ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย [ 农女致富记 ] - บทที่ 1344 หัวใจของผู้ชายช่างไร้ค่า
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย [ 农女致富记 ]
- บทที่ 1344 หัวใจของผู้ชายช่างไร้ค่า
บทที่ 1344 หัวใจของผู้ชายช่างไร้ค่า
บทที่ 1344 หัวใจของผู้ชายช่างไร้ค่า
“นี่คือข้อแตกต่างระหว่างข้ากับเจ้า ข้าไม่ต้องการหัวใจของนายท่าน หัวใจของเขาไม่ได้เป็นของข้าคนเดียว สิ่งที่ข้าต้องการคือการจับเขา แม้ว่าจะไม่ได้หัวใจของเขา แต่เขาก็ยังอยู่กับข้า เมื่อเขาอยู่กับข้า ทั้งหมดของเขาก็จะอยู่กับข้า หงซื่อ เจ้าต่อสู้กับข้ามาหลายปีแล้ว เจ้าต้องการเป็นนายหญิงของตระกูลจ้าวไม่ใช่หรือ หลังจากผ่านไปหลายปี เจ้าประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง? เจ้าคิดว่าการที่ใจของเขาอยู่กับเจ้า แล้วเขาจะเชื่อฟังเจ้าอย่างนั้นหรือ เจ้าอย่าลืมไปนะว่าถึงใจของเขาจะอยู่ที่นี่ แต่ตัวเขาอยู่กับข้า หากเขาอยากทำอะไร แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากข้า เขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะลงมือทำ”
ใบหน้าของฮูหยินจ้าวเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน และการแต่งหน้าที่สวยงามขับให้ใบหน้าของนางดูงดงามขึ้น
ใบหน้าของหงซื่อซีดเซียวไร้สีเลือดราวกับไร้ลมหายใจ นางจะมีเรี่ยวแรงมาทะเลาะกับฮูหยินจ้าวที่ไหนกัน
ใจอยู่ที่นี่แล้วอย่างไร
“อย่าคิดว่ามีลูกแล้วจะจับเขาได้ อย่าลืมสิ ข้าเองก็มีลูกชายเหมือนกัน เขาเป็นลูกชายคนโตของตระกูลจ้าว อย่าคิดว่าความอ่อนโยนและสวยงามจะเป็นกับดักจับเขาได้ มีโสเภณีในหอนางโลมมากมายที่อ่อนโยนและสวยกว่าเจ้า ตอนนี้เจ้าก็อายุมากขึ้นแล้ว จะมีความงดงามเช่นแต่ก่อนได้อย่างไร หลายปีมานี้เจ้าไม่ได้อะไรเลย นอกจากหัวใจที่นายท่านพร้อมเอาคืนได้ทุกเมื่อ” ฮูหยินจ้าวพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว “ผู้ชายเป็นสิ่งที่เข้าใจยาก ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชายที่ให้อะไรเจ้าไม่ได้นอกจากหัวใจ ก็เป็นหัวใจที่ไร้ค่า หงซื่อ ตอนนี้เจ้าคงจะเข้าใจแล้วสินะ”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ หงซื่อก็กรีดร้องออกมาอย่าเสียสติ
ทันทีที่จ้าวสวิ่นเดินไปถึงประตู เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนดังมาจากข้างใน
เขาหยุดฝีเท้าลงและมองย้อนกลับไป มีร่องรอยของความทนไม่ได้ในดวงตาของเขา ทันใดนั้น แววตาของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นโหดร้าย เขาหันกลับไปอีกครั้ง สะบัดเสื้อคลุมของเขาและเดินหายไปนอกประตู
ผู้ชายมอบหัวใจและเวลาทั้งหมดให้กับเจ้า เจ้าจึงคิดว่าเขารักเจ้า แต่อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญและมีค่าที่สุดที่เขาหวงแหนไม่ได้อยู่กับเจ้า และเขาจะไม่ให้เจ้าด้วย
หากล้ำเส้นของเขา ไม่ว่าเขาจะรักเจ้ามากเพียงใด ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะหายตามไปด้วย
ไม่มีความรักใดที่จะคงอยู่ตลอดไป
“หงซื่อ เจ้าใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในบ้านหลังนี้ได้ แต่นายท่านจะไม่มาพบเจ้าอีก ไม่ต้องห่วงลูกสองคนของเจ้า ข้าจะหาเลี้ยงดูพวกเขาให้ดี เพราะอย่างไรพวกเขาก็อยู่ภายใต้การดูแลของข้า แล้วก็จะเป็นลูกของข้าด้วย” ฮูหยินจ้าวพูด จากนั้นจึงหันหลังกลับและจากไป
สาวรับใช้ที่ชื่อเสี่ยวหงส่งฮูหยินจ้าวออกไปอย่างมีความสุขและคอยประจบประแจงนาง
ทั้งหมดนี้ หงซื่อไม่ได้ยิน นางไม่มีอะไรจะพูดและไม่กะจิตกะใจฟังอะไรทั้งนั้น
หงซื่อนะหงซื่อ! เจ้ารอมายี่สิบปีเพื่อตำแหน่ง แต่ท้ายที่สุดเจ้าก็ยังอยู่ที่เดิม สิ่งที่เจ้าต้องการ เขาจะไม่มอบให้เจ้า และก่อนจากไปเขายังตัดเนื้อของเจ้าไปอีกสองท่อน เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าคงอ้างว้างเดียวดายไปตลอดกาล
ประตูห้องปิดลงและเสียงหนึ่งดังมาจากข้างนอก “ผู้หญิงคนนี้คงจะเสียสติไปแล้ว”
เสียสติ นางเสียสติไปแล้ว
ตาบอด คนที่ตาบอดคงจะเป็นนาง
…
เมื่อฉินเย่จือกลับมา เขาจึงได้ยินเรื่องเกี่ยวกับกู้เสี่ยวหวานโดยปริยาย
ในขณะนี้มือของเขากำแน่นด้วยความโกรธ “เมื่อดูแลเจ้านายไม่ดีก็ต้องโดนรับโทษ”
บนพื้นมีร่างผอมแห้งคุกเข่าอยู่ แล้วจะเป็นใครไปได้นอกจากอาจั่ว?
อาจั่วส่งเสียงตอบรับ โดยมีอาโม่อยู่ข้าง ๆ รีบร้องขอความเมตตา “นายท่าน อาจั่วติดตามคุณหนู คุณหนูเป็นคนที่รอบคอบ ถ้านางพบว่าอาจั่วได้รับบาดเจ็บ คุณหนูอาจจะสงสัยได้”
ฉินเย่จือคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขารู้สึกสับสนเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าเห็นด้วย “จำไว้ก่อน”
อาจั่วก้มคำนับด้วยความขอบคุณ “ขอบคุณนายท่าน”
ฉินเย่จือไม่พูดอะไรและเอาแต่ขมวดคิ้ว การที่จ้าวจื่อเจี๋ยกล้าที่จะแตะต้องคนของเขา คนผู้นั้นคงไม่มีอยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ
อาจั่วคุกเข่าอยู่บนพื้น คิดอยู่ครู่หนึ่ง และในที่สุดก็บอกถึงความคิดของกู้เสี่ยวหวาน เมื่อฉินเย่จือได้ยิน ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น “นางต้องการทำสิ่งนี้หรือ”
อาจั่วพยักหน้าตอบรับ ฉินเย่จือจึงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ไม่เลว แต่มีคนหายไปหนึ่งคน จ้าวจื่อเจี๋ยยังมีน้องสาวอยู่ใช่ไหม คราวนี้มาดูกัน”
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา สิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปด้วยดีสำหรับจ้าวสวิ่น
อันดับแรก คนกลุ่มใหญ่วิ่งไปล้อมรอบตระกูลจ้าวเพื่อขอเงินอย่างแน่นขนัด เนื่องจากมีคนจำนวนมากเกินไป จึงเกิดความโกลาหลขึ้น บางคนจึงได้รับบาดเจ็บจากความโกลาหลในครั้งนี้ ทำให้มีค่าใช้จ่ายมากอีกครั้ง
นอกจากนี้ ข้อตกลงทางกิจการที่ได้เจรจาไว้อย่างชัดเจน แต่คนผู้นั้นเพิ่งรู้สึกเสียใจและหยุดร่วมมือกับเขา ดีที่จ้าวสวิ่นไม่ได้เตรียมการอะไรไว้ และผู้ซื้อที่ลงนามในสัญญาฉบับอื่นกับเขาได้จ่ายเงินมัดจำจำนวนมาก หากไม่สามารถกู้คืนสินค้าได้ จ้าวสวิ่นทำได้เพียงแค่ต้องยอมขาดทุนและสูญเสียเงินจำนวนมาก
เท่านั้นยังไม่พอ ลูกทั้งสามในครอบครัวก็ถึงวัยแต่งงานแล้ว จ้าวสวิ่นกลัวว่าจะมีปัญหา ดังนั้นเขาจึงรีบส่งจดหมายไปขอให้แม่สื่อจับคู่ลูกทั้งสามคนของตน
แต่ใครจะคาดคิดว่าแม่สื่อทั้งหมดในเมืองหลิวเจียจะไม่ยอมรับ แม้ว่าเขาจะเพิ่มเงินจัดหาคู่เป็นสองเท่าหลาย ๆ ครั้งก็ไม่มีแม่สื่อคนไหนมารับงานนี้
ตอนนี้ไม่เพียงแต่จ้าวสวิ่นและภรรยาของเขาที่กำลังรีบ แม้แต่จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์เองก็กำลังรีบเช่นกัน
นางกับฮูหยินจ้าวไม่ใช่แม่ลูกกันจริง ๆ โดยธรรมชาติแล้วนางจึงไม่คุยกับฮูหยินจ้าว นางต้องการคุยกับหงซื่อ แต่นางก็ถูกห้ามและไม่สามารถออกไปจากตระกูลจ้าวได้
จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์รีบร้อนมาก ทำไมไม่มีใครมาขอนางแต่งงานกัน?
ตั้งแต่สมัยโบราณ การแต่งงานต้องได้รับการตัดสินใจโดยพ่อแม่และถูกแนะนำโดยแม่สื่อ ถ้าไม่มีแม่สื่อเป็นคนกลาง ในอนาคตนางจะแต่งงานได้อย่างไร?
จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์กระวนกระวายเหมือนมดบนหม้อร้อน แต่ในบ้านตระกูลจ้าวนี้ นางควรคุยกับใคร
หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาสามารถไปหาจ้าวจื่อเจี๋ยที่เป็นพี่ชายของนางได้เท่านั้น
จ้าวจื่อเจี๋ยยังคงพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ ในช่วงเวลานี้ เขาได้แต่นอนอยู่บนเตียงและรู้สึกโกรธ “นี่เป็นอาหารประเภทไหน สำหรับสุนัขกินหรือสำหรับเจ้ากิน?”
ในห้อง คนรับใช้กำลังตัวสั่นด้วยความกลัว คุกเข่าและตอบพลางตัวสั่นสะท้าน “นายน้อยรอง ข้านำอาหารนี้มาจากห้องครัวและมันถูกจัดเตรียมโดยคนในครัว”