จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up - ตอนที่ 47
ตอนที่ 47 พลังที่บดขยี้ทุกสิ่ง
พื้นปฐพีสั่นสะเทือนเลือนลั่น
ฝูงชนต่างรับรู้ถึงแรงปะทะของขุมพลังที่แข็งแกร่งทั้งสองสาย พวกมันจับจ้องไปที่เวทีประลองอย่างไม่อาจทำใจเชื่อได้ลง
ฉินเทียนถอยหลังไปครึ่งก้าว ขณะที่ทางฝั่งเสี่ยวหยูเฟิงถอยไปหลายก้าว
มองจากภายนอกจะเห็นว่าทั้งสองมีฝีมือไม่ห่างชั้นกันสักเท่าใด กระนั้นก็ชัดเจนว่าเสี่ยวหยูเฟิงถือว่าพ่ายแพ้เนื่องเพราะมันอยู่ขั้นก่อตั้งวิญญาณระดับที่หกแล้ว ไม่ว่าจะในด้านของความแข็งแกร่งและพลังปราณ มันสมควรเหนือกว่าฉินเทียน
ความโกรธของมันปะทุขึ้นจนส่งผลให้ลมหายใจเริ่มถี่รัว มันรั้งรวมพลังปราณเข้าสู่ตัวกระบี่จนกระบี่คล้ายกลายเป็นอสรพิษวิญญาณที่ทำให้ผู้คนรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน
ลมหายใจของเสี่ยวหยูเฟิงเริ่มถี่กระชั้น
ฉินเทียนลอบหัวอยู่ในใจ การโจมตีเมื่อครู่เขาเพียงใช้เคล็ดมังกรฟ้าซึ่งใช้ค่าพลังปราณไปเพียงห้าร้อยหน่วย กระนั้นเขาก็ยังประหลาดใจเพราะเสี่ยวหยูเฟิงนั้นแข็งแกร่งกว่าที่เขาคาดไว้ “ความแข็งแกร่งของระดับที่หกขั้นก่อตั้งวิญญาณไม่เรียบง่ายอย่างที่คิด…”
“แต่นั่นก็ไม่นับเป็นอย่างไร”
เมื่อคิดเช่นนั้น พลังปราณของเขาก็ปะทุขึ้นและปลดปล่อยกลิ่นอายทรงพลังออกมา เขาหันไปมองเสี่ยวหยูเฟิงก่อนจะกล่าวว่า “เจ้านี่ช่างน่าสงสารเสียจริงนะ….”
“ห้าปีก่อนเจ้าพ่ายแพ้”
“วันนี้เจ้าก็ยังจะพ่ายแพ้อีก”
“ทั้งยังต้องจบชีวิตลง…”
เมื่อกล่าวเช่นนั้นพลังปราณของเขาก็ระเบิดออกจนสามารถมองเห็นว่าอากาศเกิดการกระเพื่อมขึ้นมา
“ช่างเป็นปราณที่แข็งแกร่งนัก”
“ด้วยระดับบ่มเพาะเพียงระดับที่สี่ พลังปราณของมันกลับไม่ด้อยไปกว่าระดับที่หกเลย เป็นไปได้หรือไม่ว่าพลังปราณของมันเหนือล้ำไปกว่าขั้นที่หกแล้ว”
“เพียงไม่ถึงเดือนดี มันก็ก้าวหน้าถึงเพียงนั้น นี่น่าตกตะลึงนัก ภายภาคหน้ามันจะไม่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองชิงเหอเลยหรือ”
……………………………..
เสียงอื้ออึงพลันเกิดขึ้นทุกที่ เส้นเลือดที่หน้าผากของเสีย่วหยูเฟิงปูดโปนจนเห็นได้ชัดเจน เพื่อการต่อสู้ครั้งนี้ มันได้เก็บตัวฝึกฝนอย่างกล้ำกลืนเป็นเวลากว่าห้าปี แรงจูงใจเพียงหนึ่งเดียวก็คือ การล้างแค้น
“พลังปราณที่ทรงพลังงั้นหรือ”
“ต้องการใช้มันสะกดข้าหรือ”
“เจ้ามันก็แค่สวะที่จุดตันเถียนเสียหาย”
สีหน้าของเสี่ยวหยูเฟิงยังคงเรียบเฉย ร่างของมันลอยขึ้นกลางอากาศ กระบี่ของมันทะลวงผ่านอากาศก่อนจะหายไป ไม่นานก็มีกระบี่ขนาดมหึมาก่อร่างขึ้น
ที่กลางเวทีประลอง กระบี่นับพันเล่มเริ่มสั่นสะเทือนก่อนจะประกอบเข้าด้วยกันเป็นกระบี่ขนาดใหญ่
เหล่าผู้อาวุโสของสี่ตระกูลต่างลุกขึ้นและโคจรพลังปราณทันที การลงมือของเสี่ยวหยูเฟิงครั้งนี้นับว่าน่าพรั่นพรึงไปแล้ว มันสามารถทำลายเวทีประลองอื่นๆรวมทั้งทำร้ายผู้คนที่ชมอยู่โดยรอบ
“ไม่คิดเลยว่าเสี่ยวลี่จะมีบุตรที่โดดเด่นเพียงนี้” แววตาของจ้าวอู่ตี้เผยร่องรอยของความอิจฉา ทว่าวินาทีถัดมามันก็ถูกแทนที่ด้วยความต้องการฆ่าที่รุนแรง จ้าวคงที่อยู่ด้านข้างเองก็ยังรู้สึกตกใจกับการลงมือของเสี่ยวหยูเฟิง มันจะสามารถต้านทานการลงมือนี้ได้หรือไม่
“ห้าปีที่ผ่านมา ข้าได้เตรียมกระบี่นี้ไว้เพื่อเจ้า”
“เจ้าสมควรยินดี”
“ฉินเทียน ให้กระบี่ของข้าบอกต่อเจ้าแล้วกันว่าผู้ใดคืออัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งเมืองชิงเหอ”
เสี่ยวหยูเฟิงที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง พลังปราณของมันควบแน่นจนก่อเป็นปราณกระบี่ขึ้นมา ตัวกระบี่ยิ่งมายิ่งแหลมคม
ฉับพลันเสี่ยวหยูเฟิงก็หยุดหัวเราะและตะโกนออกมา “กระบี่ทลายนภา”
ท้องฟ้าพลันสั่นสะเทือนคล้ายจะถูกฉีกออกได้ทุกเมื่อ กระบี่นี้ช่างทรงอานุภาพนัก เวลาเดียวกับที่เสี่ยวหยูเฟิงตวัดกระบี่ลง ตัวกระบี่ก็พลันโจมตีเข้าใส่ฉินเทียน
ฉินเทียนตะโกนขึ้นในใจ “พลังมังกรพิสุทธิ์”
ภายในตันเถียนที่เสียหายมีมังกรและคชสารจากยุคดึกดำบรรพ์ก้าวออกมา เป็นมังกรสีครามและคชสารที่ร่างกายใหญ่โต ขุมพลังทั้งสองเริ่มผสานตัวเข้าด้วยกันขณะที่มีเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งดังออกมาจากด้านหลังของฉินเทียน เสียงมังกรกู่ร้องยาวนาน ตามมาด้วยเสียงคชสาร พลังมังกรพิสุทธิ์ได้ยกระดับพลังขึ้นอย่างมหาศาล สร้างเป็นแรงระเบิดขึ้นฉับพลันเข้าต้านกลิ่นอายที่เสี่ยวหยูเฟิงปลดปล่อยมา เมื่อเผชิญหน้ากับปราณกระบี่ที่ด้านบน ฉินเทียนก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งขณะที่ขุมพลังมหาศาลได้ปะทุออกมาจากร่างกายของเขา
ทั่วทั้งลานเต็มไปด้วยเสียงคำรามของสิ่งมีชีวิตยุคโบราณราวกับนี่เป็นสมรภูมิโบราณ จ้าวอู่ตี้เริ่มรู้สึกหวาดกลัว มันรีบรั้งรวมพลังปราณขึ้นต้านทานเอาไว้ ตอนนี้มันตกตะลึงอย่างยิ่ง ทักษะเช่นนี้ไม่เคยปรากฏขึ้นภายในเมืองชิงเหอมาก่อน เจ้าฉินเทียนนี่ได้ไปประสบพบโชคแบบใดมากันแน่?
พลัง เป็นพลังที่สามารถบดขยี้ทุกสิ่ง
เมื่อฉินเทียนใช้มันเขาก็รู้สึกราวกับว่าตัวเขากำลังยืนอยู่บนยอดภูเขา คล้ายกับกำลังทอดมองสรรพสิ่งจากบนยอดนั้น เสี่ยวหยูเฟิงที่เป็นเพียงผู้บ่มเพาะขั้นก่อวิญญาณระดับที่หกยังจะมีคุณสมบัติเป็นคู่มือของมังกรและคชสารจากยุคโบราณด้วยงั้นหรือ?
“ตายซะ!”
ฉินเทียนคำราม ขณะที่มังกรงับเข้าที่ปราณกระบี่ของเสี่ยวหยูเฟิง
ปราณกระบี่พลันถูกทำลายในทันที ขณะที่เสียงของคชสารได้ดังขึ้นอีกครา เสียงร้องคำรามนี้คล้ายกับสามารถบดขยี้ทุกสรรพสิ่ง ที่รูหูของเสี่ยวหยูเริ่มมีโลหิตไหลรินออกมา ร่างกายของมันตอนนี้คล้ายกำลังถูกเหยียบย่ำโดยคชสารที่ทรงพลังจนทำให้ร่างของมันดิ่งลงกระแทกพื้นอย่างหนักหน่วง
พลังมังกรพิสุทธิ์นี้แข็งแกร่งไปแล้ว
เป็นครั้งแรกที่ฉินเทียนใช้เคล็ดมังกรฟ้าขั้นแรกออกมา ดังนั้นกระทั่งตัวเขาเองยังตกตะลึงกับผลลัพธ์ อย่างไรก็ตามเขาพลันกังวลขึ้นมาเกี่ยวกับการปกปิดว่าเขาได้เรียนรู้ทักษะที่ทรงพลังเช่นนี้
เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นที่พื้นดิน ที่กึ่งกลางของมันมีเสี่ยวหยูเฟิงนอนเบิกตากว้างอย่างไม่อาจทำใจเชื่อได้ลงอยู่
เสียงแตกหักดังขึ้น ขณะที่เวทีประลองค่อยๆพังทลายลง
“หยูเฟิง!”
“ท่านพี่!”
ใบหน้าของเสี่ยวลี่เปลี่ยนเป็นซีดเผือดขณะตะโกนออกมา มันพุ่งตัวออกไปทางเวทีประลองและมองฉินเทียนด้วยความเกลียชังอย่างลึกล้ำ มองดูผู้ที่อยู่กึ่งกลางหลุมแล้ว ดวงใจของมันก็คล้ายแหลกสลายเป็นผุยผง
ไม่กี่วินาทีถัดมา ภายในใจของฉินเทียนก็มีเสียงของระบบดังขึ้น “ค่าบาปเพิ่มขึ้น 1 หน่วย ตอนนี้คุณมีค่าบาป 9 หน่วย….”
เสี่ยวหยูเฟิงตายแล้ว ตายไปพร้อมตำแหน่งอัจฉริยะอันดับหนึ่งของมัน
ฉินเทียนก้าวลงจากเวทีดั่งราชันย์ชนะศึก
ทั่วทั้งลานกว้างต่างเงียบสงัด ทุกคนตกตะลึงอ้าปากค้างเนื่องเพราะการต่อสู้ที่เพิ่งเกิดขึ้น
“นายน้อย ท่านช่างแข็งแกร่งนัก” เมิ่งเล่ยเริ่มหัวเราะอย่างเบิกบาน
เมื่อเห็นใบหน้าที่ดูตื่นเต้นของเมิ่งเล่ยแล้ว ฉินเทียนก็เดินกลับมานั่งที่ ใบหน้าของเขาเรียบเฉย กระนั้นในใจนั้นเต็มไปด้วยความยินดี “ค่าพลังปราณสามพันจุด มารดามันเถอะ พลังมังกรพิสุทธิ์นี้ทรงพลังไปแล้ว”
“อา….”
ผ่านไปพักหนึ่ง เสียงอุทานก็ดังขึ้นเซ็งแซ่ ฉากที่ปรากฏนี้ไม่มีผู้ใดเคยนึกเคยฝันมาก่อน การตอบสนองของทุกคนปั่นป่วนเนื่องเพราะพลังมังกรพิสุทธิ์
“นั่นเป็นเสียงคำรามของมังกร! เจ้าได้ยินหรือไม่? มันเป็นเสียงคำรามของมังกร…”
“ฉินเทียนแข็งแกร่งไปแล้ว”
“ห้าปีที่ผ่านมานี้เป็นมันเก็บงำฝีมืองั้นหรือ? ตระกูลฉินช่างร้ายกาจนัก”
สายตาของศิษย์ตระกูลฉินต่างแดงก่ำ พวกมันมองไปยังฉินเทียนที่กลับมานั่งที่ ฉินเทียนช่างอยู่ไกลเกินเอื้อมนัก ช่างไกลนัก
ฉินซานเทียนนั่งเงียบไม่ส่งเสียง กระทั่งใบหน้าของมันยังไม่มีรอยยิ้ม มันกำลังคิดถึงบางเรื่อง ฉินเทียนต้องได้กลืนแก่นของปีศาจกอลิล่าดุร้ายไปอย่างแน่นอน
มิเช่นนั้นจะอธิบายความก้าวหน้าที่ไม่อาจทำใจเชื่อนี่ได้อย่างไร
“ฉินเทียน เจ้ายังเก็บงำความลับอะไรไว้อีก”
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame