จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 215
บทที่ 215 : ไป๋หยานมาแล้ว (3)
”เมื่อครู่หญิงผู้นั้นคิดจะตีเสี่ยวเฉิน”
ใบหน้าของไป๋หยานดำคล้ำด้วยความโมโหกล้าดีอย่างไรถึงคิดตีบุตรชายของนาง ?
นางอยากเห็นเหลือเกินว่าผู้ใดกันที่กล้าดี กล้าแตะต้องบุตรชายของนาง !
”อ้อ! ยังมี” หลานเสี่ยวหยุนกล่าวต่อ “หญิงผู้นี้สนใจผู้ชายของพี่ คาดว่านางอาจถูกเขาปฏิเสธ เช่นนั้นนางจึงมาสร้างปัญหาที่นี่”
หนี้รักที่ตี้คังเป็นผู้สร้างอีกแล้วกระนั้นรึ?
มุมปากของไป๋หยานยกสูงขึ้นเล็กน้อยนางกวาดสายตาไปมองร่างของมู่ชิงเกอ “มือข้างใดของเจ้าที่เมื่อครู่คิดใช้ตีบุตรชายของข้า ?”
“ไม่ใช่นางทว่าเป็นสาวใช้ที่อยู่ถัดจากนาง สาวใช้ผู้นั้นคิดจะใช้มือขวาของนางตีเสี่ยวเฉิน” ครั้นหลานเสี่ยวหยุนเห็นไป๋หยานมาช่วย นางก็เลิกกลัว
สีหน้าของมู่ชิงเกอเย็นชานางอยากจะด่าหลานเสี่ยวหยุน หากแต่ก็เห็นสตรีที่ยืนอยู่ด้านหน้าหลานเสี่ยวหยุนหายตัวไปแล้ว …
ครั้นมู่ชิงเกอกลับมารู้สึกตัวนางก็พบว่าไป๋หยานไปยืนอยู่หน้าปี่ซีแล้ว ไป๋หยานดึงดาบที่ห้อยไว้ข้างเอวออกมาจากนั้นก็ฟันฉับลงไป
ลำแสงจากดาบสะท้อนวาบบนใบหน้าของนางราวกับใบหน้าของนางปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง
”อ๊า!”
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแขนของปี่ซีถูกตัดขาดทันที เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมานองพื้น
”โชคดีที่เจ้าไม่ได้ใช้มือทั้งสองข้างหาไม่แล้ว … แขนอีกข้างของเจ้าก็จะไม่เหลือ”
การลงมืออย่างฉับไวของไป๋หยานทำให้ทุกคนประหลาดใจ หลานเสี่ยวหยุนเอื้อมมือออกไปปิดตาของไป๋เสี่ยวเฉินอย่างทันท่วงที ทว่าไป๋เสี่ยวเฉินกลับคว้าไว้
“น้าเสี่ยวหยุนไม่ต้องห่วงข้าหรอก ครั้งที่ข้าเดินทางรอนแรมกับหม่ามี้นั้น ข้าเห็นผู้คนถูกสัตว์อสูรจับกินมานักต่อนักแล้ว ดังนั้นฉากเช่นนี้จึงทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”
ก่อนที่สองแม่ลูกจะถูกนำตัวไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นสองแม่ลูกใช้เวลาพเนจรอยู่ภายนอกถึงหนึ่งปี เป็นเพราะไป๋เสี่ยวเฉินเติบโตอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถจำความได้ตั้งแต่อายุเพียงไม่กี่เดือน
ฉากเช่นนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่รับไม่ได้สำหรับเขา…
ครั้นหลานเสี่ยวหยุนได้ยินเช่นนั้นหัวใจของนางก็เจ็บจนแทบจะร้องไห้
ช่างเป็นเด็กดีจริงๆ คนบ้านสกุลไป๋นั่นกล้าทำเช่นนั้นได้อย่างไร ? พวกเขาบีบบังคับพี่ไป๋หยานให้ต้องตะลอน ๆ อยู่ภายนอกกับเฉินเอ๋ออย่างนั้นเป็นเวลานาน…
”ช่างกล้านัก!” สีหน้าของมู่ชิงเกอเปลี่ยนไปทันที นางกล่าวด้วยความโกรธว่า “ไป๋หยาน เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าเจ้ากำลังทำอะไร ? หากตี้คังรู้ว่าหญิงที่ชอบเป็นคนเช่นใด เจ้าคิดว่า … เขาจะอภัยให้เจ้าได้กระนั้นหรือ ?”
ไป๋หยานหัวเราะเยาะ”อภัยให้ข้า มีอะไรที่เขาจะต้องอภัยให้ข้ากัน ? มีแต่ข้าต่างหากที่จะเป็นผู้ตัดสินว่าจะอภัยให้เขาหรือไม่ ?”
นางเย่อหยิ่งอีกทั้งจองหอง นางไม่มีวันยอมก้มหัวให้ผู้ชาย !
”ทำพูดดีไปเถอะ”มู่ชิงเกอกล่าวพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยัน “เจ้าต้องใช้เวลามากมายเพียงใดในการล่อลวงอ๋องคัง ? เจ้าจะไม่สนใจจริง ๆ งั้นรึ ? ไยเจ้าไม่กล้ายอมรับว่ากลัวจะสูญเสียเขาไปล่ะ ?”
ไป๋หยานตกตะลึงนี่นางเสียเวลาล่อลวงอ๋องคังอยู่นานงั้นรึ ? ทั้งยังกลัวที่จะสูญเสียเขาไปอีกด้วย
เอ่อ…ไยนางถึงไม่รู้เลยล่ะ ?
ช่วงเวลาเดียวกัน
ภายในตำหนักอ๋องคังที่ถูกเผาทำลายจนสิ้นองครักษ์ในเครื่องแบบยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง เขาเฝ้ามองช่างที่กำลังค่อย ๆ ทำงานอย่างเชื่องช้า
”ช้าหน่อยๆ พวกเจ้าทำงานกันให้ช้าลงอีก นี่คือคำสั่งของอ๋องคัง อย่าหาว่าข้าไม่เตือนพวกเจ้าก่อนล่ะ แล้วพวกเจ้าก็ไม่ต้องสงสัยอะไรด้วย”
อย่างไรก็ตาม…
หลังจากองครักษ์กล่าวจบพวกเขาก็เห็นหญิงสาวแสนสวยในอาภรณ์หรูหราวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน
***จบบท ไป๋หยานมาแล้ว (3)***