เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 721
ตอนที่ 721 ในความทรงจํา(ตอนปลาย)
เมื่อจ้าวผู้ครองถ้ําได้ตกตาย ถ้ําลึกลับที่อยู่อาศัยก็พังทลายตามไปติดๆ
หลินหยางเองเห็นท่าไม่ดี ก็หนีเอาตัวรอดวิ่งตามหลังคู่หูอ้วนผอมไม่คิดชีวิต ทว่าราวกับสวรรค์กลั่นแกล้ง แผลเก่าอาการเดิมดันกําเริบเสียดื้อๆแผลเหวอะหวะที่หน้าท้องจากการถูกโจมตีด้วยศัตรูหลังรักษาอาการเฉพาะหน้าด้วยการนาบด้วยเหล็กร้อน ได้ปริแตกเลือดทะลักร่างกายทรุดฮวบแทบจะสิ้นแรงในบัดดล เคาะห์ซ้ํากรรมซัดหนทางเต็มไปด้วยขวากหนามเพดานถ้ําถล่มไล่หลังหินก้อนเล็กก้อนน้อยตกลงขวางทางยากจะไปต่อ และแล้วเวลาแห่งจุดจบของถ้ําแห่งนี้ก็มาถึง แม้ตนไม่ยอมแพ้ตะเกียกตะกายเอาตัวรอดสุดชีวิตแต่น่าเสียดาย เวลามิเคยพอให้เขาได้ถึงฝั่งฝัน ในที่สุดจุดจบของถ้ําค้างคาวก็มาถึงเพดานถล่มล้มลงทับทุกสิ่งอย่างราบเป็นหน้ากลอง สติเลือนหายสูญสิ้นตัวตนไม่รับรู้สิ่งใดอีกต่อไป
หลังจากนั้นเหมือนเข้าฝันอะไรแปลกราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในอีกมิติพิศวง เวียนว่ายไร้แรงโน้มถ่วง ทว่ายิ่งคิดถึงยิ่งมึนงงยิ่งนึกยิ่งเลือดลางราวกับจะจางหาย
นั่นคือความทรงจําของหลินหยาง นับจากเหตุการณ์นั้นก็คือปัจจุบัน
ไอ้คู่หูอ้วนผอมบัดซบ” ชายหนุ่มลืมตามองเพดาน กัดฟันกรอดเค่นเสียงในลําคออย่างเคียดแค้น แต่ก็ปฏิเสธมิได้ว่าที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นนี้ก็เป็นเพราะตนส่วนหนึ่งที่เล่นมากเกินไปออมแรงเอาไว้ส่วนหนึ่ง ใจจะปลิดชีพเจ้าคู่หสาคู่หูสองตัวนั้นย่อมง่ายเพียงพลิกฝ่ามือจัดการได้ในดาบเดียวด้วยความเร็วสูงสุด อย่างไรก็ตามความผิดก็ยังเป็นของเจ้าคู่หูอ้วนผอมที่เป็นเหตุผลทําให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ตอนนี้เขาได้ทราบถึงที่มาของบาดแผลต่างๆบนร่างแล้ว กระดูกหลายท่อน อวัยวะภายในหลายจุด กล้ามเนื้อหลายแห่งที่ชํารุดเสียหายส่วนใหญ่มิใช่บาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้ แต่เป็นบาดแผลจากผลกระทบการถล่มของถ้ําค้างคาว ทั้งหินงอกหินย้อยอันแหลมคม หินกลมที่มีน้ําหนักมากหล่นลงมาทับร่างสร้างความเสียหาย
“ว่าแต่เรารอดมาได้ยังไง?” ชายหนุ่มอดสงสัยมิได้ เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าตนได้ถูกถ้ําค้างคาวถล่มทับร่าง น้ําหนักของถ้ํานั่นหรือ? นับสิบตันเลยกระมัง เพดานถ้ําหินที่มีน้ําหนักมากขนาดนั้นหล่นทับร่างเหตุใดตนยังมีชีวิตอยู่? ปาฏิหาริย์? อย่างไรก็ตามมันไม่มีคําตอบสําหรับความคิดนี้เพราะในตอนที่ถ้ําถล่มชายหนุ่มก็ได้หมดสติไม่รับรู้เหตุการณ์อันใดอีก แต่ก็นับเป็นโชคดีล่ะนะที่ส่วนสรีษะของเขามิได้เสียหายมากนักมีเพียงแค่บาดแผลแตกไม่กี่จุด
“งั้น เราได้รับการช่วยเหลือจากเมืองของผิงอันงั้นหรือ? แต่ก็น่าแปลก มันควรจะเป็นหลิวไห่และพรรคพวกสิ เพราะพวกมันก็รออยู่ข้างนอกถ้ําตลอด…”ชายหนุ่มครุ่นคิดไปเรื่อยเปื่อยคาดเดาตามความเป็นไปได้ในหลายๆมุม
กรอก
“อูยย” ขณะที่กําลังใช้สมองชายหนุ่มที่มีเวลาแสนว่าง เอียงคอมองเพดานไปๆมาๆก็มีเสียงกระดูกคอลั่นขึ้น ทําให้เขาเจ็บแปลับ ตอนนั้นเองเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าลืมสิ่งสําคัญไปหนึ่งอย่าง ชายหนุ่มรีบหลับตาเปิดหน้าต่างค่าสถานะ
‘ท่านได้เพิ่มค่าสถานะป้องกัน 0.1 เสร็จสิ้น’
‘ท่านได้เพิ่มค่าสถานะป้องกัน 0.1 เสร็จสิ้น’
‘ท่านได้เพิ่มค่าสถานะป้องกัน 0.1 เสร็จสิ้น’
แน่นอนในยามวิกฤตเช่นนี้จะมีตัวเลือกอะไรดีไปกว่าการเพิ่มค่าสถานะการป้องกัน ที่จักสามารถช่วยให้เขาบรรเทาความเจ็บปวดและฟื้นตัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ชายหนุ่มไม่ลังเลที่จะเพิ่มทั้งสามจุดลงไป
‘ต่อไปก็เป็นทักษะ’ หลินหยางครุ่นคิดในใจ
ใต้เปลือกตาอันมืดมิด กรอบหน้าต่างค่าสถานะค่อยๆเลื่อนลงมายังตําแหน่งของทักษะที่เรียงตามระดับต่ําไปหาสูง จุดแรกที่ชายหนุ่มเห็นคือทัพษะหลอมไฟที่แสนคุ้นเคยมันเป็นทักษะแรกที่เขาได้รับทักษะนี้อยู่ในระ ดับที่หนึ่งขั้นที่ห้า การเพิ่มขึ้นทักษะนี้จะทําให้การใช้งานมันครั้งต่อไปมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้ทั้งความร้อนสูงขึ้น และใช้พลังงานน้อยลง ทว่าชายหนุ่มมองผ่านทักษะนี้เลื่อนลงไปมองยังทักษะต่อไปแทบจะทันที สําหรับเขาตอนนี้ทักษะหลอมไฟยังไม่มีประโยชน์อันใด
เช่นเดียวกันกับทักษะหลอมไฟหลินหยางเลื่อนผ่านทักษะพิษผึ้งที่มีระดับหนึ่งเช่นกันและเป็นทักษะที่ได้รับมาใหม่ ทักษะนี้ก็นับเป็นทักษะที่มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะในช่วงที่เผชิญหน้ากับเจ้าปีศาจแวมไพร์ เรียกได้ว่า หากขาดทักษะนี้ไปผลลัพธ์การต่อสู้ในครั้งนั้นก็อาจจะออกมาไม่เหมือนเดิม
ทักษะลําดับต่อไปคือทักษะดวงตาเหยี่ยว แน่นอนชายหนุ่มแทบจะเลื่อนผ่านในทันที
จนมาถึงสองทักษะสุดท้ายที่ดึงดูดความสนใจของเขา ซึ่งเป็นทักษะระดับสูงสุดที่ตนครอบครอง นั่นคือทักษะสั้นพสุธาและราชสีห์คําราม สองทักษะนี้คู่ควรแก่ค่าทักษะอันมีค่าทั้งสามจุดอย่างยิ่งโดยหลินหยาง โน้มเอียงไปทางทักษะราชสีห์คํารามมากกว่าเล็กน้อยเพราะมันได้รับผลพลอยได้จากการเพิ่มแต่ละขั้นและได้ค่าพลังวิญญาณเป็นของแถม มิเพียงเท่านั้นทักษะนี้ยังเหนือชั้นกว่าทักษะสั้นพสุธาที่เป็นการโจมตีทางกายภาพและบังคับใช้สําหรับการโจมตีหมู่ในพื้นที่ลุ่มมิสามารถควบคุมได้ ทักษะราชสีห์คํารามสามารถปรับใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ได้อย่างดีเยี่ยมไม่ว่าจะเลือกเป้าหมายเดี่ยว สามห้าหรือสิบ ยี่สิบก็สามารถเจาะจงได้ ไม่ยากเย็น แถมข้อดีที่สุดของมันก็คือการโจมตีทางวิญญาณที่ไร้ทางป้องกันโดยสิ้นเชิงขอเพียงคู่ต่อสู้ไม่มีค่าสถานะพลังวิญญาณสูงกว่าตนก็มิใช่ปัญหา
แต่ตัวเลือกของเขามิได้มีเท่านี้ ยังมีทักษะอีกส่วนที่สําคัญไม่แพ้กัน ไม่รอช้าเลื่อนลงมายังส่วนของทักษะติดตัว
ฮีม เมื่อเห็นชื่อทักษะติดตัว ทักษะแรกชายหนุ่มเค่นเสียงในลําคอ มันเป็นทักษะที่มีปมในใจกับหลินหยางอยู่ไม่น้อย
นั่นคือทักษะเกราะมังกร ทักษะไร้ค่าที่ได้รับมาจากบุคคลคนหนึ่งผู้อ้างตัวว่าเป็นเผ่าครึ่งมังกร
“หือ?” ขณะที่กําลังจะมองผ่านทักษะนี้ไปโดยไม่ใยดี ในตอนนั้นเองหัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นความผิดปกติในหน้าต่างค่าสถานะ จุดที่เกิดความผิดปกติก็คือทักษะเกราะมังกรที่ตัวหนังสือจางลงอย่างผิดสังเกตุ ชายหนุ่มจับจ้องมันอยู่ครู่หนึ่งพบว่ามิใช่ตนที่คิดไปเอง ทักษะเกราะมังกร มันค่อยๆเลือนลางลง อย่างช้าๆกระทั่งหายไปในที่สุด แต่เพียงไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นมันก็ค่อยๆปรากฏขึ้นมาอีกครั้งจนแจ่มชัด ทว่าไม่ นานนักมันก็จางหายเป็นแบบนี้ซ้ําไปซ้ํามาไม่รู้จบ
หลินหยางเลื่อนขึ้นลงมองข้อมูลส่วนอื่นๆ พบว่ามีเพียงแค่ทักษะเกราะมังกรเท่านั้นที่เกิดความผิดปกติ ยิ่งทําให้เขามึนงงหนักเข้าไปอีกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับทักษะไร้ค่าอันนี้…
ค่าทักษะสามจุดที่อยู่ในมือเริ่มแปรปรวนอยู่ไม่สุข หลินหยางใคร่รู้ถึงความผิดปกติทักษะเกราะมังกรอยากทดสอบลองเพิ่มค่าทักษะที่มีลงไปสักจุดสองจุดยิ่งนัก ทว่าความยับยั้งชั่งใจยังมีอยู่ ค่าทักษะที่หาได้ยากยิ่งนี้ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อหยดเลือดนับไม่ถ้วน ด้วยเกรงว่าจะพลั้งพลาดด้วยอารมณ์ชั่ววูบใช้ค่าทักษะแสนสําคัญ ชายหนุ่มตัดสินใจมองข้ามความผิดปกติของทักษะไร้ค่าไปเสียมเก็บมาใส่ใจ
ทักษะถัดมาเองก็ได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกัน มันคือทักษะบัญชาการชีวิต (มดไฟ)ระดับหนึ่งที่ในตอนนี้ ความไร้ประโยชน์ของมันคู่คี่สูสีกับทักษะเกราะมังกร ด้วยทักษะของมันสามารถควบคุมมดไฟหนึ่งในสัตว์ประหลาดที่หลินหยางเคยเผชิญหน้า ซึ่ง…มันถูกกวาดล้างไปหมดแล้วไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว…จะมีก็เพียงไข่ของมันที่ผ่านมากี่วันคืนล่วงเลยนับเดือนเกือบปีก็ยังไม่มีวี่แววจะฟักออกมาสักที ทําให้ทักษะควบคุมมดไฟนี้ยังไม่ เคยใช้งานและตราบใดที่ไข่มดไฟยังไม่ฟักออกมาสักตัวมันก็ยังจะไร้ประโยชน์เช่นนี้ต่อไป
มาถึงสองทักษะสุดท้ายซึ่งทักษะระดับสองทั้งคู่ ทักษะโลหิตรคลั่งที่พึ่งได้รับมาล่าสุด หลินหยางลังเลกับมันเล็กน้อยอันเนื่องมาจากมันเป็นทักษะติดตัวที่มีคุณสมบัติในการโจมตี ซึ่งนั่นหมายความว่าเขาสามารถใช้งานมันได้โดยที่ไม่เสียพละกําลังใดๆ จากการทดลองใช้กับคู่หูอ้วนผอมก็พบว่าทักษะนี้มีประสิทธิภาพไม่เลวเลยทีเดียว
ทว่าชายหนุ่มก็เลื่อนผ่านมันไปอย่างรวดเร็วมาจดจ่อกับทักษะที่น่าสนใจยิ่งนัก นั่นก็คือ…ทักษะกระดูกศิลาทักษะระดับสองขั้นที่สาม!!!