The Rise of Otaku - ตอนที่ 161
บทที่ 161 การมาถึงของบอสผู้ชั่วร้าย
หลินวานเองก็ถือว่าโชคไม่ดีเช่นกัน ทุกครั้งที่เธอมาที่ห้องของโจวหยูมันเป็นช่วงเวลาที่ไม่ถูกมากนัก และมันเป็นเรื่องง่ายอย่างมากที่เธอจะนําภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่เธอเห็นมาประมวลว่าเจ้านายของตัวเองนั้นมี ‘ความเจ็บป่วยทางจิต’
ทางด้านของโจวหยูเองก็ไม่ได้แก้ตัวอะไรเช่นกัน เพราะสําหรับเขาแล้วการที่ถูกมองว่าตัวเองมีปัญหาด้านจิต ก็ดูเหมือนเป็นข้อแก้ตัวสําหรับพฤติกรรมแปลกๆของเขานั้นค่อนข้างดี เขาไม่จําเป็นต้องใช้สมองในการคิดคําอธิบายมากนัก
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขามีปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้มันให้ได้ก่อน
หลังจากถูกกันโดยระบบรักษาความปลอดภัยของโรงแรม จํานวนแฟนสุดบ้าคลั่งที่สามารถไปถึงชั้น 17 ได้ ก็มีลดน้อยลงและหิงห้อย โจวหยูเองก็ยังสามารถรับมือกับเหล่าสมุนพวกนี้ได้ อย่างไรก็ตามมันก็มีคนที่มีความสามารถพิเศษปรากฏขึ้นในที่สุด
ตัวอย่างเช่น มีแฟนคลับหัวรุนแรงที่มีความสามารถพิเศษหายตัวได้ ได้แอบปีนขึ้นมาใกล้ถึงกระเป๋าเสื้อที่มู่ลี่อยู่ แต่โชคดีที่เวลานั้นนิ่งห้อยได้เปิดทักษะ นกอินทรีตา’ ของตัวเองเพื่อตรวจจับบริเวณนั้นพอดี ทําให้ชายคนนั้นถูกจับได้ก่อนที่แผนจะสําเร็จ
ไม่เพียงแค่นั้น มีแฟนคลับบางคนที่สามารถบินได้ พวกเขาสามารถบินไปที่กระเป๋าของเขาได้โดยตรงจากพื้นดิน แม้ว่าจํานวนคนที่บินได้จะน้อย แต่พวกมันก็เหมือนยุงที่บินรอบโจวหยูตลอดเวลา เพียงแค่โจวหยูเสียสมาธิเล็กน้อยพวกมันก็พร้อมที่จะตรงดิ่งลงไปในกระเป๋าของเขาทันที
การต่อสู้ทางอากาศเป็นความพิเศษของบูบู แต่คราวนี้โจวหยูไม่ได้พาเขามาด้วย มันช่างเป็นอะไรที่หน้าเจ็บใจที่สุด
ในสถานการณ์ที่สําคัญนี้เองเป็นเป็นก็ได้กลับมา เขาที่ไม่เก่งในเรื่องการแสดงความรู้สึกของตัวเอง มันทํา ให้การไปขอความช่วยเหลือของเขานั้นไม่ได้ดีมากนัก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะกลับมาช่วยเหลือพ่อและพี่สาวต่อสู้กับคนร้ายนี้ดีกว่า ด้วยความสามารถในการแปลงร่างที่เขามีเขาได้เปลี่ยนเป็นป้อมปราการหม้อหุงข้าวที่แข็ง แกร่งทันที อย่างน้อยภายใต้การคุ้มครองของเขา โจวหยูก็ไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการแอบโจมตีอีก
โจวหยูเองก็เริ่มแสดงพลังของเขาเช่นกัน โดยเขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของมู่ลี่อีก กลุ่มคนที่เหมือนแมลงสาปเหล่านั้นต่างก็ถูกทุบอย่างรวดเร็วโดยเขาและหลังจากอุปกรณ์การบินทั้งหมดของพวกนั้นถูกถอดออก เขาก็โยนพวกมันออกจากหน้าต่างที่ละคน ทําให้พวกมันกลายเป็นมนุษย์บินจริงๆ
แม้ว่าแนวหน้าจะค่อนข้างดีในตอนนี้ แต่จํานวนแฟนๆที่เพิ่มขึ้นทุกวินาทีก็เริ่มทําให้การป้องกันเสียหายขึ้น หิ่งห้อยและโจวหยูเองก็เริ่มที่จะรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาบ้างเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วพวกเขามีเพียงสองคนแต่ต้องวิ่งวุ่นไปทั่วทั้งห้อง มันก็ทําให้ความแข็งแกร่งของเขาลดลงเช่นกัน
“หิ่งห้อย! ตอนนี้แรงของพวกเราเริ่มหมดแล้ว ถ้ยังเป็นแบบนี้ต่อไปพวกเราต้องแย่แน่เลย ดังนั้นพ่อคิดว่า อีกเดี๋ยวพวกเขาจะฝ่าออกไปจากห้องนี้และตรงไปยังห้องอื่นกัน”
โจวหยูเริ่มโกรธขึ้นมาจริงๆ แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเจอกับการโจมตีพวกนี้มาก่อน แต่มันก็ไม่เคยทําให้เขาโกรธมากขนาดนี้มาก่อน ถึงแม้ว่าเขาจะโกรธมากขนาดไหนแต่ในตอนนี้ความปลอดภัยของมู่ลี่เป็นสิ่งสําคัญอันดับแรก หลังจากเรื่องนี้จบลงเขาคิดว่าด้วยการขอโทษแขกคนอื่นๆและชดใช้กับทางโรงแรมสําหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น มันคงเป็นอะไรที่พอแล้ว
หลินวานผู้ที่ตอนนี้กําลังอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้จัดการฟอยู่ ถ้าเกิดว่าเธอรู้ความคิดในตอนนี้ของเจ้านายตัวเอง เธอคงร้องไห้ออกมาอย่างแน่นอน
หิงห้อยไม่สามารถทนได้อีกต่อไปเช่นกัน เมื่อเธอได้ฟังแบบนั้นเธอรีบพยักหน้าตกลงทันที แต่ก่อนที่พวกเขาจะฝ่าออกไปนั้น ตรงทางเดินกลุ่มของหยานภู่และกาก้าก็ได้กลับมาในที่สุด ไม่เพียงแต่พวกเขาจะกลับมาได้ทันเวลา แต่พวกเขายังได้พากําลังเสริมมาด้วย แน่นอนว่ากําลังเสริมพวกนี้ไม่ได้มาแบบฟรีๆ พวกเขามาพร้อมกับเงื่อนไขที่
บริษัทสตาร์ตรีม ได้ตั้งเงื่อนไขที่ว่าให้กาก้าและเย็นเป็นต้องมาปรากฏตัวในฐานะแขกของรายการทําอาหาร อย่างน้อยหนึ่งฤดูกาลฟรี ส่วนหยานกู่นั้นเขาต้องกํากับหนังระดับ D ให้กับบริษัทฟิมล์สตาร์หนึ่งเรื่อง
เมื่อทุกคนต่างก็ยอมรับในเงื่อนไขของแต่ละฝ่าย จึงทําให้ตอนนี้ด้านหลังของพวกเขาสองคนต่างก็เต็มไปด้วยผู้จัดการตัวแทนไอดอลและบอดี้การ์ดชุดดําอย่างน้อย 30 คน
เมื่อเห็นบอดี้การ์ดชุดดําแบบนี้ โจวหยูก็จําได้ว่าเขาเองมีบอดี้การ์ดแบบนี้ในสวนสนุกเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้พาพวกนั้นมาด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะรู้เรื่องนี้ในตอนนี้แต่มันก็สายเกินไปที่จะเสียใจ
กําลังเสริมได้มาถึงพร้อมกับเริ่มต่อสู้ทันที แม้ว่าตัวแทนจัดการไอดอลจะไม่มีแรกงต่อสู้มากนัก แต่พวกเขาก็มีของเล่นๆแปลกๆที่สามารถใช้ได้ โจวหยูได้เห็นว่ามีครั้งหนึ่งที่กลุ่มแฟนคลับจํานวนไม่น้อยกว่าสิบคนได้ปลิวขึ้นไปบนฟ้า เพียงแค่การโจมตีครั้งเดียว
หลังจากการสังเกตมาซักพัก เขาก็รู้ว่าตัวแทนบริษัทเหล่านั้นมีอาวุธอยู่สามชนิดที่ใช้ คือระเบิดแสง ระเบิดสตั้น และระเบินบิน แม้ชื่อระเบิดพวกนี้จะฟังดูแปลๆแต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้ามกับชื่อจริงๆ ในไม่ช้าด้วยอานุภาคของอาวุธและกลุ่มบอดีการ์ดที่เพิ่มขึ้น จํานวนแฟนคลับที่บุกขึ้นมายังชั้นนี้ก็ใกล้จะถูกควบคุมได้
โจวหยูที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อิจฉามาก ร้านค้าที่ขายของประเภทนี้ตั้งอยู่ในเมืองสตาร์ไลน์เท่านั้น และมีเพียงตัวแทนจากบริษัทจัดการขนาดใหญ่เท่านั้นที่มีสิทธิ์ซื้อสินค้าเหล่านี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าหมู่บ้านมินิลู่หัว นั้นเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆในขณะนี้ มันจึงไม่มีร้านค้าหรืออาคารอื่นๆปรากฏให้เห็น แต่เขารู้ว่าไม่สามารถเร่งรีบอะไรตอนนี้ได้ มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นที่หมู่บ้านนี้จะกลายเป็นจุดศูนย์กลางของโลก
การต่อสู้ในแนวหน้าค่อยๆทรงตัว แต่ไม่รู้ทําไมโจวหยูกับยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่าเวลานี้ เป็นเพียงช่วงเวลาสงบก่อนที่พายุลูกใหญ่จะเกิดขึ้นเท่านั้น ในขณะเดียวกันเมื่อเขาเห็นจํานวนแฟนคลับที่ถูกจับได้ เขาก็รู้สึกถึงเงินจํานวนมากที่เขาจะได้รับ ถ้า! ใช้! ถ้าว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นในสวนสนุกของเขา ด้วยจํานวนแฟนคลับตอนนี้มันคงทําเงินให้เขาไม่น้อยกว่าพันเหรียญโมอย่างแน่นอน
ระหว่างนั้นเองผู้นําของทีมที่37ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงสุดทางเดิน มันมีอาการผ่อนคลายมากราวกับว่าการขึ้นมาชั้นนี้ไม่มีใครหยุดมัน ทําให้โจวหยูสงสัยว่าจริงๆว่าอีกฝ่ายขึ้นมาได้ยังไงถ้าไม่มีใครขัดขวาง
ขณะที่เก้าอี้ซีดานถูกยกไปข้างหน้า อีกฝ่ายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็กระแทกขึ้นและลงทําให้ไขมันในร่างกายของมันเด้งไปมาอย่างต่อเนื่องและดูน่าขยะแขยงมาก โชคดีที่คนที่แบกมันขึ้นมานั้นมีกล้ามเนื้อเต็มไปหมด ไม่อย่างนั้นมันไม่มีทางขึ้นมาที่ชั้น 17 ได้เลย
“เอาละ! ดูเหมือนว่าพวกขยะไร้ค่าพวกนั้นจะจัดการได้ดีสินะ แบบนี้ก็ดี! เพราะยังไงเจ้าหญิงมู่ลี่ตัวน้อยก็ต้องเป็นของฉัน!”
เมื่อเผชิญกับแรงต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน กลุ่มของโจวหยูก็รู้สึกถึงเรื่องกดดันขึ้นมาเช่นกัน ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเป็นตัวละครที่แข็งแกร่งมาก และใบหน้าของผู้คนจากทั้งสองบริษัทเองก็เปลี่ยนไปทันทีเช่นกัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลัวผู้มาใหม่คนนี้ แต่น่าเสียดายที่พวกเขามีส่วนร่วมในเหตุการณ์นี้แล้ว มันสายเกินไปที่จะให้พวกเขาจะถอนตัวตอนนี้
เจ้ามนุษย์ไขมันยังคงแสร้งทําเป็นบอสคนดี “เอ่อดี! ข้าไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการเก็บเกี่ยวที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าไอดอลพวกนั้นจะมีการจัดอันดับไม่ดีเท่าเจ้าหญิงของข้า แต่พวกมันก็ยังมีค่าอยู่ดี พวกมันสามารถทําเงินได้จํานวนมากในตลาดทาส และด้วยเงินจํานวนนั้นถือได้ว่าเป็นเงินช่วยเหลือพี่น้องที่ได้รับบาดเจ็บของข้า “
ตลาดทาสในเมืองแบล็กสตาร์นั้นเป็นสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดสําหรับไอดอลจากเมืองสตาร์ไลท์ หากพวกเขาถูกจับในครั้งนี้มันจะเป็นจุดสิ้นสุดของตัวเอง
หนึ่งในตัวแทนจัดการได้รวบรวมความกล้าหาญของเขาและตะโกนว่า “ไอ้อ้วนหยุดฝันเสียเถอะ! แม้ว่าเจ้าจะเป็นอัศวินของเมืองแบล็กสตาร์ แต่อีกเดี่ยวอัศวินจากเมืองสตาร์ไลน์เองก็จะมาถึงเร็วๆนี้!”
ชื่อของอัศวินแห่งแสงมีความเคารพอย่างยิ่ง แม้แต่หัวหน้ากลุ่มผู้สนับสนุนแฟนคลับสุดบ้าคลั่งเองก็ต้องรีบหลบหนีไปเมื่อได้ยินชื่อ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเจ้ามนุษย์ไขมันตัวนี้จะไม่ทําแบบนั้น มันกับเลือกที่จะหยิบของสิ่งหนึ่งออกมแทน
มันเป็นพอร์ทัลเคลื่อนย้ายชั่วคราว และยังเป็นอันที่สามารถกําหนดจุดที่จะไปเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเจ้ามนุษย์ไขมันจะสามารถหนีไปได้ทันทีหลังจากเขาประสบความสําเร็จแล้ว และในตอนนี้มันดูเหมือนว่าจะใช้เวลาอีกอย่างน้อยสิบนาทีเพื่อให้อัศวินจากเมืองสตาร์ไลท์มาถึง
มันช่างเป็นสถานการณ์ที่แย่จริงๆ!