การกลับมาของฮีโร่ - ตอนที่ 155
ตอนที่ 155
การโจมตีดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงินยุติลงอย่างสมบูรณ์…
ประเทศเกาหลีใต้ตกอยู่ในความโกลาหลไม่ใช่สิความโกลาหลครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น
[ ดันเจี้ยนแฝดระดับสีน้ําเงินถูกพิชิตลงได้สําเร็จโดยใช้กองกําลังผู้ตื่นขึ้นมากความสามารถของประเทศเกาหลีใต้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น]
[เกาหลีใต้ตอนนี้ คือประเทศที่มีผู้ตื่นขึ้นแข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆของโลกคิมซูฮยอนคือความหวังที่จะนําประเทศเกาหลีใต้ไปสู่ความรุ่งโรจน์
[ คิมซูฮยอนกล่าวเอาไว้ว่าจะบุกโจมตีดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงินด้วยตัวคนเดียวเขาสามารถทําตามคําพูดที่เคยว่าไว้ได้สําเร็จลุล่วงเขาเป็นยอดคนหรือยังไงกัน?]
หัวข้อข่าวที่ตื่นตาตื่นใจ พาดอยู่หน้าแรกของหนังสือพิมพ์
ข่าวที่ทุกคนให้ความสนใจมีด้วยกันทั้งหมด 3 เรื่อง
เรื่องที่หนึ่งคือข่าวเกี่ยวกับดันเจี้ยนแฝดระดับสีน้ําเงิน
เรื่องที่สองคือข่าวการปรากฏตัวของโทมัสและชเวฮักจน
เรื่องที่สามคือข่าวความสามารถของคิมซูฮยอน
แต่ข่าวที่ผู้คนให้ความสนใจรองลงมาคือ…..
[ กิลด์ฮาโฮตาลพยายามก่อวินาศกรรมในดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงินคิมซูฮยอนไม่นิ่งนอนใจ เขาโจมตีอีกฝ่ายสวนกลับไป]
[ คิมซูฮยอน ปะทะ กิลด์ฮาโฮตาล ไม่รู้ว่าทางสมาคมจะเลือกอยู่ฝ่ายใด? จะวางตัวเป็นกลางหรือไม่?
หัวข้อข่าวที่ทางสํานักพิมพ์เผยแพร่มีหลายประเด็นทําให้ประชาชนเกาหลีพูดคุยกันอย่างดุเดือดเผ็ดมัน
“ในที่สุดท้ายก็เป็นข่าวสักที”ลีจุนโฮจ้องมองหน้าจอมือถือพร้อมบ่นพึมพํา
ซูฮยอนก้มหน้าก้มตาตรวจสอบเนื้อหาข่าว เมื่อเห็นว่าเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่ ตรงตามที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้เขาจึงหยิบแอปเปิ้ลที่พึ่งเอาออกมาจากตู้เย็นขึ้นมากิน
“ใช้เวลานานเหมือนกันนะ กว่าข่าวจะออก”
“สมาชิกกิดล์ฮาโฮตาลต้องโกรธมากแน่ๆฉันได้ยินมาว่าพวกมันพยายามเรียกร้องให้ลบข่าวเกี่ยวกับกิลด์ฮาโฮตาลออกไป แม้ภาพวีดีโอที่พวกเราถ่ายเก็บไว้จะเป็นของจริงแต่สํานักข่าวบางแห่งต้องจําใจยอมลบวีดีโอเพื่อทําตามความประสงค์ของกิลด์ฮาโฮตาลจะได้ไม่โดนพวกมันเล่นงาน”
อิทธิพลของกิลด์ฮาโฮตาลที่มีในประเทศเกาหลีไม่สามารถประเมินได้ไม่สิต้องบอกว่าในประเทศเกาหลีกลด์ฮาโฮตาลมีอิทธิพลมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้
เหตุผลที่กิลด์ฮาโฮตาลมีอิทธิพลมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆไม่ใช่เพราะพวกเขาเป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งไม่มีใครเทียบแต่เป็นเพราะกวอนแจฮุนประธานคนปัจจุบันของสมาคมต่างหากที่ทําให้กิลด์ฮาโฮตาลมีอิทธิพลเหนือกิลด์อื่น
“บทความและข่าวที่เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตมีความสําคัญกับพวกเรามาก”ลีจุนโฮเอื้อนเอ่ย
“ถูกต้อง”
“ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสํานักข่าวบางแห่งใจแข็งไม่ยอมลบเนื้อหาข่าวตามความต้องการของกิลด์ฮาโฮตาลบางที่พวกเขาอาจคิดว่านายเป็นปลาใหญ่ที่พร้อมสยบกิลด์ฮาโฮตาลได้ทุกเมื่อล่ะมั้งเพราะกิลด์มาสเตอร์กวอนแจฮุนเสียชีวิตไปแล้วด้วย”
การเสียชีวิตของกวอนแจฮุนไม่เพียงแต่สร้างความตกตะลึงในแก่กิลด์ฮาโฮตาลเท่านั้น แต่ยังสร้างความปั่นป่วนให้สมาคมด้วย
“ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกมันกําลังคิดวางแผนร้ายอะไรอีกหรือป่าวก็อนแจฮุนเป็นผู้วางแผนพยายามก่อวินาศกรรมแต่คนวางแผนตายไปแล้วปัญหาทั้งหมดจึงตกไปอยู่กับกิลด์ฮาโฮตาลหรืออาจจะนับสมาคมรวมไปด้วย” ลีจุนโฮปิดหน้าจอมือถือแล้วเก็บเข้ากระเป๋า
“จะจัดการยังไงต่อไป ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนาย”
ก็อนแจฮุนผู้เป็นตัวการหลักเสียชีวิตศพก็ถูกมอนสเตอร์กัดกินจนไม่เหลือซากให้เห็น
ตอนที่ซูฮยอนรู้ตัวว่ากว์อนแจฮุนแอบเตรียมการก่อวินาศกรรมเขาได้บันทึกเหตุการณ์ทุกอย่างเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่กิลด์ฮาโฮตาลก่อวินาศกรรมพวกเขาเคยทําพฤติกรรมแบบนี้มาแล้วหลายครั้งไม่ใช่เรื่องแปลกหากการกระทําของพวกเขาจะโดนบรรดาผู้ตื่นขึ้นและประชาชนทั่วไปด่าทอ
“ฉันอยากรู้จริงๆว่านายจะเลือกเส้นทางไหนจะเผชิญหน้ากับสมาคมตรงๆหรือจะเป็นศัตรูกับกิลด์ฮาโฮตาลไม่สิในสายตาของกิลด์ฮาโฮตาลนายถือได้ว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจอันดับหนึ่ง”
“แน่นอน เพราะฉันเป็นคนฆ่ากวอนแจฮุนเองกับมือ”
“ไม่รู้ว่าทางสมาคมจะตอบสนองต่อปัญหานี้อย่างไร”
สมาคมจะยอมตีตัวออกห่างจากกิลด์ฮาโฮตาลหรือจะอยู่ฝ่ายเดียวกับกิลด์ฮาโฮตาลต่อไปและตั้งตัวเป็นศัตรูกับซูฮยอน?
การตัดสินใจของทางสมาคมจะเป็นตัวกําหนดอนาคตของประเทศเกาหลี…
“นายวางแผนทําอะไรต่อไปงั้นเหรอ? ฉันเดาว่าหากนายตกลงต่อสู้กับกิลด์ฮาโฮตาลจริงๆ มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่นายจะได้ปะทะกับสมาคมด้วย”
ลีจุนโฮลองถามเลียบๆเคียงๆไปงั้นแหละเพราะในใจเขารู้คําตอบของซูฮยอนอยู่แล้ว ซูฮยอนไม่เกรงกลัวอํานาจของสมาคมและไม่มีทางปล่อยกิลด์ฮาโฮตาลให้ลอยนวลเฉยๆแน่
ซูฮยอนมีนิสัยเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆอยู่แล้วด้วย
ลีจุนโฮเกิดอาการลังเลขึ้นมาเล็กน้อยก่อนที่จะรวบรวมสติเปิดปากพูดด้วยน้ําเสียงจริงจังเป็นพิเศษ
“ฉันมีความคิดดีๆอยู่ แต่ว่า…”
“ความคิดดีๆงั้นเหรอ ไหนลองว่ามาสิ”
“นายลองฟังดูก่อน คิดเห็นยังไงค่อยไปตัดสินใจที่หลัง”ลีจุนโฮพูด
คําแนะนําที่คาดไม่ถึงของลีจุนโฮดึงดูดความสนใจจากซูฮยอนได้ไม่น้อย ขณะฟังคําแนะนําที่ออกมาจากปากลีจุนโฮการแสดงออกทางสีหน้าของซูฮยอนเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่าประหนึ่งเด็กน้อยกําลังฟังนิทาน
อาคารชงโน
ภายในอาคารชั้นบนสุด มีการจัดงานประชุมของสมาคมผู้ตื่นขึ้น….
บรรยากาศภายในห้องประชุมเต็มไปด้วยความครึกครื้นและเสียงพูดคุยเซ็งแซ่ สังเกตจากท่าทางคนในห้องประชุมเหมือนจะไม่มีใครเสียใจการจากไปของประธานสมาคมเลยสักคน
บริเวณโถงทางเดินด้านนอกของสถานที่จัดงานประชุม รองกิลด์มาสเตอร์ของกิลด์ฮาโฮตาลนามว่ากวีอนโฮย็องกําลังบ่นจิ้มจิ้มกับตัวเองพร้อมทั้งยกมือจับศีรษะ “ให้ตายสิ ปัญหาประดังเข้ามาเยอะจริงๆหัวฉันจะระเบิดอยู่แล้ว”
กวอนโฮย์องเป็นน้องชายของก็อนแจฮุน
กวอนโฮย็องเป็นผู้ตื่นขึ้นแรงค์ A สาเหตุที่เขาสามารถดํารงตําแหน่งรองกิลด์มาสเตอร์ได้เป็นเพราะบารมี ของพี่ชาย
บอกตามตรงว่าตําแหน่งสําคัญแบบนี้ ไม่เหมาะกับเขาเลย
การขาดหัวเรือใหญ่อย่างกิลด์มาสเตอร์ไป ทําให้ภาระทุกอย่างของกิลด์ฮาโฮตาลตกมาอยู่ที่กวอนโฮยอง..
“พี่นะพี่ ไม่รู้อะไรดลใจ ถึงได้กล่าไปยั่วยุสัตว์ประหลาดอย่างคิมซูฮยอน…”
กวอนโฮยองนอนหวาดผวาอยู่ทุกคืน ไม่แน่วันใดวันหนึ่งซูฮยอนอาจจัดการเขาอีกด้วยคนก็ได้ความแข็งแกร่งของซูฮยอน ทําให้เขาไม่กล้าคิดล้างแค้นแทนพี่ชายที่เสียชีวิตไป
เพื่อหลีกเลี่ยงการตอบโต้จากซูฮยอน เขาจําเป็นต้องโน้มน้าวกิลด์ที่มาประชุมในวันนี้ให้ได้
<<ฉันต้องทําให้สําเร็จ>>
กวอนโฮย็องสูดหายใจเข้าลึกๆ เหตุผลการมาที่นี่ของเขา คือมาเพื่อเป็นตัวแทนก็อนแจฮุนประธานสมาคมคนก่อนที่สําคัญครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาจะปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนในฐานะกิลด์มาสเตอร์คนใหม่ของกิลด์ฮาโฮตาล
หลังจากกวอนโฮย็องสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้ เขาพลักประตูเข้าไปในห้องประชุมภายในห้องประชุม เต็มไปด้วยฝูงชนจํานวนมาก ด้านหลังห้องประชุมมีกลุ่มนักข่าวยืนอยู่พวกเขามาพร้อมกับตากล้องส่วนตัว
นอกจากนักข่าวแล้ว ภายในห้องประชุมยังมีกลุ่มคนอีกจํานวนหนึ่ง ซึ่งทุกคนล้วนเป็นกิลด์มาสเตอร์หรือรองกิลด์มาสเตอร์ที่สังกัดอยู่ในสมาคม
อีก….
กวอนโฮยองสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจนเผลอกลืนน้ําลาย ท่ามกลางฝูงชนมีชายคนหนึ่งจ้องมองมาที่เขา
<<จองยุนโฮ>>
จองยุนโฮเป็นผู้ตื่นขึ้นที่มีอายุประมาณ 30 กลางๆ ทว่าใบหน้าของเขากลับไม่เหมือนคนอายุเลข 3 เลย
จองยุนโฮไม่เพียงแต่มีตําแหน่งเป็นรองกิลด์มาสเตอร์ที่แข็งแกร่งติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศเท่านั้นแต่เขายังเป็นผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S คนที่ 2 ของประเทศเกาหลีอีกด้วย
จองยุนโฮไม่เคยทําอะไรเพื่อสมาคมเลยสักครั้ง แต่เขามีชื่ออยู่ในระบบที่ทางสมาคมบันทึกเอาไว้เขาจึงถือเป็นหนึ่งในสมาชิกของสมาคมด้วยเช่นกัน การที่เขาปรากฏตัวในวันนี้อาจมีแผนการบางอย่างก็ได้
<<การตายของพี่ชาย ทําให้ตําแหน่งประธานสมาคมว่าง มีโอกาสสูงที่เขาอาจเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงตําแหน่งประธานคนใหม่>>
ไม่ใช่แค่กวอนโฮย็องเท่านั้นที่คิด ทุกคนที่สังกัดอยู่ในสมาคมต่างคิดเหมือนกันหมด หากพิจารณาจากความสามารถจองยุนโฮถือได้ว่าเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งในฐานะผู้ลงสมัครตําแหน่งประธานอย่างไม่ต้องสงสัย
กวอนแจฮุนที่เป็นอดีตประธานคนก่อนก็อยู่แรงค์ S เหมือนกับจองยุนโฮด้วยเช่นกัน ในสายตาผู้ตื่นขึ้นที่สังกัดอยู่ในสมาคม ต่างลงความเห็นว่าจองยุนโฮเหมาะสมกับตําแหน่งประธานมากที่สุด…
<<ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้ว เริ่มเปิดประชุมเลยแล้วกัน>>
ช่างหัวตําแหน่งประธานบ้าบออะไรนั้นไปก่อนในเวลานี้มีสิ่งหนึ่งที่เขาสมควรทํา
ศัตรูที่กวอนโฮยองควรมุ่งเน้นไม่ใช่จองยุนโฮ…
ศัตรูของเขามีแค่คนเดียว นั่นก็คือ คิมซูฮยอน
กวอนโฮยองเดินขึ้นไปบนเวทีแล้วหยุดอยู่หน้าแท่นโพเดียม เขาเริ่มเปิดปากพูดกับฝูงชนที่นั่งอยู่ในห้องประชุม
“ทุกคนคงทราบดีว่าเมื่อไม่นานมานี้ มีเหตุการณ์น่าสลดใจเกิดขึ้น”
“ทุกคนอาจเคยได้ยินข่าวมาบ้างแล้ว พี่ชายของผม ไม่ใช่สิ ประธานสมาคมเสียชีวิตแล้ว…”
ห้องที่จัดการประชุมตกอยู่ในความเงียบสงัด….
กวอนโฮยองรู้สึกมึนงงเล็กน้อยจากความเงียบที่ผิดปกติ แต่เขาก็กลั้นใจกล่าวต่อ
“ผมอยากจะกล่าวคําขอโทษ ผมหวังว่าทุกคนจะยอมรับคําขอโทษจากผม ในนามกิลด์ฮาโฮตาลและการกระทําของประธานสมาคมคนก่อน ผมขอโทษทุกคนจากใจจริง”
สิ่งแรกที่กวอนโฮย์องวางแผนไว้ว่าจะทํา คือการกล่าวคําขอโทษต่อหน้าสาธารณชน
กวอนโฮยองก้มหัวลงอย่างสํานึกผิด ไม่นานหลังจากที่เขาเงียบไป แฟลชกล้องสีขาวจากนักข่าวกะพริบวูบวาบบริเวณแท่นโพเดียมจึงเต็มด้วยแสงสีขาว
<<ฉันต้องลบภาพลักษณ์ของพี่ชายออกไป ต่อจากนี้จะเป็นการเดินทางครั้งใหม่ของฉัน>>
การก่อวินาศกรรมที่กิลด์ฮาโฮตาลเลือกใช้นั้น เป็นการกระทําที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะโดนประชาชนรุมประณาม
คนที่วางแผนก่อวินาศกรรมคือกวอนแจฮุนและเขาก็ตายจากไปแล้ว คนตายไม่สามารถพูดได้…
“อย่างไรก็ตาม ผมตระหนักดีถึงความผิดของประธานคนก่อน ในฐานะที่ผมเป็นรองกิลด์มาสเตอร์ผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวหลังจากผมกลับไปถึงกิลด์ ผมจะปฏิรูปกิลด์ใหม่ทั้งหมดให้สมาชิกทุกคนเดินบนเส้น ทางที่ถูกต้องแล้วก็…”
“นายขึ้นไปบนเวทีเพื่อกล่าวคําขอโทษกับพวกเราแค่นั้นเหรอ?”
เสียงที่ดังแทรกขึ้นมากลางคัน เป็นเสียงของจองยุนโฮ
กวอนโฮย็องพิศมองไปที่จองยุนโฮ เป็นอย่างที่เขาเคยคาดคิดไว้ จองยุนโฮคือชายที่ขึ้นชื่อเรื่องการควบคุมอารมณ์และมีบุคลิกแปรปรวนไร้เหตุผล
“ไม่ใช่ ผมยังมีเรื่องอื่นอีก”กวอนโฮยองกล่าวตอบ
“เรื่องอะไร?”
“เหตุผลที่ผมเรียกตัวพวกคุณให้มาประชุมในวันนี้ เป็นเพราะคิมซูฮยอน”
ทันทีที่ชื่อคิมซูฮยอนถูกเอ่ยออกมาห้องประชุมเริ่มเกิดเสียงพูดคุยจากฝูงชน แต่ไม่นานเสียงก็ค่อยๆเงียบหายไปหลงเหลือเพียงเสียงพูดจึมงําจากนักข่าวที่อยู่ด้านหลังเท่านั้น
กวอนโฮยองรีบกล่าวต่อว่า “ผมมั่นใจว่าทุกคนคงรู้อยู่แล้ว่ากิลด์ฮาโฮตาลของผมกับคิมซูฮยอนเป็นศัตรูกัน”
“ข่าวออกจะดัง ไม่รู้ก็บ้าแล้ว”
“การปะทะกันระหว่างกิลด์ฮาโฮตาลและคิมซูฮยอน ผลลัพธ์สุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้ชนะค่อนข้างชัดเจนอยู่นะ”
“หากกวอนแจฮุนยังมีชีวิตอยู่ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนไป แต่เจ้าบ้านั่นกลับตายเยี่ยงหมาข้างถนนเพราะการกระ ทําอันแสนโง่เขลาของตัวเอง”
“นายพูดเสียงดังเกินไปแล้ว ระวังปากไว้หน่อย เดี๋ยวน้องชายของก็อนแจฮุนได้ยินเข้า จะเป็นเรื่องเอา”
เสียงพูดพึมพําของพวกเขา กวอนโฮยองได้ยินชัดเจนเต็มสองรูหู
กวอนโฮยองเงี่ยหูตั้งใจฟังความคิดเห็นจากฝูงชนในห้องประชุมอย่างใกล้ชิด เพราะเขาอยากรู้ว่าสมาชิกที่สังกัดอยู่ในสมาคมจะมีปฏิกิริยายังไง หลังจากได้ยินและรู้ว่าพวกเขาคิดอย่างไรกวอนโฮยองอดไม่ได้ต้องขม วดคิ้วขึ้น แม่ในห้องประชุมจะมีเสียงพูดคุยจากหลายปาก แต่เขาเป็นผู้ตื่นขึ้นแรงค์ A จึงสามารถจําแนกได้ว่าเสียงที่ได้ยินออกมาจากปากของใคร
<<โธ่เว้ย>>
กวอนโฮย็องไม่คิดมาก่อนเลยว่าการตายของก็อนแจฮุนผู้เป็นพี่ชายจะทําให้กิลด์ฮาโฮตาลได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ไว้หน้าแบบนี้
เขาขบฟันด้วยความโกรธ แม่ใจจะมีความโกรธสุมอยู่มากเพียงใดเขาก็ไม่สามารถระบายมันออกมาได้เป้าหมายของเขาในวันนี้ไม่ได้มาสร้างความแตกแยกเขาต้องโน้มน้าวใจคนในที่ประชุม เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง
“การต่อสู้กับคิมซูฮยอน ไม่ใช่ปัญหาของกิลด์ฮาโฮตาลเพียงอย่างเดียว”
“อะไรนะ?”
“นายหมายความว่าไง?”
“พูดบ้าอะไรของมัน?”
“ฉันนึกออกแล้ว อย่าบอกนะว่าเขากําลังหมายถึงสํานักงานผู้ตื่นขึ้น…”
ฝูงชนที่อยู่ในห้องส่งเสียงพูดคุยเจี๊ยวจ๊าวขึ้นมาอีกครั้ง กว์อนแจฮุนจึงแบ่งถ่ายพลังเวทย์ลงไปในน้ําเสียงและกล่าวต่อ
“ปัจจุบันคิมซูฮยอนมองกิลด์ฮาโฮตาลเป็นศัตรู บางทีเขาอาจมองสมาคมเป็นศัตรูด้วยเหมือนกันโปรดอย่าลืมว่าซูฮยอนไม่มีกิลด์สังกัดเป็นหลักแหล่ง แต่เขากลับมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้อํานวยการของสํานักงานผู้ตื่นขึ้น”
“ซูฮยอนและผู้อํานวยการมีสัมพันธไมตรีต่อกันไม่น้อย หมายความว่าเขาเป็นศัตรูกับสมาคมด้วยสินะ? ฉันเข้าใจถูกมั้ย?”
กวอนแจฮุนกล่าวตอบ “ถูกต้องแล้ว ทุกคนคงทราบกันดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างสมาคมและสํานักงานเลวร้ายลงทุกวันนอกจากนี้ซูฮยอนมีประวัติปฏิเสธคําขอร้องของทางสมาคมเสมอ”
“แล้วมันแปลกตรงไหน?”
“นายยังไม่เข้าใจอีกงั้นเหรอ? ซูฮยอนปฏิเสธคําร้องขอของสมาคมมาโดยตลอด แต่พอสํานักงานติดต่อไปขอความช่วยเหลือ เขารีบบินกลับจากซานฟรานซิสโกมาถึงประเทศเกาหลีโดยใช้เวลาไม่ถึง 1 วันนายเริ่มเห็น ข้อแตกต่างหรือยัง? และเมื่อไม่นานมานี้เขายังเลือกที่จะปะทะกับสมาชิกกิลด์ฮาโฮตาลโดยตรงอีกด้วย”
“หืม…ซูฮยอนเคยปะทะกับสมาชิกกิลด์ฮาโฮตาลมาก่อนเหรอ? ไม่เห็นเคยได้ยิน สงสัยจะเป็นช่วงก่อนโจมตีดันเจี้ยนแน่ๆ”
“ฟังจากที่กวอนโฮยองพูดมา เหมือนจะเป็นปัญหาที่หนักเอาการอยู่นะ”
“นายคิดงั้นจริงดิ? แต่ฉันคิดว่าคําพูดของกวอนโฮยองมีน้ําหนักไม่มากพอที่จะยืนยันได้ว่าซูฮยอนเป็นศัตรูกับทางสมาคมจริงๆ”
ความคิดเห็นของผู้คนแตกต่างกันออกไป ตามความเข้าใจและการวิเคราะห์ของตัวเอง
หากคําพูดที่ออกมาจากปากกวอนโฮย็องเป็นความจริง หมายความว่าซูฮยอนและกิลด์ฮาโฮตาลมีความขัดแย้งกันมานานแล้ว ก่อนที่กิลด์ฮาโฮตาลจะตัดสินใจก่อวินาศกรรมด้วยซ้ํา
ไม่น่าเชื่อว่าชายเพียงคนเดียวจะกล้าปะทะกับกิลด์ฮาโฮตาลตรงๆ ที่สําคัญกิลด์มาสเตอร์ของกิลด์ฮาโฮตาลคนก่อนเป็นถึงประธานสมาคมด้วย…
<<ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันต้องพยายามพูดใส่ไฟสร้างความขัดแย้งระหว่างสมาคมและซูฮยอนให้ได้แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่กิลด์ฮาโฮตาลจะเอาชนะชายคนนั้นได้ ฉันจําเป็นต้องหากําลังหนุนเพิ่มแม้วันนี้ฉันต้องเสียหน้าแต่เพื่อเป้าหมาย…>>
แอ๊ด….
ทันใดนั้นเอง ประตูห้องประชุมที่ปิดแน่นสนิท ก็ถูกใครบางคนผลักให้เปิดออก สถานการณ์ภายในห้องประชุมหยุดชะงักลงฉับพลัน การปรากฏตัวของผู้มาใหม่ดึงดูดความสนใจของทุกคนสายตาหลายคู่ตรึงไปที่ประตู
ไม่นานห้องประชุมที่เงียบสงบพลันเกิดความโกลาหลลุกลามไปทั่ว
“คะ คะ คิมซูฮยอน!!”
“คิมซูฮยอนมาทําอะไรที่นี่?”
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องประชุมด้วยท่าทางเงียบขรึม ชายหนุ่มที่ว่าไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคิมซูฮยอนคนที่กําลังเป็นหัวข้อสนทนา…
ลีจุนโฮเดินเลื่อยเฉื่อยตามหลังซูฮยอนมาติดๆ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล ซึ่งต่างจากซูฮยอนที่มีสีหน้าเรียบเฉย
กวอนโฮย็องเพิ่งพูดเกี่ยวกับซูฮยอนไปหยกๆ ทว่าซูฮยอนที่เขากําลังพูดถึง กลับโผล่มาที่ห้องประชุมอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเขาปิดปากเงียบพร้อมเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา
<<หมอนั่นมาทําอะไรที่นี่?>>
ซูฮยอนมีเรื่องบาดหมางกับกิลด์ฮาโฮตาล ความบาดหมางระหว่างพวกเขาเริ่มใหญ่โตมากขึ้นต้นเหตุเป็นเพราะซูฮยอนเปิดเผยการก่อวินาศกรรมของกิลด์ฮาโฮตาลให้สื่อมวลชนทราบและเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นตัวร้ายในสายตาประชาชน
แต่ถ้าซูฮยอนต้องการต่อสู้กับกิลด์ฮาโฮตาล เขาไม่ควรมาที่นี่ เพราะการประชุมครั้งนี้ กิลด์ฮาโฮตาลไม่ใช่เจ้าภาพการประชุมครั้งนี้ทางสมาคมต่างหากที่เป็นเจ้าภาพ
<<เดี๋ยวก่อนนะ อย่าบอกนะว่าเขาได้ยินทุกคําที่ฉันพูด?>>
ไม่รู้ว่าซูฮยอนมาถึงที่นี่ตั้งแต่ตอนไหน เป็นไปได้ว่าซูฮยอนอาจได้ยินสิ่งที่กวอนโฮยองพูดในห้องประชุมทุกอย่างตั้งแต่ต้น ขณะยืนรออยู่หน้าประตูก็ได้
“ทําไมนายไม่พูดต่อล่ะ?”ซูฮยอนนั่งลงบนเก้าอี้ว่าง สายตาจ้องมองกวอนโฮย็องตรงๆ
“พูดต่อสิ ฉันอยากฟังคําพูดที่เหลือ”
เมื่อเห็นซูฮยอนนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์ ราวกับว่าที่แห่งนี้เป็นห้องนั่งเล่นของเขาฝูงชนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมเกิดอาการอาหลักอาเหลื่อขึ้นมาเล็กน้อย ตามปกติต้องมีคนกลุ่มหนึ่งกระซิบกระซาบกันแต่แปลกที่ครั้งนี้ไม่มีใครกล้าเปิดปากพูดเลยแม้แต่คนเดียว
ไม่ต้องคิดให้ปวดหัวก็ทําความเข้าใจได้ง่ายๆ เหตุใดคนในห้องประชุมถึงพากันปิดปากเงียบ เพราะพวกเขา ไม่ต้องการเป็นศัตรูกับซูฮยอน
<<เจ้าพวกขี้ขลาดเอ๊ย ทีแบบนี้ทําเป็นเงียบ…>>
กวอนโฮยองกวาดสายตามองฝูงชนในห้องประชุม ภายในดวงตาเกิดแสงสว่างเปล่งประกายห้องประชุมเนื่องแน่นไปด้วยกลุ่มคนจํานวนมาก ไม่ได้มีแค่นักข่าวเท่านั้น แต่ยังมีกิลด์มาสเตอร์และรองกิลด์มาสเตอร์ที่สังกัดอยู่ในสมาคมรวมอยู่ด้วย
แม้ว่าคิมซูฮยอนจะแข็งแกร่งขนาดไหน ก็ไม่มีทางต้านทานผู้ตื่นขึ้นที่อยู่ในห้องนี้ได้แน่หากกวอนโฮย็องสามารถเปลี่ยนซูฮยอนให้กลายเป็นศัตรูของทุกคนได้ล่ะก็ ฝ่ายที่ได้เปรียบจะเป็นเขา
สถานที่ที่ซูฮยอนเหยียบย่ําอยู่ ไม่ใช่ที่ตั้งกิลด์ฮาโฮตาล แต่เป็นที่ตั้งของสมาคม นี่อาจเป็นโอกาสของเขาที่จะสามารถตอบโต้ซูฮยอนกลับได้ เขาจะปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้ให้หลุดมือไป ไม่ได้เด็ดขาด…
“คุณคิมซูฮยอน รู้ไหมว่าการกระทําของคุณเป็นอะไรที่เสียมารยาทมาก มีเหตุผลอะไร ทําไมคุณจึงขัดจังหวะการประชุมของพวกเรา?”
กวอนโฮยองไม่พูดอ้อมค้อม เขาเลือกประจันหน้ากับซูฮยอนตรงๆ
ซูฮยอนเองก็ไม่น้อยหน้า รีบตอกกลับคําพูดของกวอนโฮย็องทันควัน