เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 730
ตอนที่ 730 สาวน้อยนักพยาบาท
ตั้งแต่ผ่านช่วงเที่ยงวันหลังทานอาหารจนอิ่มแปล้ ความอ่อนเพลียจากสภาพร่างกายที่ย่ำแย่ ผนวกกับเมื่อทราบว่าชายชราทั้งสองที่ออกไปจากห้องนี้และไม่กลับมานานนม ทําให้หลินหยางสามารถผ่อนคลายจิตใจที่หวาดระแวงลงปล่อยเนื้อปล่อยตัวตามสภาพ มันจึงเผลองีบหลับไปสองถึงสามครา หนึ่งถึงสองชั่วโมงต่อครั้งและเมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนกล้ามเนื้อผ่อนคลายสมองได้พักฟื้นนั่นเองก็ทําให้บาดแผลของมันสมานกันได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนของหลินหยาง เด็กสาวมิได้ใช้เวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ นางอ่านหนังสือระดับสูงที่มีแต่คําศัพท์เฉพาะยากจะเข้าใจในวัยเดียวกันและบางครั้งก็นั่งสมาธิรวบรวมพลังมืดอันเป็นพลังเฉพาะของเผ่าพันธ์บางคราหยิบหนังสือเล่มหนาใช้แทนอาวุธฟาดฟันอากาศธาตุฝึกซ้อมการต่อสู้ระยะประชิด
มือที่สามของวันหลินหยางที่ร่างกายต้องการการบํารุงยังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ร่างกายได้ดูดซึมคาร์โบไฮเดรตจากเนื้อและข้าว สารอาหารที่จําเป็นถูกนําไปหล่อเลี้ยงทุกอวัยวะจนเปรมปรีดิ์กันถ้วนหน้าสีหน้าติวกายเริ่มมีเลือดฝาดไม่ซีดเซียวดังคนป่วย
ซึ่งหลังจากพักฟื้นมาได้เพียงครึ่งวันหลังเพิ่มค่าสถานะและทักษะที่เกื้อหนุนสภาพร่างกายปัจจุบันตอนนี้เริ่มเห็นผลอย่างชัดเจนโดยเฉพาะอวัยวะส่วนกระดูกทั้งหลาย ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคงจะเป็นกระดูกส่วนนิ้วที่มีขนาดเล็กที่ตอนนี้คล้ายกับว่ามันสมานเข้าหาเป็นเนื้อเดียวกันเป็นที่เรียบร้อยซึ่งตอนนี้หลินหยางไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอีกต่อไป
อีกอวัยวะสําคัญอีกอย่างก็คือผิวหนัง ผิวกายที่ฉีกขาดทั้งจากอุบัติเหตุและการสู้รบทั้งยังซ้ําสองปริแตกเลือดทะลักชายหนุ่มรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่ต่างไปจากตอนเช้า ตอนนี้เขารู้สึกได้ว่าเลือดได้หยุดไหลจนสนิทซึ่งก็แน่นอนว่าหากมันยังไม่หยุดไหลอีกละก็ป่านนี้หลินหยางคงหลับไหลชั่วชั่วนิรันดร์ไปแล้ว…
ตอนนี้จากความรู้สึกเจ็บปวดแสบร้อน แปรเปลี่ยนไปเป็นอาการคันยั้วเยี้ยะตามบาดแผลคล้ายกับเนื้อเยื่อทั้งหลายกําลังสร้างเซลล์ใหม่ปะติดปะต่อปะชิ้นส่วนร่างกายเข้าหากัน
ทั้งสองทานอาหารด้วยความสุขไม่ทุกข์ร้อนไม่รับรู้โลกภายนอก ป้อนชายหนุ่มตรงหน้าคําโตและตักใส่ปากตนเองคําเล็กพอดีคํา ใช้เวลาไปกว่าสามสิบนาที่เด็กสาวจึงยกสํารับอาหารออกไปจากห้องทําความสะอาดจนเอี่ยมอ่องและกลับมาพร้อมกับถ้วยยาบํารุงร่างกาย โดยครั้งนี้เป็นสูตรที่ปรุงขึ้นโดยตนเองมิใช่แพทย์มือฉมังอย่างเทพโอสถปู่ของนาง
เพียงพริบตาที่เห็นยาสมุนไพรในมือของเด็กสาวหลินหยางตื่นเต้นจนออกนอกหน้า เพราะยานี้จะทําให้ร่างกายของมันได้รับการฟื้นฟูที่ดียิ่งขึ้น ไม่พูดพร่ําทําเพลงอ้าปากกว้างรอรับยาจากเด็กสาวราวกับลูกนกรอแม่ของมันป้อนอาหารตอนนี้ไม่ว่ายาอะไรหลินหยางล้วนต้อนรับทุกอย่างขอเพียงมันมิใช่ยาพิษก็เป็นพอ
สาวน้อยเอื้อมมืออ่อนนุ่มป้ายมุมปากของชายหนุ่มเช็ดคราบสมุนไพรที่หกเลอะออกมาอย่างปราณีต
“ขอบคุณ” หลินหยางกล่าวด้วยใจจริงพร้อมรอยยิ้ม
เด็กสาวฉีกยิ้มกว้างที่เห็นมันเปร่งวาจาภาษาปีศาจได้อย่างถูกต้องชัดเจน
หลังป้อนสมุนไพรในถ้วยจนเสร็จสรรพ สาวน้อยออกไปจากห้องและกลับมาพร้อมกับตะกร้าใบใหญ่ที่บรรจุผ้าพันแผล กรรไกร ผ้าสะอาด เข็มด้าย และขวดยาสมุนไพร นั่งลงบนเตียงข้างร่างของชายหนุ่ม
หลินหยางเห็นเช่นนั้นมันทราบถึงเจตนา ขยับตัวเล็กน้อยเปิดทางสะดวกให้แก่เด็กสาว เธอไม่รอช้ากวัดแกว่งของมีคมในมือตัดผ้าพันแผลที่ห่อหุ้มร่างของมันตั้งแต่ใบหน้าลากยาวจนมาถึงสะดือ
“อูวว” ชายหนุ่มส่งเสียงบางเบาในลําคอ ในที่สุดมันผิวกายหยาบกร้านของมันก็ได้เปิดออกสู่โลกกว้างอีกครั้งหลังจากผ่านมาร่วมสิบสองชั่วโมง ความอึดอัดจากผ้าพันแผลที่รัดแน่นพันรอบหลายตลบราวกับข้าวต้มมัดได้ปลดเปลื้องพันธนาการร่างกายของมันเป็นที่เรียบร้อย
แครกกะ
ภายใต้ผ้าพันแผลหลายชั้น บนร่างของชายหนุ่มเต็มไปด้วยของเหลวที่เป็นของเสียจากร่างกายทั้งเลือดสีดําและผิวหนังชั้นนอกที่ถูกผลัดทิ้ง ส่วนผ้าพันแผลที่ประกบติดผิวหนังของมันตอนนี้จากผ้าอ่อนนุ่มมีรูระบายอากาศแปรสภาพคล้ายกับแผ่นกระดาษเปียกน้ำ มันอุ้มน้ำเกาะตัวเป็นแผ่นใหญ่แผ่นหนึ่งเลยทีเดียว
สาวน้อยอ้าปากค้างเก็บอาการไว้ไม่อยู่เมื่อเห็นผิวกายใต้ผ้าพันแผล มิใช่เพราะคราบสิ่งสกปรกที่ร่างกายของชายหนุ่มขจัดออกมาหรือเพราะฮอร์โมนดึงดูดจากวัยหนุ่มสาวแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะสภาพร่างกายที่รักษาตนเองได้ไวเกินจิตนาการหนะสิ
เธอมองสลับบาดแผลตรงหน้าอกพลางมองหน้าชายหนุ่มด้วยความแปลกใจระคนสงสัย
รอยแผลกลางหน้าอกที่เป็นจุดใหญ่เหวอะหวะเปิดออกจนสามารถมองเห็นซี่โครงในกาลก่อนตอนนี้ถูกเย็บโดยฝีมือของชายชราในช่วงเช้า หลินหยางพบว่าช่วงรอยต่อตะเข็บด้ายที่เย็บเอาผิวหนังจากสองฝั่งมาประกบติดผิวหนังชั้นนอกตกสะเก็ดจากการผลัดผิว ลึกลงไปอีกหนึ่งชั้นมีการสร้างเนื้อใหม่เป็นสีอมชมพูสดใสน่าดูชมเลยทีเดียว
ปฏิกิริยาของหลินหยางก็ไม่ต่างไปจากเด็กสาวเท่าไรนัก หากเป็นรอยมีดบาดหรือแมวข่วนแน่นอนเพียงวันเดียวอาจสามารถบรรจบเชื่อมติดกันได้ไม่ยากเย็น แต่นี่มันบาดแผลใหญ่ผ่ากลางซีกครึ่งร่างยาวเป็นคืบกลับสา มารถรักษาตนเองได้โดยที่ได้รับการช่วยเหลือจากปัจจัยภายนอกอย่างวิชาทางการแพทย์ของชายชราโดยใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็เห็นผลแตกต่างจากช่วงเช้ายิ่งนัก
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น แม้กระทั่งความรู้สึกก่อนที่จะแกะผ้าพันแผลออกที่รับรู้ว่าร่างกายกําลังซ่อมแซมตนเองก็ยังไม่เท่าภาพที่ดวงตาสองข้างจ้องมองอยู่ในขณะนี้ เขายังแทบไม่เชื่อสายตาตนเองเช่นกันความเร็วการรักษาตนเองเช่นนี้ยิ่งกว่าสัตว์ประหลาดเสียอีก
ผ่านไปชั่วครู่หลินหยางจึงดึงสติกลับคืนมา แท้ที่จริงมันก็เป็นเรื่องดีมิใช่หรือที่ร่างกายของเขาสามารถฟื้นฟูได้ในระดับเหนือธรรมชาติ? ซึ่งส่วนหนึ่งต้องขอบคุณเฒ่าชราที่ประสงค์ดีปฐมพยาบาลให้แก่ตนละน่ะอีกส่วนคงปฏิเสธมิได้ว่ามันมาจากค่าสถานะแสนวิเศษที่ทําให้ตนกลายเป็นยอดมนุษย์ไปซะแล้ว
“หือ!? แล้วอวัยวะภายในเราเป็นยังไงบ้าง กระดูกอะไรพวกเนี้ยมันต่อกันติดหรือยัง? จะว่าไปก็ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บแล้วนะ หลินหยางฉุกคิดขึ้นมาได้ บาดแผลภายนอกที่มองได้ด้วยตาเปล่าส่วนใหญ่เกือบจะรวมเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วบาดแผลภายในที่มองไม่เห็นล่ะ ไม่ใช่ว่าพวกมันก็ฟื้นฟูด้วยความเร็วเหนือจินตนาการเช่นเดียวกันหรอกหรือ? กระดูกตรงส่วนนิ้วมือที่สามารถขยับได้เขาก็รับรู้แล้วว่ามันสมานกันเป็นที่เรียบร้อย ส่วนแขนและขาที่ถูกมัดจนแน่นมันยากจะเขยื้อนเขาจึงไม่ทราบความเป็นไปไม่แน่บางทีตอนนี้เขาอาจขยับตัวเคลื่อนไหวได้อย่างธรรมชาติอิสระเสรีแล้วก็เป็นได้
คิดได้เช่นนั้นไม่รอชําให้เสียความตั้งใจ ชายหนุ่มเค้นเรี่ยวแรงกันบึงโง้มศรีษะที่หนักอึ้งขึ้นจากหมอนแสนนุ่มสบาย
“ฮ่า’ รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนหน้าหลินหยางทันทีตอนนี้ตั้งแต่ศรีษะและช่วงอกของมันสามารถงอขึ้นได้แล้วโดยที่มีรู้สึกเจ็บปวดเพียงเล็กน้อยไม่เกินความพยายามการจะลุกขึ้นนั่งไม่ไกลเกินเอื้อม มันกลั้นใจเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายพลังงานแฝงพลังงานสํารองถูกดึงออกมาทั้งหมดในการพยุงร่างของตนให้ลุกขึ้นนั่งในครั้งนี้ในที่สุดแผ่นหลังของมันก็สามารถเหยียดขึ้นตรงในมุมฉากได้สําเร็จ!!!!
กรอบ…
“อ-โอะ โอ๊ะ….เจ็บๆๆๆ” ยังมิทันได้ลิ้มรสแห่งความสุข ความเศร้าเข้าแทนที่เมื่อน้ำหนักช่วงบนกดทับช่วงล่างกระดูกซี่โครงลามไปยังกระดูกสันหลังเจ็บแปลับจนหลินหยางอุทานออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ เสียงกระดูกลั่นบริเวณช่วงเอวไม่ทราบเป็นเพราะเส้นยึดจากการเคลื่อนไหวน้อยเกินไปหรือกระดูกบางท่อนที่จวนเจียนใกล้เข้าที่และถูกหลินหยางขัดขวางก็ไม่ทราบแน่
แหมะ…
ตอนนั้นเองมีฝ่ามือน้อยๆวางแปะอยู่บนหน้าผากหลินหยางพร้อมกับแรงผลักดันตามกําลังกายของสาวน้อยดันศรีษะของหลินหยางกลับสู่อ้อมกอดของหมอนหนุนแสนนุ่มสบายเข้าที่เดิมอย่างรวดเร็วปลดปล่อยมันจากความเจ็บปวดคืนสภาพกลับไปนอนเป็นผักดังเดิม
หลังมือน้อยๆยกออกไป สายตาพลันเหลือบมองใบหน้าของเด็กสาวทําให้หลินหยางขนลุกซู่เลยทีเดียว
“อย่าพึ่งขยับตัว!!” สาวน้อยส่ายหัวคิ้วขมวดดวงตาหรี่เล็กกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความไม่พอใจภาพตอนนี้คล้ายกับแม่กับลังดุลูกชายตัวน้อยที่ซื้อไม่เชื่อฟังอย่างไงอย่างงั้น