอีก

นิ่งงันอยู่ชั่วขณะ สี่จวี๋สีหน้าพลันผ่อนคลาย ด่านนี้ไม่ได้ก็ยังมีอีกด่าน สะใภ้สี่คงไม่มีคำสั่งละเว้นให้นางเป็นกรณีพิเศษอีกครั้งกระมัง เด็กสาวผู้นี้กระทั่งภาษาหลวนก็ยังไม่รู้ ด่านถัดไปถ้าคัดเลือกไม่ผ่าน ก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้อ้างแล้ว!

คิดมาถึงตรงนี้สี่จวี๋ก็ยอบตัว

“เจ้าค่ะ บ่าวรับคำสั่งสะใภ้สี่”

“อืม…นี่ก็สายมากแล้ว” เห็นสี่จวี๋สีหน้าเปลี่ยน หลวนอวิ๋นชูก็ฉุกคิดขึ้นมา “ข้าว่าไม่ต้องออกหัวข้อทดสอบอีกแล้ว เจ้ากับฝูหรงก็ตัดสินจากงานปักเหล่านี้ แล้วคัดออกอีกห้าคนเถอะ”

คำพูดของหลวนอวิ๋นชูไม่เพียงประกาศว่านี่เป็นด่านสุดท้าย ยังเท่ากับประกาศว่าเฉิงชิงเสวี่ยผ่านการคัดเลือกเป็นกรณีพิเศษ ในห้องโถงมีเสียงฮือฮาขึ้นมาทันที คนที่ฝีมือเย็บปักร้อยดีย่อมโห่ร้องยินดี คนที่ฝีมือเย็บปักถักร้อยไม่ดีต่างตีอกชกหัว พากันทอดถอนใจไม่หยุด

สี่จวี๋ยืนอยู่กับที่ราวกับเป็นรูปปั้นดิน งานปักในมือเกือบจะร่วงลงสู่พื้น

เฉิงชิงเสวี่ยผู้นี้ไม่อาจเอาไว้เด็ดขาด!

สตรีผู้นั้นไม่เพียงเป็นนักโทษทางการ ยังเป็นคนแคว้นหลี จวนแห่งนี้ถูกเจียงเสียนขุนนางทรยศแห่งแคว้นหลี คนเสเพลแห่งเมืองหลวนเฉิงก่อความวุ่นวายจนทุกเรือนต่างเอือมระอาคนแคว้นหลีเป็นที่สุด โดยเฉพาะนายหญิงใหญ่ที่ใส่ใจเรื่องเกียรติยศหน้าตาไปเสียทุกด้าน พอเอ่ยถึงเจียงเสียนสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ นายหญิงใหญ่ไม่มีทางยอมให้หลวนอวิ๋นชูรับนักโทษทางการจากแคว้นหลีเข้ามาอีกคนแน่

แต่หลวนอวิ๋นชูพูดออกจากปากไปแล้ว คิดจะทัดทานก็ไม่ทัน

“สะใภ้สี่ เอ่อ…” ขณะร้อนใจพลันเกิดความคิดขึ้น สี่จวี๋เอ่ยปาก “ท่านเป็นบัณฑิตหญิงที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวนเฉิง หากคิดจะเลือกสาวใช้ ไม่ว่าอย่างไรก็ควรต้องทดสอบความสามารถด้านการประพันธ์สักหน่อย”

ฉับพลันนั้นสายตาแวววาวสุกใสก็พุ่งมารวมตัวกันอยู่ที่ร่างหลวนอวิ๋นชู คนที่มีฝีมือด้านการแต่งบทกวีก็เออออคล้อยตามขึ้นมาอย่างใจกล้า คนอื่นๆ ที่ความสามารถด้านการประพันธ์ค่อนข้างดีก็ส่งเสียงโห่ร้องตามไปด้วย ในห้องโถงวุ่นวายขึ้นมาทันที

สวรรค์! ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเหลือเด็กสาวที่มีความสามารถด้านการประพันธ์ไว้ให้ข้าสักหลายคน อย่างน้อยนี่ก็เป็นจุดขายสำคัญจุดหนึ่ง ถ้าไม่เหลือแม้แต่คนเดียว ทั้งยังคืนเฉิงชิงเสวี่ยกลับมา ข้าจะเอาศีรษะพุ่งชนกำแพงตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด!

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเสียงอึกทึกของทุกคน หลี่หวาก็ไม่มีแก่ใจจะยับยั้ง เพียงมองหลวนอวิ๋นชูด้วยความตึงเครียด กลัวมากว่าหญิงสาวตัวน้อยที่อ่านใจยากผู้นี้จะพยักหน้า

ทำการค้าให้ความสำคัญกับคำว่า ‘เชื่อถือ’ หลวนอวิ๋นชูเลือกเอาคนเก่งๆ ของนางไปหมดแล้ว แม้จะปวดใจนางก็ได้แต่ทำใจยอมรับ นั่งอยู่ที่นั่นรับมือด้วยสีหน้าไม่สะทกสะท้าน คำพูดเพียงประโยคเดียวของหลวนอวิ๋นชูเลือกเฉิงชิงเสวี่ยที่ตกค้างอยู่ในมือนางไป ทำให้นางอดปลื้มปีติยินดีไม่ได้ ขณะแอบดีใจอยู่นั้น คิดไม่ถึงว่าสี่จวี๋กลับเสนอเรื่องความสามารถด้านการประพันธ์ขึ้นมา

เมื่อมาใคร่ครวญดูอย่างละเอียดแล้ว ไม่นับรอบที่หลวนอวิ๋นชูคัดเลือกด้วยสายตา มาถึงตอนนี้ก็เพียงตั้งหัวข้อทดสอบไปสองข้อคือมารยาทกับฝีมือการเย็บปักถักร้อยเท่านั้น เฉิงชิงเสวี่ยทำไม่ได้หนึ่งหัวข้อ ได้หลวนอวิ๋นชูอนุโลมให้เป็นพิเศษก็พอจะรับได้

แต่ถ้ามีความสามารถด้านการประพันธ์อีกหนึ่งหัวข้อ ในสามหัวข้อนี้เฉิงชิงเสวี่ยทำไม่ได้สองหัวข้อ ย่อมพูดยากแล้ว ท่ามกลางสายตาผู้คนหลวนอวิ๋นชูย่อมไม่กล้าอนุโลมให้เป็นพิเศษถึงสองหัวข้อ นางหลี่หวาต่อให้หน้าหนาเพียงไรก็ไม่อาจดึงดันยัดเยียดนักโทษทางการที่มีรอยสักผู้นี้ให้กับจวนกั๋วกง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสี่จวี๋คิดจะใช้ความสามารถด้านการประพันธ์เตะเฉิงชิงเสวี่ยออกจากกระดาน เป็นเรื่องที่คนเดินถนนต่างรู้*

ถูกสายตาของทุกคนจับจ้องมอง ปลายจมูกของหลวนอวิ๋นชูก็มีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ซึมออกมา เมื่อครู่เห็นสีหน้าสี่จวี๋ไม่ถูกต้อง ก็คาดเดาอยู่แล้วว่านางต้องมีความคิดอะไร ด้วยเหตุนี้จึงได้ชิงปิดปากนางก่อน คิดไม่ถึงว่านางหนูผู้นี้สุดท้ายแล้วยังคงพูดออกมา

หัวคิ้วกระตุกเล็กน้อย สี่จวี๋ผู้นี้ เหตุใดจึงตั้งใจจะขัดแย้งกับข้าเช่นนี้!

ใจอยากจะปฏิเสธไปเลย แต่เมื่อมาคิดดูอย่างละเอียด นางเป็นบัณฑิตหญิงผู้ยอดเยี่ยมแห่งยุค มีท่วงท่าสง่าน่าเกรงขาม เลือกสาวใช้ไม่ดูความสามารถด้านการประพันธ์ พูดให้ใครฟังก็ดูจะไม่มีเหตุผล แต่ถ้าจะทดสอบความสามารถด้านการประพันธ์อีกหัวข้อจริง ไม่พูดถึงว่าเฉิงชิงเสวี่ยจะถูกเตะออกจากจวน เรื่องที่นางไม่รู้หนังสือก็จะปิดบังไม่อยู่ด้วย ต้องถูกเปิดเผยออกมาทันที

ทำอย่างไรดี

คำพูดประโยคเดียวของสี่จวี๋ประหนึ่งผลักหลวนอวิ๋นชูขึ้นไปบนกองไฟ พลาดพลั้งเพียงนิดเดียวร่างต้องถูกเผาไหม้เป็นผุยผง

ใจหลวนอวิ๋นชูประหนึ่งเหมือนน้ำชงชาเดือด พลุ่งพล่านไม่หยุด ทว่าสีหน้าไม่เปลี่ยน นางมองสบตาทุกคนด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึก

เสียงเอะอะค่อยๆ เงียบลง

กลิ่นอายความตึงเครียดขุมหนึ่งแผ่ลามออกมา ทำให้คนอึดอัดจนหายใจไม่ออก ครั้นแล้วทุกคนก็พากันกลั้นลมหายใจ

ในห้องโถงที่กว้างขวาง ถ้ามีเข็มตกก็ยังได้ยินเสียง

สี่จวี๋พลันกระสับกระส่ายขึ้นมา แขนที่ประคองถาดใส่งานปักก็เมื่อยล้าแล้ว สะใภ้สี่ผู้นี้ชอบทำอะไรแปลกประหลาดอยู่เสมอ ไม่ทำอะไรตามหลักเหตุผลทั่วไป ทำให้นางคาดเดาอะไรไม่ถูก หรือว่าคำพูดเมื่อครู่นางไปฝ่าฝืนข้อห้ามอีก

เมื่อคิดได้ดังนี้สายตาของสี่จวี๋ที่มองหลวนอวิ๋นชูก็เจือความหวั่นหวาดสามส่วน ใบหน้าซีดขาวขึ้นมา

“สะใภ้สี่ บ่าว…”

“ดูความจำของเจ้าสิ ตอนเช้านายหญิงใหญ่เพิ่งบอก ‘ใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน เน้นหนักเรื่องความอ่อนโยนดีงามมีคุณธรรม อิสตรีดูแลครอบครัวด้วยความขยันขันแข็ง ประหยัดมัธยัสถ์ จึงจะเป็นรากฐานที่ถูกต้อง บทกวี โคลงกลอนอะไรนั่นล้วนเป็นเรื่องของบุรุษ พวกเราอิสตรีไม่นิยมสิ่งนี้’ ” หลวนอวิ๋นชูสีหน้าสุขุมเยือกเย็น ในน้ำเสียงเจือความเอ็นดูอยู่ขุมหนึ่ง “เหตุใดชั่วพริบตาเดียวก็ลืมแล้ว ถ้าตอนนี้ข้าใช้บทกวีเอย โคลงกลอนเอยมาคัดเลือกสาวใช้ เรื่องไปถึงหูนายหญิงใหญ่เมื่อไร ข้าถูกต่อว่าที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้านายหญิงใหญ่โกรธขึ้นมาข้าก็จะกลายเป็นคนอกตัญญูแล้ว”

คำพูดยังพูดไม่จบสี่จวี๋ก็แข้งขาอ่อนลงไปคุกเข่ากับพื้น

“บ่าวไม่ดีเอง ถ้าไม่ใช่สะใภ้สี่เตือนสติ บ่าวคงลืมคำสั่งสอนของนายหญิงใหญ่ไปจริงๆ ถึงกับยุยงให้ท่านอกตัญญูต่อนายหญิงใหญ่ สะใภ้สี่โปรดลงโทษด้วย”

“เจ้าดูตนเองสิ ข้าก็แค่เอ่ยเตือนคำเดียว เจ้าก็คุกเข่าลงไปแล้ว” มองสี่จวี๋โขกศีรษะต่อหน้าผู้คนพอแล้ว หลวนอวิ๋นชูจึงเผยสีหน้าปวดใจออกมา “รีบลุกขึ้นเถิด เพียงแต่ต่อไปต้องไม่ลืม คำสั่งสอนของนายหญิงใหญ่ต้องจดจำไว้ให้ขึ้นใจ นี่จึงจะเป็นความกตัญญูกตเวที”

จำได้ก็แปลกแล้ว!

พูดจบหลวนอวิ๋นชูก็พูดเพิ่มอยู่ในใจอีกประโยคหนึ่ง

คำพูดเบาหวิวเพียงประโยคเดียวของหลวนอวิ๋นชูทำให้สี่จวี๋สาวใช้รุ่นใหญ่ตื่นตระหนกจนโขกศีรษะไม่หยุด ทุกคนรวมถึงพ่อบ้านเฮ่ออดเลื่อมใสไม่ได้ เอ่ยชื่นชมไม่หยุดปาก โดยเฉพาะด้านล่าง เด็กสาวยี่สิบสองคนที่ได้รับการคัดเลือกนอกจากจะมองหลวนอวิ๋นชูด้วยแววตาเลื่อมใสศรัทธาแล้ว ยังมีความหวั่นเกรงเพิ่มขึ้นมาสามส่วน

หลวนอวิ๋นชูไม่รู้ว่าคำพูดสบายๆ ประโยคเดียวของนางกับการคุกเข่าของสี่จวี๋สามารถเอาชนะใจคนเหล่านี้ได้แล้ว

สี่จวี๋ที่ถูกสาวใช้รุ่นเล็กพยุงขึ้นมา พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นเฉิงชิงเสวี่ยเข้าพอดี ร่างนางชะงักนิ่ง หันกลับมาร้องเรียกอีกครั้ง

“สะใภ้สี่…”

ขอร้องล่ะ นางก็แค่อยากได้ผู้คุ้มกันที่ร่างกายแข็งแรงมีกำลังสักคน เหตุใดนางหนูผู้นี้จึงทำเหมือนนางจะไปกระทำแย่ๆ กับมารดาของตนเองเช่นนั้น ขวางแล้วขวางอีกอยู่นั่น ปรายตามองใบหน้าที่ไม่ยินยอมของสี่จวี๋แล้ว หัวใจของหลวนอวิ๋นชูก็จมดิ่งลง นางไม่พูดอะไร เพียงมองสี่จวี๋ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

พูดมาถึงขั้นนี้แล้ว ภายนอกภายในก็ไว้หน้าตาอย่างเพียงพอ นางหนูผู้นี้เหตุใดยังไม่รู้จักดีชั่ว นี่จะเสนอความคิดประหลาดอะไรอีก

เรื่องกำลังดี เจ้าอย่าได้มาทำให้เสียเรื่องเป็นอันขาด

หลี่หวามองสี่จวี๋ตาปริบๆ แทบอยากจะก้าวเข้าไปเรียกนางว่า ‘บรรพบุรุษ’ แล้วยัดเงินให้สักหลายตำลึง

เป็นเพราะสี่จวี๋เห็นเฉิงชิงเสวี่ยแล้วขัดตา ภายใต้ความร้อนใจจึงเรียกสะใภ้สี่ออกมาคำหนึ่ง ทว่ากลับลังเลขึ้นมา จะอย่างไรนางก็เป็นบ่าวไพร่คนหนึ่ง วันนี้หลวนอวิ๋นชูได้ให้หน้าตาแก่นางอย่างเต็มที่แล้ว ถ้าตนเองยังปากมากอีก เกิดพูดอะไรผิดไปคำหนึ่ง ทำให้หลวนอวิ๋นชูโกรธ สั่งลงโทษขึ้นมาในที่นี้ ตนเองต้องขายหน้าไม่พูดถึง เกรงว่าต่อไปเด็กสาวเหล่านี้ย่อมจะมองนางด้วย ‘สายตาที่ไม่ให้ความสำคัญ’

คิดหน้าคิดหลังแล้ว สี่จวี๋พลันเกิดความขลาดกลัวขึ้นมาในส่วนลึกของจิตใจ จึงกลืนคำพูดที่มาถึงลำคอกลับลงไป เปลี่ยนคำพูดใหม่

“บ่าวจะทำสุดความสามารถ ไม่ให้ท่านต้องผิดหวัง”

หลี่หวาสีหน้าผ่อนคลายลง มองสบตาหลวนอวิ๋นชูแล้วยิ้ม

ไหนเลยจะรู้ เพิ่งกดน้ำเต้าลงกระบวยก็ลอยขึ้นมา* หลวนอวิ๋นชูกับหลี่หวาต่างระบายลมหายใจด้วยความโล่งอก พ่อบ้านเฮ่อที่เฝ้าดูอยู่ด้านข้างเงียบๆ มาโดยตลอดกลับข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่แล้ว เขาขยับตัว ประสานมือคารวะแล้วบอก

“สะใภ้สี่ การทำงานสิ่งสำคัญคือความเที่ยงธรรม นี่ก็คือคำพูดที่นายหญิงใหญ่สั่งสอนบ่าวอยู่เสมอ มาบัดนี้ระเบียบในการคัดเลือกสาวใช้ได้กำหนดไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครล้วนสมควรต้องปฏิบัติตาม”

ข้ายังเป็นเจ้านายอยู่หรือไม่ เหตุใดจะทำอะไรตามความต้องการของตนเพียงเล็กน้อยจึงได้ยากเพียงนี้ มองพ่อบ้านเฮ่อที่เคร่งขรึมผิดปกติ หลวนอวิ๋นชูขมวดคิ้ว แสร้งทำเป็นมองไปรอบๆ แข็งใจพูดขึ้น

“พ่อบ้านเฮ่อกล่าวได้ถูกต้อง คนมากเพียงนี้ต่างลืมตามองอยู่ เจ้าเห็นใครโกง ไม่ทำตามกฎเกณฑ์บ้าง บอกมาได้เลย ข้าจะไม่ปล่อยไปเด็ดขาด”

พูดพลางสายตาจับนิ่งไปที่ร่างสี่จวี๋กับฝูหรง ทั้งสองคนเนื้อตัวสั่นเทาขึ้นมาทันที

สวรรค์ พวกนางไม่ได้โกง!

ด่านมารยาท สายตาของทุกคนล้วนสว่างไสว พวกนางทำงานอย่างเป็นธรรมไม่ได้โน้มเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง

คิดไม่ถึงว่าหลวนอวิ๋นชูในใจรู้ดีแต่ภายนอกทำเป็นเลอะเลือน ถึงกับใส่ร้ายป้ายสีเขาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ เมื่อมองสบสายตาไม่พอใจของสี่จวี๋ฝูหรง พ่อบ้านเฮ่อสีหน้าพลันเปลี่ยนไปมา

นี่ใช่นายหญิงของบ้านที่ไหน คนเสเพลตามท้องถนนชัดๆ!

“สะใภ้สี่ได้มอบอำนาจในการออกหัวข้อทดสอบให้กับสี่จวี๋และฝูหรงแล้ว ย่อมไม่อาจออกหน้าก้าวก่ายอีก” เห็นนางพูดติดตลกเช่นนี้ พ่อบ้านเฮ่อจึงพูดเข้าประเด็นอย่างไม่อ้อมค้อม “พวกนางออกหัวข้องานเย็บปักถักร้อย คนที่ทำไม่ได้ย่อมต้องคัดออก เวลานี้เฉิงชิงเสวี่ยทำงานเย็บปักถักร้อยไม่ได้ ย่อมสมควรคัดออกก่อนใคร”

นักโทษทางการผู้นี้ไม่อาจซื้อตัวมาเด็ดขาด วันนี้ถ้าไม่ขวางไว้ หากนายหญิงใหญ่รู้แล้ว เขาผู้เป็นพ่อบ้านต้องถูกถลกหนังแน่นอน!

พ่อบ้านเฮ่อไม่ปิดบังอีก คิดว่าคงร้อนใจจริงๆ แล้ว หลี่หวาสูญเสียกำลังใจอย่างสิ้นเชิง

เฉิงชิงเสวี่ยไปมาไม่ใช่เพียงบ้านเดียว ล้วนไม่มีใครกล้ารับไว้ หลวนอวิ๋นชูแม้จะมีใจ แต่เกรงว่าวันนี้คงไม่อาจตัดสินใจได้ พ่อบ้านเฮ่อพูดถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าตนยังแสร้งทำเป็นใบ้อีก เช่นนั้นหลวนอวิ๋นชูก็จะไม่มีทางให้ลงแล้ว คิดมาถึงตรงนี้ หลี่หวาจึงถือโอกาสหัวเราะอย่างเปิดเผย

“พ่อบ้านเฮ่อพูดถูก เฉิงชิงเสวี่ยทำงานเย็บปักถักร้อยไม่ได้ก็สมควรถูกคัดออก เรื่องนี้สมควรทำเช่นไรก็ทำเช่นนั้น ไม่ต้องพะวงถึงข้า ท้ายสุดข้าย่อมพานางจากไป ไม่สร้างความยุ่งยากให้ท่านกับสะใภ้สี่”

ด้านล่างพลันโกลาหลทันที เด็กสาวหลายคนที่เดิมสนิทสนมกับเฉิงชิงเสวี่ย เห็นในที่สุดนางก็มีคนต้องการแล้วกำลังแอบขยิบตา ยกนิ้วหัวแม่มือให้ ดีใจแทนนาง คิดไม่ถึงว่าเพียงชั่วประเดี๋ยวเดียวก็เมฆฝนพลิกคว่ำ นางถูกคัดออกอีกครั้งแล้ว!

* เหอเปา คือถุงเงินใบเล็กๆ ซึ่งหญิงสาวสมัยโบราณมักปักไว้พกติดตัว

* มาจากสำนวนเต็มว่า ‘จิตใจของซือหม่าเจา คนเดินถนนต่างรู้’ หมายถึงผู้มีแผนการร้าย แม้ไม่แสดงออกมา ผู้คนก็มองออกได้โดยง่าย มีที่มาจากสมัยสามก๊กซือหม่าเจา (สุมาเจียว) เป็นอัครเสนาบดีแคว้นเว่ย (วุยก๊ก) มีความทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูง ฮ่องเต้เฉาเหมารู้ว่าตนเป็นเพียงหุ่นเชิดจึงคิดกำจัดซือหม่าเจา แต่กลับเพลี่ยงพล้ำถูกซือหม่าเจาสังหาร

* เป็นคำเปรียบเปรย หมายถึงเตรียมการล่วงหน้าไว้ไม่ดีพอทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้ไม่ทั่วถึง จัดการปัญหาทางนี้จบทางโน้นก็เกิดปัญหาขึ้นมา คนจีนใช้น้ำเต้าสำหรับตักน้ำ กระบวยก็ใช้สำหรับตักน้ำเช่นกัน

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

Invincible-Super-System-Modifier-696×928
Super System Modifier
6 มกราคม 2022
601-696×392
ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก
14 กรกฎาคม 2022
Godgame-01-696×1044
ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games
30 กันยายน 2022
6218a64f4L3yHjrm
พี่น้องร่วมสาบาน ใต้แสงจันทร์อันเจิดจรัส
8 กรกฎาคม 2022
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 23"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF