ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 7
ตอนที่ 7 เคลมแม่ยาย?
นี่เขาถามใครกัน?
นี่มันตลกร้ายอะไรกัน?
ฉันอยู่บ้านหลังนี้มาต้้งสองปีครึ่งแล้ว นี่เขาไม่คิดที่จะจดจำฉันให้ได้บ้างเลยหรือไง?
“ลุงฉู่! ผมเองครับ..” หลินหนานตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
ลุงฉู่เป็นพ่อบ้านประจำตระกูลเย่ เขาทำงานกับตระกูลเย่มานานมากกว่าสามสิบปีแล้ว และมีหน้าที่รับผิดชอบความเรียบร้อยทุกอย่างภายในคฤหาสน์หลังนี้
“อ่อ.. ที่แท้ก็เป็นคุณชายนี่เอง ผมแก่มากแล้ว สายตาฝ้าฟางมองอะไรก็เห็นไม่ชัด” ลุงฉู่ตอบกลับ
“คงไม่ใช่เพราะว่าลุงแกจนตาฝ้าฟางมองเห็นอะไรไม่ชัดหรอก ผมว่าลุงตั้งใจที่จะมองไม่ชัดมากกว่าน่ะสิ?” หลินหนานตอบโต้กลับไปพร้อมกับยิ้มขื่น
ลุงฉู่นั้นไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขา และมักจะคอยกลั่นแกล้งสร้างความลำบากให้กับเขาอยู่เสมอๆ แต่ลุงฉู่ก็ทำอะไรได้ไม่มากไปกว่าการคอยพูดจาเยาะเย้ยถากถางเขา ลุงฉู่อาจคิดเช่นเดียวกับคนอื่นๆว่า หลินหนานเป็นลูกเขยที่ไม่ได้การ ไม่มีความสามารถอะไรเลยสักอย่าง
แต่ก็ยังนับว่าโชคดี ที่ลุงฉู่ยอมเปิดประตูบ้านให้หลินหนานเข้ามา!
ทันทีที่หลินหนานก้าวเท้าเข้าไปในบริเวณบ้าน ลุงฉู่ก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงลากยาว “คุณชาย.. คุณหายไปไหนมางั้นเหรอ?”
“ผมไม่ได้ไปไหน ก็อยู่แถวๆนี้นี่ล่ะ..” หลินหนานตอบกลับไปเพียงแค่สั้นๆ
หลินหนานเหลือบมองไปทางโรงจอดรถ ก็พบรถรถคาดิลแลคจอดอยู่คันหนึ่ง จึงหันไปถามลุงฉู่ว่า “วันนี้ที่บ้านมีแขกงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ครับ.. คุณผู้หญิงกลับมาแล้วต่างหาก!” ลุงฉู่เอ่ยตอบด้วยใบหน้าภาคภูมิใจ
“อ่อ.. คุณแม่ยายของผมกลับมาแล้วเหรอ ผมคงต้องรีบเข้าไปทักทายหน่อยแล้ว!” หลินหนานเอ่ยตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง
จากนั้น หลินหนานก็เดินตรงเข้าไปในบ้านด้วยสีหน้าท่าทางที่บ่งบอกว่ามีความสุขอย่างมาก!
ลุงฉู่มองตามแผ่นหลังของหลินหนานไปพร้อมกับส่ายหน้าไปมา และได้แต่รำพึงรำพันเสียงเบาว่า “เฮ้อ.. ไอ้คนไม่เอาไหน! ครั้งนี้คุณผู้หญิงกลับมาจัดการด้วยตัวเองแบบนี้ ฉันอยากจะรู้นักว่าคุณผู้หญิงจะจัดการเธอด้วยวิธีไหน?”
คฤหาสน์ตระกูลเย่นั้น ทั้งงดงาม โอ่อ่า และหรูหรา ไม่ว่าจะก้าวเดินไปทางใดก็พบเห็นแต่ความอลังการอยู่ทุกซอกทุกมุม..
เมื่อหลินหนานก้าวเดินเข้าที่หน้าประตูบ้าน เขาก็เห็นหญิงในวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟา ในมือถือแก้วน้ำชาลายครามหรูหรามีระดับ และกำลังจิบชาจากถ้วยอยู่พอดี สีหน้าท่าทางของเธอนั้นดูหยิ่งจองหองอย่างมากเท่าที่เธอจะสามารถแสดงออกมาได้
เพียงแค่รูปลักษณ์ของหญิงในวัยกลางคนผู้นี้ ก็รู้แล้วว่าเธอดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ผิวพรรณของเธอผ่องใส ไม่มีแม้แต่รอยตีนกาที่ควรจะต้องปรากฏ ทำให้เธอดูอ่อนเยาว์ราวกับหญิงสาวในวัยเพียงแค่สามสิบเท่านั้น
และเธอก็คือเหยีวนชู่หาน แม่ยายของหลินหนานนั่นเอง!
นอกเหนือจากแม่ยายของหลินหนานที่อยู่ในบ้านแล้ว ก็ยังมีสองพี่น้องสาวสวยตระกูลเย่อยู่ด้วย
เวลานี้เย่จิงเฉิงได้เปลี่ยนจากชุดสูททำงานมาเป็นชุดกระโปรงลำลองสีฟ้า ปล่อยผมยาวสยายประบ่า แม้จะนั่งอยู่ที่เก้าอี้ห่างๆ แต่รัศมีความงามของเธอก็แผ่ซ่านออกมาอย่างเด่นชัด
ส่วนเย่เข่อเอ๋อนั้นกลับมีสีหน้าท่าทางที่มีความสุขที่สุดกว่าใครๆ เธอมักจะคอยทำท่าทางให้แม่ของเธอต้องถึงกับหัวเราะน้ำหูน้ำตาไหลอยู่เสมอ
หลินหนานเห็นเช่นนั้นถึงกับนิ่งอึ้งไปด้วยความตกตะลึง และได้แต่จ้องมองผู้หญิงทั้งสามคนสนทนากันอยู่นิ่งๆ
สามรุมหนึ่งเลยเหรอ?!
ดูเหมือนเรื่องราวจะเริ่มเข้มข้นน่าสนใจมากขึ้นแล้วสินะ!
แต่ละคนดูมีความสุขมากสินะ? สงสัยกำลังฉลองที่จะสามารถขับไล่ขยะอย่างฉันออกจากชีวิตได้สินะ?
ลุงฉู่เดินมากระแอมเบาๆอยู่ด้านหลังของหลิงหนาน พร้อมกับพูดจาแปลกๆ “คุณชาย มัวแต่ยืนทำอะไรอยู่ตรงหนี้ล่ะ? ยังไม่รีบเข้าไปทักทายคุณผู้หญิงกับคนอื่นๆอีกเหรอ?”
ทันทีที่ได้ยินเสียงพูดของลุงฉู่ สามแม่ลูกก็รีบหันไปมองหน้ากัน และเปลี่ยนท่าทีที่กำลังหัวเราะร่วนกันอยู่อย่างรวดเร็ว
เหยีวนชู่หานรีบยกมือขึ้นจัดทรงผม และเปลี่ยนเป็นหันหน้าตรงไปทางประตู สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึง และจ้องมองหลินหนานด้วยความโกรธเกรี้ยว
เย่เข่อเอ๋อที่นั่งอยู่ข้างๆเหยีวนชู่หาน ก็หันหน้าไปทางประตูเช่นกัน แต่ร่างของเธอนั้นก็เอนเข้าไปซบที่ไหล่ของเหยีวนชู่หานเล็กน้อย
ส่วนเย่จิงเฉิงนั้น ก็แสร้งทำเป็นยืดตัวตรง และบิดขี้เกียจเล็กน้อย
บรรยากาศภายในบ้านเวลานี้ ดูกระอักกระอ่วนอย่างมาก.. ดูคล้ายๆกับว่ากำลังซุบซิบนินทาใครสักคนอยู่ แล้วจู่ๆ คนที่ถูกนินทาก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าโดยที่พวกเขาไม่ทันได้รู้ตัว
แต่แน่นอนว่า หลินหนานรีบแก้ไขสถานการณ์ทันที!
เขาปรับกล้ามเนื้อใบหน้าของตัวเองให้กลับเป็นปกติ และรีบฉีกยิ้มกว้าง พร้อมกับอ้าแขนทั้งสองข้างออก แล้ววิ่งตรงเข้าไปหาเหยีวนชู่หานทันที
เหวียนชู่หานเห็นเช่นนั้นก็รีบปัดป้อง และพยายามที่จะหลบหนีด้วยความตกใจ แล้วก็หวาดกลัว..
แต่หลินหนานนั้นเร็วกว่ามาก เขาพุ่งร่างเข้าหาแม่ยายราวกับพยัคฆ์ที่กำลังหิวโหยอาหาร!!!
หลินหนานโอบร่างของแม่ยายไว้พร้อมกับคิดในใจว่า ‘แม่ยายดูแลตัวเองได้ดีมากเลยทีเดียว ที่ที่ควรใหญ่ก็ใหญ่ ที่ที่ควรเล็กก็เล็ก กลิ่นตัวก็หอมมากด้วย! ผิวพรรณก็ยังเต่งตึงราวกับเด็กสาว..’
การกระทำของหลินหนานทำให้ทุกคนในที่นั้นต่างก็ตกอกตกใจไปตามๆกัน!!
เย่เข่อเอ๋อถึงกับอ้าปากหวอด้วยความตกตะลึง ส่วนเย่จิงเฉิงนั้นก็ดวงตาเบิกกว้างราวกับไข่ห่าน ทั้งสองคนแทบไม่อยากจะเชื่อว่าหลินหนานจะกล้าทำถึงเพียงนี้!
ส่วนลุงฉู่นั้นแทบไม่ต้องพูดถึง เวลานี้เขาแทบหยุดหายใจ!
หมอนี่บ้าไปแล้วหรือยังไง?
แม้แต่แม่ยายเขาก็ยังคิดจะเคลมด้วยเหรอ?
หลิงหนานกอดเหยีวนชู่หานแน่น และแสร้งทำสีหน้าดีอกดีใจเกินเหตุพร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง “คุณแม่ ผมคิดถึงคุณแม่แทบแย่!”
“พวกเราสองคนไม่ได้พบหน้ากันนานถึงสองปีเชียวนะ? ผมคิดถึงคุณแม่ทุกวันทุกคืนเลย เฝ้าแต่รอว่าเมื่อไหร่จะได้พบคุณแม่อีก ผมคิดไม่ถึงจริงๆว่าในที่สุดวันนี้ความฝันของผมก็เป็นจริงเสียที!”
ทั้งน้ำตา สีหน้า อารมณ์ ความรู้สึก และน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความจริงใจนั้น หากใครมาเห็นเข้า คงคิดว่าหลินหนานเป็นลูกชายที่พลัดพรากจากแม่แท้ๆของตัวเองไปนานหลายปีแน่
“หลินหนาน ปล่อยแม่ของฉันได้แล้ว!” เย่จิงเฉิงเป็นคนแรกที่ตั้งสติได้
เย่เข่อเอ๋อที่เพิ่งได้สติ จึงรีบจับมือของหลินหนานออกทันที และเธอแทบอยากจะกัดมือของหลินหนานเสียมากกว่า แม้แต่ลุงฉู่ยังมาช่วยดึงร่างของหลินหนาน และลากออกไป
ทั้งสามคนต้องช่วยกันออกแรงอย่างมาก กว่าที่จะลากร่างของหลินหนานออกไปได้
“นี่แกบ้าไปแล้วหรือยังไง?”
เหยีวนชู่หานใบหน้าซีดเผือด และรีบหยิบทิชชู่เปียกจากกระเป๋าถืออกมาเช็ดตามเนื้อตามตัวที่ถูกหลินหนานสัมผัส เธอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าทั้งไม่ชอบและรังเกียจหลินหนานอย่างมาก อารมณ์เหล่านี้ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธออย่างชัดเจน
“หลินหนาน นี่นายทำบ้าอะไร?” เย่เข่อเอ๋อยกมือขึ้นเท้าสะเอวพร้อมกับร้องตะโกนถามเสียงดัง
“ผมต้องขอโทษจริงๆ ผมควบคุมอารมณ์ความรู้สึกตัวเองไม่ได้จริงๆ ผมไม่ได้เจอคุณแม่ตั้งสองปีกว่าแล้ว..” หลินหนานร้องตอบพร้อมกับยกมือขึ้นปาดหางตาที่ไม่มีน้ำตา
“นี่แม่ของฉัน ไม่ใช่แม่ของนาย กรุณาให้เกียรติแม่ฉัน และเรียกให้ถูกด้วย!” เย่จิงเฉิงร้องบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ได้ๆๆ ผมขี้เกียจที่จะทะเลาะกับคุณ ความจริงแม่คุณก็เหมือนแม่ผมไม่ใช่เหรอ?” หลินหนานตอบโต้กลับ
“นี่นาย..”
เย่จิงเฉิงต้องพยายามสวมนต์ข่มอารมณ์โกรธของตัวเอง และได้แต่คิดในใจว่า ในโลกนี้มีคนหน้าด้านขนาดนี้เชียวเหรอ?
หลังจากที่เหตุการณ์เมื่อครู่ผ่านไปแล้ว ในที่สุดเหยีวนชูหานก็สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้ เธอยืดตัวนั่งไหล่ตั้งหลังตรงประหนึ่งนางพญาเช่นเดิม จากนั้นจึงค่อยๆยกถ้วยชาลายครามขึ้นจิบ ก่อนจะปรายตาไปทางหลินหนานพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ในเมื่อเธอมาแล้วก็ดี จะได้จัดการสะสางปัญหาให้จบๆซะที!”
“คุณแม่ยายครับ นี่คุณแม่ยายหมายความว่ายังไงเหรอครับ?” หลินหนานยิ้มกว้าง และแสร้งทำหน้าตาไร้เดียงสา
“เลิกแกล้งทำเป็นโง่ได้แล้ว!”
เหยีวนชู่หานร้องตะโกนบอกพร้อมกับโยนกองภาพถ่ายลงไปตรงหน้าหลินหนาน
หลินหนานหยิบภาพถ่ายทั้งหมดขึ้นมาดูพร้อมกับถอนหายใจ ภาพถ่ายทั้งสิบกว่าใบนั้นล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่เขาอยู่บนเตียงกับผู้หญิงคนอื่น
เห็นได้ชัดว่าเป็นภาพที่ถ่ายจากมุมเดียวกัน และผู้ที่ถ่ายจงใจถ่ายให้เห็นท่าทางการนอนที่คลุมเคลือสองแง่สามง่าม ระหว่างเขากับผู้หญิงคนนั้น
‘คิดไม่ถึงว่าจะมีการเตรียมการมาดีขนาดนี้!’ หลินหนานได้แต่คิดอยู่ในใจ
“แกยังมีอะไรจะแก้ตัวอีกมั๊ย?” เหยีวนชูหานเอามือกอดอกพร้อมกับแสยะยิ้ม
“ผมยังต้องพูดอะไรอีกล่ะ ในเมื่อทุกอย่างชัดเจนขนาดนี้?” หลินหนานตอบกลับ และพยายามที่จะดึงเวลา
“แกยอมรับแล้วใช่มั๊ย?”
เหยีวนชูหานสูดลมหายใจลึกพร้อมกับจ้องมองหลินหนาน
“ผมยังจะพูดอะไรได้อีกล่ะ ในเมื่อเตรียมการกันมาดีขนาดนี้?”
หลินหนานหันไปมองเย่จิงเฉิงอย่างมีเลศนัย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “แต่มีเรื่องเดียวที่ผมจะตำหนิ.. ในรูปผมหล่อน้อยไปหน่อย!”
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame