cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

การกลับมาของฮีโร่ - ตอนที่ 177

  1. Home
  2. All Mangas
  3. การกลับมาของฮีโร่
  4. ตอนที่ 177
Prev
Next

ตอนที่ 177

 

ความแข็งแกร่ง 97..

 

หลังจากดื่ม อีลิกเซอร์] และ [หยดเลือดโบราณกาลของเฮอร์คิวลีส] เข้าไป สเตตัสความแข็งแกร่งยกระดับเพิ่มขึ้นมา 7 จุด ซูฮยอนสัมผัสได้เลยว่าร่างกายของตนเองตอนนี้แข็งแรงขึ้นกว่าเก่า

 

สเตตัสไม่ได้มีผลแค่ในโลกหอคอยแห่งการทดสอบเท่านั้น โลกแห่งความจริงก็มีผลด้วยเช่นกัน ทุกครั้งที่สเตตัสเพิ่มขึ้น 1 จุด ผู้ตื่นขึ้นจะรับรู้ได้โดยทันทีว่าร่างกายของตัวเองเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมยิ่งไปกว่า นั้นนี่เป็นครั้งแรกที่ซูฮยอนมีโอกาสสัมผัสค่าสเตตัสความแข็งแกร่ง 97

 

<< ถ้าจําไม่ผิด ในชีวิตก่อน ค่าสเตตัสความแข็งแกร่งของฉันน่าจะอยู่ที่ราวๆ 96 นี่แหละ >>

 

ย้อนกลับไปเมื่อตอนนั้น ซูฮยอนไม่ให้ความสําคัญกับสเตตัสพื้นฐานเลย เขาสนใจแต่สเตตัสปัจจัยเวทและระดับเวทเท่านั้น [แต้มสเตตัส] ที่ได้มาหลังเคลียร์การทดสอบ มักเลือกเพิ่มลงไปที่ปัจจัยเวทหรือไม่ก็ระดับเวทเสมอ ไอเทมที่ใช้คะแนนความสําเร็จซื้อก็เหมือนกัน ทุกอย่างล้วนทําเพื่อเพิ่มพลังเวทในตัวแทบทั้งสิ้น

 

เป็นเหตุผลว่าทําไมค่าสเตตัสความแข็งแกร่งจึงหยุดนิ่งอยู่ที่ 96 เขารู้แก่ใจว่าสเตตัสความแข็งแกร่งมีประโยชน์มาก แต่เวลานั้นเขาคิดว่าค่าสเตตัสความแข็งแกร่งแค่ 96 ก็เยอะพอแล้ว ไม่มีความจําเป็นต้องเพิ่มมากไปกว่านี้…

 

น่าเสียดายที่เขาคิดผิด…..

 

<< จะว่าไปสเตตัสปัจจัยเวทและระดับเวทของฉัน ยกระดับขึ้นเร็วพอสมควร เทียบกับชีวิตก่อน แทบจะไม่ต่างกันเลย >>

 

เผลอๆอาจเร็วกว่าชีวิตที่แล้วด้วยซ้ํา ซูฮยอนรู้คําตอบว่าทําไมถึงเป็นแบบนี้….

 

<< คงเป็นเพราะความชํานาญ >>

 

พรสวรรค์ทางด้านพลังเวทของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน

 

คนที่มีพรสวรรค์ล้ําเลิศจะสามารถเข้าถึงพลังเวทและตระหนักรู้ได้ดีกว่าปกติ ปัจจัยเวทกับระดับเวทจึงเลื่อนระดับขึ้นฮวบฮาบ ส่วนคนที่มีพรสวรรค์ต่ํา ปัจจัยเวทและระดับเวทจะยกระดับขึ้นอย่างเชื่องช้คล้ายหอยทากคลาน

 

พูดอย่างไม่กระดากปาก พรสวรรค์ด้านพลังเวทของซูฮยอนทั้งในอดีตหรือปัจจุบัน นับว่ายอดเยี่ยมเป็นอันดับหนึ่ง

 

นอกจากนี้ซูฮยอนเคยมีประสบการณ์สัมผัสระดับเวท 9 มาก่อนแล้ว จึงเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่ามันมีความรู้สึกเช่นไร หากจะบอกปัจจัยเวทกับระดับเวทในชีวิตปัจจุบันของเขา รุดหน้าเร็วกว่าชีวิตก่อนก็ไม่เกินจริงนัก

 

แล้วสเตตัสของเขาล่ะ?

 

<< ร่างกายจะแข็งแรงขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อออกกําลังกายสม่ําเสมอและกินอาหารที่มีประโยชน์ สเตตัสความแข็งแกร่งก็เช่นกัน หากฉันไม่ดื่ม (อีลิกเซอร์] สเตตัสความแข็งแกร่งไม่มีทางกระเตื้องแน่ >>

 

เป้าหมายในการบุกโจมตีดันเจี้ยนของซูฮยอนครั้งนี้ คือปรับร่างกายให้ชินกับความแข็งแกร่งไม่มีทางลัดอื่น มีแต่ต้องพยายามเคี่ยวกรําเท่านั้น เพื่อเค้นสมรรถภาพทางกายออกมาให้ถึงขีดสุด จําเป็นต้องลงสนามต่อสู้จริง ถึงจะสัมฤทธิผล

 

ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เขาตัดสินใจทําอะไรแบบนี้ เพราะเปลี่ยนแนวคิดใหม่ เส้นทางที่เลือกเดินจึงผันแปรจากอดีต

 

หลังจากซูฮยอนก้าวเข้ามาในดันเจี้ยน มีมอนสเตอร์ตัวหนึ่งร่วงดิ่งลงมาจากด้านบน แยกเขี้ยวแหลมคมข่มขวัญ เห็นดังนั้นเขาไม่รอช้า กําหมัดแน่นเหวี่ยงกินลมไปข้างหน้า มุ่งหมายต่อยสันกราม

 

ปัง!!

 

เสียงลมโกรกคล้ายยืนอยู่ริมชายหาดดังผ่านกกหู มอบความกระปรี้กระเปร่าให้ผู้ได้ยิน

 

หัวของลิงยักษ์ปะทะเข้ากําปั้นเต็มเปา กะโหลกศีรษะยุบยวบ ร่างปลิวลอยขึ้นไปบนอากาศ

 

มอนสเตอร์ที่กระโจนเข้าโจมตีซูฮยอนมีความสูง 4 เมตร และมีน้ําหนักมากกว่าหนึ่งดัน แต่ไม่น่าเชื่อว่าหมัดเปล่าๆที่ไม่มีพลังเวทหล่อเลี้ยง จะสามารถส่งร่างที่ใหญ่โตให้ลอยเคว้งขึ้นไปเหนืออากาศได้

 

ตูม!!

 

ร่างลิงยักษ์ที่โถมเข้าหาหวังฉีกกระชากเหยื่อตรงหน้าเป็นอาหาร ร่วงกระแทกพื้นดังอึงอล ส่วนหัวที่ตกกระทบถูกพื้นก่อน แตกกระจายแหลกเหลว

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วพริบตา นําพาให้บรรยากาศรอบข้างเงียบงัน ทีมโจมตีที่ตามหลังซูฮยอนมาติดๆ อ่า ปากกรามค้าง สายตาพลุ่งพล่านเพ่งมองผู้ตื่นขึ้นชาวเกาหลีใต้…

 

สมาชิกทีมโจมตีบางคนเริ่มเรียกสติของตัวเองกลับคืนมาได้ แม่ในใจจะยังรู้สึกตกตะลึงอยู่ก็ตาม

 

<< ฉันสัมผัสคลื่นพลังเวทจากร่างกายของเขาไม่ได้เลย… >>

 

<< ฉันกําลังฝันอยู่หรือป่าววะ? >>

 

<< เขายังไม่ชักดาบออกมาใช้เลยด้วยซ้ํา… >>

 

ในบรรดาสมาชิกทีมโจมตี คนที่ ตะลึงงันยิ่งกว่าใคร คือ เชอร์นอฟ

 

<< เอาจริงดิ หมัดเดียวจอด?!! >>

หมัดที่ซูฮยอนปล่อยออกไปเมื่อครู่ ไม่มีพลังเวทห่อหุ้ม เป็นหมัดตุ่นๆเรียบง่ายไม่ยุ่งยาก แต่กลับทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ เขาไม่รู้ว่าซูฮยอนเคยฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่ามาก่อนหรือไม่

 

แต่กระนั้นการโค่นล้มมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงินโดยไม่อาศัยพลังเวท หมายความว่าอย่างน้อยซูฮยอนต้องเคยเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้หมัดมวยมาบ้าง

 

<< ไม่สิ ฉันอาจสังเกตไม่เห็นรัศมีพลังเวทเองก็ได้ >>

 

สาเหตุที่เชอร์นอฟสัมผัสกลิ่นอายพลังเวทจากร่างกายซูฮยอนไม่ได้ เป็นเพราะเหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นชั่วพริบตาเดียว

 

ที่สําคัญซูฮยอนเข้ามาในดันเจี้ยนก่อนใคร จึงไม่แปลกหากอีกฝ่ายปล่อยพลังเวทไปแล้ว คนอื่นๆที่พึ่งตามมาภายหลังจะสัมผัสไม่ได้

 

สิ่งต่างๆเริ่มมีความสมเหตุสมผลเมื่อนําความคิดของเชอร์นอฟมาปะติดปะต่อกัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเป็นภาพเหตุการณ์ที่หน้าเหลือเชื่ออย่างมาก

 

<< เขาควบคุมพลังเวทได้ยอดเยี่ยมจริงๆ >>

 

เชอร์นอฟเชื่อสนิทใจว่า เหตุที่หมัดของซูฮยอนรุนแรงขนาดนั้น ต้องเป็นผลจากพลังเวทไม่ผิดแน่…

 

“บริเวณปากทางเข้าดันเจี้ยนมีมอนสเตอร์อยู่ไม่กี่ตัว แต่ระวังหน่อยก็ดี พวกมันอาจกระโจนออกมาจากจุดที่ คาดไม่ถึงก็ได้”ซูฮยอนกล่าวพลางเงยหน้าขึ้น

 

สภาพแวดล้อมรอบกายพวกเขาเนืองแน่นไปด้วยต้นไม้รกครึม ตําแหน่งที่พวกเขาปรากฏตัวคล้ายหลงอยู่ใจกลางไพรระหง ต้นไม้ที่งอกเงยตามรายทางสูงใหญ่เทียมฟ้า จนไม่อาจพบเห็นได้ในโลกแห่งความจริง…

 

เลี้ยก!! เจี๊ยก!!

 

บนต้นไม้สูงใหญ่พบร่างลิงยักษ์จํานวนหนึ่งกําลังแอบอิงเฝ้ามองทีมโจมตีดันเจี้ยนอยู่ไกลหูไกลตา แม้ต้นไม้จะใหญ่โตหลายคนโอบ แต่ลิงมีขนาดตัวที่ใหญ่เทียบเท่าช้าง ต้นไม้จึงอําพรางร่างพวกมันไม่มิด

 

“พึ่งเริ่มต้น ก็ไม่ง่ายซะแล้ว”เชอร์นอฟพูดพลางหยิบคันธนขึ้นมาเตรียมพร้อม

 

ผู้ตื่นขึ้นคนอื่นๆในทีมโจมตีเห็นดังนั้น จึงทยอยดึงอาวุธออกมาทีละคน พร้อมทั้งปล่อยสกิลที่ตนเองเชี่ยวชาญ

 

ซูฮยอนปรายตามองพวกเขาที่เตรียมพร้อมต่อสู้ ก่อนจะเอื้อนเอ่ยขึ้นว่า.. “อย่าแตกแถว รักษารูปขบวนไว้ หากจําเป็นต้องขยับเดินไปข้างหน้า เป็นไปได้อย่าลดการป้องกันลงเด็ดขาด คุณเชอร์นอฟครับ คุณอยู่แนวหลัง สุด มองหาโอกาส ยิงลิงที่ซุ่มอยู่บนต้นไม่”

 

ต่างบ้านต่างเมืองภาษาที่ใช้สื่อสารย่อมไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจภาษาอังกฤษที่เป็นภาษากลางของโลก ผู้ตื่นขึ้นที่เข้าใจภาษาอังกฤษถึงแก่นแท้ แปลคําพูดของซูฮยอนเป็นภาษารัสเซียให้ทีมโจมตีรับทราบ

 

ใจความสําคัญที่ซูฮยอนบอกกล่าวให้พวกเขาปฏิบัติ คือ พยายามรักษารูปขบวนและห้ามลดการป้องกันลง เนื่องจากการโจมตีดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงินครั้งนี้ ซูฮยอนเป็นหัวหน้าทีมโจมตี อีกฝ่ายจึงมีอภิสิทธิ์ออกคําสั่ง แต่ แผนการของซูฮยอนที่ผู้ตื่นขึ้นคนหนึ่งแปลให้ฟัง สร้างความสับสนมึนงงให้แก่พวกเขาพอสมควร

 

<< เขาอยากให้พวกเรายืนอยู่เฉยๆ คอยต้านรับการโจมตีงั้นเหรอ? >>

 

<< แล้วเหตุผลล่ะ? >>

 

<< อย่าบอกนะว่าเขาคิดจะใช้ยุทธวิธีโจมตีจากระยะไกล โดยหวังพึ่งลูกศรของคุณเชอร์นอฟ?? >>

 

ไม่ว่าพวกเขาจะใช้หัวคิดไตร่ตรองหนักเพียงใด ก็หาคําตอบไม่ได้ว่าซูฮยอนต้องการทําอะไรกันแน่ แต่ในเมื่อหัวหน้าทีมโจมตีออกคําสั่งมาแล้ว พวกเขาก็ต้องจําใจปฏิบัติตามไม่อาจขัดขืนคําสั่งได้

 

สมาชิกทีมโจมตีทุกคนล้วนเป็นผู้ตื่นขึ้นมือดีมากความสามารถ พวกเขาแปรขบวนจัดรูปแบบการป้องกันอย่างรวดเร็ว

 

“ดีมาก”ซูฮยอนพยักหน้าชื่นชมทีมโจมตีที่ปฏิบัติตามคําสั่งอย่างเคร่งครัด ก่อนจะกล่าวต่อ…

 

“ทุกคนฟังให้ดี ต่อจากนี้ทุกคนต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน พยายามสุดความสามารถ เพื่อเอาชีวิตรอดออกจากที่นี่ เข้าใจที่ผมพูดใช่ไหมครับ?”

 

“หืม??”

 

“ห้ะ??”

 

[กระโดด]

 

ซูฮยอนถีบตัวกระโดดขึ้นไปบนอากาศ

 

หลังออกคําสั่งให้ทีมโจมตียืนหยัดด้วยตัวเอง ซูฮยอนไม่รอช้กระทั่งเท้าพุ่งทะยานออกตัวทันที

 

ในเวลาเดียวกันนั้น….

 

“จงออกมา”

 

คิ้ว!!

 

มิรุโผล่ออกมาจากช่องว่างมิติพร้อมเปล่งเสียงร้องคําราม ซูฮยอนปีนป่ายขึ้นขี่หลังของมังกรแดง

 

ฟรี่บ!!

 

มิรุสยายปีกกว้างกระพือบินถลาต้านลมปราดเปรียวดุจอัสนี เพราะความเร็วที่มากล้นทิวทัศน์รอบตัวจึงพร่ามัว หนึ่งคนกับหนึ่งมังกรตรงดิ่งไปหาลิงยักษ์กินเนื้อที่ดักรออยู่ด้านหน้า มอนสเตอร์ใช้ปลายห่างตวัดเกี่ยวพันรอบต้นไม้ เหนี่ยวรั้งไม่ให้ร่างใหญ่โตพลัดตกจากที่สูง

 

ปัง!!

 

ซูฮยอนกําหมัดแน่น เงื้อมือเหวี่ยงต่อยไปด้านหน้าเต็มแรง

 

ตูม!!

 

ความเร็วในการบินของมิรุส่งเสริมให้พลังหมัดของซูฮยอนรุนแรงยิ่งขึ้น ทันทีที่หมัดกระแทกเข้าหัวลิงยักษ์กินเนื้อ หัวที่คล้ายแข็งแรงระเบิดเป็นจุณ เศษชิ้นเนื้อปลิวว่อน..

 

ลิงยักษ์กินเนื้อไม่ทันได้ตอบสนอง ดันตกตายไปเสียแล้ว หัวระเบิดเละตุ้มเป๊ะ ประหนึ่งเต้าหูโดนมือขยําเสียรูปทรง ร่างไร้วิญญาณร่วงหล่นลงพื้นเบื้องล่างดังตึง..

 

การโจมตีของซูฮยอนเหมือนกับก่อนหน้านี้ไม่มีผิด…

 

<< ฉันสัมผัสกลิ่นอายพลังเวทจากร่างกายของเขาไม่ได้อีกแล้ว? เพราะอะไรกัน? >>

เชอร์นอฟจ้างธนูเตรียมสนับสนุนซูฮยอนจากด้านหลัง เบิกตาโพลงอย่างตกใจ…

 

<< แค่หมัดเดียว ก็สามารถระเบิดหัวกะโหลกที่แข็งแกร่งของลิงยักษ์ได้ >>

 

ฟรี่บ!!

 

ซูฮยอนขี่หลังมิรุ ง้างมือต่อยลิงยักษ์กินเนื้อไม่หยุด

 

ภาพรวมของการต่อสู้ ซูฮยอนเหนือชั้นกว่าและได้เปรียบอยู่ฝ่ายเดียว

 

ซูฮยอนพบว่า แม่ไม่โคจรพลังเวทหรือดึงความแข็งแกร่งในร่างกายออกมาใช้ อาศัยแค่ความเร็วในการบินของมิรุ หมัดของเขาก็ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ ทุกการโจมตีไม่มีลิงยักษ์ตัวใดหนีพ้น

 

เจี๊ยก!! เจี๊ยก!!

 

ทันใดนั้นเอง มีลิงยักษ์กินเนื้อตัวหนึ่งแอบแยกตัวออกมาจากฝูง วิ่งตะบึงมุ่งหมายจู่โจมผู้ตื่นขึ้นที่ตั้งรูป ขบวนป้องกันอยู่แนวหลัง เนื่องด้วยเห็นซูฮยอนสังหารลิงยักษ์ได้อย่างง่ายดายราวผักปลา พวกเขาคิดเองเออ เองว่ามอนสเตอร์ที่กําลังพุ่งมาหา คงไม่แข็งแกร่งอะไรมาก จึงเกิดความคึกคะนองลองดี อยากขับเคี่ยวกับพวก มันสักตั้ง วิ่งปราดออกจากกลุ่มง้างดาบหวังฟาดฟัน รูปขบวนป้องกันที่จัดเตรียมมาดิบดีจึงเกิดช่องโหว่

 

แต่แล้วก็ต้องนึกเสียใจภายหลังกับการตัดสินใจของตัวเอง กรงเล็บของลิงยักษ์มีความแหลมคมอย่างยิ่ง เกือบคร่าชีวิตคนในทีมหลายครั้ง เป็นเพราะลิงยักษ์มีร่างกายล่ําสันบิ๊กบึน การโจมตีแต่ละครั้งมีทั้งรุนแรงและหนักหน่วง

 

ฟื้ว!!

 

ลูกศรที่แล่นออกจากคันธนูของเชอร์นอฟ ทิ้งรูขนาดใหญ่ไว้กึ่งกลางหน้าผากลิงยักษ์

 

“ทุกคนระวังตัว กลับมารวมกลุ่มเดี๋ยวนี้ อย่าลดการป้องกันลง”

 

“รับทราบ!!”

 

สมาชิกทีมโจมตีขานรับคําแนะนําของเชอร์นอฟโดยพร้อมเพรียง

 

ทีมโจมตีเกือบสูญเสียสมาชิกไปเพราะประเมินศัตรูต่ําเกินไป ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจากเชอร์นอฟ อาจมีใครคนหนึ่งต้องสังเวยชีวิต…

 

<< มอนสเตอร์พวกนี้ ไม่ได้อ่อนแออย่างที่หลายคนคิด >>

 

เชอร์นอฟพินิจมองซากศพลิงยักษ์กินเนื้อที่โดนลูกศรเจาะทะลุกลางหน้าผาก

 

<< มอนสเตอร์ทุกตัวที่อาศัยอยู่ในดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงิน ล้วนแล้วแต่มีความแข็งแกร่งไม่ธรรมดา >>

 

มอนสเตอร์ที่พวกเรากําลังเผชิญหน้าไม่ใช่บอสด้วยซ้ํา เป็นแค่มอนสเตอร์ทั่วไปไม่มีความพิเศษอะไร แต่กลับมีสติปัญญาหลักแหลม เรียนรู้วิธีซุ่มโจมตีเหยื่อที่เผลอ

 

สายตาของเชอร์นอฟละออกจากซากศพลิงยักษ์ เลื่อนมองไปยังซูฮยอนที่กําลังขี่หลังมังกรปล่อยหมัดโจมตีฝูงลิงยักษ์ไม่หยุดหย่อน..

 

<< คิมซูฮยอนคนนั้น…. >>

 

เขาเคยประมือกับผู้ตื่นขึ้นชาวเกาหลีใต้คนนั้นมาก่อน ความแข็งแกร่งที่ซูฮยอนกําลังแย้มออกมาให้เห็น ขณะนี้สร้างความตระหนกตกใจให้แก่เขาใหญ่หลวง

 

ย้อนกลับไปตอนนั้น เชอร์นอฟรู้สึกทิ้งในความแข็งแกร่งของซูฮยอนก็จริง แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการตกใจออกหน้าออกตาหนักเหมือนตอนนี้ เขายังงงงวยอยู่เลยว่า ซูฮยอนสังหารมอนสเตอร์ได้ยังไง โดยที่ไม่ใช้พลังเวทเลยสักหยด

 

<< ถ้ากอร์ดอนโรฮันทราบเรื่องนี้ เขาต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแน่..>>

 

บทสัมภาษณ์ที่กอร์ดอนโรฮันเคยพูดให้นักข่าวฟัง บอกไว้ว่าสักวันหนึ่งเขาจะโค่นล้มซูฮยอนลงให้ได้ คําพูดของกอร์ดอนโรฮันยังคงตราตรึงใจผู้คนจวบจนทุกวันนี้ ผู้คนนับไม่ถ้วนตั้งหน้าตั้งตารอคอยให้สงครามแก่งแย่งอันดับจัดขึ้นอีกครั้งอย่างใจจดใจจ่อ มิหนําซ้ําช่วงที่ผ่านมาคู่ปรับตลอดกาลอย่างพวกเขาดันสังกัดอยู่ในกิลด์เดียวกัน คนจากทั่วมุมโลกจึงให้ความสนใจจับตาการแข่งขันระหว่างซูฮยอนกับกอร์ดอนโรฮันมากเป็นพิเศษ

 

เมื่อลองจินตนาการว่าทั้งซูฮยอนและกอร์ดอนโรฮันเผชิญหน้ากันอีกครั้งบนสนามแข่งขัน เชอร์นอฟอดส่ายหน้าไม่ได้…

 

<< คงไม่ต้องลุ้นแล้วมั้ง >>

 

สงครามแก่งแย่งอันดับที่พึ่งปิดม่านลงชัยชนะตกอยู่ในมือของซูฮยอน ในสายตาของคนรับชมการแข่งขันคิดว่า ซูฮยอนและก็อนแจฮุนมีฝีมือใกล้เคียงกัน พวกเขาสมควรได้อันดับหนึ่งร่วมสงครามแก่งแย่งอันดับครั้งที่ 2 ซึ่งมีข่าวหลุดออกมาว่าจะจัดขึ้น อาจเป็นตัวชี้วัดระหว่างซูฮยอนกับกวอนแจฮุนว่าใครกันแน่แข็งแกร่งกว่ากัน ผลลัพธ์ไม่มีใครคาดเดาได้..

 

ซูฮยอนจะเป็นแชมป์อีกหนึ่งสมัย หรือ กว์อนแจฮุนจะทวงคืนชื่อเสียงผู้ตื่นขึ้นอันดับหนึ่งของโลกกลับมาได้ดังเดิม ทุกอย่างสุดจะหยั่งรู้ เพราะไม่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้

 

ถ้าสงครามแก่งแย่งอันดับครั้งที่ 2 ซูฮยอนยังคงเข้าร่วมเหมือนเดิม เชอร์นอฟมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าแชมป์เปียนต้องตกเป็นของซูฮยอนอีกหนึ่งสมัยล้านเปอร์เซ็นต์…

 

ผ่านไปแล้ว 1 วัน นับตั้งแต่ทีมโจมตีเข้ามาในดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงิน

 

ซูฮยอนบดขยี้หัวลิงยักษ์ [ตัวแม่] แตกกระจุยแหลกเหลว พลางสะบัดข้อมือที่เริ่มมีความรู้สึกปวดเมื่อยเบาๆ

 

<< รู้สึกฉันจะพบปัญหาแล้วสิ >>

 

ค่าสเตตัสความแข็งแกร่ง 97

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นค่าตัวเลขที่สูง และมีผลต่อการโจมตีของเขามหาศาล

 

เพราะค่าสเตตัสความแข็งแกร่ง ส่งผลให้ซูฮยอนสังหารมอนสเตอร์ด้วยมือเปล่าได้แบบไม่ยากเย็น แม้ไม่ใช้พลังเวท ใช้เพียงพละกําลังล้วนๆ บอสมอนสเตอร์ระดับกลางอย่างลิงยักษ์ [ตัวแม่] ยังทานทนรับการโจมตีไม่ไหวต้องตกตายลง…

ทว่าการต่อสู้ที่กินเวลามาหนึ่งวันเต็ม ทําให้ซูฮยอนตระหนักได้ถึงความจริงบ้างอย่าง…

 

<< [สเตตัสความอึด] ของฉัน เติบโตตาม [สเตตัสความแข็งแกร่ง] ไม่ทัน >>

 

แม้สเตตัสความแข็งแกร่งของซูฮยอนจะน่าตกตะลึงเพียงใด แต่ร่างกายของเขาอ่อนแอเกินไป ไม่อาจทนรับแรงกายที่มากล้นได้นานนัก

 

แตกต่างกับการใช้พลังเวทอย่างสิ้นเชิง พลังเวทจะใช้มากเท่าไหร่ก็ได้ ตราบเท่าที่ร่างกายมีปัจจัยเวทสูง แต่ [สเตตัสความแข็งแกร่ง] จําเป็นต้องพึ่งพา [สเตตัสความอึด] ด้วยส่วนหนึ่ง หากมีสภาพร่างกายอ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว [สเตตัสความอึด] ยังน้อยอีก [สเตตัสความแข็งแกร่ง] จะรีดประสิทธิภาพออกมาได้ไม่เต็มที่ เหมือนอย่างที่ซูฮยอนประสบปัญหาอยู่ในปัจจุบัน

 

(สเตตัสความคล่องแคล่ว) ก็เช่นกัน ไม่ว่าจะมีสเตตัสความคล่องแคล่วสูงลิ่วอย่างไร หากมีไหวพริบปฏิภาณไม่เฉียบแหลม มีปฏิกิริยาการตอบสนองต่อสิ่งรอบข้างเชื่องช้า สเตตัส [ความคล่องแคล่ว] แทบจะไร้ประโยชน์ มีประดับไว้ให้สวยหรูเฉยๆ

 

ทกสเตตัสล้วนเกี่ยวโยงสัมพันธน์ถึงกัน…

 

<< สงสัยฉันคงต้องเพิ่ม [สเตตัสความอึด] อย่างจริงจังแล้วละมั้ง? >>

 

ตอนแรกเขาวางแผนไว้ว่าจะเพิ่มสเตตัสความแข็งแกร่งก่อน จากนั้นค่อยเพิ่มสเตตัสความคล่องแคล่ว แต่ดูเหมือนว่าเขาจําเป็นต้องล้มเลิกแผนการนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาที่ร่างกายแบกรับความแข็งแกร่งไม่ไหวอย่างน้อย เขาต้องดัน [สเตตัสความอึด] ให้ถึง 90 จุด

 

[สเตตัสความอึด] ของซูฮยอนตอนนี้อยู่ที่ 83 จุด ซึ่งต่ําที่สุดในบรรดาสเตตัสทั้งหมด

 

<< ถึงอย่างนั้น…>>

 

ซูฮยอนช้อนตามองซากศพลิงยักษ์ตัวแม่ ที่นอนงองุ้มเสียชีวิตอยู่บนพื้น พึมพํากับตัวเองเบาๆโดยไม่ให้ใครได้ยินว่า… “ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เลวเลย”

 

ผลการทดสอบศักยภาพ [สเตตัสความแข็งแกร่ง] ของเขานับว่าประสบความสําเร็จ

 

ซูฮยอนแทบอดใจรอไม่ไหว ใคร่อยากรู้ว่าหากสเตตัสความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นถึงเลข 3 หลัก ตัวเขาจะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน

 

ขณะที่กําลังจมดิ่งอยู่ในห้วงความคิด ทีมโจมตีที่ยืนอยู่แนวหลัง จ้องมองซูฮยอนด้วยสายตาแปลกพิกล ราวกับว่าซูฮยอนเป็นมอนสเตอร์ที่กร้าวแกร่งกว่าลิงยักษ์พวกนี้ก็ไม่ปาน

 

<< ถ้าไม่เป็นหัวหน้าทีมโจมตี ฉันคงนึกว่าเขาเป็นบอสดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงิน >>

 

<< พลังเวทก็ไม่ได้ใช้ แต่กลับสามารถสังหารมอนสเตอร์ลงได้ เขาไม่ใช่มนุษย์แล้ว….>>

 

<< ทําไมเขาถึงไม่ใช้สกิลสักครั้งเลยล่ะ? อย่าบอกนะว่าเขาไม่อยากใช้? >>

 

การต่อสู้ช่วงแรก ซูฮยอนใช้เพียงหมัดเพียวๆ เมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจชักดาบออกมาจากฝัก วิ่งสื่อสังหารมอนสเตอร์ทุกตัวที่ขวางหน้าด้วยการฟันฉับเดียวตาย

 

แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์จวนตัว ซูฮยอนก็ไม่ยอมงัดสกิลออกมาใช้ พลังเวทนิ่งสงบยังไงก็ยังอยู่อย่างนั้น

 

ภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ทําให้สมาชิกทีมโจมตีทุกคนมั่นใจในบางสิ่ง…

 

<< สเตตัสพื้นฐานของซูฮยอน อยู่ในขอบเขตที่เหนือกว่าพวกเขาหลายขุม >>

 

ทั้งความแข็งแกร่ง ความคล่องแคล่ว รวมถึงปฏิกิริยาตอบสนอง เพียง 3 อย่างนี้ ซูฮยอนไม่มีเหตุผลต้องพึ่งพาพลังเวทหรือสกิลเลย ใช้เพียงสเตตัสพื้นฐานก็เหลือแหล่แล้ว

 

หลังสังหารลิงยักษ์ [ตัวแม่] บอสระดับกลางลงได้ ซูฮยอนเดินไปสมทบกับทีมโจมตี…

 

เชอร์นอฟรวบรวมความกล้าก้าวไปข้างหน้ายืนเคียงไหล่ซูฮยอน เอ่ยปากถามด้วยความอยากรู้ว่า…

 

“ผมสงสัยมาได้สักพักแล้ว คุณจงใจต่อสู้โดยไม่พึ่งพลังเวทใช่ไหม? ถ้าไม่สะดวกตอบ ปล่อยผ่านไปก็ได้ครับ”

 

ถ้อยคําที่เชอร์นอฟกล่าว คือคําถามที่ผู้ตื่นขึ้นชาวรัสเซียทุกคนกระสันอยากรู้ แต่ก็ไม่กล้าถาม เพราะเกรงว่าหากพลั้งปากถามไป จะสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับซูฮยอนโดยไม่จําเป็น

 

บอกตรงๆว่าตอนแรกเช่อร์นอฟก็ไม่อยากถามนักหรอก เพราะทักษะการพูดภาษาอังกฤษของเขาไม่ได้ดีเลิศ แต่มันหักห้ามใจไม่ไหวจริงๆ …

 

ซูฮยอนพยักหน้าตอบกลับ “ใช่ครับ เป็นความตั้งใจของผมเอง พอดีผมอยากปรับร่างกายให้ชิน”

 

“ปรับร่างกายให้ชิน?”

 

“เมื่อเร็วๆนี้ สเตตัสของผมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ก่อนที่จะเริ่มทําการทดสอบหอคอยชั้นต่อไป ผมอยากให้ตัวเองคุ้นชินกับสภาพร่างกายในปัจจุบันเสียแต่เนิ่นๆ จะได้ทราบถึงขีดจํากัด”

 

จุดประสงค์เพื่อปรับร่างกายให้คันชินกับสเตตัสใหม่ใช่ไหม

 

“คุณกําลังจะบอกว่า การโจมตีดันเจี้ยนครับ?”

 

“ประมาณนั้นครับ”ซูฮยอนพยักหน้าตอบเสียงแผ่ว สายตากวาดมองสํารวจสภาพแวดล้อมรอบๆ พลันกล่าวต่อ….

 

“ท่าทางพวกมันจะขุ่นเคืองไม่น้อย

 

“อะไรนะครับ?”

 

“ถ้าผมคาดการณ์ไม่ผิด อีกไม่นานพวกมันทั้งหมดจะปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันต่อหน้าพวกเรา”

 

คําพูดหนักแน่นที่ออกมาจากซูฮยอน เชอร์นอฟไม่หันรีหันขวาง รีบใช้หนึ่งในสกิลที่ตนเองครอบครองออกมา..

 

[เนตรพันไมล์]

 

แววตาของเชอร์นอฟที่เรื่อเรื่องประกายแสงสีฟ้า เริ่มกวาดมองไปรอบตัว ภาพที่เขาเห็นคือมีฝูงลิงยักษ์กินเนื้อหลายร้อยตัวกําลังวิ่งพรวดพราดมุ่งหน้ามาหาทีมโจมตีจากทั่วทุกทิศทุกทาง

 

<< แย่ละสิ…>>

 

ฝูงลิงยักษ์ที่กําลังจะมาถึง มีจํานวนมากกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า เชอร์นอฟขนลุกเกลียว คิดไม่ถึงว่าพวกมันจะยังเหลือเยอะขนาดนี้…

 

เชอร์นอฟเหลียวมองไปด้านหลัง ร้องเสียงดังว่า “ทุกคนจัดตั้งขบวนป้องกัน เร็วเข้า!! มีมอนสเตอร์กลุ่มใหญ่กําลังมุ่งหน้ามาทางพวกเรา”

 

ทีมโจมตีดันเจี้ยนกระวีกระวาดตั้งขบวนป้องกันตามคําสั่งของเชอร์นอฟอย่างเร่งรีบ เพียงไม่นานเสียงร้องคํารามเกรี้ยวกราดของลิงยักษ์กินเนื้อก็กระชั้นชิดใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พวกมันวิ่งดิ่งมาหาทีมโจมตีจากทั้งภาคพื้นดิน และบนต้นไม้สูง

 

เลี้ยก!! เจี๊ยก!!

 

เสียงคํารามแสบแก้วหู บ่งบอกถึงความคับแค้นใจที่พวกมันต้องสูญเสียลิงยักษ์ [ตัวแม่] ไป..

 

ซูฮยอนแลมองลิงยักษ์ที่กําลังวิ่งรี่เข้ามา พึมพําเสียงอ่อยว่า.. “ฉันเข้าใจความรู้สึกของพวกแกดี ดังนั้น ฉันจะส่งพวกแกให้ตามไปอยู่กับ [ตัวแม่] เอง”

 

เขานับจํานวนลิงยักษ์ทั้งหมดในใจและครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะรําพึงกับตัวเอง “สงสัยต้องเร่งทําเวลาหน่อย แล้วจะได้ออกจากที่นี่เร็วๆ”

 

เนตรที่สามแย้มพรายกลางหน้าผากซูฮยอน พลังเวทที่หลับใหลอยู่ในร่างกายมานาน ถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้น..

 

[เนตรที่สาม – ผู้ล่า]

 

[เพลิงพิโรธ]

 

[กายาทรหด]

 

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

องค์หญิงหมอเทวะ
องค์หญิงหมอเทวะ World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess
15 กรกฎาคม 2022
New-Canvas2-1-696×323
Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์
7 ตุลาคม 2022
turns-out-im-a-great-cultivator-novel-c250x250
ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่
15 กรกฎาคม 2022
—Pngtree—the-early-autumn-of-shaolin_4208055-696×391
เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]
15 กรกฎาคม 2022
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 177"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF