จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 277
บทที่ 277: บุกเข้าไป
ทาสถ้ําปล่อยเสียงกรีดร้องแปลกๆออกมาดังระงมไปทั่วพื้นที่ ชัดเจนว่าพวกมันเกรงกลัวต่อคาถาระดับมัชฌิม แต่พวกมันทั้งหมดก็ยังคงพยายามขัดขืนและพาตัวเองไปด้านหน้าเพื่อเคลียร์เส้นทางให้กับพวกพ้องของตนเอง
คาถาระดับมัชฌิมนั้นทรงพลังก็จริง แต่ทว่าไม่เพียงพอที่จะหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดของทาสถ้ําได้ พวกมันยังคงสามารถวิ่งเข้าใกล้กลุ่มของนักเรียนทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว
“โจมตี ฆ่าพวกมันให้หมด เราไม่สามารถให้มันเข้าใกล้เรามากกว่านี้ได้! มิฉะนั้นสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นหลุมศพของพวกเราทุกคน!” ลือเชิงเห่อตะโกนลั่น
ทุกคนไม่กล้าที่จะหวงแหนพลังเวทของตนเองอีกต่อไป พวกเขาทั้งหมดเริ่มร่ายคาถาอย่างรวดเร็วและไม่มีการสะดุดต่ออะไรทั้งสิ้น บอลเพลิง คลื่นพสุธา อสนีบาต แสงพิสุทธิ์ ทุกธาตุส่องประกายออกมาทําให้อุโมงค์ทั้งหมดสว่างไสวด้วยพลังที่รุนแรง พร้อมกับระเบิดโคลนและน้ําแข็ง ท้ายที่สุดแส่เถาวัลย์ก็ยังตามหลังมา อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
การร่ายเวทระดับมัชฌิมนั้นจําเป็นจะต้องจัดการดวงดาวทั้งสี่สิบเก้าดวงให้สมบูรณ์ เช่นนี้จึงทําให้พวกเขาจะต้องใช้เวลาสักหน่อยในการตระเตรียม ถ้าหากว่ามีสิ่งใดมารบเร้าหรือทําให้จิตใจไขว้เขว แน่นอนว่าทั้งหมดจะถูกทุบตีเป็นเศษเนื้อจากทาสถ้ําได้อย่างง่ายดาย ทาสถ้ําที่เห็นดังนั้นพวกมันไม่รีรอที่จะให้เวทมนตร์เหล่านั้นสมบูรณ์ พวกมันกรูกันเข้ามาพร้อมต้องการปะทะและขัดขวางวินาทีชีวิตนี้ในทันใด
ทาสถ้ําเพียงต้องการขัดขวางไม่ให้พวกนักเรียนร่ายเวทสําเร็จ เวลาช่วงสามถึงหกวินาที่เป็นนาทีทองสําหรับพวกมันอย่างมาก เพียงแค่มีเสี้ยววินาทีให้มันเหวี่ยงท่อนกระดูกก็นับว่าเพียงพอแล้ว
โชคดีที่กลุ่มนักเรียนนั้นมีหลายคน พวกเขาสลับกันร่ายเวทและโจมตี เมื่ออีกกลุ่มร่ายเวท อีกกลุ่มจะทําการโจมตีเพื่อถ่วงเวลาเอาไว้ สถานการณ์ในตอนนี้จึงกลายเป็นทาสถ้ําไม่สามารถเข้าใกล้ทีมได้เกินยี่สิบเมตร ซึ่งเป็นไปตามที่คาดหวัง
ทาสถ้ําเหล่านี้เป็นเพียงกระสอบทรายเท่านั้นเมื่ออยู่ต่อหน้านักเวทระดับมัชฌิม พวกมันทั้งหมดคือสิ่งที่พวกเขาต้องพบเจอมาตลอดการฝึกเวทมนตร์ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ทุกคนจะพ่ายแพ้ต่อมัน
หายนะที่เฝ้ารอพวกเขาอยู่คงจะมีเพียงด้านในสุดของถ้ํา ซึ่งพวกเขาไม่มีทางรู้เลยว่ามีอสูรเวทอีกกี่ตัวที่เฝ้ารอให้พวกเขาทั้งหมดย่างกรายเข้าไปหา
“ระวัง!” ไปถึงถึงตะโกนออกมาในขณะที่เธอเห็นอะไรบางอย่างอยู่ใกล้กับเหล่าหมิงฉยวน
เมื่อได้ยินเสียงเตือน เขารีบใช้ธาตุลมเพื่อเคลื่อนย้ายตัวเองออกจากตําแหน่งทันที
กระดูกท่อนใหญ่เหวี่ยงผ่านศีรษะของเขาไปอย่างเฉียดฉิว ถ้าหากว่าเขาหลบไม่ทันแน่นอนว่าสมองของเขาจะถูกบดขยจนกลายเป็นเศษไขมันแน่นอน
“บัดซบ ทําไมไอ้สารเลวพวกนี้จึงไม่หมดไม่สิ้นสักที!” เหล่าหมิงฉยวนสบถออกมาในขณะที่มองท่อนกระดูก ใหญ่ผ่านหน้าของเขาไปอย่างใจระทึก
ด้านหน้ามีรูขนาดใหญ่อยู่อีกสามแห่ง สองในนั้นไม่มีอสูรเวทปรากฏออกมาอีกแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกมันทั้ง หมดได้ตายตกไปในสงครามนี้… แต่ว่าอีกรูหนึ่งยังคงมีทาสถ้ําเดินออกมานับสิบตัวอย่างไม่หยุดหย่อน นักเรียน หลายคนเริ่มใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ป้องกันของตนเองแล้ว ขณะเดียวกันไปถึงถึงนั้นยังไม่ได้หยุดพักการใช้เวทธาตุรักษาของเธอเลยแม้แต่วินาทีเดียว…
“โม่ผ่านเข้าไปในถ้ํากับฉัน!” มู่หนิงเซวียกล่าวออกมา สายตาของเธอจับจ้องไปที่โม่ฝานขณะที่หันกลับไปมองหน้าถ้ําเล็กๆตรงหน้า
“เราต้องทําเช่นนั้นเลยเหรอ?” โม่ผ่านรู้สึกไม่เต็มใจอย่างมาก สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าด้านในรูนั้นมีอสูรเวทมากมายเท่าไหร่? มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากว่าเข้าไปแล้วแต่กลับไม่มีสิทธิ์ออกมาอีกครั้ง?!
มู่หนิงเซียไม่ต้องการจะเสียเวลาต่อปากต่อคํากับโม่ผ่านอีกต่อไป เธอใช้เคลื่อนย้ายพริบตาและพุ่งตัวเข้าสู่ถ้ํามืดตรงหน้าอย่างไม่ลังเล
โม่ฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตามเธอเข้าไปอย่างเร่งรีบ ปณิธานในชีวิตของเขาก็คือเขาจะต้องใช้ชีวิตของตนเองเพื่อปกป้องหญิงสาวสวยงามทั้งหมดบนโลกนี้ไว้ให้ได้ เขาจะไม่มีทางผิดคําพูดเด็ดขาด!
ด้านในถ้ํานี้กว้างมาก กว้างกว่าอุโมงค์สองถึงสามเท่า โม่ฝานไม่รู้ว่าถ้ําที่น่าขยะแขยงเหล่านี้จะกลายเป็นสวรรค์ของอสูรร้ายมากมาย แต่โชคไม่ดีที่พวกมันได้พบเจอกับเขา เพราะในวันนี้ที่นี่จะกลายเป็นสถานที่เผาศพของพวกมันทั้งหมด!
โม่ฝานยกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างแน่วแน่ ด้านซ้ายคือบอลเพลิงเผาไหมกระดูก ด้านขวาคือบอลเพลิงทมิฬโม่ฝานไม่ได้สนใจว่าในขณะนี้มีอสูรเวทตัวใดอยู่ใกล้ๆเขาหรือไม่ แต่ไม่ว่าอย่างไรแสงไฟยังคงจําเป็นอย่า งมากในอุโมงค์ที่มืดมิดเช่นนี้
เปลวไฟส่องสว่างไปทั่วทั้งถ้ํา วิสัยทัศน์ของเขาแปรเปลี่ยนเป็นชัดเจนทันที เขาตระหนักรู้ได้ทันว่าถ้ําเหล่า นี้มีเส้นทางเชื่อมต่อกับถ้ําอื่นๆอีกมากมาย!
“บัดซบ ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมอสูรเวทพวกนั้นไม่ยอมหมดไปสักที! ถ้ําพวกนี้เชื่อมกันอย่างไม่รู้จบ! ทาส ถ้ําสามารถวิ่งมาจากที่อื่นๆได้ตลอดเวลาสินะ!” โม่ฝานอดไม่ได้ที่จะสาปแช่ง
มู่หนิงเซวียนั้นยังคงนําทางต่อไป ความมั่นใจของเธอนั้นทําให้โม่ฝานรู้สึกละอายใจเล็กน้อย การเคลื่อน ไหวที่ปราดเปรียวของเธอทิ้งห่างโม่ฝานเป็นสองถึงสามเท่า ความกล้าหาญที่เธอมีนั้นโม่ผ่านคงไม่อาจเทียบได้ เลยในขณะนี้ ดูเหมือนว่าเธอกําลังวางแผนที่จะจัดการกับศัตรูโดยใช้กําแพงถ้ําขนาบด้านข้าง
อาณาจักรเหมันต์ของเธอนั้นแผ่กระจายออกไปทั่วบริเวณทันทีที่เธอเริ่มเคลื่อนไหว เกล็ดน้ําแข็งและบรรยากาศหนาวเย็นเป็นรัศมีพลังของเธอ ซึ่งเต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว เธอสามารถตรวจจับอสูรเวทใดๆก็ได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาการมองเห็นแต่อย่างใด
ขณะที่ทั้งกําลังสํารวจ ดวงตาสี่คู่ได้ปรากฏขึ้นมาในความมืดพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่สับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
ทาสถ้ํานั้นสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆในความมืดได้ พวกมันเฝ้ารอให้มู่หนิงเซวียเข้ามาใกล้จนถึงสุดมุมของเส้นทางก่อนแล้วค่อยโจมตีในภายหลัง แต่ทว่าพวกมันไม่รู้เลยว่าเมื่อตนเองง้างท่อนกระดูกขึ้น กรงเล็บน้ําแข็งก็ได้พุ่งออกไปปลิดศีรษะของพวกมันออกอย่างทันควัน ไม่มีเวลาให้เตรียมตัวใดๆ พวกมันล้มลงนอนกับพื้นอย่างราบคาบ
มะ-มารรร์ม
ทาสถ้ําทั้งสี่ปล่อยเสียงกรีดร้องที่แหลมปร็ดออกมา ส่วนที่เหลือยังคงไม่ยอมหยุดพักและพุ่งเข้ามามู่หนิงเซวียอย่างต่อเนื่อง
ใจกลางของเป้าหมายคือมู่หนิงเซวีย สายตาคมปลาบเย็นเยือกดุจน้ําแข็งกําลังสั่นคลอนเล็กน้อย จิตสังหารแผ่กระจายออกมาอย่างรุนแรงจากสถานการณ์นี้
“ตรวนแช่แข็ง!”
เส้นทางดวงดาวเนบิวลาของเธอพร้อมนานแล้ว เป็นเรื่องน่าขันที่เหล่าทาสถ้ําทั้งหมดนี้คิดว่าจะสามารถจัด การกับเธอได้ การหลบซ่อนของพวกมันไร้ประโยชน์โดยสมบูรณ์เมื่ออยู่ตรงหน้าเธอ
ตรวนน้ําแข็งหนาปรากฏขึ้นพร้อมกับพุ่งเป้าหมายไปที่ทาสถ้ําทั้งหมดตามคําสั่งของมู่หนิงเซวีย
ทาสถ้ํานั้นไม่ทันได้ตั้งตัวหรือเตรียมใจใดๆมาก่อน พวกมันถูกจับกุมไว้ได้กลางอากาศอย่างไม่อาจขัดขืนใดๆ
“จองจํากระดูก!”
มู่หนิงเซวียยังคงจับอีกปลายทางของตรวนไว้อย่างแน่นหนา พลังอันแข็งแกร่งนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกมันจะดิ้นหลุดไปได้
เสียงกระดูกแตกหักดังสนั่นอย่างน่าหวาดกลัว พวกมันไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะกรีดร้องใดๆออกมา ท่อนกระดูกใหญ่ในมือร่วงหล่นกับพื้นพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายของพวกมันได้หมดไป
โม่ฝานนั้นไม่มีความสามารถในการเพื่อความเร็วของตนเองได้ กว่าที่เขาจะมาถึงจุดที่ม่หนิงเซวียยืน ทุกสิ่งก็ได้ถูกจัดการจนเสร็จเรียบร้อยไปหมดสิ้นแล้ว มู่หนิงเซวียยืนอยู่ตรงกลางพร้อมกับศพทาสถ้ําเกลื่อนกลาด สายตาของเธอแสดงถึงความรําคาญส่งมาให้โม่ฝานอย่างเจ็บปวด เธอไม่ได้พูดอะไรออกมาพร้อมกับเคลื่อนไหวอีกครั้งด้วยเวทธาตุลม… ร่างกายของเธอหายไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
โม่ฝานกําลังจะวิ่งตามเธอไป เขารู้สึกว่าจทมิฬของตนเองกําลังสั่นสะเทือนเล็กน้อยอย่างตื่นเต้น
“จริงด้วย เศษวิญญาณพวกนี้สามารถเปลี่ยนเป็นแก่นแท้จิตวิญญาณได้หนิ” โม่ผ่านนึกขึ้นได้และรีบจัดการเก็บเศษวิญญาณของทาสถ้ําตรงหน้าอย่างเร่งรีบ
เศษวิญญาณนั้นสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่นานนักหลังจากกายหยาบของมันตาย ดังนั้นเขาจําเป็นจะต้องรีบให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้พวกมันหายไป
ทันทีที่เขาเก็บเศษวิญญาณเสร็จสิ้น โม่ฝานรีบวิ่งตามมู่หนิงเซียเข้าไปด้านในทันที แต่กลับกลายเป็นว่าหนิงเซวียนั้นเป็นหญิงสาวที่ไร้ความเมตตาอย่างแท้จริง เธอไม่เหมือนกับหญิงสาวทั่วไปแม้แต่น้อย โม่ฝานเห็นหลายศพกลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็งอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขาแข็งค้างในทันที
แต่เขาก็ยังคงเก็บเศษวิญญาณต่อไปอย่างไม่ลดละเช่นกัน เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกที่เขามองไม่เห็นมู่หนิงเซวี ยอีกแล้ว เธอหายตัวไปอย่างรวดเร็วอีกครั้งหนึ่ง โม่ฝานอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพําออกมา “บ้าจริง ทําไมฉันรู้สึกว่า ตัวเองเป็นเพียงน้องชายคนหนึ่งที่กําลังถูกพี่สาวโอบอุ้มเอาไว้อย่างปกป้องกันนะ? นี่ฉันกําลังวิ่งตามหลังเธอ และไล่เก็บของที่เธอทิ้งไว้งั้นเหรอเนี่ย?”