เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 653-654
บทที่ 653 สายเรียกเข้าของหยู่หมิน
เช้าวันรุ่งขึ้น เจี่ยนอีหลิงได้รับโทรศัพท์จากเจี่ยนหยู่หมิน น้ําเสียงของเจี่ยนหยู่หมิน
ค่อนข้างกระวนกระวาย
“อีหลิง เธอหมั้นกับจํายหวินเจ๋งจริงๆเหรอ?!!!”
“อือ” เจี่ยนอีหลิงตอบ ในทางตรงกันข้ามน้ําเสียงของเจี่ยนอีหลิงนั้นเยือกเย็นเกินไป
“ไอ้บ้านั่นทําอะไรเธอ? เขาขู่เธอเหรอ? เขาล่อลวงเธอเหรอ?”
“ไม่” จํายหวินเซึ่งไม่ได้ขู่เธอแน่นอน เขาไม่ได้ล่อลวงเช่นเดียวกัน
“อีหลิง ไม่ต้องกลัว! บอกความจริงมา” เจี่ยนหยู่หมินกล่าวราวกับว่าพร้อมที่จะต่อสู้กับจํายหวินเชิง
เจี่ยนหยู่หมินกังวลอย่างมากว่าจํายหวินเชิ่งจะใช้วิธีการที่ไม่ซื่อสัตย์เพื่อบังคับให้เจี่ยนอีหลิงหมั้นกับเขา
“นั่นคือความจริง ไม่ต้องกังวล” เจียนอีหลิงตอบ พยายามสร้างความมั่นใจให้กับเจียนหยู่หมิน
ยังไงก็ตาม เป็นไปไม่ได้ที่เชี่ยนหยู่หมินจะไม่กังวล
“แล้ว…เธอชอบเขาไหม” เจียนหยู่หมินถามด้วยความลังเล
“ฉันไม่รู้” เจียนอีหลิงตอบ เธอไม่รู้คําตอบสําหรับคําถามนี้
การชอบใครสักคนรู้สึกยังไง? สําหรับเจียนอีหลิงแล้วคําถามนี้ซับซ้อนยิ่งกว่าคําถามทางการแพทย์ใดๆ
เธอไม่เข้าใจคําถาม ดังนั้นเธอจึงไม่คิดมากไปกว่านี้
ไม่รู้…คําตอบนี้ทําให้เจี่ยนหยู่หมินปวดหัว
“อีหลิง เธออยากจะคิดเรื่องนี้อีกสักหน่อยไหม?”
“ไม่จําเป็น ฉันสัญญากับเขาแล้ว ฉันจะไม่ถอนคําพูด”
เมื่อได้ยินดังนั้น อารมณ์ของเจี่ยนหยู่หมินก็หดหู เขายังไม่ได้ใช้เวลากับน้องสาวมากพอ เธอยังถูกหมาป่าเอาไปไม่ได้
“อีหลิงเราไม่ได้ถอนคําพูด เราแค่รออีกสักหน่อย น้องแค่เลื่อนการหมั้นเป็นเวลาหนึ่งปีหรือสองปี”
จากนั้น เธอก็จะสามารถเลื่อนการแต่งงานออกไปอีกห้าถึงสิบปี
เจี่ยนหยู่หมินไม่ได้ต่อต้านความสัมพันธ์ของเจียนอีหลิงกับจํายหวินเชิง แต่ว่าเขาไม่อยากให้เธอไปจากครอบครัวเร็วเกินไป
“ไม่เป็นไร มันก็เหมือนกัน ไม่ช้าก็เร็ว” เจี่ยนอีหลิงตอบ
“ไม่เหมือนกัน จะดีกว่าถ้าเป็นภายหลัง ถ้าช้อีกสักหน่อย ฉันก็จะไม่เสียใจเท่า…” เจี่ยนหยู่หมินกล่าวขณะที่เขากําลังหลงทิศ
ในตระกูลของพวกเขามีผู้หญิงเพียงคนเดียว! ที่เหลือล้วนแต่พวกตัวเหม็น! ยิ่งกว่านั้นเจ้าพวกเด็กเหลือขอพวกนั้นไม่ได้ขโมยหญิงกลับเข้ามาในตระกูล แต่ในทางกลับกัน ผู้หญิงคนเดียวในตระกูลกลับถูกขโมยไปจากพวกเขา
ยังไงก็ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้!!
“ฉันสัญญาแล้ว ฉันจะไม่เปลี่ยนการตัดสินใจ อย่าอารมณ์เสียเลย” เจียนอีหลิงตอบ
“อาา ฉันจะไปจองเที่ยวบินแล้ว อย่าหมั้นก่อนที่ฉันจะไปถึงเป่ยจิง จําไว้ว่าฉันต้องอยู่ที่นั่น!”
“ตกลง”
เจียนอีหลิงคุยกับเจี่ยนหยู่หมินอีกสองสามนาทีก่อนที่เธอจะวางสาย
เมื่อวางสายเจี่ยนหยู่หมินยังคงรู้สึกไม่สบายใจ เขาต้องการหาคนคุยด้วย
ขณะที่เขาเลื่อนดูรายชื่อติดต่อ เขาก็เห็นชื่อของหลัวซิ่วเอิน
ด้วยเหตุผลแปลกๆ เขาจึงตัดสินใจโทรหาเธอ
โทรศัพท์ดังอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะรับสาย
“หยู…หยู่หมิน?” หลัวซิ่วเอินกล่าว น้ําเสียงสั่นสะท้านอย่างเห็นได้ชัด
“น้องสาวของฉันกําลังจะหมั้น ฉันรู้สึกไม่สบายใจจริงๆ เธอช่วยคุยกับฉันหน่อยได้ไหม? ฉันคิดว่าเธออาจจะเข้าใจความรู้สึกของฉันตอนนี้ก็ได้”
หลัวซิ่วเฉินมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจียนอหลิงอันที่จริง เธอก็เหมือนพี่สาวคนหนึ่งของเจียนอีหลิง
“รอสักครู่!”
คําตอบนี้ไม่สมเหตุผลเลย
จากนั้นเจี่ยนหยู่หมินก็ได้ยินเสียงหอบ ดังออกมาจากในโทรศัพท์
ผ่านไปนานหลัวซิ่วเฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง “เอาล่ะ โปรดเล่าต่อ”
“เธอ… ไปวิ่งมาเหรอ?”
“ฉันรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ฉันอยากหนีจากความตื่นเต้น”
เอ่อ…
อืม… อย่างน้อยเธอก็ไม่วางสายทันที นี้เป็นครั้งแรกที่เจี่ยนหยู่หมินโทรหาหลัวจิ๋วเอิน
“เธอรู้ไหมว่าอีหลิงกําลังจะหมั้น?”
“หือ? อีหลิงจะหมั้นแล้วเหรอ???
นี่เธอมาเป็นนักวิจัยที่สถาบันวิจัยทางการแพทย์ขี่ยหลิงทั้งที่มีความรู้สึกขนาดนั้นได้ยังไง?
บทที่ 654 โดนแฟนคลับของตัวเองซ้อม
“โอ้ บ้าจริง! วันนั้นเธอยังมาถามฉันอยู่เลยว่าถ้าเขามาสารภาพจะทํายังไง? ทําไมเธอถึงหมั้นกันเร็วขนาดนี้? เธอข้ามขั้นตอนสําคัญๆไปหรือเปล่า?”
“บางที” เจี่ยนหยู่หมินตอบ เมื่อเขาได้ยินปฏิกิริยาของหลัวซิ่วเอิน เจี่ยนหยู่หมินก็รู้สึกดีขึ้นมาก จากนั้นเขาก็พูดว่า “อ่าา ฉันยังรู้สึกอารมณ์เสีย ฉันอยากจะสู้กับใครสักคน”
เจี่ยนหยู่หมินอารมณ์เสียจริงๆ ยังไงก็ตามเขารู้ว่าเขาไม่สามารถหยุดอีหลิงจากการหมั้นหมายได้
แม่เขาทําร้ายครอบครัวของอีหลิง นอกจากนี้ แม่ยังทําให้อีหลิงต้องทนทุกข์ทรมานอีกด้วย
ตามจริงแล้ว เขาเพิ่งรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้หลังจากที่มันเกิดขึ้น
ดังนั้นเขาจึงละอายใจที่จะเผชิญหน้ากับพี่น้องของตัวเอง
ถ้าเขาระมัดระวังมากกว่านี้ บางทีเขาอาจจะสามารถทําหน้าที่พี่ชายได้สําเร็จ บางทีพวกเขาก็อาจจะได้รับความเดือดร้อนน้อยลงเล็กน้อย
ดังนั้นปัจจุบันนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะตัดสินใจอะไร ทางเลือกเดียวคือสนับสนุนพวกเขา
“ฉันสามารถสู้กับนายได้” หลัวซิ่วเฉินตอบ
หลัวซิ่วเอินไม่ค่อยเก่งเรื่องอื่น แต่ว่าเธอเก่งเรื่องการต่อสู้ ดังนั้นเธอจึงมีคุณสมบัติ
เพียงพอที่จะต่อสู้กับเจี่ยนหยู่หมิน
“โอเค” เจี่ยนหยู่หมินตอบ เขาตั้งตารอการต่อสู้ จากนั้นเขาก็พูดเสริมว่า “แต่เธอเป็นผู้หญิง อย่าโทษฉันถ้าแพ้”
“อย่ากังวล ถ้าฉันแพ้ ฉันยินดีที่จะยอมรับความพ่ายแพ้!”
ด้วยเหตุนี้ เจียนหยู่หมินและหลัวซิ่วเอินจึงตกลงที่จะพบกันที่โรงยิมมวย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
เจียนหยู่หมินทรุดตัวลงบนพื้นเวทีมวย เขาหอบอย่างหนัก
เขาเจ็บไปทั้งตัว
เจ็บไปทั่วตัวตั้งแต่หน้าอกถึงต้นขา!
อ่าา พรุ่งนี้เช้าทั้งตัวน่าจะเต็มไปด้วยสีม่วงและเขียว
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณแฟนตัวยงหลัวซิ่วเอิน
“พี่ชาย… พี่หยู่…นายสบายดีไหม” หลัวซิ่วเอินถามด้วยสีหน้าเขินอาย
พอเริ่มชกมวยเธอก็สนุก
ทําให้เธอลืมไปชั่วขณะว่าเธอกําลังชกมวยกับไอดอล
แล้วก็…
“อ๊ะ ฉันไม่เป็นไร รู้สึกดี”
เขาจะพูดอะไรได้อีก? เขาปล่อยให้หลัวซิ่วเอ็นดูถูกไม่ได้ เขายังคงมีชื่อเสียงที่จะต้องรักษาเอาไว้
“จริงเหรอ?” หลัวซิ่วเอินถาม ดูเหมือนเธอไม่เชื่อคําพูดของเขา
“ใช่”
“ถ้าอย่างนั้น…นายต้องการให้ฉันช่วยไหม?”
“ไม่จําเป็น! ฉันลุกขึ้นเองได้!”
“เอ่อ โอเค..”
ในความพยายามที่จะพิสูจน์ว่าเขาสามารถลุกขึ้นได้ด้วยตัวเอง เจียนหยู่หมินจึงใช้มือแตะพื้น เขาลุกขึ้นด้วยความลําบากอย่างมาก
จากนั้นเขาก็เผลอสัมผัสตัวเองในจุดที่เจ็บปวดโดยไม่ได้ตั้งใจ เจียนหยู่หมินส่งเสียงด
เมื่อได้ยินเสียงความเจ็บปวดของเจียนหยู่หมินผ่านลมหายใจ หลัวซิ่วเอ็นก็รู้สึกแย่มาก
อาา ซ้อมเฉิงอี้และคนอื่นไม่เป็นไร แต่ทําไมเธอถึงต้องซ้อมพี่หยู่ด้วยล่ะ? เธอไม่สามารถต้านทานแรงกระตุ้นที่จะต่อสู้กับใครซักคนได้หรือไง?
สิ่งนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก
เพราะเธอเป็นแฟนคลับของพี่หยู่!
หลังจากที่เจี่ยนหยู่หมินลุกขึ้น เขาก็สะดุดกับที่นั่ง เขาไม่อยากเคลื่อนไหวอีกต่อไป
เมื่อเห็นแบบนี้หลัวซิ่วเฉินก็นําน้ํามาให้
“เธอสงสัยหรือเปล่าว่าทําไมจู่ๆ ฉันถึงลาออกจากวงการบันเทิง?”
ความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้าทําให้เจียนหยู่หมุนปล่อยวาง ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจลาออกจากวงการบันเทิงทันที
“อืมม สงสัยอยู่” เนื่องจากหลัวซิ่วเฉินเป็นแฟนคลับของเจี่ยนหยู่หมินเธอจึงค่อนข้างแปลกใจและเศร้าในตอนแรกเมื่อได้ยินข่าวนี้
“อืม ที่ผ่านมาฉันไม่เคยดูแลน้องๆมาก่อนเลย ในอนาคตฉันก็เลยอยากดูแลให้ดี” เจียนหยู่หมินกล่าวเบาๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาบอกเรื่องนี้กับใครบางคน คําพูดเหล่านี้ถูกเก็บซ่อนไว้ลึกๆในใจ
หลังจากเหตุการณ์นั้นพ่อแม่หย่าร้างกันเจี่ยนหยู่โป๋ออกจากครอบครัวไปแล้ว เขาไม่เคยกลับไปที่เมืองเหิงหยวน หลังจากนั้นไม่นานเจี่ยนหยู่เงียก็จากไป
จึงทําให้ไม่มีที่ที่เขาเรียกว่าบ้านอีกต่อไป