จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 216
บทที่ 216 : ไป๋หยานมาแล้ว (4)
อาจเป็นเพราะนางวิ่งมาตลอดทางผิวขาว ๆ ของนางจึงเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ยามนี้นางกำลังหอบแฮ่ก ๆ
”อ๋องคัง… อ๋องคังอยู่ที่ใด ?”
ตงรั่วหลานเร่งฝีเท้าวิ่งเข้ามาอีกสองก้าวนางหยุดเมื่อเห็นว่าวิ่งต่อไปไม่ได้แล้ว นางวางมือไว้บนท่อนขา ยามนี้น้ำเสียงของนางอ่อนล้ามาก
องครักษ์ต่างตกตะลึงพวกเขาเริ่มมีท่าทีลังเล “ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกันว่า ท่านอ๋องคังอยู่ที่ใด เพราะท่านอ๋องแลดูรีบร้อนมาก เหตุใดฮูหยินหลานไม่ไปที่คฤหาสน์โบราณของแม่นางไป๋ และรออยู่ที่นั่นล่ะ ท่านอ๋องน่าจะไปที่นั่นในไม่ช้า”
ตงรั่วหลานยิ้มอย่างขมขื่นพร้อมกับส่ายศีรษะ “ข้าเพิ่งมาจากที่นั่น เจ้ามีวิธีติดต่อท่านอ๋องบ้างหรือไม่ล่ะ ?”
เห็นได้ชัดว่าการที่สตรีผู้นี้มาที่นี่ย่อมไม่ใช่เรื่องดีนัก ทั้งความแข็งแกร่งของนางก็มิใช่ต่ำต้อย เช่นนั้นนางต้องมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือบางอย่างจากอ๋องคังเป็นแน่ !
อ๋องคังห่วงใยแม่นางไป๋มากนั่นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเพิกเฉยกับเรื่องนี้
”ฮูหยินหลานโปรดรอสักครู่ ข้าจะเชิญท่านอ๋องมาที่นี่”
ครั้นองครักษ์เห็นสีหน้าท่าทางที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของตงรั่วหลานเขาก็ไม่มีอาการลังเลอีกต่อไป เขาหยิบพลุสื่อสารออกมา จากนั้นก็จุดพลุ พลุพุ่งขึ้นแตกเป็นประกายบนท้องฟ้า ชั่วขณะนั้นเอง ทั่วทั้งท้องฟ้าก็ย้อมไปด้วยแสงสีแดง
ด้านนอกเมืองหลวง
ภายในป่าฮัวหยูยืนเงียบ ๆ อยู่ข้างหลังอ๋องคัง เขามองอ๋องคังอย่างระมัดระวัง “ราชา ลูกน้องของข้าติดตามร่องรอยลมหายใจที่ยังตกค้างขององค์หญิง กระทั่งมาถึงสถานที่แห่งนี้ ท้ายสุดร่องรอยขององค์หญิงก็หายไป … ”
อ๋องคังเม้มปากไม่อาจเข้าใจได้ว่าใบหน้าหล่อร้ายราวปีศาจนั่นกำลังคิดสิ่งใด
”แล้วหญิงสาวจากเผ่าอสรพิษนั่นล่ะเจ้าหานางพบรึยัง ? น้ำเสียงของเขาฟังดูเคร่งขรึม ขณะก้มศีรษะลงเล็กน้อย
”ข้าน้อยไร้ประโยชน์จริงๆ จนถึงตอนนี้ข้าน้อยก็ยังหาตัวนางไม่พบ”
ครั้นกล่าวจบฮัวหยูก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ลมหายใจของเจ้านายเขาเคร่งเครียดขึ้นอีก ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกหายใจได้ลำบากยิ่งกว่าเดิม
เพียงไม่นานลมหายใจหนัก ๆ ก็กลับมาสงบนิ่งเฉกเช่นเดิม น้ำเสียงของอ๋องคังกลับมาเย็นชา และราบเรียบตามแบบฉบับ
”ค้นหาต่อไป!”
”พ่ะย่ะค่ะองค์ราชา”
ที่สุดฮัวหยูก็ผ่อนคลายลงแรงกดดันจากองค์ราชานั้นรุนแรงเกินไป คงมีเพียงว่าที่องค์ราชินีเท่านั้นจึงสามารถรับมือราชาองค์นี้ได้
ยามนี้กลิ่นอายของตี้คังพลันเย็นชาและมืดมนลงอีกครั้ง
”พลุสื่อสารของข้าถูกจุดขึ้น!”
พลุสื่อสารใช้พลังฉีของเจ้าของเป็นสื่อเพื่อส่งผ่านข้อมูล หากพลุถูกจุดขึ้นเจ้าของพลุจะรู้ได้ทันทีไม่ว่าจะอยู่ที่ใด
เขาเคยสั่งการไว้ว่าจะใช้พลุสื่อสารนี้เรียกตัวเขาได้ ก็ต่อเมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับไป๋หยานเท่านั้น เช่นนั้นหากเป็นเรื่องปกติธรรมดา ย่อมไม่มีผู้ใดกล้าใช้พลุสื่อสารนี้ !
”องค์ราชาหรือว่าราชินี ?” ฮัวหยูเงยหน้าขึ้น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ
ดูเหมือนว่าต้องมีใครบางคนกำลังจะโชคร้ายอีกแล้ว
”เจ้าค้นหานางต่อไป!”
ครั้นกล่าวจบประโยคร่างของตี้คังในชุดเสื้อคลุมสีม่วงเรือนผมสีเงินวาวก็หายไปต่อหน้าต่อตาฮัวหยู
ฮัวหยูมองตามทิศทางที่ตี้คังหายตัวไปพลันร่างของเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นวิหคเพลิงขนาดใหญ่ เพียงชั่วอึดใจ นกยักษ์ก็บินลับหายเข้าไปในป่าทันที
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ณ ลานหน้าบ้านสกุลหลาน ไป๋หยานกำลังอมยิ้ม ขณะมองมู่ชิงเกอที่กำลังเผชิญหน้ากับนางอยู่
”ข้าจะไม่ถามว่าเหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่เพียงอยากรู้ว่าเจ้ามีจุดประสงค์ใดที่มาที่นี่มากกว่า ?”
มู่ชิงเกอกระพริบตาที่เย็นเยือกของนาง”ข้าเพียงอยากประลองกับเจ้า ผู้ที่แพ้จะต้องรามือจากตี้คัง ทว่าในเมื่อเจ้าลงมือกับคนจากหุบเขาเพลงพิณของข้า เช่นนั้นข้าก็ไม่อาจละเว้นเจ้าได้”
ไป๋หยานยกมือขึ้นกอดอกพร้อมกับแสยะยิ้ม “เจ้ามีความสามารถพองั้นรึ ?”
ประโยคนี้เต็มไปด้วยความหยิ่งผยองยิ่งทำให้สีหน้าของมู่ชิงเกอนั้นดูไม่ได้มากขึ้นไปอีก
***จบบท ไป๋หยานมาแล้ว (4) ***