จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 212
บทที่ 212. ทั้งหมดที่มี!
แน่นอนว่าความแข็งแกร่งของโม่ฝานนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากแล้ว แต่ทว่าโม่เชียงผู้ซึ่งเป็นบิดาของเขาและซินเซียนั้นไม่มีความสามารถที่จะปกป้องตนเองได้
อีกทั้งหยู่อั้นยังคงมีชีวิตอยู่ กลุ่มศาสตร์มีดสามารถทําทุกวิถีทางเพื่อให้โม่ฝานคายน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ออกมาให้ได้ ซึ่งหนทางที่ดีที่สุดคือการจัดการกับคนที่มีความสัมพันธ์กับเขา!
ถ้าเป็นเช่นนี้ไม่ดีแน่ เขาไม่สามารถนั่งเฉยๆเพื่อรอคอยความตายได้ ศัตรูอยู่ในที่มืด ส่วนเขานั้นอยู่ในที่สว่าง…อันตรายเกินไป!
“ หลิงหลิงช่วยบอกอาวุโสเปาให้ที่ว่าฉันไม่ต้องการคนคุ้มครอง ช่วยบอกศิษย์พี่ต้าเฉิงที่ว่าช่วยปกป้องบิดาของฉัน เขาชื่อโม่เซียจิง ส่วนเธอหลิงหลิง ฉันขอร้องให้เธอได้โปรดช่วยปกป้องน้องสาวของฉันที เธอชื่อเหย่ซินเซีย” โม่ฝานยกหูโทรศัพท์เพื่อต่อสายตรงหาหลิงหลิงในทันที 2014
“ภารกิจของพวกเราคือปกป้องนาย” หลิงหลิงกล่าว
“ถ้าหากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาเหล่านี้ ฉันก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ฉันจะกลายเป็ นตายทั้งเป็น!” โม่ฝานโต้กลับอย่างเขร่งขรึม
“เรื่องนั้น” หลิงหลิงลังเล
อย่างไรก็ตาม อาวุโสเปาได้กล่าวแทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “ต้าเฉิงไปปกป้องพ่อของโม่ฝาน ส่วนหลิงหลิงไปดูแลน้องสาวของเขา!”
“ขอบคุณครับ” โม่ฝานรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้ง
“ข้างๆตัวเธอจะไม่มีทั้งต้าเฉิงและหลิงหลิง ศิษย์คนอื่นของฉันไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ในตอนนี้ไม่มีใครเลยที่ว่างจะมาปกป้องเธอ ดังนั้นถ้าหากว่าเธอยืนกรานเช่นนี้จงระมัดระวังตนให้มาก ถ้าหากเป็นไปได้ก็ขอให้มาหลบอยู่ที่หน่วยล่านิ่งเทียนสักระยะหนึ่งก่อน แน่นอนว่าในพื้นที่แห่งนี้ไม่มีใครกล้าที่จะยั่วยุตาเฒ่าเปาคนนี้อย่างแน่นอน อาณาเขตทั้งหมดนี้เป็นของฉันและไม่มีใครที่จะสร้างปัญหาให้กับเธอได้!” อาวุโสเปากล่าวออกมาอย่างหนักแน่น
“ผมต้องการจะพบปะกับพวกมันด้วยตนเอง ด้วยวิธีเช่นนี้ผมจะเอาโลหิตของพวกมันกลับไปล้างหลุมศพของชาวเมืองให้ได้ในปีหน้าที่ผมจะกลับบ้าน!” โม่ฝานกล่าวตอบหนักแน่นเช่นกัน
ถ้าหากว่าเป็นกลุ่มศาสตร์มีตที่ต้องการจะจัดการกับเขาจริงๆล่ะก็ โม่ฝานจะทําให้พวกมัน ได้รู้ว่าทั้งหมดที่มันคิดจะทําในตอนนี้คือความผิดมหันต์
ในอดีตที่ผ่านมาความอ่อนแอของเขานั้นมีมากเกินไป ความอ่อนแอนั้นทําให้เขาได้แต่จ้องมองสถานการณ์อย่างไร้ประโยชน์และไม่สามารถทําอะไรได้เลย
ย้อนกลับไปที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงยิม โม่ฝานมองเห็นหญิงสาวมากมายกําลังคลานออก มาจากซากศพของปีศาจอสูรเกล็ดเขียว โม่ฝานตระหนักได้ทันทีว่าพวกเธอเหล่านี้ไม่ต่างจากชาว เมืองบ่อแม้แต่น้อย ชาวเมืองทุกคนต่างก็ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเหมือนกับเด็กพวกนี้เช่นกัน พวกเขาร้องขอการมีชีวิตอยู่ ทุกคนต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไป! ไม่แม้แต่เหย่วหยู่ที่มอบชีวิตของตนเองเพื่อต่อชีวิตให้กับจางหู! ในจังหวะสุดท้ายที่เธอได้ตายจากไป เธอได้เปลี่ยนหัวใจของชายผู้ได้รับของขวัญคนนั้นไปตลอดกาล
นั่นคือเหตุผลที่โม่ฝานตั้งใจจะวิ่งเข้าไปในโรงยิมเพื่อที่จะช่วยเหลือชีวิตของทุกคนที่ตกเป็นเหยื่อ เมื่อไหร่ก็ตามที่ความแข็งแกร่งของคุณสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ ก็จงทํามันซะ ถ้าหากว่า หันหลังและเดินหนีไปเฉยๆ การกระทําชั่วช้าเหล่านี้จะกลายเป็นตราบาปติดอยู่ในใจของคุณไปตลอดชีวิต เช่นนี้คุณธรรมและความต่ำช้าของจิตใจบุคคลผู้นั้นก็ไม่ต่างอะไรจากสุนัขที่อยู่ในกลุ่มศาสตร์มีดพวกนั้น!
แม้ว่าบางที่จิตใจของเขาจะไม่ให้แข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวมากเช่นกัปตันฮือต้าฮวงหรืออาจจะ ไม่ได้แน่วแน่มากเท่ากับเหย่วหยู่ที่ใช้ชีวิตของตนเองเพื่อบอกรักชายหนุ่มที่อยู่ในจิตใจของเธอเสมอมา อย่างไรก็ตามถ้าหากว่าในตอนนั้นเขามีกําลังมากพอ เขาก็สาบานได้ว่าตัวของเขาจะใช้ทุกสิ่งที่มีเพื่อจัดการกับกลุ่มศาสตร์มีดให้แหลกออกเป็นเสี่ยงๆเช่นกัน!
เฮอะ แม้ว่าพวกแกจะโหดเหี้ยมและไว้จิตใจเสียยิ่งกว่าอสูรเวทเหล่านั้น
น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินที่พวกแกต้องการนั้นอยู่ในมือของพ่อของแกที่ชื่อโโม่ฝานคนนี้ ถ้าแก มีทักษะมากพอก็จงมาหยิบฉวยมันไปซะ!
ณ เวลานี้ ถ้าหากว่าใครกล้าย่างกรายเข้ามา ฉันจะใช้ทั้งหมดที่มีเพื่อส่งพวกแกไปนรก!
“โอ้? เธอแน่ใจแล้วงั้นเหรอว่าพร้อมสําหรับสิ่งนี้แล้ว?” อธิการบดีเชียวรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เขายังเห็นนักเรียนคนนี้อีกครั้ง
“ครับ ผมต้องการที่จะเข้าใจงานหอคอยสามชั้นเพื่อฝึกฝน” โม่ฝานตอบกลับอย่างมุ่งมั่น
กลุ่มศาสตร์มีดจะต้องส่งบุคคลที่แข็งแกร่งอย่างมากเพื่อมาจัดการกับเขาอย่างแน่นอน โม่ฝานไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก แต่ทว่าอาวุโสเปาบอกกล่าวกับเขาว่านักเวทระดับสูงส่วนใหญ่นั้นมักจะถูกควบคุมอยู่ นอกจากนั้นภายในสถาบันเมิงจู่แห่งนี้เป็นอธิการบดีเขียวที่คอยดูแลความปลอดภัยต่างๆ เช่นนี้จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่นักเวทระดับสูงจะโผล่มาเพื่อซุ่มโจมตีเขาภายในสถาบันแห่ง
ตอนนี้กลุ่มศาสตร์มีดกําลังถูกสมาพันธ์นิติบัญญัติควบคุมและเฝ้ามองอย่างเข้มงวด อีกทั้งยัง มีกลุ่มนักเวททรงอิทธิพลมากมายคอยจับตามองพวกมันอยู่
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านั้นเปรียบได้เหมือนกับตาข่ายขนาดใหญ่ แม้ว่าพวกเขาจะเข้มงวดใน การเฝ้าระวังกลุ่มศาสตร์มีดได้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่วายมีปีศาจบางตัวที่สามารถหนีออกมาได้เช่นกัน หรือถ้าหากว่าพวกมันไม่สามารถมาจัดการโม่ฝานได้ด้วยตนเอง มันก็จะต้องจ้างวานให้ผู้อื่น มาแทนอย่างแน่นอน ด้วยเหตุเช่นนี้ทั้งสมาพันธ์นิติบัญญัติและสถาบันเมิงจู่คงไม่อาจที่จะ ปิดกั้นพวกมันเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์แน่นอนสําหรับการหลบซ่อน
เขาสามารถหลบซ่อนตัวได้สักระยะเวลาหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถหลบได้ตลอดใบบนโลกใบนี้ ไม่ฝานไม่อาจจะตัดขาดโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ตลอดชั่วชีวิตได้!
อีกทั้งเขายังไม่มีความคิดที่จะหลบซ่อนตลอดไปเช่นกัน
“เอาล่ะ ฉันจะช่วยจัดการเรื่องนี้ให้แล้วกัน ส่วนในเวลานี้เธอจําเป็นจะต้องอยู่ภายในสถาบัน และพุ่งเป้าหมายไปที่การฝึกฝนของเธอเท่านั้น” อธิการบดีเชียวตอบ
“ขอบคุณครับอธิการบดี!” โม่ฝานโค้งหนึ่งครั้ง หอคอยสามชั้นนี้มีพลังคล้ายกับบ่อน้ําศักดิ์สิทธิ์ใต้ดิน ซึ่งแน่นอนว่ามันจะส่งผลต่อความแข็งแกร่งของเขาอย่างมาก
“ไม่จําเป็นจะต้องขอบคุณฉันหรอก ทุกสิ่งอย่างนี้เธอได้มันมาเพราะการต่อสู้เพื่อตนเองทั้งสิ้น ความสามารถของเธอนั้นเป็นที่ประจักษ์อย่างแท้จริง อีกทั้งเธอยังมีส่วนร่วมอย่างมากในการช่วย เหลือสถาบันแห่งนี้เอาไว้ในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามรางวัลนี้ก็เป็นของเธออยู่เช่นเดิม แต่มันเกือบจะพังทลายลงไปเพียงเพราะเธอเกือบจะสังหารคนๆหนึ่งเพียงเพราะเข้าใจผิดว่าพวก เขาคือกลุ่มศาสตร์มีตน่ะนะ…” อธิการบดีเชียวตอบกลับด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“คุณรู้เรื่องของผมทั้งหมดแล้วงั้นเหรอ?” โม่ฝานถามออกมาอย่างตกใจ
“เอาละ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วฉันจะแจ้งเธออีกครั้งแล้วกัน” อธิการบดีเชียวตอบกลับ
“อ่า งั้นผมขอตัวก่อนแล้วกัน”
ขณะที่โม่ฝานเดินออกจากห้องไปอาจารย์คนหนึ่งเดินเข้ามาหลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่เดินสวนกัน
อาจารย์อู่ฮั่นมองไปที่โม่ฝานที่เพิ่งเดินออกไปสักครู่หนึ่งผ่านหน้าต่าง จากนั้นเขาหัน กลับไปมองอธิการบดีเชียวควยใบหน้าใครรู้
“ในเมื่อเราได้รับการแจ้งเตือนแล้วทําไมเราจึงไม่ซ่อนเขาไว้ล่ะ? กลุ่มศาสตร์มีดนั้นมีความสามารถที่จะทําอะไรก็ย่อมได้ พวกมันไม่เลือกวิถีที่จะจัดการกับเป้าหมายอย่างแน่นอน พวกเรานั้นอยู่ในที่สว่างไม่มีทางที่จะรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้หรอก” อาจารย์อู่ฮั่นกล่าวออกมาอย่างจริงจัง
“การจัดการกับกลุ่มศาสตร์มีดนั้นเป็นหน้าที่ของทุกคน สถาบันของเรานั้นควรจะมีจุดยืนนี้ด้วยเช่นกัน หลังจากที่ได้ตรวจสอบจากแหล่งข่าวต่างๆแล้ว ล่าสุดนี้กลุ่มศาสตร์มืดได้ถูกปิดกั้นไว้อย่างแน่นหนา สมาพันธ์นิติบัญญัติได้จับกุมเงาของพวกมันไว้ทั้งหมด ดังนั้นก่อนหน้านี้พวกมันจึง ไร้การเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น พวกมันทั้งหมดนิ่งเฉยมานานนับปี ซึ่งในตอนนี้ถึงเวลาที่พวกมันเหล่านั้นเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งแล้ว นอกจากนี้เป้าหมายของมันคือนักเรียนของเราอีกด้วย ฉันสันนิษฐานว่าในตัวของโม่ฝานนั้นมีบางสิ่งบางอย่างที่พวกมันต้องการ แน่นอนว่าถ้าหากว่าคุณรู้ก็คงจะต้องการมันด้วยเช่นกัน ของสิ่งนั้นสําคัญและล้ําค่าอย่างมากแน่นอน ถ้าไม่อย่างนั้นพว กมันคงไม่รีบร้อนเคลื่อนไหวกันรวดเร็วถึงเพียงนี้แน่” อธิการบดีเชียวกล่าววิเคราะห์พร้อมลูบเคราของตน
“เช่นนี้สมาพันธ์นิติบัญญัติจึงคิดจะใช้แผนเคลื่อนย้ายกลุ่มศาสตร์มีดเพื่อแสร้งปลดปล่อยพวกมันเล็กน้อย เพื่อที่จะดูว่าแผนต่อไปของพวกมันคืออะไรงั้นเหรอ? พวกเขากําลังต้องการที่อยู่ของซาลังใช่ไหม?” คู่ฮั่นกล่าว
“เป็นเช่นนั้น สิ่งนี้จึงทําให้โม่ฝานตกอยู่ในอันตราย…อย่างไรก็ตามฉันเชื่อว่าเด็กคนนี้สามารถปกป้องตนเองได้ แต่สําหรับกลุ่มศาสตร์มดนั้นพวกมันประสบความสําเร็จ ในการก่ออาชญากรรมมาเนิ่นนานหลายปีแล้ว ถ้าหากว่าพวกเราไม่สามารถจับกุมตัวการของมันได้ ไม่รู้ว่าจะมีอีกสักกี่เมืองที่จะต้องพบเจอหายนะเช่นเดียวกับเมืองบ่อ” อธิการบดีเชียวกล่าว
เรื่องราวของเมืองบ่อนั้นผ่านมานานสองสามปี ผู้คนอาจจะลืมเลือนมันไปจนหมดสิ้นแล้ว แต่ทว่ารัฐบาล สมาพันธ์นิติบัญญัติสมาคมนักล่าและกองกําลังอื่นๆไม่อาจจะลืมเลือนเรื่องเหล่านี้แน่นอน พวกเขาทั้งหมดไม่คิดจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปไหนทั้งสิ้น มันจะต้องมีคนรับผิดชอบกับเรื่องราวทั้งหมดนี้
“เนื่องจากว่าเราได้รับแจ้งจากสมาพันธ์นิติบัญญัติโดยตรง ทําไมเราไม่บอกกับโม่ฝานไปเลย ล่ะว่าสุดท้ายแล้วตัวของเขาคือเหยื่อล่อ อย่างน้อยมันก็เป็นสิ่งที่เขาควรจะรู้” คู่ฮั่นถามอย่างสงสัย
“เขาเป็นบุรุษที่ฉลาดและมีไหวพริบ ฉันเชื่อว่าลึกๆนั้นเขารู้ตัวดีอยู่แล้ว ถ้าหากว่าเขาเกรงกลัวพวกมัน แน่นอนว่าเขาจะต้องหาวิธีหลบซ่อน แต่ทว่าในตอนนี้เขาต้องการเข้า สู่หอคอยสามขั้นเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเอง เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการที่จะต่อสู้กับกลุ่มศาสตร์มืดด้วยตนเอง เรื่องทั้งหมดนี้เขาตัดสินใจแล้ว” อธิการบดีเชียวกล่าวออกมา
“ไม่ว่าอย่างไรก็ยังอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ กลุ่มศาสตร์มีดนั้นหยาบโลนและไร้ความปราณีอย่างแท้จริง มันยากที่จะปกป้องเขาอย่างมากในเมื่อสุดท้ายแล้วเขาก็เป็นเพียงนักเรียนเท่านั้น…”
“เชื่อในตัวเขาและพลังของเขาเถอะ ฉันบอกได้เพียงเขาแข็งแกร่งและฉลาดกว่าที่พวกเราคิดไว้มากเลยหละ” อธิการบดีเชียวตอบออกมาอย่างมั่นใจ
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ต่อสู้ครั้งใหญ่ของโม่ฝาน ที่เขาเกือบจะสังหารคนลงไป อธิการบดี เขียวได้รับการติดต่อจากสมาพันธ์นิติบัญญัติ เช่นนั้นเขาจึงรู้เหตุผลทันที่ว่าทําไมไม่ฝานจึงได้ลงไม้ ลงมือหนักเกินกว่าเหตุนัก
โม่ฝานรู้ดีว่าในตอนนี้ชีวิตของเขากําลังตกอยู่ในอันตรายอย่างถึงที่สุด
แต่อย่างไรก็ตามโม่ฝานนั้นไม่คิดที่จะวิ่งหนีแต่อย่างใด สิ่งนี้ทําให้อธิการบดีเขียวอดไม่ได้ ที่จะยอมรับและชื่นชมในจิตวิญญาณของนักเรียนคนนี้อย่างแท้จริง
และถึงแม้ว่าเขาอยากจะวิ่งหนีไปแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถวิ่งหนีออกจากโลกใบนี้ไปได้!
อธิการบดีเชียวคิดว่าสิ่งที่เขาและโม่ฝานได้ตัดสินใจลงไปตอนนี้คือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว!