เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 651-652
บทที่ 651 คู่แข่งแห่งความรักปรากฏต…
ในที่สุด ตระกูลเจี้ยนที่เหลือก็ได้รับรู้ว่าเจียนอีหลิงคิดที่จะหมั้นหมายกับจํายหวินเชิง
ซึ่งข่าวนี้ได้สร้างความตกใจให้กับตระกูลเจียนเป็นอย่างมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะท่านผู้เฒ่าจํายมาเยี่ยมพวกเขาและเจียนอีหลิงก็ออกมายอมรับกับพวกเขาเองตระกูลเจียนคงไม่มีทางเชื่อในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ ตระกูลเจียนจึงขอยืมห้องหนังสือของตระกูลเวินชั่วคราวเพื่อทําการหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้
นอกจากปู่เจียนและย่าเงี่ยนแล้ว คนที่มาร่วมปรึกษาหารือก็มีเงี่ยนชูฉิง เวินน่วน เงี่ยนหยุ่นเฉิงและเงี่ยนหยุ่นน่าว
“ไม่! ลูกสาวของฉันอายุแค่สิบแปดปีเท่านั้นเธอหมั้นไม่ได้ในตอนนี้” เงี่ยนชูฉิงร้องออกมาทันที
“อืม ฉันกับแม่เธอ เราได้ตกลงกันแล้ว”ปู่เจี้ยนตอบ
“แต่ทําไม? อีหลิงอายุเพียงสิบแปดปีเท่านั้นและเธอยังเด็กมาก…ผมสามารถให้เธอออกเดทได้ในตอนนี้แต่เรื่องที่จะต้องหมั้นกันนั้น…”
เงี่ยนชูฉิงสามารถยอมรับได้มากที่สุดก็คือลูกสาวของเขากําลังคบหาอยู่กับใครสักคน
“อืม แต่นี่คือสิ่งที่อีหลิงเห็นด้วย” ย่าเงี่ยนตอบ“ฉันจะสนับสนุนการตัดสินใจของอีหลิงเสมอ ฉันแค่อยากให้เธอมีความสุขและฉันจะไม่ฟังคําพูดของพวกเธอทั้งนั้น”
“แม่…” เจียนชูฉิงกล่าว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความขมขึ้นและทําอะไรไม่ถูก ซึ่งเขาไม่รู้ว่าจะอธิบาย ความรู้สึกนี้ได้ยังไง
ย่าเงี่ยนถอนหายใจอีกครั้ง “ซูฉิง อีหลิงแตกต่างจากเด็กคนอื่น พวกเธอได้หักปีกของหลานรักไปแล้ว ในวัน ที่อีหลิงต้องการพวกเธอมากที่สุด ดังนั้นเธอไม่สามารถตําหนิอีหลิงที่มีความคิดเป็นของตัวเองได้ นอกจากนี้นา ยท่านเชิงยังได้ช่วยอีหลิงไว้มากมาย ดังนั้นในหัวใจของเธอ บางที่นายท่านเชิงอาจมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะสา มารถปกป้องเธอได้มากกว่า และด้วยเหตุผลนี้เราจึงไม่มีคุณสมบัติที่จะหยุดเธอจากการเลือกด้วยตัวของเธอ เอง”
และคําพูดของย่าเงี่ยนนั้น เปรียบเสมือนตะปูเหล็กที่ถูกตอกเข้าไปในหัวใจของเงินน่วนและเงี่ยนชูฉิงอย่าง รุนแรง
บาดแผลเมื่อสามปีที่ผ่านมายังไม่หายดี
จากนั้นปู่เจียนได้พูดเสริมอีกว่า “นอกจากนี้ นั่นคือตระกูลจําย และถ้าหากตระกูลจํายต้องการอีหลิง เราจะ สามารถหยุดพวกเขาได้ยังไง?”
ไม่ว่าตระกูลเจียนจะยอมรับเรื่องนี้ได้หรือไม่ก็ตาม แต่เรื่องนี้ก็ยังเป็นความจริงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ด้วยเหตุนี้ปู่เจียนและย่าเงี่ยน จึงใช้เหตุผลสองประการนี้เพื่อหยุดเสียงคัดค้านจากตระกูลเจี้ยนที่เหลือ
ความเป็นจริงนั้น ช่างโหดร้ายเหลือเกิน
ในตอนนี้ หัวใจของเงี่ยนหุ่นน่าวเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เขารู้ว่าน้องสาวจะอยู่ห่างจากเขามากขึ้นไปเรื่อยๆ
ท้ายที่สุด เขาเป็นคนที่เริ่มต้นทุกอย่าง
เงี่ยนหยุ่นเฉิงไม่ได้พูดอะไรออกมาระหว่างการสนทนาในครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากคัดค้าน แต่เป็น เพราะเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะคัดค้านแม้แต่คําเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้น อพาร์ตเมนต์ของเงี่ยนอี้เฉินได้ต้อนรับแขกคนหนึ่งนั่นก็คือ ถั่วซวิน
เจียนอี้เฉินบอกเจียนอหลิงอย่างยิ้มแย้มว่า “อหลิง นี่คือลั่วซวินเขาเป็นคนหนุ่มไฟแรง และมีความสามารถที่ ฉันอยากจะแนะนําให้เธอรู้จัก”
แม้ว่าจะผ่านไปสามปี แต่คุณสมบัติของวซวินก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ลักษณะของเขายังคงเด็ก และน่าดึงดูดเหมือนเดิม
“สวัสดีอีหลิง ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง” ลั่วซวินยิ้ม ซึ่งรอยยิ้มของเขาเผยให้เห็นฟันขาวเรียงกันเป็นระเบียบ
“อือ” เงี่ยนอีหลิงทักทาย เธอมีความสุขมากที่เห็นรอยยิ้มสดใสของลั่วซวิน
เจียนอีหลิงได้ตรวจสอบสถานการณ์ของถั่วซวินในช่วงสามปีที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว
“เธอยังจําฉันได้ไหม?”
“ฉันจํานายได้” เจียนอีหลิงตอบ เธอจะลืมเขาได้ยังไงกัน
“เธอถักหมวกให้ฉันด้วย และฉันก็ดูแลหมวกเป็นอย่างดี อ้อ อันที่จริงฉันก็สวมหมวกใบนั้นเป็นบางครั้ง”
“ดีแล้ว”
เงี่ยนอีหลิงไม่ได้พูดอะไรมากนัก แต่ในทางตรงกันข้าม ถั่วซวินชอบพูดเป็นที่สุด จึงส่งผลให้บทสนทนานี้ ไม่น่าเบื่อมากจนเกินไป
เมื่อเห็นว่าเจียนอีหลิง และถั่วซวินกําลังสนทนากันอย่างมีความสุข ก็ทําให้เจี้ยนอี้เฉินมีความสุขเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ เจียนอี้เฉินไม่ได้เร่งรีบที่จะแนะนําถั่วซวินให้กับเจียนอีหลิงได้รู้จัก แต่ทว่าหลังจากที่ได้ยินข่าว ว่าเจียนอีหลิงกําลังจะหมั้นกับจํายหวินเชิง เขาก็ทําการลากตัวลั่วซวินมาที่อพาร์ตเมนต์ทันที จากนั้นเขาก็จัดให้ ลั่วซวินพบกับเจียนอหลิง
บทที่ 652 คู่แข่งแห่งความรักปรากฏตัว 2
เมื่อจํายหวินเพิ่งเข้ามาคุยกับเจียนอีหลิง เขาก็เห็นเงี่ยนอีหลิงและถั่วซวินคุยกันอย่างมีความสุข
เขาจํารั่วซวินได้ในทันที เพราะเงี่ยนอีหลิงได้มอบหมวกให้ผู้ชายคนนี้ และที่สําคัญมันเป็นหมวกที่เธอถัก ด้วยมือของเธอเอง!
เงี่ยนอี้เฉินกําลังพิงกับวงกบประตู เขายิ้มเล็กน้อยและพูดกับจํายหวินเซิ่งว่า “ดูสิ มีผู้ชายดีๆมากกว่าหนึ่ง คนในโลกใบนี้ ซึ่งทําให้น้องสาวของฉันมีทางเลือกมากขึ้นกว่าเดิม นายคู่ใช่ไหม?”
เจียนอี้เฉินพูดเบามาก และด้วยเหตุนี้ จึงมีเพียงจํายหวินเชิงเท่านั้นที่ได้ยินคําพูดของคนตรงหน้า
“ขอบคุณซิสเตอร์อี้เฉิน ที่มองว่าฉันเป็นคนดี” จํายหวินเซิ่งตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“หยุดไร้ยางอายเสียที่ ถั่วซวินและอีหลิงกําลังคุยกันอย่างน่ารัก” เงี่ยนอี้เฉินตอบ เขาจงใจพยายามก่อกวน จํายหวินเชิง
ท้ายที่สุดแล้ว จํายหวินเชิงพยายามขโมยน้องสาวไปจากเขา!
น้องสาวเขายังเด็กมาก แล้วชายตรงหน้าเขาจะขโมยเธอไปในเร็ววันนี้ได้ยังไงกัน?
ดังนั้น เขาจึงต้องทําให้ผู้ชายคนนี้รู้สึกรําคาญ!
“การพูดคุยอย่างน่ารักไม่ได้มีความหมายอะไรเลย” จํายหวินเชิงตอบ เขามีสีหน้าที่เย็นชาเป็นอย่างมาก
“อืม อีหลิงได้ถักหมวกให้กับลั่วซวินด้วย และที่สําคัญเธอถักมันเองกับมือ”
“โอ้ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ เพราะเสื้อกันหนาวที่ฉันใส่ก็ถักโดยอีหลิงเหมือนกัน” จํายหวินเพิ่งตอบ “อาาซิสเตอร์เฉินมีบางอย่างที่นายอาจจะยังไม่รู้ อีหลิงได้ถักเสื้อกันหนาวสําหรับเจียนหยุ่นเฉิงเจียนหยุ่นโม่เจียนหยู่หมิน และเจียนหยู่เจียอีกด้วย”
เจียนอี้เฉินเดิมที่ตั้งใจจะก่อกวนจํายหวินเชิง
แต่ทว่า ในที่สุดเขากลับอารมณ์เสียแทน!
เงี่ยนอี้เฉินถูกตรึงอยู่กับที่ เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อไป
ท้ายที่สุด เขาก็ไม่ได้รับเสื้อสเวตเตอร์เป็นของขวัญ เนื่องจากน้องสาวของเขาไม่ได้ถูกมันขึ้นมา!
ในระหว่างที่เงี่ยนอี้เฉินยังคงอยู่ในความงุนงง จํายหวินเจ๋งก็เรียกเจียนอีหลิง “อีหลิง”
เจียนอีหลิงหันไปมองเขาในทันที
“ไปกันเถอะ” จํายหวินเจ๋งกล่าว
ซึ่งทั้งสองคนได้ตกลงกันไว้ว่าจะออกไปด้วยกันในวันนี้
“ตกลง
จากนั้น เงี่ยนอีหลิงก็หันไปบอกลารั่วซวินเล็กน้อย แล้วเธอก็เดินไปหาจํายหวินเชิง และทั้งคู่ก็ก้าวเดินออกไปพร้อมกัน
หลังจากที่เจี้ยนอีหลิงออกไปกับจํายหวินเชิงแล้ว เงี่ยนอี้เฉินก็อารมณ์เสียเป็นอย่างมาก จนเขาต้องกระทืบ เท้าลงพื้นด้วยความโกรธ
“อาา ไอ้เวรนั่น” เจียนอี้เฉินสาปแช่งจํายหวินเจ๋งอยู่ในใจ
เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ถั่วซวินก็ยิ้มก่อนจะพูดขึ้นว่า “นายน้อยอี้เฉินผู้ชายคนนั้นเป็นคู่หมั้นของอีหลิงงั้นเหรอ?”
“เขาไม่ใช่” เงี่ยนอี้เฉินได้ตอบกลับอย่างรวดเร็ว และน้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“หรือเขาทําอะไรเธอ? เขาทําอะไรไม่ดีลงไปหรือเปล่า?” ลั่วซวินถามด้วยความอยากรู้
“ไม่ เขาไม่ได้ทําอะไรผิด”
“แล้วทําไมนายน้อยอี้เฉิน ถึงได้ต่อต้านเขาขนาดนั้น?”
“เขามีสุขภาพไม่ดี และเขาอาจจะไม่สามารถมอบความสุขกับอีหลิงได้”
“สุขภาพไม่ดีอย่างนั้นเหรอ? จะมอบความสุขกับเธอไม่ได้งั้นเหรอ? อาา ฉันคงไม่สามารถบอกได้…” ลั่วซวินพูดด้วยความเสียใจ “แต่ทว่า เทคโนโลยีทางการแพทย์มีความก้าวหน้ามากในตอนนี้ บางที่สุขภาพของเขาอาจจะดีขึ้น ทําไมไม่ขอให้เขาไปหาหมอล่ะ?เขาไม่ควรซ่อนตัวจากโรงพยาบาลเพียงเพราะกลัวการรักษาและนายน้อยอี้เฉินต้องเป็นคนบอกกับเขาในเรื่องเหล่านี้”
ตอนนี้ เจียนอีหลิงกําลังนั่งอยู่ตรงที่นั่งของผู้โดยสาร
ในขณะที่จํายหวินเชิงกําลังขับรถ และเจียนอีหลิงได้แบ่งปันสิ่งที่เธอพูดกับลั่วซวินออกมา เจียนอีหลิงบอกว่าเธอมีความสุขมาก กับความสําเร็จของลั่วซวินในอาชีพการงาน
“เธอมั่นใจได้ยังไงว่าฉันจะไม่หึง” จํายหวินเชิงถามเงี่ยนอีหลิงด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย
“หึงเหรอ?” เจียนอีหลิงถามย้ํา “จะหึงไปทําไม?”
“อาา ไม่ต้องกังวล พูดต่อเถอะ” จํายหวินเพิ่งได้ตอบกลับทันที เมื่อพูดถึงสิ่งเหล่านี้เธอเข้าใจได้ช้าจริงๆและอันที่จริงเธออาจจะถูกใครบางคนกลืนกินโดยที่เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ําไป
“ฉันพูดเสร็จแล้ว”
“ไม่มีอะไรอีกแล้วเหรอ?”
เจียนอีหลิงพูดถึงเพียงว่าอาชีพของลั่วซวินพัฒนาขึ้นหลังจากที่เขากลายเป็นศิลปินเดี่ยว
“มีอะไรอีกงั้นเหรอ?” เจียนอีหลิงเอียงคอถาม
จํายหวินเจ๋งเหลือบมองตาของเงี่ยนอีหลิงก่อนจะยิ้มแล้วตอบว่า
“ไม่มีอะไรแล้ว”