เทพปีศาจผงาดฟ้า - ตอนที่ 156
ตอนที่ 156 ผู้ทํานายโชคชะตา
“จัดการทําให้ร่างของเขาหายไปตลอดกาล!” องค์ชายเจิ้นร้องสั่งผู้ติดตามของตน จากนั้นจึงได้หันหลังเพื่อที่จะเดินกลับออกไป แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจอย่างที่สุด เมื่อพบว่า ไกลออกไปนั้นมีร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งกําลังนั่งอยู่บนหลังม้า
“องค์หญิง!! ท่านมาทําอะไรที่นี่?!!”
“จับตัวองค์หญิงหมิงยู่ไว้ อย่าให้นางนําเรื่องนี้ออกไปแพร่งพรายได้เด็ดขาด จับตัวนางไว้ หรือไม่ก็สังหารนางเสีย!!!”
องค์ชายเจิ้นร้องตะโกนสั่งทหารผู้ติดตามทั้งสอง ในระหว่างที่สายตายังคงจ้องมองไปยังบริเวณที่อยู่ไกลออกไป..
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่ใหญ่จะแอบมีคนรักซ่อนไว้!! เขาไม่เคยบอกข้าเลย ข้าต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าพี่สะใภ้ของข้ามีหน้าตาเช่นไร? คุ้มค่าพอที่พี่ชายของข้าจะแอบหนีออกไปพบโดยไม่บอกกล่าวผู้อื่นเช่นนี้หรือไม่? แต่ข้าคงต้องแอบตามไปเงียบๆมิให้พี่ใหญ่จับได้!”
องค์หญิงหมิงยู่พึมพําออกมาในระหว่างที่ควบม้ามุ่งหน้าไปยังชายแดนด้านใต้ของแคว้นเอสเทอเรีย..
เมื่อเข้าใกล้จุดนัดพบที่ได้ระบุไว้ในจดหมายฉบับนั้น นางจึงรีบบังคับม้าให้หยุดในทันที และได้ทันเห็นภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า..
นางเห็นร่างของพี่ชายที่กําลังนั่งคุกเข่าถูกมีดสั้นปักอยู่ที่หัวใจ และรอบกายของเขาก็รายล้อมไปด้วยคนอีกสองสามคน นางจดจําได้ว่าหนึ่งในนั้นก็คือองค์ชายเป่ยเจิ้นแห่งแคว้นไทรเชียน นางอยากจะลงไปช่วยพี่ชาย แต่พบว่าร่างของเขาได้ร่วงไปกองกับพื้นแล้ว และก่อนที่นางจะทันได้คิดอะไร นางก็พบชายวัยกลางคนทั้งสองกําลังวิ่งตรงเข้ามาหาตน
องค์หญิงหมิงยู่รีบบังคับม้าให้หันกลับไปอย่างรวดเร็ว และรีบควบม้าหนีไปอีกฝั่งทันที นางควบม้าไปด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทําได้ แม้ว่าจะเป็นถึงม้าสัตว์อสูรระดับปฐพี แต่ความเร็วของมันย่อมมิอาจเทียบเท่าความเร็วของผู้ฝึกยุทธในขั้นอาณาจักรราชันสวรรค์ได้ ยิ่งควบม้าไปไกลได้มากเท่าไหร่ ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายก็ยิ่งลดลงมากขึ้นเท่านั้น
“ข้าคงจะไม่สามารถกลับไปที่ประตูเมืองได้ทัน พวกมันคงต้องจับตัวข้าไว้ได้ก่อนเป็นแน่ ขืนยังเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกมันคงไล่ตามข้าได้ทัน!”
หญิงสาวพึมพําออกมาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลใจยิ่งนัก นางเหลียวหลังกลับไปมอง และพบว่าช่องว่าง ระหว่างนางกับทหารทั้งสองลดลงเรื่อยๆ และพวกเขาก็ยังคงไล่ล่าตามนางมาไม่หยุดเช่นกัน
นางจ้องมองไปด้านหน้าและพยายามครุ่นคิดหาวิธีที่จะเอาชีวิตรอดไปให้ได้ แต่แล้วจู่ๆร่างของใครบางคนก็ปรากฏขึ้นในสายตาของนาง คนผู้นั้นสวมชุดสีดําในขณะที่ใบหน้านั้นถูกปกปิดไว้ภายใต้หน้ากากอย่างมิดชิด ครึ่งบนของหน้ากากไปจนกระทั่งดวงตาของคนผู้นั้นถูกปิดบังซ่อนเร้นไว้ภายใต้หมวกใบใหญ่ที่เขาสวมอยู่
หญิงสาวสังเกตเห็นว่าชายผู้นี้ดูผิดแปลกไปจากคนทั่วไป แม้นางจะสัมผัสถึงพลังบ่มเพาะจากเขามิได้ แต่ก็มีรัศมีบางอย่างที่ไม่ปกติแผ่ซ่านออกมาจากร่างของเขา ทําให้สัมผัสได้ว่ามิควรมีเรื่องกับคนผู้นี้เป็นอันขาด ยิ่งไปกว่านั้น การที่นางมิสามารถมองเห็นขั้นพลังของเขานั้น อีกเหตุผลหนึ่งก็คือขั้นพลังบ่มเพาะของเขานั้นสูงกว่านาง นางสัมผัสได้ว่าคนผู้นี้แข็งแกร่งกว่าทหารทั้งสองที่กําลังไล่ล่านางมา นางไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว และหากเขามิได้แข็งแกร่งอย่างที่นางคิด นางก็คงต้องตายในอีกไม่กี่อึดใจเป็นแน่
องค์หญิงหมิงยู่บังคับม้าให้ควบไปยังทิศทางที่บุรุษลึกลับผู้นี้ยืนอยู่ และเมื่อเข้าไปใกล้นางก็รีบหยุดม้าแล้ว รีบกระโดดลงจากหลังม้าทันที
“ท่านผู้เก่งกล้า.. ได้โปรดช่วยข้าด้วยเถิด!!!” องค์หญิงหมิงยู่คุกเข่าลงตรงหน้าชายผู้นั้นพร้อมกับร้องอ้อนวอน
ชายชุดดําหยุดนิ่งพร้อมกับจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า ทําให้นางมีโอกาสได้เห็นดวงตาของชายผู้นั้น และนั่นทําให้นางถึงกับนิ่งอึ้งไปด้วยความตกตะลึง เพราะดวงตาทั้งคู่ของเขานั้นเป็นสีแดงดั่งโลหิต ดวงตาคู่นั้นของชายปริศนาทําให้นางถึงกับหวาดกลัวยิ่ง แต่จําเป็นที่นางจะต้องข่มความกลัวนั้นไว้
“เจ้าคนผู้นั้น!! จงถอยออกไป แล้วทิ้งหญิงสาวผู้นี้ไว้เพียงลําพัง หาไม่พวกเราจะสังหารเจ้าทิ้งด้วยเช่นกัน!”
หนึ่งในทหารขององค์ชายเป่ยเจิ้นที่ไล่ล่าหญิงสาวมาทันในที่สุด เขาหยุดอยู่ห่างไกลออกไป พร้อมกับร้องตะโกนบอกชายชุดดํา..
ชายชุดดําเงยหน้าขึ้นมองผู้ที่กําลังกล่าววาจาข่มขู่ตน สายตาของชายชุดดําพลันจับจ้องอยู่ที่ร่างของทหารผู้นั้น เขาสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่แปลกประหลาด แต่ก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจ
“ข้าขอเตือนเจ้าอีกครั้ง!! หากเจ้ายังไม่รีบไป ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งซะ!” ชายผู้นั้นย้ํากับชายชุดดําอีกครา
ชายชุดดํายกมือขึ้นพร้อมกับเคลื่อนนิ้วโป้งและนิ้วชี้เข้ามาชิดกัน และทําการดีดนิ้ว ทันทีที่เสียงดีดนิ้วดังขึ้น ช่องว่างก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าทหารผู้นั้นที่เพิ่งเอ่ยจบ และดูดร่างของเขาเข้าไปข้างในก่อนจะหายไปตลอดกาล เสียงกรีดร้องของทหารนายนั้นดังกึกก้องเต็มสองหูของทหารอีกคน เขาถึงกับผงะถอยหลังไปทันที
องค์หญิงหมิงยู่ได้เห็นพลังอํานาจของชายชุดดําก็ถึงกับตกตะลึง..
“พลังอํานาจของเขา.. ช่างแกร่งยิ่งนัก!” องค์หญิงหมิงยู่ได้แต่จ้องมองชายชุดดําพร้อมกับครุ่นคิดอยู่ภายในใจ
“ข้ามิชอบให้ผู้ใดข่มขู่สังหารข้า!”
ชายชุดดําพึมพําเสียงเบาพร้อมกับหันไปมองหญิงสาว จากนั้นจึงเดินหนีไปโดยมิเอ่ยอันใดออกมาแม้แต่คําเดียว ทิ้งหญิงสาวและทหารที่เหลืออีกคนไว้ด้านหลัง
“ท่านผู้เก่งกล้า!! ท่านผู้เก่งกล้า ได้โปรดช่วยข้าด้วย!! มีเพียงท่านเท่านั้นที่จะสามารถช่วยข้าได้ ข้าคือองค์หญิงแห่งแคว้นเอสเทอเรีย หากท่านช่วยข้า ข้ารับปากว่าแควันของเรายินดีที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ตามแต่ท่านปรารถนา!”
องค์หญิงหมิงยู่ลุกขึ้นยืน และรีบวิ่งไปคุกเข่าอยู่ตรงหน้าชายชุดดํา..
“สิ่งที่ข้าต้องการนั้น หาใช่สิ่งที่ดินแดนแห่งนี้จะสามารถมอบให้ข้าได้ไม่..” ชายชุดดําพึมพําออกมา
“ถ้าเช่นนั้น.. ได้โปรดช่วยข้าเพื่อเห็นแก่มนุษยธรรมด้วยเถิด!! คนพวกนี้สังหารพี่ชายผู้บริสุทธิ์ของข้า และเวลานี้พวกมันก็กําลังต้องการสังหารข้าอีกคน ข้าจําเป็นต้องกลับไปบอกเรื่องนี้ให้ท่านพ่อของข้าได้รู้” องค์หญิงหมิงยู่เอ่ยบอกด้วยน้ําเสียงอ้อนวอน
“ข้าหาใช่ทาสรับใช้ของมนุษยธรรมไม่ ข้าเป็นผู้ที่สวรรค์ต้องการจะลงทัณฑ์ แม้สวรรค์จะมแข็งแกร่งพอที่จะทําเช่นนั้นได้ก็ตาม..” ชายชุดดําพึมพําพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองไปยังท้องนภา
“ได้โปรด.. ข้ายอมทําทุกอย่าง.. หากข้ามกลับไปที่วังจะต้องเกิดสงครามใหญ่โต และผู้คนอีกหลายพันชีวิตจะต้องตายด้วย..” องค์หญิงหมิงยู่ร้องตะโกนอ้อนวอนเสียงดัง
“ต่อให้เจ้าสามารถหยุดสงครามครั้งนี้ได้ ก็ยังคงต้องมีสงครามครั้งใหม่เกิดขึ้นอีก สงครามและความตายล้วนถูกขีดเขียนไว้ในชะตากรรมของมนุษย์! ในเมื่อเป็นชะตากรรม ย่อมมิสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ในฐานะที่เจ้าเองก็เป็นผู้ทํานายโชคชะตา ย่อมต้องรู้และเข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดีมิใช่รึ?”
ชายชุดดําเอ่ยตอบ ดวงตาสีแดงโลหิตทั้งสองจับจ้องอยู่ที่ร่างของหญิงสาว..
องค์หญิงหมิงยู่ตกใจอย่างที่สุด เมื่อได้ฟังคํากล่าวของชายชุดดํา นางอดที่จะประหลาดใจมิได้ที่เขาล่วงรู้ และกําลังเอ่ยถึงกายพิเศษของนาง
“ได้โปรด.. ได้โปรดเถิด ข้าขอร้อง!”
องค์หญิงหมิงยู่เอ่ยอ้อนวอนด้วยน้ําตาที่เอ่อล้น ชายชุดดําเหลือบมองเพียงอึดใจเดียว ก่อนที่จะขยับมือของตนเอง..
“นี่คือของขวัญสําหรับผู้ที่มีกายวิญญาณเทวะ มันคือลูกแก้วแห่งโชคชะตา! ลูกแก้วนี้จะพาเจ้าไปสู่โชคชะตาของตนเอง หากชะตากรรมของเจ้ามาถึงคราวที่จะต้องตาย ทันทีที่เจ้าสัมผัสกับลูกแก้วนี้ เจ้าก็จะตายทันที แต่หากชะตากรรมของเจ้าจะสามารถหยุดยั้งสงครามได้ ร่างของเจ้าก็จะไปปรากฏยังสถานที่ที่เจ้าต้องการ และเช่นเดียวกัน หากโชคชะตากําหนดให้เจ้าต้องแก้แค้น เจ้าก็จะสามารถหายตัวไปปรากฏที่ใดก็ได้ตามที่เจ้าต้องการเช่นกัน..
“หากเจ้าต้องการที่จะฝืนโชคชะตา จงอย่าเก็บลูกแก้วนี้ไป แต่เจ้าจะต้องตาย หากเจ้าต้องการปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตา ก็จงเก็บลูกแก้วนี้ไว้ เจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อ แต่เจ้าจะต้องตกเป็นทาสของโชคชะตา เจ้าจะมิสามารถทําสิ่งอื่นใดได้ นอกจากเฝ้ามองสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามใจปรารถนาของมัน แล้วแต่เจ้าว่าจะนับมันเป็นของขวัญ หรือว่าคําสาป” ชายชุดดําเอ่ยบอกพร้อมกับโยนลูกแก้วใสให้กับองค์หญิงหมิงยู่
หลังจากโยนลูกแก้วใสให้กับนางแล้ว ชายชุดดําก็เดินจากไปทันที องค์หญิงหมิงยู่ยังคงร้องตะโกนขอให้เขาช่วยครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขากลับมิหยุดและไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามอง
ทหารอีกนายที่ไล่ล่าองค์หญิงหมิงยู่มานั้นยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เวลานี้เขายังคงตกใจจนมิอาจขยับเขยื้อนได้ เมื่อเห็นสหายของตนถูกดูดเข้าไปในช่องว่างต่อหน้าต่อตาเช่นนั้น เมื่อชายชุดดําเดินจากไปแล้ว เขาก็หันไปมององค์หญิงด้วยสีหน้าแววตาสับสน
หลังจากลังเลอยู่เพียงประเดี๋ยวเดียว ทหารนายนั้นก็ขยับเข้าไปหาองค์หญิง..
“ดูท่าวันนี้คงจะเป็นวันตายของท่านแน่แล้วองค์หญิง แต่ข้าจะไม่สังหารท่านในตอนนี้ ข้าจะนําท่านไปมอบให้กับองค์ชาย ไม่แน่ว่าเขาอาจตบรางวัลให้แก่ข้าก็เป็นได้..” ทหารนายนั้นเอ่ยบอกพร้อมกับเดินตรงเข้าไปหาองค์หญิง
องค์หญิงหมิงยู่จ้องมองทหารนายนั้นที่กําลังเดินตรงเข้ามา และเมื่อไม่มีทางเลือกนางจึงตัดสินใจที่จะเก็บลูกแก้วนั้นขึ้นมา ทหารนายนั้นเห็นหญิงสาวกําลังพุ่งเข้าไปหาลูกแก้วเช่นนั้น สีหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนไปทันที เขาเองก็ได้ยินคําพูดของชายชุดดําทั้งหมดเช่นกัน และคิดไม่ถึงว่านางจะตัดสินใจเสี่ยงที่จะหยิบลูกแก้ว ซึ่งไม่รู้ที่มาที่ไปนั้นขึ้นมา เมื่อเห็นองค์หญิงพุ่งตรงไปทางลูกแก้วเช่นนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะสังหารนางก่อนที่นางจะได้ทันเข้าใกล้ลูกแก้ว
ชายผู้นั้นตวัดกระบี่ในมือเข้าใส่ร่างขององค์หญิงหมิงยู่ แสงสว่างรูปครึ่งวงกลมพุ่งปราดเข้าใส่ร่างขององค์หญิงอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่มือของนางสัมผัสกับลูกแก้วใส รัศมีของกระบี่เล่มนั้นก็สัมผัสเข้ากับร่างขององค์หญิงหมิงยู่เช่นกัน แล้วร่างของนางก็หายวับไปในทันที รัศมีจู่โจมจากกระบีจึงปะทะเข้ากับห้วงอากาศแทน
ห่างออกไปไกลๆนั้น ร่างของชายชุดดํากําลังยืนจ้องมองไปทางองค์หญิงหมิงยู่ และทันทีที่นางสัมผัสเข้ากับลูกแก้ว เขาก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาด้วยความผิดหวัง
“ดูเหมือนเจ้าเลือกที่จะเป็นทาสรับใช้แทนสินะ!” เขาพึมพําออกมาพร้อมกับปิดดวงตาสีแดงโลหิตนั้นเสีย
เพียงแค่ชายชุดดําโบกมือ ประตูบานหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา หลังจากที่เขาก้าวเดินเข้าไปด้านใน ทุกอย่างก็ได้อันตรธานหายไปในทันที
แต่ในระหว่างที่ชายชุดดําก้าวเดินเข้าไปในประตูบานนั้น ช่องว่างอีกหนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของทหารนายนั้นที่จู่โจมทําร้ายองค์หญิงหมิงยู่ แล้วดูดร่างของเขาเข้าไปข้างในท่ามกลางเสียงกรีดร้องดังก้อง