ระบบย่อยสลายขั้นเทพ - ตอนที่ 176
บทที่ 176 พูดแล้วไม่เคยคืนคํา
เจียงฮ่าวในตอนนี้ไม่สนใจเสียงตะโกนเรียกของคนขับรถและกัวยี่เฟยแต่อย่างใด เขาเดินตรงไปที่ชายโรคจิตคนนั้น
ถึงแม้ว่าเขาจะมายืนตรงหน้าชายโรคจิตแล้ว ชายคนนี้ก็ไม่ได้มีท่าที่ประหวั่นพรั่นพรึงแต่อย่างใด
เจียงฮ่าวได้พูดออกมาด้วยเสียงที่โกรธเคืองเมื่อเห็นว่าชายโรคจิตคนนี้ไม่แยแสต่อการมาของตน
“ไอ้ขยะ แกนี่กล้าดีจริงๆ”
อย่างไรก็ตาม เขาเองก็ไม่นึกว่าชายโรคจิตคนนี้ยังคงแกล้งทําเป็นไม่รู้ไม่เห็นอยู่ดี
“หืม นายคุยกับฉันเหรอ”
“นี่จะแกล้งฉันเล่นรึไง อย่ามาพูดจาไร้สาระ แกบ้าไปแล้วแน่ๆ”
เจียงฮ่าวหัวเราะออกมาอย่างเลือดเย็น
“หึ ทําเป็นเฉไฉได้ดีจริงๆ”
“ฉันบอกแกไปแล้วว่าถ้าตามฉันมาจะตอนแกซะ”
“แต่แกนอกจากจะไม่ฟังแล้วยังคิดว่าฉันนั้นพูดจาไร้สาระ”
ร่องรอยความตื่นตระหนกได้ฉายออกมาจากดวงตาของชายโรคจิต เขาพลันนึกไปถึงคําขู่ก่อนหน้านี้
“เป็นแก…”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดจบดี เจียงฮ่าวก็ได้ใช้สันมือฟาดฟันลงไปบ่นไหล่ของชายคนนี้ในทันที
“แครกกกก”
ตามมาด้วยเสียงแตกหักและเสียงกรีดร้องโอดโอยครวญคราง
“อ๊ากกกก”
ชายโรคจิตได้โค้งงอตัวอย่างเจ็บปวด เจียงฮ่าวได้โยนชายคนนี้ทิ้งไปประดุจดั่งโยนขยะทิ้งไป หลังจากนั้น เขาก็หันหลังกลับมาและเดินจากไป
แต่ตอนนี้เขากําลังเดินออกมานั้น ในมือของเจียงฮ่าวก็ได้ปรากฎหินก้อนหนึ่ง
และเป็นตอนนั้นที่หินก้อนนั้นได้หายไปจากการสะบัดแขนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“โอ้วววว”
ไม่นาน เสียงแหลมเล็กก็ได้ดังขึ้นไล่หลังเขา
ชายคนนี้ได้ดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้นพร้อมมือที่กําลังกุมเป้ากางเกงที่ในตอนนี้มีเลือดไหลรินไปทั่ว
เมื่อเจียงฮ่าวกลับไปนั่งบนแท็กซี่ ทั้งคนขับและกัวยี่เฟยได้มองไปที่เจียงฮ่าวด้วยปากที่เม้มแน่น
เจียงฮ่าวเองเมื่ออยู่ในรถแล้ว สีหน้าของเขาแสดงออกมาซึ่งความไม่แยแสในเรื่องที่เกิดขึ้นและพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ลูกพี่ ออกรถเลย”
เป็นตอนนี้ที่คนขับได้กลับคืนสู่สติ
“อะอ่ะ โอ้ ได้ ไปกันเล้ย”
หลังจากรถออกไปได้ไม่นาน แต่บรรยากาศภายในรถนั้นกับคุกรุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด
คนขับเองก็อดไม่ได้ที่จะมองเจียงฮ่าวจากกระจกมองหลัง
กัวยี่เฟยเองก็อดไม่ได้ที่จะรอบมองเจียงฮ่าวอยู่หลายหน
ถึงแม้แม่ของเธอและป้านั้นจะมีความรู้สึกแปลกหน้าต่อกัน และเธอเองนั้นก็ไม่ค่อยจะได้พบเจอป้าของเธอบ่อยครั้งนักนอกจากผ่านการวิดีโอคอล
แต่กับเธอแล้วนั้น กลับมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับครอบครัวของป้าของเธอคนนี้
อย่งไรก็ตาม ในคราแรกที่เธอได้พบกับลูกพี่ลูกน้องของเธอคนนี้เมื่อครู่ เธอกลับรู้สึกไม่คุนเคยอย่างประหลาด
ส่วนเจียงฮ่าวในตอนนี้นั้นกลับรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน ทั้งๆที่ตัวเขานั้นทําเพียงแค่สั่งสอนคนโรคจิตเท่านั้น
แล้วทําไมทุกคนต้องเงียบกันขนาดนี้เนี่ย
เหตุการณ์แบบนี้ได้เกิดขึ้นไปตลอดยี่สิบนาที จนกระทั่งแท็กซี่ได้มาถึงหมู่บ้านจัดสรรจึงไท่ แท็กซี่ก็ได้จอดรถที่ข้างหน้าหมู่บ้าน
เจียงฮ่าวได้เดินออกมาจากแท็กซี่ก่อนที่จะนําของลงและจ่ายค่าแท็กซี่
“ขอบคุณครับ ลูกพี่”
สุดท้าย เจียงฮ่าวก็ได้ขอบคุณชายคนนี้ออกมาอย่างมีมารยาท
คนขับเองก็ยังรู้สึกประหม่าและรีบขับรถออกไปโดยเร็ว
นี่ทําให้เจียงฮ่าวรู้สึกหนักอึ้งยิ่งกว่าเดิม
“เจ่ ไปกันเถอะ ตอนนี้พวกผมอยู่กันที่นี่แหละ”
เจียงฮ่าวได้ลากกระเป๋าเข้าไปข้างในในขณะตะโกนบอกกัวยี่เฟยที่ในตอนนี้กําลังยืนอึ้ง
กัวยี่เฟยเองเมื่อได้ยินก็รีบตามไปในทันที แต่เมื่อเธอได้เห็นบรรยากาศโดยรอบและตึกโดยรอบที่ออกแบบได้อย่างสวยงามแล้วทําให้ดวงตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ
เธอประเมินได้เลยว่าบ้านที่อยู่ที่นี่ต้องมีราคาไม่ถูกอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ที่จําได้ว่าครอบครัวของป้าเธอนั้นไม่ได้ร่ํารวยอะไรนี่นา
และนี่เองก็ทําให้แม่ของเธอนั้นดูถูกป้าของเธอคนนี้ และป้าของเธอเองก็ไม่ชอบการกระทําขอเดียวกัน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทําไมทั้งสองตระกูลจึงยากที่จะมาพบปะกัน
แม้แต่ตอนนี้ การที่เธอมาที่นี่ก็ยังถูกแม่ของเธอกดดันมาอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เธอได้รับรู้มานี้มันช่างขัดกับสิ่งที่แม่ของเธอคอยกรอกหูเธอมาตลอดเวลา
นอกจากลูกพี่ลูกน้องของเธอที่ห้าวหาญและทรงพลังแล้ว มาตอนนี้เขาก็พอเธอมายังเขตพักอาศัยของพวกคนรวย นี่ทําให้เธอยิ่งสนใจเรื่องของบ้านของป้าเธอมากขึ้นไปอีก