The King of the Battlefield - ตอนที่ 234
ตอนที่ 234: แล้วเจ้าจะให้อะไรข้า (4)
ทั้งเมืองประดับประดาไปด้วยแสงสว่าง
เอลฟ์ที่ยังหลงเหลืออยู่มีจำนวนมากจนสามารถเทียบได้กับเมืองใหญ่ๆ พวกเขามีจำนวนประชากรประมาณ 500,000 คน
ทั่วทั้งบริเวณปรากฏรูปปั้นอีกาหินที่ถูกสร้างขึ้นสูงเสียดฟ้า แต่ที่มีมากกว่ารูปปั้นอีกาคือ รูปปั้นปีศาจตนหนึ่งที่มีใบหน้าเป็นแพะ
รูปปั้นดังกล่าวไม่เข้ากันกับเหล่าเอลฟ์เลยแม้แต่น้อย เพราะเอลฟ์คือตัวตนที่เป็นตัวแทนของดวงจันทร์ เป็นตัวตนอันบริสุทธิ์ที่อยู่ห่างไกลจาก ‘ความชั่วร้าย’ เช่นปีศาจ ยังไงก็ตามพวกเขาไม่ใช่เอลฟ์ธรรมดา เอลฟ์ที่อยู่ที่นี่คือ ดาร์คเอลฟ์!
เป็นเรื่องปกติที่ดาร์คเอลฟ์จะตกอยู่ในเส้นทางของปีศาจ เนื่องจากพวกเขาเกิดมาท่ามกลางความมืดมิด
และในขณะนี้…ผู้พิทักษ์ของเมืองที่สวมหน้ากากแพะดำ ก็กำลังเพลิดเพลินกับความสุขอยู่บนอาคารสูงสุดของเมือง
“ฮี๊ฮ่า”
สาวงามหลายคนกำลังรุมล้อมเขาอยู่ในอ่างอาบน้ำ
กลิ่นหอมอบอวลลอยไปทั่วสภาพแวดล้อมโดยรอบ หญิงสาวเหล่านั้นเคลิบเคลิ้มคล้ายเสียสติ เปลือยกายล่อนจ้อนรุมเล้าโลมชายสวมหน้ากาก และเต็มไปด้วยแรงปรารถนา
“ ท่านเทพผู้ยสูงศักดิ์ของพวกเรา”
“อร๊าา!
เขาเป็นเทพองค์เดียวของเมืองนี้ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ที่จักได้ทุกสิ่งที่ปรารถนา! แค่ชายคนนั้นยื่นมือออกไปเหล่าดาร์คเอลฟ์ผู้เลอโฉมก็ต้องส่งเสียงครวญครางออดอ้อนออเซาะแล้ว
ดาร์คเอลฟ์ต่างเคารพบูชาชายหน้ากากแพะดุจดั่งเจ้านายของตน
เอี๊ยด!
จู่ๆประตูก็เปิดออก แล้วทหารติดอาวุธเวทก็รีบเข้าไปหาเจ้านายของมันโดยไม่ชักช้า
“ พบผู้บุกรุกจำนวนมากเข้ามาในอาณาเขตของพวกเรา”
ชายที่สวมหน้ากากแพะหันไปมอง
“ พวกออร์คหรือ?”
ไม่นานมานี้เหล่าออร์คที่อาศัยอยู่รอบๆแสดงอาการก้าวร้าวมากขึ้นอย่างผิดปกติ
เป็นเพราะมีออร์คลอร์ดปรากฏตัวขึ้น มันรวบรวมออร์คเผ่าต่างๆนับไม่ถ้วน และทำลายล้างทุกอย่างที่ขวางหน้า
ที่แห่งนี้ก็ถูกบุกมาบ้างในบางครั้ง แต่พวกออร์คก็ทำอะไรไมได้ ทั้งนี้ต้องขอบคุณชายผู้สวมหน้ากากแพะและกองทัพนักรบที่แข็งแกร่งนับร้อยนับพันของมัน
“ พวกมันไม่ใช่ออร์ค แต่ดูเหมือนเป็นกลุ่มอะไรบางอย่างที่มีทั้ง ก๊อบลิน ภูติผีวิญญาณ อันเดธ เอลฟ์ คนแคระ และมนุษย์…”
ชายสวมหน้ากากแพะเงียบนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง
“ กลุ่มอะไรบางอย่าง…”
ไม่ใช่ว่าการรวมกลุ่มของสิ่งมีชีวิตต่างๆจะไม่เคยเกิดขึ้นเลย เมื่อพวกมันถูกโจมตีโดยมังกรหรือถูกคุกคามบางอย่าง พวกมันก็มักจะรวมกลุ่มกันอยู่บ้าง แต่มีภูติผีวิญญาณ กับอันเดธด้วย? นอกเหนือจากนั้นยังมีพวกมนุษย์อีก?
“ พวกมันกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่”
ทหารคนหนึ่งพูดอย่างรีบร้อน
ชายสวมหน้ากากแพะลูบคาง แล้วถอนเล็บข้างหนึ่งของตัวเองออก
ผึก!
เลือดเริ่มไหล แต่ชายหน้ากากแพะก็ส่งมอบเล็บให้นักรบของมันราวกับเป็นเรื่องธรรมดา
“ แขวนเล็บนี้ไว้ตรงกลางระหว่างภูเขาทั้งสอง มันจะทำให้เหล่าวิญญาณและอันเดธไม่สามารถผ่านเข้ามาได้”
“รับทราบ”
“ จับหัวหน้าของพวกมันมาให้ข้าด้วย ข้าสนใจเขา”
ชายสวมหน้ากากแพะหันกลับไป และจมลงในอ่างหรรษาอีกครั้ง
“อร๊าา!” สาวงามต่างปล่อยเสียงครวญครางอีกครั้ง
หากคุณทราบว่าสาวงามเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นภรรยาหรือลูกสาวของเหล่าทหารแล้วจะต้องประหลาดใจแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นพวกทหารนักรบก็ออกจากห้องไปอย่างเงียบๆโดยไม่โกรธเคือง
พวกมันคิดว่าสถานที่แห่งนี้เปรียบได้กับที่สักแห่งหนึ่งซึ่งได้รับอนุญาตจากพระเจ้า และดาร์คเอลฟ์สาวที่งดงามทั้งหลายกำลังได้รับพรอยู่ในขณะนี้ ตัดไปเหตุการณ์ก่อนหน้า………..
“ มันคงสวมบทบาทเล่นเป็นตัวอะไรสักอย่างอยู่ตอนนี้”
อาซูลยอมแพ้มูยองแล้ว เขาบอกทุกสิ่งที่รู้ ยังไงก็ตามเขาแค่มอบข้อมูลให้เท่านั้น และไม่ได้ดูเหมือนว่าจะช่วยมูยองแต่อย่างใด
“สวมบทบาทอะไร?”
อาซูลตอบคำถามของมูยอง
“ ข้าก็ไม่รู้ว่ามันกำลังทำตัวเป็นใครอยู่เหมือนกัน … แต่ข้ามั่นใจว่ามันไม่ได้อยู่แถวๆนี้”
มูยองมองดูอาซูล
‘เขาไม่ได้โกหก’ ดูเหมือนว่าแม้แต่อาซูลก็ไม่รู้ตำแหน่งที่แน่นอนของดันดาเลี่ยน
อย่างไรก็ตามหากคำพูดของอาซูลนั้นเป็นจริง ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ดันดาเลี่ยนจะปลอมตัวเป็นอะไรก็ได้โดยรอบ
“ มันเป็นเทพปีศาจเสียสติ การกระทำของมันห่างไกลจากความปกติอยู่มาก หากมันเริ่มที่จะสวมบทบาทไปอะไรแล้วครั้งหนึ่ง มันจะลืมกระทั่งตัวตนเดิมของตัวเอง”
“ นายจะบอกว่าเราต้องกำจัดเป้าหมายนั้นเพื่อให้ดันดาเลี่ยนจัวจริงปรากฏตัวเหรอ”
“ถูกต้อง หากเป้าหมายเสียชีวิต บทบาทของมันก็จะสิ้นสุดลงเช่นกัน จากนั้นมันจะเปลี่ยนกายกลับสู่สภาพเดิม แต่…”
อาซูลพูดต่อไป
“ บทบาทที่มันสร้างขึ้นไม่เคยง่ายดาย นอกจากนี้ไม่ใช่แค่เจ้าต้องสังหาร แต่เจ้าต้องทำลาย ‘บทบาท’ ของมันทิ้งแล้วยืนยันให้ได้ว่ามันเป็นใคร อีกอย่างการแปลงร่างของมันยอดเยี่ยมที่สุดแล้วแม้แต่ในหมู่ปีศาจ “
มูยองหลับตาครู่หนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าดันดาเลี่ยนไม่ใช่ปีศาจปกติ มูยองพอจะคิดออกว่าทำไมดันดาเลี่ยนถึงถูกเรียกว่านอกรีต เพราะความพิเศษของมันคือเลียนแบบ หลอกลวงโดยการสวมบทบาทอื่นๆ และเปลี่ยนร่าง
หรือมูยองต้องสังหารทุกสิ่งมีชีวิตในสถานที่แห่งนี้ เขาจึงจะสามารถพบดันดาเลี่ยนได้
จู่ๆมูยองก็นึกถึงสถานที่แห่งหนึ่ง
‘ภูเขาคู่ ที่นั่นคือวิหารของดาร์คเอลฟ์ ‘สถานที่ที่น่าจดจำในความทรงจำของมูยอง
มันเป็นเพราะดาร์คเอลฟ์เป็นหนึ่งในหลายๆเผ่าพันธ์ ที่เข้าร่วมกับกองทัพเทพปีศาจหลังจากที่เกิดภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่
แม้จะรู้ความจริงว่าปีศาจวางแผนที่จะกำจัดเผ่าพันธุ์อื่นๆทิ้งทั้งหมด แต่ก็มีหลายเผ่าพันธุ์ที่ยังให้ความร่วมมือกับพวกมัน
เพราะหลังจากชัยชนะตกเป็นของเหล่าปีศาจ พวกมันก็คาดหวังว่าอย่างน้อยเผ่าพันธุ์ตัวเองจะถูกละเว้น แม้ปีศาจจะไม่ได้สัญญาอะไรไว้ก็ตาม และนั่นเป็นการกระทำที่โง่และงี่เง่าที่สุด
“ นายท่าน มีพลังงานแปลกๆเกิดขึ้นบนภูเขา”
เบซองมินรายงานทันที เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงภูเขาของดาร์คเอลฟ์
เบซองมินสัมผัสได้ว่าพลังเวทที่ไหลอยู่บนภูเขาเปลี่ยนไป ไม่สิมันดูคลุมเครือที่จะบอกว่าเป็นพลังเวท มันใกล้เคียงกับพลังเทวะและเป็นพลังหนึ่งที่แข็งแกร่ง
“ วัตถุโบราณศักดิ์สิทธิ์…”
วัตถุโบราณศักดิ์สิทธิ์เป็นวัตถุที่มีพลังในการปัดกวาดความชั่วร้าย หรือจะอธิบายก็ได้ว่ามันเป็นวัตถุที่มีพลังของเทพเจ้าอยู่ในนั้น
เห็นได้ชัดว่าเหล่าอันเดธ และวิญญาณชั่วร้าย ได้รับผลกระทบจากมัน
กรรร!
อ๊าาก!”
พวกมันได้รับความเจ็บปวด ถึงจะกลายเป็นตัวตนไร้ความรู้สึก แต่พวกมันก็แสดงอาการราวเจ็บปวดยิ่ง พลังของวัตถุโบราณศักดิ์สิทธิ์กำลังเผาผลาญวิญญาณของพวกมัน
เบซองมินพูด
“ ดูเหมือนว่ามีบางคนไม่ต้อนรับการมาถึงของพวกเรา”
วูม!
วูม!
ในขณะนั้นพวกเขาก็รู้สึกว่ามีการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตมากมาย มีดาร์คเอลฟ์ประมาณสองหมื่นซ่อนตัวอยู่รอบๆ
มูยองยิ้มอย่างสมเพช นี่คือวิหารของเหล่าดาร์คเอลฟ์ ผู้ทรยศที่ร่วมมือกับเหล่าเทพเจ้าปีศาจ ถ้าดันดาเลี่ยนเป็นสาเหตุของเรื่องนี้ มูยองก็ไม่เข้าใจว่ามันมีเหตุผลอะไร
มูยองยื่นมือออกไป
วัตถุโบราณศักดิ์สิทธิ์เป็นวัตถุที่มี ‘พลังพิเศษ’ หากติดตามพลังที่ไหลออกมาก็ง่ายที่จะทำลายวัตถุนั้นๆ
ยังไงมูยองก็ครอบครองพลังของครึ่งเทพอยู่ แม้จะแค่ครึ่งเดียวแต่ครึ่งนั้นก็เป็นของจริง วัตถุที่เลียนแบบพลังเทพย่อมไม่สามารถต่อต้านพลังของเทพที่แท้จริงได้
หมับ!
เมื่อมูยองกำมือที่ยื่นออก พลังของวัตถุโบราณก็หายไปจนสิ้น
ในเวลาเดียวกัน ดาร์คเอลฟ์ที่ซ่อนตัวอยู่ก็ต้องปรากฏกายขึ้น นอกจากนั้นอันเดธกับเหล่าภูติผีวิญญาณก็ไม่แสดงอาการเจ็บปวดอีกต่อไป
“กำจัด” จากนั้นมูยองก็ออกคำสั่งสั้นๆ
ชายสวมหน้ากากแพะแหงนมองไปที่เส้นขอบฟ้า มีเปลวเพลิงลุกท่วมบริเวณแถบนั้น มันรู้ทันทีว่าพลังของตัวเองถูกทำลายแล้ว
“ ท่านเทพผู้ยิ่งใหญ่! นักรบของเราถูกกำจัดหมดแล้ว”
“ พลังของวัตถุโบราณไม่ได้ผลกับพวกมัน”
“ โปรดมอบคำสั่งให้แก่เรา”
อัศวินนำเหล่านักรบนั่งคุกเข่า พวกเขาก้มศีรษะลงกราบแทบเท้าของชายสวมหน้ากากแพะ จากนั้นชายสวมหน้ากากแพะก็ยื่นมือออกมาไปชี้บนท้องฟ้า
“ ดวงจันทร์จะลอยขึ้นเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน เราจะใช้พลังความมืดจากดวงจันทร์”
จินตัวสั่นอย่างประหลาด
“ ช่างรุนแรงอะไรเช่นนี้”
เธอเป็นไฮเอลฟ์ ตัวตนที่ได้รับพรมากที่สุดแม้แต่ในหมู่เอลฟ์ เธออยู่ห่างจากความชั่วร้ายดังนั้นเธอจึงมีปฏิกิริยาตอบสนองฉับไวต่อพลังด้านลบ
ตอนนี้อาจกล่าวได้ว่าเธอก็เป็นผู้ติดตามมูยองคนหนึ่ง ตัวของเธอยิ่งสั่นมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเข้าใกล้เมืองของพวกดาร์คเอลฟ์
“ มีอะไรน่ากลัว?”
จินกัดฟันของเธอก่อนจะตอบคำถามมูยอง
“ ข้าสัมผัสได้ถึงความเสื่อมถอย มันเป็นพลังคำสาปที่ทำให้รู้สึกแย่ ต้องมีเอลฟ์จำนวนมากรวมตัวอยู่ที่นั่นแน่ๆ…”
จินยกศีรษะขึ้นมองท้องฟ้าที่มืดลงเรื่อยๆเมื่อพระอาทิตย์ลาลับไป
“ เอลฟ์เป็นตัวแทนของแสงจันทร์ แต่ดาร์คเอลฟ์กลับบูชาความมืดที่เกิดจากดวงจันทร์ พวกมันจะยิ่งแข็งแกร่งและโจมตีเราเมื่อดวงจันทร์ขึ้น”
“ ถ้างั้นเราก็แค่ทำให้มันสว่างก็พอ”
“ …นั่นเป็นไปได้เหรอ?”
ยังไงพวกเขาก็ต้องผ่านไปทางนี้ มูยองไม่อยากเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ วัตถุประสงค์ของมูยองคือการค้นหาดันดาเลี่ยน และถามคำถามสองสามข้อเท่านั้น
เมื่อมูยองสยายปีกออก ดวงดาวสว่างไสวดวงหนึ่งก็เริ่มส่องแสงบนท้องฟ้า นั่นคือ ดวงดาวแห่งความบริสุทธิ์!
มันคือพลังที่พัฒนาขึ้นมาจากดวงดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ ซึ่งถูกผนวกเข้ากับพลังเทพของมูยอง และจากนั้นความมืดทั้งหมดก็หายไป
แม้ว่าพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าและถูกแทนที่ด้วยดวงจันทร์ แต่โลกก็ยังสดใสไม่มีความมืดหลงเหลืออยู่เลย
ชายหน้ากากแพะแหงนมองท้องฟ้า
“ ผู้ครอบครองดวงดาว อีกทั้งดูเหมือนไม่ใช่ดวงดาวปกติเสียด้วย”
มันไม่เคยเห็นดาวดวงไหนปล่อยแสงได้สว่างขนาดนี้มาก่อน
การโต้ตอบของชายสวมหน้ากากแพะถูกหยุดอยู่หลายครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่เรื่องพวกนี้เกิดขึ้น ชายสวมหน้ากากเรียกรวมพลอัศวินทันที
“ เตรียมแพะดำหนึ่งร้อยตัว ข้าจะแสดงพลังอำนาจที่แท้จริงของเทพเจ้าให้พวกมันดู”
มันกำลังจะอัญเชิญ’เทพแห่งความตาย’จากการสังเวยแพะดำ และเทพแห่งความตายก็คือเทพแห่งความตายตามชื่อ มันสามารถสังหารเป้าหมายที่กำหนดได้
เทพแห่งความตาย คือผู้ที่สามารถช่วงชิงวิญญาณออกจากชีวิต ก่อนจะทำลายมันอย่างสมบูรณ์ วิธีการนี้ใช้พลังเทวะจำนวนมาก แม้กระทั่งชายผู้นี้ก็ใช้มันได้ไม่บ่อยนัก ขนาดออร์คที่เคยบุกมาหลายครั้งมันก็ยังไม่เคยใช้วิธีนี้เลย
“ สังหารผู้ครอบครองดวงดาวนั่นซะ”
เทพแห่งความตายมีร่างเป็นเงาพล่าเลือน เมื่อชายแพะสวมหน้ากากเสร็จพิธีพื้นดินโดยรอบก็เริ่มสั่นคลอน
กรรรรรรรรร!
อย่างไรก็ตาม เหมือนเทพแห่งความตายรู้สึกทรมาน เคียวหล่นจากมือจากนั้นมันก็เริ่มสลายร่างหายไปอย่างสมบูรณ์
“ เทพแห่งความตายยังสังหารมันไม่ได้หรือนี่?”
เขารู้สึกตะลึงงัน ชายสวมหน้ากากแพะทำได้เพียงหัวเราะอย่างขมขื่น สิ่งเดียวที่เทพแห่งความตายไม่สามารถสังหารได้ก็คือตัวตนที่ครอบครองพลังเทวะ หรือไม่ก็ตัวตนเหนือธรรมชาติที่ฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้ได้รับซึ่งพลังคล้ายเทพ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผู้ที่กำลังมุ่งมายังที่นี้คือใครบางคนเช่นนั้น
และในที่สุดมูยองก็มาถึงตัวเมือง โดยไม่มีใครหยุดเขาได้
กองกำลังป้องกันทั้งหมดถูกทำลาย เวทอภินิหารของชายหน้ากากแพะถูกงัดออกมาใช้หลายต่อหลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่วิชาทั้งหมดของมันถูกทำลายอย่างน่าสังเวช
ชายสวมหน้ากากแพะพูดอย่างขมขื่นบนสิ่งก่อสร้างที่สูงเสียดฟ้า
“ …ชายผู้นั้นคือใครกันแน่?”
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame