ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 13
ตอนที่ 13 เผ่าปีศาจ : ก็อบลินมืด
แต่ดีใจได้ไม่นาน วินาทีถัดไปผมก็ต้องผิดหวัง
อสุรกายน้ำแข็งถูกกําจัด ได้รับค่าประสบการณ์เพื่อนร่วมทีม 40,000
สมกับเป็นนักธนูเลเวล 45 ผมยังไม่ทันเห็นข้อมูลของมันก็โดนเธอกําจัดไปซะแล้ว
“ พวกเจ้ารีบสะเดาะกลอนเข้า เรื่องฆ่าสัตว์ประหลาดพวกนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้า ข้ายิงโดนทุกดอกแน่!”
“…ได้”
แม้ค่าประสบการณ์เพื่อนร่วมทีมจะน้อยนิด แต่ยังไงก็ดีกว่าไม่ได้เลย ตอนนี้รีบสะเดาะกลอนหน่อยจะดีกว่า เพราะมอนสเตอร์ที่บินไปมากลางอากาศแบบนี้เป็นประเภทที่ผมไม่ชอบที่สุดแล้ว
ขณะเดียวกับที่ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นช้าๆ แม่กุญแจก็ค่อยๆ ถูกพวกเรางัดออก
“ดีมาก ชั้นสุดท้ายแล้ว!”
พูดไป อาร์ย่าก็ใช้มีดเสียบเข้าไปยังตําแหน่งล็อคชั้นสุดท้าย จากนั้นผมก็ดึงแม่กุญแจออก มันส่งเสียง “แกร๊ก” ดังลั่น แยกออกจากกันแล้วตกลงบนพื้น
ว้าว!”
ขณะที่ปลดล็อค ร่างกายของมิสสโนว์มันสเตอร์ก็ลอยขึ้นกลางอากาศทันที!
“ฮ่าๆๆ ดีจังเลย ตั้งหลายร้อยปี ในที่สุดก็บินได้อีกครั้ง!”
“เอาละ พวกเรารีบออกจากที่นี่กันเถอะ!”
พูดจบ ผมก็กางปีกเทวดา แล้วเอื้อมมือไปจับอาร์ย่า
“มิสสโนว์มันสเตอร์ ช่วยผมพาอาร์ย่าไปด้วย! เธอบินไม่ได้!”
“ได้เลย!”
พูดจบ เธอก็ยื่นมือไปจับมืออีกข้างของอาร์ย่า แล้วบินขึ้นด้านบนทันที!
ผมไม่ทันได้ตอบสนอง ก็เกือบถูกเธอลากให้บินออกไป
“เฮ้ๆๆ เร็วเกินไปแล้ว!”
ผมรีบตะโกน
“โทษที่ ข้าลืมไป ดูเหมือนเจ้าบินได้ไม่เร็วนักนี่”
มิสสโนว์มันสเตอร์ลดความเร็วลงทันที
“ไม่เป็นไร บินไปเถอะ!”
“เดี๋ยวก่อน!”
จู่ๆ อาร์ย่าก็ตะโกนขึ้น
“ทําไมเหรอ”
“ พวกนายดูที่แม่กุญแจสิ!”
พวกผมมองไปข้างล่างตามทางที่เธอชี้
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร ก็มีสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ดูเหมือนภูติปรากฏตัวอยู่ตรงนั้น อีกทั้งในมือของเขายังถือแม่กุญแจที่สะเดาะไปแล้วไว้ด้วย!
หมอนั่นคิดจะล็อคกุญแจอีกครั้งเหรอ!
“ข้าจะไปจัดการเจ้านั่น!” มิสสโนว์มันสเตอร์พูดทันที
“ไม่! ผมไปเอง!”
ผมปล่อยมืออาร์ย่าทันที
“คุณรีบพาอาร์ย่าออกไป! ไม่ต้องห่วงผม ผมจัดการเขาแล้วจะตามไปทันที!”
“เจ้า…”
“ปล่อยเขาไปเถอะ เขาก็ชอบเก๊กหล่อเวลาแบบนี้แหละ”
ได้ยินคําพูดนี้ของอาร์ย่า ผมก็ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา
ผมจะออกโรงเพื่อเก๊กหล่อทําไมล่ะ เก๊กหล่อแล้วกินได้เหรอ ในเมื่อผมออกโรงก็เพราะมีดของภูติที่เหน็บไว้ข้างเอวของหมอนั่นทําให้สกิล “นักสืบนามกระฉ่อน” สว่างขึ้น จึงพุ่งเข้าไปต่างหาก!
ผมบินไปด้านหลังเขาอย่างรวดเร็ว แล้วใช้มีดซ่อนในมือขวาแทงเข้าร่างของเขา จากนั้นก็หยิบมีดของเขามา
ภูติเจ็บปวดจนทิ้งแม่กุญแจลงพื้น แล้วพลิกมือเพื่อคิดจะหยิบมีด แต่กลับพบว่ามีดไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว
“$%#….%….(^&*….%%”
ภูติพูดภาษาแปลกๆ ที่ผมฟังไม่ออกแม้แต่น้อย แต่ฟังดูแล้วกลับรู้สึกหงุดหงิด
ขณะนี้ผมถึงได้เห็นหน้าตาของหมอนี่ชัดๆ
ถึงบอกว่าเป็นภูติ แต่หมอนี่ดูใกล้เคียงกับก็อบลินมากกว่า แม้ชื่อ “ออร์แลนโด” ของเขาจะดูอ่อนโยน จนทําให้ผมไม่อาจจําแนกได้ว่าเขาเป็นตัวอะไรกันแน่ แต่ว่า ข้อมูลส่วนใหญ่ของหมอนี่ล้วนเป็นเครื่องหมายคําถาม ซึ่งแปลว่าหมอนี่ไม่ใช่สิ่งที่จัดการง่ายแน่ๆ
ผมโยนมีดเข้าไปในแหวนเก็บของอย่างรวดเร็ว จากนั้น
“กรวยน้ำแข็งลอบสังหาร!”
กรวยน้ำแข็งสามต้นพุ่งไปที่เขาทันที!
“….#%##….#%”
อีกฝ่ายพูดพึมพํา แล้วแสยะยิ้มเล็กน้อย
วินาทีถัดไป หมอนี่ก็แวบผ่านกรวยน้ำแข็งทั้งสามต้น จากนั้นเงาร่างก็พุ่งเข้ามาทางผมราวกับภูติผี
ผมประหลาดใจ จึงปล่อยปราสาทน้ำแข็งขึ้นตรงหน้าทันที จากนั้นก็ใช้โทเท็มน้ำแข็งกระแทกหลังผม
ความจริงพิสูจน์ว่าตัวเลือกของผมถูกต้อง เพราะไม่ถึงหนึ่งวินาที อีกฝ่ายก็ใช้มือกรีดทําลายปราสาทน้ำแข็ง ส่วนมืออีกข้างที่มีควันสีดําก็ทุบลงบนตําแหน่งที่ผมอยู่เมื่อกี้
เสียงดังสนั่น และตามมาด้วยเสียงสิ่งของที่ถูกกัดกร่อน
พระเจ้า มันคือเวทสายมืดนั้นเหรอ หมอนี่มาจากไหนกันแน่เนี่ย
“หยุดซะเถอะ ทายาทคนสุดท้ายของเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตาย เจ้ามองไม่ออกหรือว่าเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า”
จู่ๆ หมอนั้นก็เริ่มพูดภาษาคน!
แน่นอน ผมมองออกว่าผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา เพราะความเร็วและพลังโจมตีของอีกฝ่ายต่างก็สูงกว่าผมเป็นเท่าตัว ขอแค่อีกฝ่ายตั้งใจอีกนิด ผมคงตายในทันทีแน่
“ในเมื่อนายพูดภาษาคนได้แล้วทําไมถึงพูดภาษาแปลกๆ ล่ะ”
“ก็ได้ ดูแล้วเจ้าคงไม่ใช่เทวดาแห่งความตายโดยสมบูรณ์ ข้าคิดว่าเจ้าพูดภาษาพวกมันเป็นซะอีก เมื่อครู่มีมนุษย์อีกสองคนอยู่ด้วย ข้าย่อมไม่อาจพูดภาษาแผ่นดินใหญ่ตามใจชอบ
สิ่งที่เรียกว่าภาษาแผ่นดินใหญ่คือภาษามนุษย์ เพราะมนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์บนแผ่นดินที่มีมากที่สุด ดังนั้นภาษามนุษย์จึงถูกเรียกว่าภาษาแผ่นดินใหญ่
“ก็ได้ แล้วเมื่อกี้นายพูดว่าอะไร”
“ทําไมเจ้าไม่หนีไปกับสองคนนั้น จะวิ่งกลับมาทําไม”
“ฉันคิดว่านายจะล็อคกุญแจอีกครั้ง เลยวิ่งกลับมาไง”
“ ไม่ใช่เพราะถูกใจ “มีดความมืด” ของข้าหรือ”
อั๊ยยะ โดนจับได้ซะแล้ว
ด้วยการสังเกตจากดวงตาที่หรี่ลงของเขา ผมจึงหยิบมีดที่ขโมยออกมา
เควสต์ย่อย : ความมืดที่ตื่นขึ้น
เควสต์ 1 : เข้าใจข้อมูลของเผ่าปีศาจให้ลึกซึ้ง
เมื่อเห็นข้อความนี้เด้งออกมา ผมก็เหงื่อตก
ยังดีที่เควสต์นี้ปรากฏออกมา ไม่งั้นผมคงทนขโมยของนี่จากหมอนั่นไม่ได้
“ก็ได้ ฉันจะคืนให้”
ผมโยนมีดออกไป
“จะว่าไป นายเป็นใครกันแน่”
“มันเป็นประโยคที่ข้าอยากถามเจ้า ข้าคิดว่าเจ้าเป็นสายที่มนุษย์ส่งมาซะอีก แต่ดูแล้วคงไม่ใช่แบบนั้น…แต่เจ้าคงรู้ว่าเจ้าเป็นเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายนะ”
“เรื่องนั้นฉันรู้อยู่แล้ว”
ตอนนี้ผมคงทําได้แค่คล้อยตามคําพูดของเขา
“แต่ว่า ฉันรู้แค่ว่าฉันไม่เหมือนกับคนอื่น ส่วนเรื่องอื่นก็ไม่รู้หรอก”
“ในเมื่อเจ้าเป็นอิสระเช่นนี้ แปลว่ามนุษย์พวกนั้นยังไม่พบตัวตนของเจ้า เมื่อเป็นเช่นนี้”
อีกฝ่ายฉีกยิ้มประหลาดออกมาจากใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอย
“อยากจะทําความเข้าใจว่าเจ้าคืออะไรกันแน่ไหม”