The Rise of Otaku - ตอนที่ 163
บทที่ 163 ราชาแห่งโจร
เจ้าอ้วนถูกดูดเข้าไปในเกมอาถรรพ์แล้วและมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะออกมาข้างนอกอีกครั้ง ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก ถึงแม้ว่าโจวหยูจะรู้เรื่องนี้แต่ในใจของเขาก็ยังคงมีคําถามอยู่ว่าทําไมหลังจากที่เขาส่งคนหนึ่งไปแล้วถึงมีอีกคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น? มันเป็นข้อเสนอพิเศษหรือเปล่า? หรือว่าเป็นแบบการซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง?
ชายผู้ถูกส่งออกมานั้นเป็นคนที่ดูดีมากมาก แต่เพราะเขาสวมชุดผ้าที่กลายเป็นผ้าขี้ริ้วและมีใบหน้าที่ไม่ได้โกนหนวดมานาน มันจึงทําให้เขาเหมือนคนที่เพิ่งกลับมาจากการเดินทางไปยังจุดสิ้นสุดของโลก แม้ว่าใบหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยความสับสน แต่เขาก็ระแวดระวังอย่างมาก สังเกตได้จากมือข้างหนึ่งของเขายังคงถือกริชแปลกๆเอาไว้ เขาจ้องมองผู้คนรอบตัวอย่างไร้ความปราณีราวกับว่าเขาจะจู่โจมและโจมตีทุกคนในทันใด
ไม่มีใครรู้ว่าชายแปลกหน้านี้คือใคร และหลังจากที่พวกเขาเพิ่งจะจัดการกับพวกแฟนๆเสร็จไปแล้วด้วย ทุกคนต่างก็หมดแรงและบาดเจ็บมากหรือน้อย ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าไปยั่วยุอีกฝ่ายในตอนนี้
ในขณะเดียวกันแจ็คก็ได้กลับมาในที่สุด เมื่อเขาเห็นอาวุธในมือของชายลึกลับคนนั้นเขาถึงกับนตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ “กริชแห่งกฎหมาย เจ้าคือราชาแห่งโจรใช้ไหม?”
ราชาแห่งโจรอาจพูดได้ว่าเป็นตํานานในหมู่นักผจญภัย เขาเริ่มมีชื่อเสียงในรอบทศวรรษที่ผ่านมาครั้งหนึ่ง เขาไปที่เมืองแบล็กสตาร์โดยลําพังเพื่อขโมยสมบัติอันเป็นที่รักที่สุดของราชา มันคือหัวใจแห่งความตายและด้วยเหตุนี้เขาจึงกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน ครั้งสุดท้ายที่ผู้คนได้พูดถึงตํานานของเขาคือตอนที่เขาเตรียมตัว สําหรับความท้าทายที่ยากที่สุด อย่างไรก็ตามไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะหายไปในความท้าทายนั้น
หลังจากได้ยินชื่อของตัวเอง ราชาแห่งโจรก็รู้สึกโล่งใจอย่างที่สุด ด้วยเสียงของแจ็คทําให้เขาพูดขึ้นว่า “เจ้าเป็นอัศวินจากเมืองสตาร์ไลน์?”
เมื่อเห็นว่าแจ็คผงกหัวในพริบตาราชาแห่งโจรก็มองตราอัศวินของแจ็คอยู่พักหนึ่งและในที่สุดก็ระเบิดเป็นเสียงหัวเราะ “มันเป็นเรื่องจริง! มันเป็นเรื่องจริง! มันไม่ใช่โลกที่ไม่มีที่สิ้นสุดอีกต่อไป ฮาฮาฮา! มันเป็นโลกภายนอกจริงๆ มันเป็นโลกภายนอกจริงๆ! ฉันออกมาได้แล้ว!”
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับราชาแห่งโจรในโลกที่เวลาไม่จํากัด แต่มันคงเป็นอะไรที่ร้ายแรงอย่างมาก ไม่อย่างนั้นมันคงไม่ทําให้ชายผู้เป็นตํานานนอนอยู่บนพื้นเพื่อที่จะจูบพื้นอย่างต่อเนื่องในขณะที่เขารอดชีวิตออกมาได้แบบนี้
เมื่อเห็นว่าเสียงเชียร์อาจยังคงอยู่ต่อไปครู่หนึ่ง แจ็คได้กระแทกป้อมปราการที่เป็นเบ็นเปลี่ยนร่างให้เป็นเปิดหน้าต่างเล็ก ๆ แล้วขว้างยาเข้าไป “มู่ลี่! เจ้าต้องกินยาเม็ดนี้ถ้าเจ้าอยากอาเจียนก็ให้ทํามันเลย ไม่ต้องพยายามห้ามมัน และเมื่อเจ้าอาเจียนจนหมดแล้วมันก็ถือว่าเจ้าหายดี “
ยาพิษแห่งการวิพากษ์วิจารณ์ของเลิฟมาสเตอร์ คือยาแก้พิษของสโนไวท์ อย่างไรก็ตามรสชาติของมันก็ไม่ดีนักนอกจากนี้มันยังมีผลข้างเคียงของอาการคลื่นไส้น้ําตาและน้ํามูกไหลไม่หยุดจนกว่าพิษจะถูกขับออกมาหมด
หลังจากนั้นไม่นานมู่ลี่ก็ออกมา แต่ใบหน้าของเธอก็ดูไม่ดีนัก หน้าของเธอนั้นซีดมากและดูน่าสงสารมาก เช่นกัน หลังจากที่เธอออกมาได้ เธอก็วิ่งตรงไปที่โจวหยูในขณะที่ร้องไห้ไปด้วย
โจวหยูต้องการปลอบลูกสาวคนนี้ แต่อาการบาดเจ็บที่เขาได้รับมาทําให้เขาขยับตัวไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาถูกเจ้าอัศวินจากเมืองแบล็กสตาร์นั้นซ้อมมาก่อน ทําให้หลังจากที่เขาได้พักร่างกายของเขาก็ไม่ยอมขยับตามคําสั่งของเขาอีกเลย และดูเหมือนว่าจะมีรอยร้าวทั่วร่างกายของเขาอีกด้วย
“ลูกอย่าร้องไห้! มันโอเคแล้ว! เรื่องทั้งหมดจบแล้ว”
ด้วยรอยฟกช้ําสีม่วงบนใบหน้าบวมๆของโจวหยูทําให้คําพูดของเขาไม่เพียงแต่ไม่โน้มน้าวใจลูกสาวเท่านั้น แต่มันยังทําให้เธอรู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นหนักมากขนาดไหน เธอได้มองไปยังทุกคนก่อนที่เธอจะรู้ว่าแต่ละคนเองก็อยู่ในสภาพไม่ดีมากนัก โดยเฉพาะนิ่งห้อยและเป็นเป็น พี่สาวและน้องชายของเธอที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อเป็นแบบนี้มันจะไม่ทําให้เธอรู้สึกผิดได้ยังไง
น่าเศร้าที่โจวหยู่ไม่รู้ว่าจะปลอบโยนผู้คนได้ยังไง ในที่สุดเขาไม่มีทางเลือกนอกจากขอให้นิ่งห้อยเข้ามาช่วยได้ แจ็คมองขึ้นและลงเพื่อตรวจสอบอาการบาดเจ็บของโจวหยู
“เฮ! ข้าต้องพูดว่าทักษะกังฟูของเจ้าไม่ดีเลย แต่ความสามารถในการอดทนของเจ้านั้นค่อนข้างน่าประทับใจ ส่วนอาการบาดเจ็บนั้นเจ้าก็ไม่ต้องกังวลเกินไป ข้าคิดว่าแค่บอกให้เลขาของเจ้าพาเจ้าไปหาหมอในโลกแห่งความจริง มันคงใช้เวลาพักไม่นานก่อนที่แผลพวกนี้จะหาย ในเวลานั้นเจ้าเองก็ไม่ต้องกังวลเพราะเข้าและราชาแห่งโจรจะอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องมู่ลี่และอีกไม่นานอัศวินจากเมืองสตาร์ไลท์เองก็จะมาถึงเร็วๆนี้แล้ว ดังนั้นเจ้ามั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้น”
เมื่อได้ฟังแบบนั้นโจวหยูก็ยิ้มออกมาได้ที่สุด เขาพยายามลุกขึ้นเดินออกจากห้องของตัวเอง แล้วไปเคาะประตูห้องของหลินวาน
หลินวานที่เพิ่งพูดคุยกับโจวฟูทางโทรศัพท์จบไปไม่นาน เมื่อเธอเห็นว่าเจ้านายไม่ต้องการออกจากห้องของเขา เธอก็กลับไปที่ห้องของเธอ แต่ผ่านไปไม่นานเธอก็ได้ยินใครบางคนเคาะประตูเธอก็รีบมาเปิดประตูออกมา อย่างไรก็ตามหลังจากที่เธอเปิดประตูเธอเห็นกับพบใบหน้าที่ชําและบวมของเจ้านายของตัวเองรออยู่ราวกับว่าเขาเพิ่งเข้าแข่งขันชกมวยไป
มีคนปล้นเขา? แต่นี่มันเป็นโรงแรมระดับสามดาวแล้วใครจะมาปล้นที่นี่?
“ไม่ต้องคิดมาก! เธอทําเพียงแค่ส่งฉันไปที่โรงพยาบาลและไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนพวกข้าวของที่เสียหายไปนั้น เธอก็ไปชดใช้ให้ทางโรงแรมพร้อมกับคําขอโทษของฉันด้วย”
คําอธิบายของโจวหยูทําให้หลินวานกังวลยิ่งขึ้น หลังจากที่เธอส่งเขาไปที่โรงพยาบาลเธอรีบกลับไปที่ห้องของเขาเพื่อตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น และภาพที่ปรากฏตรงหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยของการต่อสู้มากมาย มันมีแม้ประทั้งรอยเลือดบนพื้น เห็นได้ชัดว่ามันเป็นฉากหนึ่งในหนังอาชญากรรม!
อย่างไรก็ตามจากเวลาที่เธอออกจากห้องเจ้านาย จนกระทั่งถึงเวลาที่เขามาเคาะประตูของเธออีกครั้ง มันเป็นเพียงน้อยกว่าครึ่งชั่วโมง ทุกอย่างในห้องนั้นค่อนข้างปกติในเวลานั้น แล้วมันเกิดอะไรขึ้นในช่วงครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมากัน?
โดยทั่วไปแล้วตามฉากนี้ดูเหมือนว่าหลังจากที่เธอจากไปแล้วจะต้องมีคนแอบเข้าไปในห้องเจ้านาย และเกิดการต่อสู้กันขึ้น อย่างไรก็ตามเจ้านายขอให้เธอไม่รายงานต่อตํารวจ บางทีเจ้านายอาจรู้จักบุคคลนี้หรืออาจจะเป็นภาพหลอนแปลกๆที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ถ้ามันเป็นอย่างหลังแล้วละก็ มันเป็นอะไรที่เลวร้ายเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่ที่พวกเขาออกจากสวนสนุกมา อาการนี้ของเจ้านายก็เลวร้ายลงเรื่อยๆ
หลินวานอดไม่ได้ที่จะมีอาการตัวสั่น จากนั้นเธอก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ในใจว่าในอนาคตไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็จะไม่ออกมากับเจ้านายอีกเลย
แต่สําหรับโจวหยูนี่เป็นข่าวใหญ่
หลังจากพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งวัน และก่อนที่เขาจะออกจากโรงพยาบาลเขาถูกขอให้ทําการเช็คทุกชนิดเพื่อให้แน่ใจว่าเขาสบายดี
ในที่สุดเลขาตัวน้อยของเขาก็ดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับพฤติกรรมแปลกๆของโจวหยูแล้ว เธอไม่ได้ถามคําถามแปลกๆอีกต่อไป เธอเงียบมากจนทําให้โจวหยูรู้สึกโล่งใจมากยิ่งขึ้น แต่ก็มีสิ่งที่แปลกๆมากเช่นกัน ดูเหมือนว่าเลขาคนใหม่คนนี้ของเขาจะวางท่าทางป้องกันเขาโดยสัญชาตญาณทุกครั้งที่เขาอยู่ใกล้เธอ มันราวกับว่าเขาเป็นหมาป่าตัวโตที่อยากจะกินเธอตลอดเวลายังไงยังงั้น
อืม … เขาอาจจะคิดมากเกินไปเองมั้ง
“คอนเสิร์ตเริ่มต้นที่ 9 นาฬิกาคืนนี้และทางเข้าจะเปิดเวลา 8:30 น. เจ้านายจะไปที่นั่นตอนไหนค่ะ?”
คําถามของเธอทําให้นึกถึงโจวหยูนึกถึงเหตุผลที่เขามาที่นี้
“ก่อนอื่นเราต้องกลับไปที่โรงแรมก่อน ฉันต้องไปเอาอะไรก่อน”
ในโรงแรมผู้คนจํานวนมากต่างก็ยุ่ง เพราะอีกไม่นานงานกิจกรรมระดับ D ก็จะถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการบริษัทจัดการต่างๆก็เริ่มที่จะพาไอดอลของตัวเองออกมาจากห้องพัก เพื่อร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ส่วนลูกสาวสุดสวยของเขามู่ลี่นั้น ตอนนี้ยังรอให้รอเขาอยู่ในห้องของโรงแรม
เมื่อเห็นว่าพ่อของพวกเขาไม่เป็นไร ใบหน้าของลูกๆก็เต็มไปด้วยความสุข ดวงตาของมู่ลี่เต็มไปด้วยน้ําตาแห่งความสุข หลังจากที่โจวหยูพูดว่าเธอจะดูไม่ได้สวยถ้ามีน้ําตาอยู่บนใบหน้า แต่ดูเหมือนว่านั้นจะไม่ทําให้เธอหยุดร้องไห้ได้
พวกเขามีปัญหามากมายในระหว่างการเดินทางครั้งนี้ แต่ในที่สุดทุกอย่างก็ใกล้จะจบลง อย่างไรก็ตามเมื่อโจวหยูมองดูมู่ลี่อีกครั้งหัวใจของเขาก็เกิดกระตุกขึ้นมาทันที
“เกิดอะไรขึ้น?”