ราชันมังกรแห่งสงคราม - ตอนที่ 47
เจียงเป่ยเฉินหยิบรับถุงยามาและดมกลิ่น
“คุณเจียงฉันสาบานได้เลยร้านเราไม่มีทางที่จะขายยาปลอม มันจะทำให้เสื่อมเสียชื่ของบรรพบุรุษของตระกูลเรา!” ฉินเสี่ยวกล่าวอย่างมั่นใจ!
“ก็จริง มันไม่ใช่ยาปลอม!” เจียงเป่ยเฉินพยักหน้าและกล่าว “แต่ว่าใบสั่งยามันผิด!”
“คุณหมายความยังไง ที่บอกว่าใบสั่งยานี้มันผิด?” ฉินเสี่ยวถามกลับทันทีด้วยความตกใจ “มันไม่มีทางเป็นไปได้ ใบสั่งยานี้ถูกสืบทอดมาในตระกูลของเรา ไม่มีเคยมีปัญหาเลย!”
“ไม่มีปัญหา คุณแน่ใจหรอ” เจียงเป่ยเฉินขมวดคิ้วกล่าว”แปะจี้, ไป๋จู๋, แปะกิ๊บ, ไป๋ฝูหลิง, ไป๋เบียนเต๋า, ไป๋จือฉิน, ไป๋เจียงคัน, แปะหูจี้, เฉาโอว แบ่งได้เป็นสามประเภทถูกไหม”
ฉินเสี่ยวตะลึงเจียงเป่ยเฉินเพียงแค่ดมกลิ่นก็สามารถบอกตัวยาได้แล้วงั้นหรอ!
แต่แล้วเธอก็ขมวดคิ้วและกล่าว “คุณเจียง ฉันว่ามันผิดนะ สมุนไพรตัวสุดท้ายมันควรจะเป็นฟู่จือ สิ!”
เฉาโอว และ ฟู่จือ แท้จริงแล้วลักษณะของมันมีความคล้ายกันเป็นอย่างมาก แต่คุณสมบัติของมันต่างกันมาก หลังจากการแปลรูปเป็นยาแล้วนั้น ฟู่จือ จะไม่มีพิษทำร้ายร่างกาย แต่ทว่า เฉาโอว นั้นจะมีพิษทำให้ไม่เหมาะจะมาทำเป็นยา!
เจียงเป่ยเฉินยิ้มเยาะ แต่การยิ้นเยาะของเขาไม่ได้สื่อถึงฉินเสี่ยวแต่ทว่าเป็นชายของหอจือหลิน ที่ตกใจเดินถอยหลังเพียงเพราะได้ยินคำว่า เฉาโอว
ฉินเสี่ยวคว้าถุงสมุนไพรมาและเทมันออกมาเพื่อดูตัวยา เธอหยิบ เฉาโอว ขึ้นมาและอุทาออกมา “เป็นไปได้ยังไง มันเป็น เฉาโอว จริงๆด้วย”
ฉินเสี่ยวสับสนเป็นอย่างมากกลิ่นของตัวยาทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก หากว่าไม่ตรวจสอบอย่างละเอียดก็ไม่สามารถแยกออกได้เลย
แต่ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง?
ทำไมมันถึงกลายเป็น เฉาโอว ไปได้ละ?
“อาฟู่ ช่วยอธิบายเรื่องนี้ให้ฉันฟังหน่อย!” ฉินเสี่ยวคิดอะไรบางอย่างออกเธอรีบลุกเดินไปหาชายวัย 20 ปี ในร้านทันที เขาคือหวังฟู่เป็นคนจ่ายยาในร้านปกติแล้วเขาเป็นคนที่จะเอายาให้ผู้ป่วยตาใบสั่งยาของฉินเสี่ยว
หวังฟู่ทำงานที่นี้มาหลายปี เป็นไม่ได้เลยที่เขาจะไม่สามารถระบุได้ว่ายาตัวไหนอยู่ตรงไหน!
“พี่เสี่ยว ผม ผมไม่ได้ตั้งใจ ทั้งหมดเป็นแผนของ เจียงต้าหลง เขาเป็นเจ้าของหอเป่าเหอตัง เขามาบอกให้ผมทำถ้าผมทำสำเร็จเขาจะให้เงินผมล้านหยวน!”หวังฟู่ชี้ไปกลุ่มคนของเป่าเหอตัง
“หวังฟู่ อย่ามาพูดมั่วๆนะ อย่างฉันนี่หรอจะขอให้นายทำเรื่องสกปรกแบบนี้?” เมื่อรู้ว่าไม่สามารถปกปิดได้ เจียงต้าหลง ก็ลุกขึ้นยืนละตะโกนทันที
“ฉันมีหลักฐาน! คุณตำรวจดูนี่ นี่เป็นข้อความของเจียงต้าหลงที่ส่งมาให้ฉัน!” หวังฟู่หยิบโทรศัพท์ออกมาและนำไปให้หลินเสี่ยวหรานอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ทุกๆอย่างถูกเปิดเผยออกมาแล้วเข้าไม่สามารถแก้ตัวอะไรได้แล้ว ทำได้เพียงบอกเรื่องทั้งหมดออกไปเพื่อให้ทุกอย่างมันเบาลง
“คุณเจียง! คุณมีอะไรจะพูดอีกมั้ย?” หลินเสี่ยวหรานกล่าว “เพื่อที่จะทำลายคู่แข่งคุณถึงกับเปลี่ยนตัวยา ซึ่งเกือบจะทำให้มีคนตาย คุณและหวังฟู่จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย”
“คือผม…”
เจียงต้าหลงหน้าซีดลงทันทีเขาทราบดีว่าเขาคงต้องติดคุกอย่างแน่นอน และคนที่หอยาของเขาต้องตกงาน
“คุณเจียงแม้ว่าคุณจะพ้นจาข้อกล่าวหาแล้ว แต่คุณก็ต้องไปกับเราเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม!” หลินเสี่ยวหรานกล่าวกับเจียงเป่ยเฉินอย่างเย็นชา ถึงเธอจะเกือบจับผิดคนในกรณีที่เกิดขึ้น และเป็นเจียงเป่ยเฉินช่วยแก้สถานการณ์ แต่เธอก็ยังคงไม่ชอบใจเจียงเป่ยเฉินอยู่ดี
“ฉันก็จะไปด้วยเพราะนี่เป็นปัญหาของหอหลินจือของเรา!” ฉินเสี่ยวรีบกล่าว เธอมองไปที่เจียงเป่ยเฉินด้วยความรู้สึกขอบคุณที่เขามาช่วยเหลือเธอไม่อย่างนั้นแล้วหอหลินจือคงมีปัญหาแน่นอน
“ได้ ตกลงคุณก็มาด้วย!” หลินเสี่ยวหรานกล่าว
สุดท้ายแล้วผมก็คือว่าเจียงต้าหลงและหวังฟู่ถูกจับส่วนเจียงเป่ยเฉินและฉินเสี่ยวไปที่สถานีตำรวจเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากให้ปากคำเสร็จฉินเสี่ยวต้องการที่จะเชิญเจียงเป่ยเฉินไปทางอาหาร แต่เขาก็ปฏิเสธเธอ
“ขอโทษทีนะ แต่ภรรยาของผมกำลังรอผมอยู่ที่บ้าน!”
ฉินเสี่ยวนึกได้ว่าเจียงเป่ยเฉินนั้นมีภรรยาอยู่แล้ว เธอจึงกล่าวขอบคุณอย่างช่วยไม่ได้
“ขอบคุณพี่เจียง!”
จากคำว่า “คุณ” กลายเป็น “พี่” ไปแล้วเพราะในสายตาของฉินเสี่ยวตอนนี้เขาก็เปรียบเสมือนพี่ชายของเธอ เรื่องที่เขาช่วยเธอไม่เพียงแค่เรื่องของเจียงต้าหลงเท่านั้นยังมีเทคนิคฝังเข็มที่เขาบอกเธอมันไม่สามารถหาอะไรมาทดแทนนำใจของเขาได้เลย!
เจียงเป่ยเฉินยิ้ม “การเป็นแพทย์ไม่เพียงแค่มีความรู้เท่านั้น ยังต้องมีความกล้าเพื่อที่จะช่วยชีวิตคนได้มากขึ้น”
“ฉันเข้าใจแล้ว!” ฉินเสี่ยวพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน จากนั้นเธอก็กล่าวต่อ “พี่เจียงฉันอยากให้คุณมาเป็นที่ปรึกษาของเราคุณไม่จำเป็นต้องมาที่นี้เลย เราจะจ่ายให้คุณสองหมื่นหยวนต่อเดือน! เราจะโทรหาคุณเมื่อเจอกับปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้เท่านั้น”
ไม่ต้องทำงานก็ได้สองหมื่นหยวน
ว่ากับตามตรงฉินเสี่ยวเพียงแค่ต้องการตอบแทนเจียงเป่ยเฉินเท่านั้น
เจียงเป่ยเฉินลังเลแต่สุดท้ายเขาก็พยักหน้าตกลง“เงินเดือนไม่ต้องหรอก เธอสามารถโทรหาฉันได้เมื่อมีปัญหา!” พูดเสร็จเขาก็เดินจากไป
ทันทีที่กลับบ้านจู้ๆเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากหลี่หมิงหยวน
เป็นข่าวเกี่ยวกับซวนหมิงตู!
“สวัสดีครับ คุณเจียงฉันพบของที่คุณอยากให้ตามหาแล้วมันมีสถานที่ที่เรียกกันว่า ฉางซาน มันอยู่ระหว่างหยุ่นไห กับ หยุ่นซาน” หลี่หมิงหยวนกล่า
“ ฉางซาน?” เจียงเป่ยเฉินกลางทบทวน “โอเคฉันเข้าใจแล้ว! ของคุณคุณมาก”
“คุณเจียง มันเป็นสิ่งที่ผมควรจะทำอยู่แล้ว!”
หลังจากวางสายแล้วเขาก็กดโทรศัพท์โทรออกอีกครั้ง “ส่งคนไปที่ฉางซานเพื่หาข้อมูลและรายงานกลับมาทันที!”
“ ครับท่านนายพล!”
สถานที่ลับที่อาจจะเป็นที่บ่มเพาะของผู้ฝึกตนในสมัยก่อนมันมักจะมีสมบัติและแหล่งพลังงานทางธรรมชาติอยู่มากมายเป็นที่หมายตาของขุมกำลังจากทั่วโลก การที่เขาได้รับบาดเจ็บก็เนื่องจากการต่อสู้เพื่อแย่งชิงสถานที่ลับของปรมจารย์ซวนชิง
หากเป็นไปตามที่เขาคาด พื้นที่ของฉางซานจะต้องเป็นที่ที่ปรมจารย์ซวนชิงใช้มาก่อนอย่างแน่นอน เพราะเหตุนี้เขาจึงให้กองกำลังของเขาส่งคนไปตรวจสอบทันที
……
วันถักมาเจียงเป่ยเฉินเดินทางไปที่บริษัทเนื่องจากมีเอกสารมากมายต้องจัดการ
ที่จริงแล้วเจียงเป่ยเฉินได้มอบอำนวตเบ็ดเสร็จให้กับจางเหมี่ยวในการจัดการงานทั้งหมด แต่เนื่องจากมีโครงการที่เดี่ยวข้องกับ หลิวฮาว ซึ่งเป็นเพื่อนของเขา เขาจึงต้องมาดูแลตรวจสอบด้วยตนเอง
“ประธาน เงินที่ตระกูลหวังกู้ไปค้างจ่ายมาห้าเดือนแล้ว!”
ภายในห้องของประธานจางเหมี่ยวรายการโครงการต่างๆให้เขาทราบเสร็จแล้วจึงบอกข่าวเกี่ยวกับตระกูลหวัง
“ค้างจ่าย?” เจียงเป่ยเฉินตะใจ ก่อนหน้าตระกูลหวังได้เอาบริษัททั้งสองมาจำนองกับหรงติ่งและได้เงินไป 30 ล้านหยวน โดยแบ่งชำระเป็น 12 งวด ทว่าเพียงไม่กี่เดือนก็ค้างจ่ายแล้วงั้นหรอ?
นี่มันแปลกๆแล้ว!
ด้วยกิจการของบริษัททั้งสองมันไม่น่าจะเลวร้ายขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นแล้วหญิงชราคงไม่กล้าที่จะเอาบริษัทมาจำนอง
ที่จริงแล้วตระกูลหวังมีอะไรเกิดขึ้นกันแน่?
เจียงเป่ยเฉินขวมดคิ้วและวกล่าวกับจางเหมี่ยว “ไปตรวจสอบดูว่าเกิดอะไรขึ้น”
“รับทราบคะ!”
จางเหมี่ยวเดินออกไปได้ไม่นานเธอก็กลับเข้ามาอีกครั้ง
“ท่านประธานเราตรวจสอบแล้วพบว่า หวังเฉินของตระกูลหวังนำเงินที่ยืมไปจากเรา 30 ล้านหยวนไปเล่นการพนักที่ฮ่องกงและเสียเงินไปทั้งหมด 30 ล้านหยวนแถมเขายังเป็นหนี้เพิ่มขึ้นมาอีก 20 ล้านหยวนตอนนี้เขาถูกคุมตัวไว้ที่นั้นแล้ว ทางนั้นติดต่อหญิงชราว่าหากหาเงินมาชดใช้ไม่ได้เขาจะจัดการกับหวังเฉินทันที! “จางเหมี่ยวกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว แม้เธอจะทราบว่าตระกูลหวังกับประธานจะไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไร แต่หวังเฉินก็เปรียบได้กับพี่เขยของประธานอยู่ดี
“โห เป็นจริงสินะ?” ใบหน้าของเจียงเป่ยเฉินตอนนี้แสดงออกถึงว่าเขาคาดไว้แล้วว่า หวังเฉินต้องไม่ใช่ตัวดีแต่เขาไม่คาดคิดว่าหวังเฉินจะเป็นผีพนัน และดูเหมือนว่าเงิน 300 ล้านหยวนก่อนหน้านี้ก็คงถูกใช้กับเรื่องนี้ด้วย!
“อีกอย่างคะประธาน คาสิโนที่หวังเฉินถูกจับอยู่นั้นเป็นของบริษัท จิงเหมา ซึ่งร่วมมือกับเราอยู่ในตอนนี้และหวังหมิงเจ่อ เจ้าของที่นั้นเขาก็ทราบเรื่องแล้วเขากล่าวว่าเขาจะปล่อยตัวหวังเฉินให้กับเราโดยไม่มีเงื่อนไข! ” จางเหมี่ยวกล่าว
การร่วมมือระหว่างจิงเหมาและหรงติ่งนั้นเป็นเงินมูลค่าหลายร้อยล้าน หวังหมิงเจ่อ ไม่อยากทำลายความร่วมมือนี้เพียงเพราะเหตุนี้
เจียงเป่ยเฉินขมวดคิ่ว ทันใดนั้นโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นมันเป็บเบอร์ของเตวหยูหลานแม่ยายของเขา เนื่องจากเธอไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไรน้อยครั้งนักที่เธอจะโทรหาเขา แต่ทว่าไม่รู้ทำไมวันนี้เธอถึงโทรมาเขาจึงกดรับสายทันที “สวัสดีครับ”
“เธอหายหัวไปไหนมารีบมาที่บ้านตระกูลหวังเร็วๆเลย หญิงชราเป็นบ้าไปแล้วเธอจะลงทุนเพิ่มกับหวังเฉิน โดยที่บังคับให้เราเอาบ้านไปจำนอง รีบมาเร็วๆเลยไม่งั้นเราไม่มีที่อยู่แน่นอน! “