จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 276
บทที่ 276: มหากาพย์การต่อสู้
มีสามคนในทีมซึ่งครอบครองธาตุไฟก็คือโม่ฝาน เซียวและเฉาวูหมิงเหย่
ทั้งสามขว้างบอลเพลิงออกไปทันที เป้าหมายคือเถาวัลย์ด้านข้าง เนื่องจากพลังที่พวกเขาใช้คือเผาไหม้กระดูก เถาวัลย์ทั้งหมดจึงกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างรวดเร็ว…
เมื่อเถาวัลย์สีดําทั้งหมดถูกเผาจนมอดไหม้แล้ว กลุ่มนักเวทเหล่านี้ตระหนักได้ทันทีว่ามีรูอีกสองแห่งถึงอยู่ด้านข้างของพวกเขา
ทาสถ้ําที่กําลังมาจากด้านหน้าและหลังนั้นดุร้ายอย่างมาก แต่ทว่าพวกเขาทั้งหมดยังสามารถต่อสู้กับพวกมันได้โดยใช้พลังของตนเอง การซุ่มโจมตีเป็นสิ่งที่นักเวทไม่อยากพบเจอมากที่สุด ในขณะนี้เหล่าปีศาจเหล่านั้นเริ่มระมัดระวังเปลวไฟและเริ่มเกาะกลุ่มรวมกันเป็นก้อนอย่างเหนียวแน่น การใช้พลังธาตุไฟครั้งใหญ่เมื่อครู่ ทําให้ปีศาจทั้งหมดตื่นตัวกันอย่างทันท่วงที
“คนอื่นที่อยู่ตรงกลางของกลุ่มรีบจัดการกับทาสถ้ําตัวที่อยู่ใกลให้เร็วที่สุด!” ลือเชิงเห่อตะโกนออกมาอย่างเดือดดาล เสียงของเขาดังกึกก้องไปทั่วอุโมงค์ใหญ่แห่งนี้
โม่ฝานรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ลือเชิงเห่อที่ดูเย่อหยิ่งนั้นรับบทเป็นผู้นําของทีมได้อย่างยอดเยี่ยม เขาสั่งการได้เป็นเลิศอย่างเช่นบุคคลที่รู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้ต้องทําอย่างไรต่อไป
สิ่งที่สําคัญที่สุดในตอนนี้คือการกําจัดทาสถ้ําที่อยู่บริเวณใกล้เคียงให้หมด เนื่องจากพวกมันไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ทีมโดยเด็ดขาด ความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ระหว่างนักเวทกับอสูรเวทคือพวกเขาจะสูญเสียการต่อสู้ทันทีเมื่อเข้าสู่ระยะประชิด ซึ่งนี่กลับเป็นข้อได้เปรียบของเหล่าปีศาจ
การเหวี่ยงกระดูกเพียงครั้งเดียวของพวกมันอาจจะคล้ายกับธอร์เขวี่ยงค้อนสายฟ้า!
แม้ว่าทั้งหมดนี้จะเป็นนักเรียนระดับหัวกะทิของสถาบัน แต่เมื่อต้องพบเจอกับการโจมตีระยะประชิดพวกเขาก็ไม่อาจต้านทานได้เช่นกัน ความสูญเสียนั้นร้ายแรงมากจนพวกเขาไม่อาจรักษาชีวิตของตนเองเอาไว้ได้ เซียวเฟิงซึ่งเป็นนักเรียนจากมหาวิทยาลัยจักรพรรดินั้นอยู่ใกล้กับทาสถ้ํามากที่สุด ตําแหน่งของเขาอันตรายอย่าง มาก ทาสถ้ําล้อมหน้าและหลังของเขาจนไม่เหลือหนทางหลบหนี
“โล่ห์กระจกแสง!” เซียวเฟิงเปิดการใช้งานโล่ห์ของตนเองทันทีเมื่อถูกล้อมเอาไว้
เร็วเท่าความคิด ทาสถ้ํานั้นมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วไม่แพ้กัน กระดูกท่อนใหญ่ถูกเหวี่ยงเข้าหาหน้าอกของเขาแต่ทว่ามีโล่ห์ป้องกันเอาไว้ ฉับพลันทาสถ้ําตัวที่อยู่ด้านหลังเหวี่ยงกระดูกมาที่ขาของเขาและเขาไม่สามารถจะป้องกันได้ทันเวลา!
เสียงของกระดูกหักดังขึ้นทันทีเมื่อมันได้ปะทะกับของแข็ง เซียวเฟิงไม่สามารถหลบได้แน่นอนในสถานการณ์เช่นนี้ “แคร่ก! กกก
“อ๊า!!||||||| ช่วยด้วย….อํา ขาฉัน!!!” เซียวเฟิงตะโกนออกมาอย่างโหยหวน ในขณะที่เขาจะถอนขาออกมาแต่กลับไม่ทันการ มันถูกทุบตีเข้าอีกครั้ง เนื้อของเขาฉีกขาดและรู้สึกได้ว่ากระดูกของตนเองแทบจะสลายกลายเป็นผุยผง
โลหิตสีแดงสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ อยู่อย่างที่อยู่ใต้เข่าของเซียวเฟิงแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวจากความเจ็บปวด เช่นนี้เขาจึงเริ่มคลานไปหาเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างเจ็บปวด
เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมากที่เขายังพอมีสติหลงเหลืออยู่บ้าง เช่นนี้เพราะนักเวทนั้นมีจิตใจที่แข็งแกร่งกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไปอย่างมาก แม้ว่าน่องของเขาจะแตกสลายไปหมดสิ้นแล้ว เขาก็ยังคือครองสติไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
“แช่แข็ง!”
เมื่อทุกคนในทีมรู้ว่าเซียวเฟิงถูกโจมตีแล้ว มู่หนิงเซียเป็นคนแรกที่มีปฏิกริยา เธอร่ายเวทน้ําแข็งของตนเองอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยเหลือ
น้ําแข็งก่อตัวเป็นชั้นกระจายออกไปอย่างรวดเร็วบนพื้นผิว เปลี่ยนสถานที่ที่ทาสถ้ํายืนอยู่ให้กลายเป็นน้ําแข็งในฉับพลัน
“เวทแช่แข็งไม่เพียงพอที่จะช่วยชีวิตเขาได้…” เปียงเหลิงรีบเคลื่อนไหวทันที เพราะเขารู้ว่าเวทน้ําแข็งเมื่อครูทําได้เพียงตรึงร่างของศัตรูไว้เท่านั้น หลังจากที่มันหลุดจากพันธนาการเซียวเฟิงจะถูกบดขยี้เป็นผุยผงแน่นอน!
ทันทีที่เปียงเหลิงมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเซียวเฟิง ศัตรูทั้งสองได้หยุดการเคลื่อนไหวลงแล้ว
วินาทีต่อมากล้ามเนื้อที่ขาของทาสถ้ําถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ําแข็งหนาเตอะ น้ําแข็งกําลังแทรกซึมเข้าไปในเลือดของพวกมันเพื่อแช่แข็งส่วนที่ลึกลงไปตามลําดับอย่างฉับไว
ทาสถ้ําทั้งสองตัวถูกหยุดการเคลื่อนไหวไว้ได้โดยสมบูรณ์ พวกมันกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวนด้วยความโกรธแค้น น้ําแข็งเริ่มลุกลามไปทั่วร่างกายของมันโดยที่มันไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ํา กว่าที่มันจะรู้ก็ไม่อาจหลบหนีการโจมตีนี้ได้อีกต่อไป
เพียงครู่เดียวพวกมันกลายเป็นรูปปั้นไปโดยสมบูรณ์แบบ กล้ามเนื้อทุกส่วนถูกแช่เอาไว้โดยที่ไม่มีสิทธิ์จะข ยบเขยื้อนได้อีกต่อไป
ขากรรไกรของเปียงเหลิงอ้าออกกว้างอย่างตื่นตระหนก เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเองเลยในขณะนี้ เดิมที่เวทแช่แข็งนั้นจําเป็นจะต้องใช้เวลากว่าส่วินาทีเพื่อจะทํางานให้เสร็จสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามเวทมนตร์ของมู่หนิงเซวียนั้นใช้เวลาเพียงสองวินาทีเท่านั้น มันเร็วเกินไปแล้ว นี่คือผลพลังจากเมล็ดพันธุ์วิญญาณงั้น เหรอ!!
“อ๊า!!” เซียวเฟิงยังคงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด จากนั้นเปียงเหลิงเข้าไปช่วยพยุงร่างกายของเขาขึ้นและพาหลบหนีออกจากพื้นที่อันตรายด้วยธาตุเงาของตนเอง
“ฉันจะดูแลเขาต่อเอง” ไปถิงถิงยืนอยู่ตรงกลางของทีม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทําไมเธอจึงเป็นคนที่ทั้งทีมต้องการจะปกป้องตลอดเวลา
เปียงเหลิงวางเซียวเฟิงลงบนพื้น ไปถึงถึงเริ่มร่ายเวทการรักษาอย่างไม่รีรอ ของเหลวสีเขียวอ่อนปรากฏขึ้นที่ปลายนิ้วของเธออย่างรวดเร็วและเธอทามันลงที่ขาของเซียวเฟิงอย่างแผ่วเบา
ของเหลวสีเขียวเมื่อครู่ค่อยๆซึมเข้าสู่ขาของเซียวเฟิงเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสของเขา สุดท้ายแล้ว เซียวเฟิงหยุดร้องเมื่อเขาได้รับการรักษาและเริ่มผ่อนคลายในที่สุด
“ฉันจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้นายก่อน ส่วนการรักษาจําเป็นจะต้องใช้เวลาสักหน่อยนะ” ไปถึงถึงกล่าวออกมาอย่างปลอบประโลม
เซียวเฟิงเช็ดน้ําตาและคราบขี้มูกบนหน้าออกอย่างเชื่องช้า เมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้วเขาเกือบจะตายตกไปซะแล้ว ในตอนนี้เขาไม่สนใจภาพลักษณ์ของตนเองอีกต่อไป
“ช่วยคนอื่นก่อนเถอะ ฉะ ฉันรู้สึกดีแล้ว” ของเหลวสีเขียวที่ใช้รักษาเขาเมื่อครู่นั้นมีฤทธิ์ระงับความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เช่นนี้เขาจึงเริ่มพูดได้อีกครั้ง
“เซียวเฟิงนายโอเคแน่นะ?” หมิงกงถามออกมาด้วยน้ําเสียงกังวล พร้อมกันนั้นในมือของเขาก็ยังคงร่ายเวทสายฟ้าต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน
“ฉันเกือบตายไปแล้วจริงๆ โชคดีที่ม่หนิงเซวียช่วยฉันได้ทัน” เซียวเฟิงเช็ดเหงื่อที่ชุ่มฉ่บนหน้าผากของตนเอง เขารู้ว่านี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะมานั่งพูดคุยกัน พวกเขาทั้งหมดจําเป็นจะต้องกําจัดอสูรเวทตรงหน้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้ มิฉะนั้นทั้งหมดจะได้พบเจอกับหายนะที่แท้จริง
ที่ด้านหน้าของทีม โกเล็มหินของชางปิงเฉียวนั้นแทบจะไม่มีความสามารถในการต้านทานทาสถ้ําได้เลย ร่างกายของมันเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้นจากการถูกทุบตีอย่างโหดร้ายซึ่งมาจากทุกทิศทาง
“จางปิงเฉียวเรียกอสูรอัญเชิญของนายกลับมาได้แล้ว” จ้าวหม่าหยันกล่าว
จางปิงเฉียวรีบเรียกโกเล็มหินซึ่งเหลือร่างกายเพียงครึ่งเดียวกลับมาทันที ในขณะนั้นเองเขารู้สึกถึงหยดน้ํามากมายซึ่งกระทบใบหน้าของตนเอง เมื่อหันหลังกลับมาเขาจึงตระหนักได้ว่าจ้าวหม่าหยันกําลังร่ายเวทธาตุน้ําระดับมัชฌิมอยู่ ซึ่งคลื่นยักษ์ขนาดใหญ่มากพอที่จะระเบิดปีศาจตรงหน้า สายน้ําที่เกรี้ยวกราดพุ่งทะยานไปด้านหน้าพร้อมกับเสียงคํารามที่น่าหวั่นใจ
กระแสน้ําเกรี้ยวกราดกินความสูงไปครึ่งหนึ่งของอุโมงค์แห่งนี้ ทาสถ้ําที่อยู่ด้านหน้าถูกกระแสน้ําพัดและหมุนเข้าสู่กระแสน้ําวนอย่างดุเดือด
ประสิทธิภาพของเวทมนตร์ระดับมัชฌิมถือได้ว่าเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งมาก ทาสถ้ําจํานวนมากไหลวนไปกับกระแสน้ําอย่างไม่สามารถตั้งรับได้ทัน พวกมันถูกดูดให้ลอยขึ้นไปในอากาศอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลย
“ตาฉันบ้าง!” ซูเซียวตะโกนออกมาพร้อมกับขว้างเวทมนตร์ธาตุไฟระดับมัชฌิมในมือของตนเองออกไปด้วย
เช่นกัน
ทาสถ้ําหลายตัวที่กําลังโซเซจากกระแสน้ําเกรี้ยวกราดเมื่อครู่ พวกมันตื่นตระหนกทันทีเมื่อได้เห็นเปลวไฟ เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่พวกมันหวาดกลัวที่สุดคือ ไฟ!
เปลวไฟรุนแรงทําให้ทั่วทั้งอุโมงค์สว่างขึ้นอย่างฉับพลัน อสูรเวทไม่อาจหลบการโจมตีตรงหน้าได้อย่างสมบูรณ์ พวกมันกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวนและเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจยอมรับ เปลวไฟรุนแรงเผาไหม้ พวกมันจนกลายเป็นเถ้าถ่าน สิ่งสุดท้ายที่เหลือทิ้งไว้มีเพียงเศษกระดูกและกลิ่นของเนื้อไหม้ที่โชยไปทั่วบริเวณ…