จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 256
บทที่ 256: เป็นไปตามที่คาด
เถาวัลย์จองจําเป็นสิ่งที่ไม่ผ่านเคยมีประสบการณ์กับมันมาก่อนซึ่งแน่นอนว่ามันสามารถกักขังกลุ่มคนจํานวนหนึ่งได้ไม่ยากเย็นนัก
พวกมันเติบโตอย่างรวดเร็วและพุ่งออกมาจากร่างกายของนักเวทคนนั้นอย่างฉับไว หนามบนเถาวัลย์นั้นแตกต่างจากสิ่งที่โม่ฝานได้เจอก่อนหน้านี้มากใต้ฝ่าเท้าของทุกคนนั้นเริ่มมีเถาวัลย์เส้นเล็กๆเต็มไปด้วยกิ่งหนามมากมายกําลังขยับเคลื่อนไหวถ้าหากว่าพวกเขาไม่สังเกตถึงสิ่งผิดปกติเหล่านี้แน่นอนว่าท้ายที่สุดมันจะกลายเป็นเชือกที่แข็งแกร่งรัดข้อเท้าเอาไว้จนไม่สามารถดิ้นหลุดไปไหนได้!
เถาวัลย์จองจําค่อยๆเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากนั้นเพียงไม่นานมันเปลี่ยนให้สถานที่ที่นักเรียนจากเม็งจู่ทั้งหมดติดอยู่ในกรงพุ่มไม้ขนาดใหญ่ถ้าพวกเขาต้องการที่จะหลบหนีออกจากกรงยักษ์ตรงหน้าพวกเขาทั้งหมดจําเป็นจะต้องร่ายเวทมนตร์เพื่อที่จะทําลายกิ่งก้านเถาวัลย์แข็งแกร่งเหล่านี้ให้เร็วที่สุด!
อย่างไรก็ตามนักเรียนจากมหาวิทยาลัยจักรพรรดิ์ไม่ได้มีความคิดที่จะให้พวกเขาได้ทันตั้งตัวหรือทําลายมันพวกเขาทั้งหมดยืนดูสถานการณ์และนักเวทที่ชื่อเฉาวหมิงเหยู่ผู้ที่ร่ายเวทมนตร์เสร็จสิ้นแล้วกําลังเดินไปด้านหน้าอย่างสง่าผ่าเผย
หวู้ดดดดดดดด
เปลวไฟดุเดือดเริ่มพวยพุ่งออกมาแสงสีแดงสว่างวาบลุกโชนไปทั่วสนามของการประลอง
เพลิงแข็งแกร่งแผ่กระจายออกมาจากร่างกายของเธออย่างเกรี้ยวกราดตามด้วยเสียงตะโกนของเธอทําให้อัคคีที่ทรงพลังปรากฏออกมาอยู่ในมือขวาอย่างมันเหมาะ
“เธอกําลังทําอะไรกันน่ะ?” จางปิงเฉียวบ่นออกมาอย่างไม่ค่อยเข้าใจ
“ดูเหมือนว่าเถาวัลย์จองจ่านั้นถูกเปิดใช้งานเรียบร้อยแล้วถ้าหากว่าพวกเขาต้องการจะใช้หมัดเพลิงในกรณีเช่นนี้…” ในขณะที่หลัวซึ่งกําลังจะอธิบายในสิ่งที่เขากําลังคิด ฉับพลันสายตาของเขาเห็นคลื่นความร้อนจากมือของเฉาวหมิงเหยสายตาของเขาเบิกกว้างทันทีเปลวไฟนั้นดูเหมือนจะอ่อนนุ่มแต่แฝงไปด้วยความรุนแรง มากมายเป็นล้นพ้น!
วงกลมขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วหมัดเพลิงกินพื้นที่ขนาดใหญ่บนเวทีประลองนี้ทันที!
เมื่อการโจมตีของเปลวไฟได้แผดเผาออกมาดูเหมือนว่ามันจะโจมตีเถาวัลย์จองจําทั้งหมดกิ่งก้านหนามแหลมเหล่านี้ถูกอัคคีเกรี้ยวกราดเล่นงานซะแล้ว
เพียงไม่กี่วินาที หมัดเพลิงได้จัดการกับเถาวัลย์จองจําทั้งหมดนี้ภายในพริบตา
เดิมที่นักเรียนทั้งสี่จากเมิงจู่นั้นกําลังจะถูกจองจําด้วยเถาวัลย์ขนาดใหญ่เหล่านั้นแต่ทว่าในตอนนี้เถาวัลย์จองจําได้หายไปหมดแล้วเหลือไว้เพียงคุกอัคคีเท่านั้นเปลวไฟขนาดใหญ่ได้ปิดกั้นหนทางทั้งหมดของพวกเขาอย่างสมบูรณ์
เปลวไฟเหล่านี้แผ่กระจายไปทั่วบริเวณอย่างอิสระเถาวัลย์บางเส้นนั้นไม่ได้ถูกเผาไปด้วยแต่ทว่าก็ไม่มีพื้นที่ให้พวกเขาได้หลบหนีไปไหนอีกแล้วทุกเส้นทางถูกปิดกั้นจนหมดสิ้น
“ทําเช่นนี้มันไม่เกินไปหน่อยงั้นเหรอ” เฉินหมิงเฉวียนบ่นออกมาทันทีเมื่อเข้าใจแผนการของฝ่ายตรงข้าม
ธาตุไฟนั้นสามารถต่อกรกับธาตุพืชได้ไม่ยากเย็นนักสองเปลวไฟต้องสัมผัสกับพืชโดยตรง เช่นนี้พวกมันจะ ถูกเผาจนมอดไหม่ไปเองนักเรียนจากมหาวิทยาลัยจักรพรรดิ์ใช้แผนนี้เพื่อสร้างคุกอัคคีแทนที่เถาวัลย์จองจํามันคือการสร้างป่าอัคคีขนาดใหญ่เพื่อกักขังนักเรียนทั้งหมดนี้ไว้นั่นเองผลที่ได้นั้นยอดเยี่ยมเสียยิ่งกว่าการขว่างก่าปั้นใส่ใครคนใดคนหนึ่งเสียอีก
ป่าเพลิงสีแดงเข้มได้กลืนกินนักเรียนทั้งสี่จากหมิงจู่จนหมดสิ้นณเวลานี้ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขากําลังยืนอยู่ที่ใดและไม่ได้รับรู้ถึงสถานการณ์ด้านนอก
เปลวไฟยังคงลุกลามไปทั่วบริเวณตามเส้นทางของเถาวัลย์ก่อนหน้านี้ก้านของเถาวัลย์ที่กําลังเติบโตนั้นกลายเป็นสีดาและค่อยๆร่วงหล่นสู่พื้นกลายเป็นเถ้าถ่าน เพียงแค่มีลมเบาๆพัดผ่านพวกมันก็ปลิวหายไปในสายลม
ป่าเถาวัลย์ขนาดมหึมาถูกเผาจนหมดสิ้นแล้วเปลวไฟจากหมัดเพลิงค่อยๆสงบลงและจางหายไปอย่างเชื่องช้าฝูงชนที่กําลังจ้องมองสถานการณ์ตรงหน้ากําลังพูดคุยกันถึงประเด็นร้อนนี้อย่างอื้อฉาวขณะที่พวกเขากําลังสนทนากันอย่างออกรสมีบางอย่างปรากฏขึ้นมาโดยฉับพลัน
หลังจากที่พวกเขาดูมันอย่างระมัดระวังพร้อมตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้วจึงได้รู้ว่าสิ่งนั้นคือหินขนาดใหญ่ ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ด้วยเช่นกัน
“มันคือเวทมนตร์ธาตุดินระดับมัชฌิมร็อกบล็อก!”จางปิงเฉียวกล่าวออกมาอย่างสบายๆ
ดูเหมือนว่านักเรียนทั้งสี่จากสถาบันเมิงจู่จะไม่ได้เตรียมตัวมาเลยหลัวซ่งนั้นเป็นนักเวทธาตุดินเขาใช้ความสามารถของชุดเกราะตัวเองทั้งหมดเพื่อปกป้องทีมเอาไว้เมื่อสถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้วแก้มของเขาแดงเรื่อขึ้นมาพร้อมกับลมหายใจหอบหนักอย่างเหนื่อยอ่อน
ในคราวนี้หลัวซึ่งใช้ความสามารถของร็อคบล็อกเพื่อป้องกันพลังของหมัดเพลิงเอาไว้ แน่นอนว่าหมัดเพลิงที่ลุกไหม้ลามไปทั่วกิ่งก้านของเถาวัลย์นั้นจําเป็นจะต้องใช้พลังจํานวนมากเพื่อขัดขวางมันเช่นนี้พลังเวทของเขาแทบจะหมดลงในการป้องกันทีมเพียงครั้งเดียว
“นายนี้มีความสามารถจริงๆ สมแล้วที่ได้ฝึกฝนอย่างหนักในทุกวัน!”เฉินหมิงเฉวียนกล่าวออกมาหลังจากที่เวทมนตร์ระดับมัชฌิมของหลัวซึ่งปกป้องเขาเอาไว้
เงินหมิงเฉวียนเริ่มใช้เวทมนตร์ธาตุลมของตนเอง เถ้าถ่านที่กองอยู่กับพื้นเริ่มลอยสูงขึ้นมันไหลเวียนไปทั่วสนามประลองอย่างรวดเร็ว
แรงกดอากาศเริ่มกดดันมากขึ้นเรื่อยๆความแข็งแกร่งของมันค่อยๆยกระดับขึ้นมันคือวายุหมุนทอร์นาโด!แม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นอากาศที่โปร่งใสเหล่านั้นได้แต่ฝุ่นมากมายกําลังก่อตัวขึ้นเป็นภูเขาสูงใหญ่ รูปร่าง ของมันราวกับงวงช้างที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด!
ทอร์นาโดขนาดใหญ่นี้มีความกว้างราวสองเมตร มันเริ่มเคลื่อนตัวเข้าไปหานักเรียนจากมหาวิทยาลัยจักรพรรดิ์ทั้งหมดนี้ล้วนแต่อยู่ในความควบคุมของเงินหมิงเฉวียน ความรุนแรงของมันนั้นถ้าหากว่าใครก็ตามที่ขวางเส้นทางนี้ร่างกายย่อมแหลกละเอียดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแน่นอน สายลมเกรี้ยวกราดสามารถฉีกศัตรูให้แหลูกเป็นพันชิ้นได้อย่างง่ายดาย
“เฮอะ ฉันจะจัดการตรงนี้เอง!”
อีกฝากหนึ่งของสนาม เหล่าหมิงฉยวนขยับเสื้อคลุมของตนเองพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก สายลมบริสุทธิ์เริ่มปรากฏขึ้นที่ใต้ฝ่าเท้าของเขาอย่างฉับพลัน
ทั้งคู่เป็นผู้เชี่ยวชาญธาตุลมเหมือนกัน เหล่าหมิงฉยวนต้องการที่จะต่อสู้กับนักเวทธาตุลมอย่างเงินหมิงเฉวียน!
วายุหมุนทอร์นาโดถูกร่ายขึ้นมากลายเป็นเนบิวลาอย่างรวดเร็วและถูกปลดปล่อยออกไปทันทีขณะที่ทอร์นาโดของเฉินหมิงเฉวียนนั้นยังมาไม่ถึงครึ่งทางเห็นได้ชัดว่าพวกเขาใช้เวทมนตร์เดียวกัน…
ทอร์นาโดของทั้งสองนั้นหมุนรอบกันอย่างดูท่าที่อยู่ครู่หนึ่ง เหมือนว่าทิศทางของพวกมันจะตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิงราวกับสนามแม่เหล็กต่างขั้วท้ายที่สุดมันทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรงแต่กลับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยนอกจากความเงียบงันทั่วทั้งเวทีประลองเงียบสนิทราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นไม่มีใครสัมผัสได้ถึงแรงลมเกรี้ยวกราดเมื่อครู่นี้แม้แต่น้อย
วินาทีถัดมาเสียงของพายุดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว ดูเหมือนว่าพวกมันทั้งสองจะหลอมรวมเข้าด้วยกันและกลายเป็นพายุไซโคลนขนาดใหญ่เข้ามาแทนที่เมื่อพวกมันก่อตัวได้อีกครั้งความรุนแรงของลมได้แผลงฤทธิ์ออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
เสียงหวีดหวิวของสายลมดังก้องไปทั่วสนามประลองนักเรียนจากทั้งสองสถาบันถูกลมกรรโชกพัดออกไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่ทันตั้งตัว
แต่โชคดียังอยู่ข้างพวกเขา ที่ด้านข้างของเวทีประลองนั้นมีกาแพงวารีคอยกั้นระหว่างนักสู้กับผู้ชมฝูงชนที่อยู่ภายในสนามแห่งนี้จึงรอดพ้นจากอันตรายไปได้ ไม่เช่นนั้นทุกคนก็คงจะอยู่ในสภาวะบาดเจ็บสาหัสเนื่องจากกระดูกแหลกเป็นเสี่ยงๆ!
“ไอ้พวกบ้านโง่เง่าเกินไปแล้ว พวกมันไม่เข้าใจธรรมชาติของลมด้วยซ้ํา!”ด้านนอกของสนามลือเซ็งเห่อถอนหายใจยาวเหยียดพร้อมกับสาปแช่งเหล่าหมิงฉยวนอย่างไม่พอใจ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวน่าเกลียดเมื่อพ่นวาจาเหล่านี้ออกมา
ลูยหมิงขมวดคิ้วของเขาไว้แน่น ถ้าหากว่าทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง การจะเอาชนะอีกฝ่ายนั้นไม่ได้ยากเย็นนักเลยทั้งสองฝ่ายล้วนแต่มีความแข็งแกร่งเท่าเทียมกัน
หลังจากที่ทั้งหมดลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง เฉาวหมิงเหยสายตาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดพร้อมกับตะโกนใส่เหล่าหมิงฉยวน “ฟังคําสั่งของฉัน!”
เหล่าหมิงฉยวนจับเอวที่บาดเจ็บของตนเองพร้อมกับลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า ใบหน้าของเขาแสดงถึงความขึ้นขมและเจ็บปวด
โชคดีที่นักเวททุกคนบนเวทีนั้นอยู่ในระดับมัชฌิม การโจมตีเมื่อครู่นี้ไม่ได้สร้างบาดแผลสาหัสอะไรให้กับพวกเขามากนัก มันยังไม่รุนแรงมากพอที่กรรมการจะเข้ามาเพื่อยุติการต่อสู้
“โม่ผ่าน มู่หนิวเจียว ซูเซียวกับจางปิงเฉียว พวกเธอสี่คนไปเตรียมตัวได้แล้ว” คู่ฮั่นมองการต่อสู้บนเวทีพร์อมกับเรียกชื่อนักเรียนทั้งสี่เพื่อออกคําสั่ง
การต่อสู้ตรงหน้านี้ดําเนินการมาสักพักหนึ่งแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาทั้งสี่ย่อมไม่ทําให้โม่ผ่านผิดหวังไม่ว่าอย่างไรในรอบนี้พวกเขาจะได้รับความพ่ายแพ้แน่นอน!
ในแง่ของความแข็งแกร่งนั้นทั้งสองฝ่ายมีเท่ากันอย่างแน่นอน พวกเขาทุกคนล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญในธาตุของตนเองแต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่นักเรียนจากสถาบันเมิงไม่มีก็คือการทีมงานเป็นทีมการจัดการของพวกเขาบนเวทีนั้นค่อนข้างที่จะยุ่งเหยิงอย่างมาก
ปัญหาเหล่านี้นั้นคู่ฮันเคยได้พบเจอมันเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ รอบต่อไปจะเป็นเวลาของโม่ฝานและทีมของเขาคู่ฮั่นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนักใจว่าเหตุการณ์เช่นนี้มันจะเกิดขึ้นอีกครั้งถ้าหากว่าพ่ายแพ้ในรอบที่สองด้วยล่ะก็… ชื่อเสียงของสถาบันก็คงจะไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
“อาจารย์อู่ฮั่นไม่ต้องกังวล พวกเราจะทําให้เต็มที่”ซ่เซียวกล่าวออกมาอย่างจริงใจ
“ระวังตัวกันด้วยนะ!”