ราชันมังกรแห่งสงคราม - ตอนที่ 48
“ได้ ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลย!”
เจียงเป่ยเฉินวางสายพร้อมกับขมวดคิ้ว
หวังเฉินถูกจับตัวไว้ที่ฮ่องกง หญิงชราต้องการหาทุนเพิ่มงั้นหรอ?
หาเงินลงทุนบ้าบออะไร ยัยแกนั้นแค่ต้องการหาเงินไถ่ตัวหลานชายของเธอเท่านั้น!
เจียงเป่ยเฉินรีบสวมเสื้อโค้ทเตรียมตัวออกไปในทันที แต่แล้วหลี่ลี่เว่ยก็วิ่งเข้ามาพบเขา
“พี่เจียง ประธานให้ผมมาขอโทษคุณ เขาไม่ทราบจริงๆว่าคุณจะรู้จักเขา ประธานบอกเขาจะจัดการปล่อยตัวคนให้ในทันทีและหวังว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบต่อความร่วมมือของเรา! ” หลี่ลี่เว่ยก้มหวังแล่วกล่าว ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นถึงรองประธานแต่เขาก็ไม่กล้าที่จะไม่ไว้หน้าเจียงเป่ยเฉิน
เจียงเป่ยเฉินโบกมือ “คุณไม่จำเป็นต้องใส่ใจขนาดนั้นหรอก!”
“เอ่อ … ” หลี่ลี่เว่ยงุนงง
“ พี่เจียง คุณหมายความว่ายังไง” หลี่ลี่เว่ยสับสน เขาไม่ใช่พี่เขยของเจียงเป่ยเฉินหรอ หรือว่าพวกเขาผิดใจอะไรกัน
“เข้ามาผมจะบอกอะไรให้ฟัง… ” เจียงเป่ยเฉินเรียกหลี่ลี่เว่ยมาแล้วกระซิบอะไรบางอย่าง
“คูณเข้าใจที่ผมบอกไหม”เจียงเป่ยเฉินถาม
“ผมเข้าใจ!!” หลี่ลี่เว่ยตอบกลับทันที
เจียงเป่ยเฉินพยักหน้าและเดินทางไปบ้านตระกูลหวัง
เวลานี้บ้านตระกูลหวัง ทุกคนในห้องโถงต่างสับสนกันเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าหญิงชราโทรตามพวกเขามาพบและให้บางคนเอาบ้านมาจำนองเพื่อลงทุนเพิ่มให้หวังเฉิน
“คุณย่าเราเพิ่งลงทุนไปกับการลงทุนครั้งก่อน ตอนนี้เราไม่สามารถลงทุนเพิ่มได้แล้วเพราะมันจะเสี่ยงเกินไป!”
หวังซูกล่าว เขาไม่เข้าใจปกติแล้วหญิงชราจะทำอะไรด้วยความรอบครอบระมัดระวังเป็นอย่างมา แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้ทุ่มกับหวังเฉิน ทั้งๆที่ตระกูลหวังเพิ่งจะลงทุนครั้งใหญ่ไป!
คนอื่นๆในตระกูลหวังก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทั้งที่พวกเขายังไม่ได้กำไรจากการลงทุนทั้งสองครั้งที่ผ่านมาเลย แต่หญิงชรากลับต้องการที่จะลงทุนเพิ่ม นี่มันไม่ใช่นิสัยปกติของหญิงชราที่เคยทำ
นี่มันจะแปลกไปแล้ว
ป๊าบบบ!
หญิงชราตบโต๊ะและกวาดสายตามองเขม็ง ภายในห้องพลังเงียบลงทันที
“อย่างที่ฉันได้บอกไปก่อนหน้าการลงทุนของเฉินเอ๋อกำลังไปได้ด้วยดี หากเราลงทุนเพิ่มอีก 20 ล้านหยวนเราก็จะได้กำไรเพิ่มขึ้น และระยะเวลาที่เราได้เห็นผลก็จะสั้นลงอีก! เรื่องดีๆแบบนี้เราไม่ควรผลาด!” หญิงชรากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ คุณย่านี่เป็นพี่รองเป็นคนบอกคุณย่าหรอ เขาจะบ้าหรอพวกเราไม่ได้โง่นะลงทุนไปไม่กี่ร้อยล้านจะเห็นผลเร็วขนาดนั้นได้ยังไง แม้แต่การลงทุนแบบ P2P ก็ยังไม่เร็วขนาดนี้เลย” หวังซูขมวดคิ้วถาม
“ผมว่ายังไงมันก็แปลกเกินไป มันอาจจะเป็นกับดักก็ได้!” หวังซูกล่าว
“ผายลมสึ!” หญิงชราตะโกนเสียงดัง “ตอนนี้พี่รองของแกกำลังทำรายได้ให้เราที่วอลล์สตรีท แต่แกดันมาใส่ร้ายพี่รองงั้นหรอจะมีใครที่ไหนดีเหมือนพี่รองแกบ้าง งั้นเอาบ้านแกมาให้ฉันไปจำนองก่อนเลย”
“คุณย่า บ้านของผมผมวางแผนไว้จะใช้มำสำหรับการแต่งงานของผม! คุณไม่อยากที่จะมีเหลนหรอ?” หวังซูตะโกน
หญิงชราตะลึงทันทีเมื่อได้ยินคำว่า “เหลน” เธอถอนหายใจและโบกมือ “ช้างมันเถอะ! ลืมเรื่องบ้านของแกไป ส่วนคนอื่นๆ… “
“คุณย่าบ้านของผมอยู่ไกลสุดขอบแถวชานเมืองคงไม่มีประโยชน์เท่าไรหากเอาไปจำนองคิดว่าคงได้ไม่กี่หยวนหรอก!”
“คุณย่า ผมสร้างบ้านนี้ด้วยตัวเองมันมีมูลค่าไม่มากผมว่าคุณควรใช้ของคนอื่นจะดีกว่า!”
“คุณย่าฉันจำนองบ้านไปแล้ว จำนองอีกไม่ได้แล้วคุณใช้ของคนอื่นเถอะ!”
หญิงชรากวดสายตามองคนอื่นในตระกูลหวังทีละคนทีละคนแต่ละคนที่ถูกจองมองก็พลันตอบออกมาทันที
เมื่อกวดตามาถึงหวังเสี่ยวหวู่เธอก็หยุกจ้องมองทันที ทำให้หวังเสี่ยวหวู่ตอนนี้ตัวสั่นเป็นอย่างมากและเตวหยูหลานก็หัวใจเต็มอย่างรุนแรงด้วยความกลัว เธอกลัวว่าหญิงชราต้องการที่จะใช้บ้านของเธอไปจำนอง
“ใช่เลยคุณย่า บ้านของหวังเสี่ยวหวู่หลังใหญ่! อีกทั้งยังอยู่ในทำเลที่ดีอีกด้วย ตอนที่ซื้อมาก็มีราคา 10 ล้านได้ คุณย่าน่าจะเอาบ้านของเธอไปจำนองได้!” หวังซูรีบกล่าวเสริมทันทีเพราะเขารู้ดีว่าคุณย่ากำลังคิดอะไรอยู่
หญิงชราพยักหน้ายิ้มและกล่าวกับหวังเสี่ยวหวู่ “เสี่ยวหวู่ช่วงสองสามปีมานี้ราคาบ้านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วบ้านของเธอตอนนี้น่าจะมีมูลค่าอย่างน้อยก็ 15 ล้านใช่มั้ย ถ้าอย่างนั้นเอาบ้านของเธอมาจำนองก็แล้วกัน! “
แม้ว่าใบหน้าของหญิงชราคล้ายจะยิ้มหัวเราะ แต่ทว่าน้ำเสียงของเธอนั้นเป็นคำสั่งอย่างเห็นได้ชัด!
เตวหยูหลานลุกขึ้นยืนทันทีเธอไม่รอให้หวังเสี่ยวหวู่ได้กล่าวออกไปเธอปั้นหน้ายิ้มและกล่าว “บ้านหลังนี้เป็นบ้านพ่อของหวังเสี่ยวหวู่มันเป็นชื่อของเขา ตอนนี้เขาไม่อยู่บ้าน….”
“ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น ฉันว่าเขาจะเข้าใจดี! ” หญิงชรากล่าว
“แต่ว่า…”
“เตวหยูหลานเธอเป็นแค่สะใภ้เธอควรรู้จุดยืนของตัวเองด้วยนะ!” หญิงชรากล่าวอย่างโมโห
เตวหยูหลานบัดนี้ใบหน้าของเธอกล้ายเป็นเขียวคล่ำถึงแม้ว่าเธอจะโกรธมากเพียงใด เธอก็ไม่กล้าที่จะขัดใจหญิงชราทำได้เพียงแค่อดกลั้นมันเอาไว้
“คุณย่าหนูไม่ลังเลเลยที่จะยอมสละบ้านของหนูหากว่าโครงการนี้มันทำกำไรได้จริงๆเพื่อผลประโยชน์ของตระกูลหนูสามารถยอมให้ได้ แต่ด้วยความเคารพหนูอดสงสัยไม่ได้เลยเกี่ยวกับโครงการนี้ ยังไงคุณย่าช่วยให้พี่รองวีดีโอคอลมาบอกกับเราทีว่าการลงทุนนี้มันคุ้มค่าอย่างที่เขาบอกจริงๆหรือเปล่า!”
หญิงชราตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นเธอก็ตั้งสติได้เธอขยับตัวจัดท่าทางของเธอเล็กน้อยและกล่าวต่อ “พี่รองของเธอตอนนี้เข้าไม่ว่าที่จะมาคุย ทำไมหรือเธอไม่เชื่อคำพูดของฉันงั้นหรอ”
“ไม่ใช่ว่าหนูไม่เชื่อคุณย่า แต่หนูแค่สงสัยว่าทำไมพี่รองไม่มาอธิบายเรื่องทั้งหมดด้วยตัวเอง หากว่าเขาไม่สามารถมาอธิบายได้หนูก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยงจริงๆหนูอยากให้คุณย่าทบทวนดูอีกครั้ง”
จนถึงบัดนี้หวังเสี่ยวหวู่ยังคงยืนกรานในความคิดของเธอว่าเธอจะไม่เสี่ยงเป็นอันขาด แม้ว่าการลงทุนสองครั้งที่ผ่านมาเธอจะไม่ค้านอะไรเลยก็ตาม
“เสี่ยวหวู่! เธอจะขัดคำสั่งฉันงั้นหรอ” หญิงชรากระแทกไม้เท้าอย่างรุนแรง “ฉันอุส่าคิดว่าหากว่าการลงทุนครั้งนี้สำเร็จเธอจะได้มีชื่อมีเครดิตในตระกูลหวัง เมื่อถึงตอนปันผลเธอจะได้ผลตอบแทนที่ดี แต่ว่าหากเธอไม่ยินยอมจะจำนองบ้านวันนี้ในอนาคตเธอก็อย่าได้หวังเรื่องเงินปันผลอีกเลย! ยิ่งไปกว่านั้น เธอจะไม่ได้รับมรดกแม้แต่หยวนเดียว!”
เมื่อได้ยินแบบนี้เตวหยูหลานก็ไม่สามารถทดได้เธอจึงลุกขึ้นมายืนทันที “ไม่นะ คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้ นี่มันไม่ยุติธรรมพวกเราทำงานหนักเพื่อตระกูลหวังมาหลายปี แม้แต่ซือหยุนของพ่อเธอก็ถูกนำมาจำนองในการลงทุนครั้งนี้แล้วคุณจะไม่ได้ส่วนแบ่งเราได้ยังไง?”
เตวหยูหลานโกรธเป็นอย่างมาก ยัยแก่นี้กำลังบีบให้ครอบครัวของเธอต้องอดตายอย่างงั้นหรอ!
หวังเสี่ยวหวู่กัดริมฝีปากของเธอแน่น เธอเสียใจเป็นอย่างมากเธอไม่คิดว่าคุณย่าของเธอจะบีบบังคับเธอมากขนาดนี้ เป็นแบบนี้แล้วเธอคงทำได้แต่จำยอมทำตามที่คุณย่าบอกเท่านั้น!
“ก็ได้หนูจะ… “
“ไม่! ผมไม่มีวันยอม”
หวังเสี่ยวหวู่ตกใจเป็นอย่างมากที่ได้ยินเสียงของเจียงเป่ยเฉินตะโกนดังลั่น
คนอื่นๆต่างพากันตะลึงอยู่พักหนึ่งจากนั้นพวกเขาก็หัวเราะออกมา
ลูกเขยขยะมีความกล้าที่จะออกความเห็นแบบนี้ด้วยหรอ?
นายมีสิทธิ์ที่จะบอกว่าไม่เห็นด้วยได้งั้นหรอ?
“เจียงเป่ยเฉิน นายเมามาหรือไง แม้ว่านายบอกไม่เห็นด้วยแล้วมันจะทำไมมันจะมีประโยชน์อะไรละด้วยสถานะของนายน่ะ” หวังซูเยาะเย้ย