จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 167
บทที่ 167: เถาวัลย์จองจำ
สายฟ้านั้นแข็งแกร่งมากจนถึงขั้นที่สามารถทำลายทุกสิ่งอย่างให้กลายเป็นเถ้าถ่านได้ภายในพริบตา ทุกสิ่งล้วนแต่จะสลายหายไปกลายเป็นเพียงฝุ่นละอองและไม่เหลือร่องรอยอะไรไว้เบื้องหลัง นี่คือสาเหตุที่อาจารย์กู่ฮั่นยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือไป๋ฉางฟ่งในคราวนั้น แม้ว่าเขาจะมั่นใจในอุปกรณ์ป้องกันของตนเอง แต่ทว่าพลังของสายฟ้านั้นอาจจะรุนแรงและเกราะระดับมัชฌิมก็ไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้ กู่ฮั่นไม่คิดที่จะเสี่ยงเอาตำแหน่งของตนเองเป็นเดิมพันว่าเด็กคนนั้นจะรอดพ้นจากสายฟ้าที่เกรี้ยวกราดนี้ได้ด้วยตนเอง เช่นนี้เขาจึงตัดสินใจที่จะยื่นมือเข้าไปในวินาทีสุดท้าย
และในตอนนี้มู่หนิวเจี่ยงกำลังเผชิญสถานการณ์เดียวกันกับไป๋ฉางฟ่ง!
เมื่อสายฟ้าได้ฟาดฟันลงมา มันจะสร้างความบาดเจ็บสาหัสในทันทีแก่ผู้ที่โชคร้ายคนนั้น ถ้าหากว่าศัตรูไม่ตายก็มักจะอยู่ในขั้นวิกฤตแน่นอนถ้าไม่สามารถหลบเลี่ยงมันได้พ้น แม้แต่อุปกรณ์เวทป้องกันก็ไม่เพียงพอที่จะต่อต้านพลังแห่งอสนีบาตได้ มันอาจจะทำลายอุปกรณ์เวทป้องกันและเจ้าของผู้นั้นไปพร้อมๆกันเลยอย่างไม่ยากเย็นนัก!
แต่ในเวลานี้ กู่ฮั่นยืนมองสถานการณ์อย่างสงบ
เขาได้เห็นมู่หนิวเจี่ยวปกป้องตนเองแล้ว อีกทั้งการกระทำของมู่หนิวเจี่ยงทั้งหมดในตอนนี้ถูกจับจ้องด้วยคนโง่เง่าดั่งเช่นไป๋ฉางฟ่งอีกด้วย!
“วายุเงาล่องหน!” มู่หนิวเจี่ยงที่ก่อนหน้านี้เคลื่อนที่อย่างชักช้า ในตอนนี้เกิดเป็นพายุก่อตัวขึ้นรอบตัวของเธออย่างรวดเร็ว พวกมันทั้งหมดเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในอากาศล้อมรอบเธอเอาไว้
ท่ามกลางสายฟ้าที่บ้าคลั่ง ร่างกายที่โค้งเว้าของเธอนั้นเคลื่อนไหวไปตามสายลมอย่างคล่องแคล่ว เสื้อผ้าทั้งหมดของเธอเต้นไหวตามแรงลมอย่างดุเดือด
สายฟ้าที่เกรี้ยวกราดได้พุ่งทำลายพื้นดินบนเวทีทันที รูขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้นของเวทีอย่างช่วยไม่ได้ แต่ทว่าร่างกายของมู่หนิวเจี่ยงได้เคลื่อนย้ายห่างจากตรงนั้นไปไกลกว่าสิบเมตรแล้ว!
ถ้าหากว่าเส้นทางดวงดาวธาตุสายฟ้านี้เสร็จสิ้นก่อนที่เธอจะทำอะไรเสร็จสิ้น แน่นอนว่าสายฟ้าที่เกรี้ยวกราดนี้จะต้องได้ย่างสดร่างกายบอบบางของเธออย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ย่ำแย่สำหรับโม่ฝานก็คือเวทของเขานั้นชักช้าเกินไป มู่หนิวเจี่ยงได้เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับมันเสร็จสิ้นแล้ว ในขณะที่กู่ฮั่นกำลังยืนมองสถานการณ์อยู่นั้น เขาได้แต่พยักหน้าอย่างชื่นชม
โหดเหี้ยมและว่องไหวคือสไตล์ของอสนีบาตระดับมัชฌิม!
หลังจากที่ได้เห็นว่ามู่หนิวเจี่ยงได้หลบเลี่ยงสายฟ้าดุร้ายนี้อย่างไร เห็นได้ชัดว่าเธอนั้นมีความเข้าใจในสายฟ้าระดับมัชฌิมเป็นอย่างดี เส้นทางวายุของเธอเตรียมพร้อมไว้ตั้งนานแล้วเพื่อที่จะใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
สิ่งที่เธอต้องทำในตอนนี้ก็คือเฝ้ารอให้โม่ฝานร่ายเวทให้เสร็จสิ้น จากนั้นเธอจึงค่อยย้ายก้นของตัวเองออกจากตำแหน่งเดิมให้เร็วที่สุดเท่านั้น
ถ้าหากว่าเธอเคลื่อนย้ายเร็วเกินไป เขาก็จะสามารถคาดเดาตำแหน่งของเธอได้และจัดการเปลี่ยนตำแหน่งได้ทันเวลา แต่ถ้าหากว่าเธอช้าเกินไป ก็คงไม่อาจจะหลบหลีกสายฟ้าที่รุนแรงนี้ได้พ้น เช่นนี้การเลือกเวลาในการหลบหนีสายฟ้าของโม่ฝานนี้จำเป็นจะต้องคาดเดาให้แม่นยำเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด!
โม่ฝานตกใจกับภาพตรงหน้าอย่างมาก ‘ช่างเป็นหญิงสาวที่ยอดเยี่ยมจริงๆ! เธอสามารถหลบสายฟ้าได้!’
เพราะท้ายที่สุดแล้วการหลบเลี่ยงสายฟ้าในวินาทีสุดท้ายนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะทำได้…
“ดูเหมือนว่านายกำลังจะแพ้นะ
เส้นทางลมที่เธอใช้นั้นเป็นสิ่งที่สายฟ้าของโม่ฝานไม่อาจจะผ่าเข้าไปถึงได้เลย…
ซึ่งในเวลานี้ เธอจะไม่ยินยอมให้โม่ฝานนั้นได้มีโอกาสใช้เวทสายฟ้าได้อีกเป็นครั้งที่สอง!
“อย่างงั้นเหรอ? ถ้าหากว่าเธอจะใช้พายุหมุนทอร์นาโดอีกครั้ง แน่นอนว่าฉันจะสามารถหลบมันได้ก่อนที่มันจะมาถึงฉันซะอีก” โม่ฝานกล่าวพร้อมกับสายตาที่จ้องเขม็งไปที่เธออย่างมั่นใจ
พายุหมุนทอร์นาโดนั้นมีขนาดใหญ่ก็จริงแต่ความเร็วของมันค่อนข้างที่จะช้ามาก ดังนั้นโม่ฝานจึงมีช่วงเวลาหนึ่งเพื่อหลบไปยังอีกฝากของเวทีและจัดการกับพายุหมุนนี้ในภายหลัง
“ฉันพูดออกไปงั้นเหรอว่าฉันจะใช้เวทมนตร์ธาตุลม?” มู่หนิวเจี่ยงกล่าวออกมาด้วยใบหน้าเปื้อยยิ้ม ความสดใสนั้นเผยให้เห็นถึงความร้ายกาจที่หลบซ่อนอยู่ภายใน
แม้ว่ารอยยิ้มที่ถูกเผยออกมาจะดูงดงามมาก แต่โม่ฝานก็รู้สึกได้ถึงอันตรายของมัน!
“เถาวัลย์จองจำ!”
เส้นทางดวงดาวสีเขียวปรากฏขึ้นพร้อมกับเถาวัลย์บิดเบี้ยวไปตามพื้นดิน มันปรากฏขึ้นมาที่ใต้ฝ่าเท้าของมู่หนิวเจี่ยง สัญลักษณ์โดยธรรมชาติปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับพลังที่แข็งแกร่ง
เธอเอ่ยชื่อคาถาของตนเองเบาๆราวกับว่ามันเป็นคาถาที่ถูกลืมไปนานแล้ว ในขณะนั้นเธอเริ่มควบคุมมันอย่างรวดเร็ว พลังของพวกมันถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกับค่อยๆเลื้อยคลานออกไปทุกหนแห่งโดยรอบทันที
เพียงดีดนิ้วหนึ่งครั้ง เธอเปลี่ยนเถาวัลย์ที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ให้เรืองรองไปด้วยแสงสีเขียวอย่างน่าดึงดูด ทุกสิ่งกลายเป็นเมล็ดสีเขียวตกหล่นอยู่ทั่วพื้นดิน
ทันใดนั้นเองเมล็ดเหล่านั้นฝังตัวเองลงไปในพื้นดินอย่างเร็วรี่ ซึ่งพวกมันอยู่ไม่ห่างจากโม่ฝานนัก ฉับพลันเมื่อพวกมันทั้งหมดมุดลงดินไป ความเปลี่ยนแปลงปรากฏขึ้นในทันที
มีบางสิ่งบางอย่างกำลังผุดขึ้นมาจากพื้นดิน! ก่อนที่โม่ฝานจะทันได้ตั้งตัว เถาวัลย์ขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พวกมันงอกออกมาจากบนพื้น….
ความเร็วของพวกมันสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า พื้นที่อยู่รอบๆแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆในขณะที่พวกมันพยายามจะเข้ามาแทนที่ในเขตแดนนี้!
ในขณะนี้บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยต้นเถาวัลย์ที่แน่นหนาและแข็งแกร่ง พวกมันแตกกิ่งก้านออกไปอย่างรวดเร็วราวกับอสูรร้าย พื้นที่ทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยพืช!!!
เพียงไม่กี่วินาทีถัดมา พื้นที่ทั้งหมดที่เคยเต็มไปด้วยเมล็ดทราย ก้อนหินต่างๆ ถูกแทนที่ด้วยเถาวัลย์ปีศาจนี้อย่างสมบูรณ์ อสูรร้ายได้รับอนุญาตให้ปรากฏตัวบนพื้นที่แห่งนี้ มันกำลังยึดครองทุกอย่างด้วยความหิวกระหาย!
เห็นได้ชัดเจนว่าพืชเหล่านี้มีพลังที่สามารถตรวจจับสิ่งมีชีวิตได้ พวกมันรับรู้ถึงการยืนอยู่ของโม่ฝานพร้อมทั้งพุ่งเข้าหาและล้อมรอบเขาในทันที โม่ฝานไร้หนทางที่จะหลบหนี พวกมันทั้งหมดปิดกั้นเส้นทางและเริ่มคุมขังเขา!
พวกมันค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้ไม่มีใครสามารถมองเห็นรากหยั่งลึกของพวกมันได้อีกแล้ว
กิ่งก้านของพวกมันเลื้อยใหลปกปิดทางออกทั้งหมดราวกับจะปิดกั้นผู้ที่ถูกคุมขัง เถาวัลย์ไม่เปิดโอกาสให้มีทางออกหรือแสงเล็ดลอดเข้ามาแม้แต่นิดเดียว!
สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่งอกเงยขึ้นมาจากเมล็ดพันธุ์เมื่อครู่ ร่างกายของโม่ฝานไร้แรงต้านและไม่มีหนทางจะก้าวเดินออกไป!
นักเรียนที่เฝ้ามองอยู่ด้านข้างล้วนแต่ประหลาดใจว่าเถาวัลย์เหล่านี้มันมาจากที่ใดกัน
ในก่อนหน้านี้พายุหมุนทอร์นาโดนั้นเป็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจอย่างมากในหมู่นักเรียนทั้งหมด แต่ทว่าตอนนี้มู่หนิวเจี่ยงกำลังสร้างความประหลาดใจครั้งใหม่ด้วยเถาวัลย์นี้อีกครั้ง!
แม้แต่นักเรียนที่อยู่ในปีแก่ก็อาจจะไม่เหมาะสมที่จะต่อสู้กับเธอด้วยซ้ำ!
แต่สุดท้ายแล้วถ้าหากว่าพวกเขายังไม่ได้เข้าสู่ระดับมัชฌิม ก็ไม่สามารถที่จะเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควรกับเธอได้ นี่ยังไม่รวมถึงการที่เธอฝึกฝนธาตุทั้งสองของตนเองจนเข้าสู่ระดับมัชฌิมแล้ว!
ในตอนนี้การแข่งขันประลองเวทกับอสูรร้ายได้กลายเป็นการแข่งขันระหว่างนักเวทระดับมัชฌิมทั้งสองคนโดยสมบูรณ์
มีนักเรียนบางคนกำลังตั้งข้อสงสัยว่าพวกเขากำลังทำผิดกฏหรือไม่…
อีกอย่างทั้งมู่หนิวเจี่ยงและโม่ฝานต่างก็เป็นเพียงนักเรียนใหม่ทั้งคู่ แต่พวกเขากลับใช้เวทระดับมัชฌิมได้อย่างง่ายดาย พวกเขาทำอย่างนั้นได้อย่างไรกัน?!?
แน่นอนว่าเพียงแค่ธาตุหนึ่งทะลุเข้าระดับมัชฌิมแล้วก็คงไม่แปลกมาก แต่ทว่าเหตุใดธาตุทั้งสองของเธอจึงเป็นระดับมัชฌิมทั้งหมด?!? นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?!
แล้วเช่นนี้พวกเขาควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกหรือไม่ ในเมื่อสัตว์ประหลาดเหล่านี้ได้เปิดเผยตัวตนออกมาแล้ว!!!???