The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 203
ตอนที่ 203 ใครก็ได้เก็บมาสเตอร์คอนตัวนี้ที่
หลังจากที่ต้นฮาวธอร์นเริ่มโตแต่เบาะแสของเด็กผู้หญิงลึกลับคนนั้นก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะปรากฏตัว เทพมือระเบิดและสองคิงชูกลับไปยังบ้านของตนเพื่อสะสางเรื่องประกันชีวิตของบรรดาดวงวิญญาณพนักงานส่งอาหารผู้โชคร้าย
แต่เมื่อพวกเขากลับไปถึงบ้านไม่ทันไร พวกเขาก็รับรู้ได้ถึงพลังวิญญาณแปลกประหลาดของคนสองคนอยู่ข้างหน้าบ้านของพวกเขา
“พวกเราจะทํายังไงกันดีคุณเทพมือระเบิด?” ไม่ว่าข้างนอกจะเป็นใครสองคิงชูรีบถอดเสื้อสูทของเขาออก และเปลี่ยนเป็นเสื้อกางเกงลองจอห์น***
*** ผู้แปลขอแก้ไขคําแปลในส่วนนี้หน่อยนะครับ พอดีตอนแรกผู้แปลเข้าใจว่า Long Johns ที่ผู้เขียนเขาเขียนไว้ในตอนนั้นแปลว่ากางเกงอย่างเดียว แต่พอมาอ่านและทําความเข้าใจใหม่ ชุด Long Johns นั้นมีทั้งส่วนที่เป็นเสื้อและกางเกง เป็นชุดผ้ายืดแนบเนื้อที่กันความหนาวได้ดี ในส่วนนี้ผู้แปลขอแก้ไขนะครับว่า Long Johns นั้นเป็นได้ทั้งเสื้อและกางเกง ***
“…รอดูสถานการณ์เอาก็แล้วกัน”
สัญชาตญาณของเทพมือระเบิดบอกว่าบุคคลทั้งสองนั้นเป็นยอดฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นสตรีที่ท่อนบนใหญ่โตมโหฬารหรือชายผู้ซึ่งอยู่ใต้ผ้าคลุม เมื่อตอนที่พวกเขาปะทะกันพวกเขาไม่ได้สร้างเสียงรบกวนอะไรเลย เห็นแค่เพียงเงาสองเส้นพุ่งเข้าปะทะกันเพียงเท่านั้น
“ทั้งสองคนนั้นเป็นยอดฝีมืออย่างไม่ต้องสงสัย…” เทพมือระเบิดแง้มผ้าม่านเล็กน้อยเพื่อทําให้เขาสามารถมองผ่านสํารวจสถานการณ์ข้างนอกได้
“วิธีที่พวกเขาใช้อําพลางพลังวิญญาณนั้นเป็นวิชาขั้นสูง ถ้าหากพวกเขาไม่ได้ทําการปะทะกันเอง พวกเขาคงไม่รู้สึกตัว” สองคิงชูเอ่ยชื่นชมบุคคลทั้งสองอย่างช่วยไม่ได้
ในการที่ทําการต่อสู้โดยที่ไม่ยอมปล่อยให้พลังวิญญาณเล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อย… คนพวกนี้ต้องฝึกฝนจนสําเร็จวิชาลอบสังหารทุกแขนงจนถึงขั้นสูงสุดแล้วอย่างแน่นอน! ตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน บุคคลผู้ซึ่งอายุน้อยและฝีมือขนาดนี้จะต้องเป็นนักฆ่ามืออาชีพหรือมือสังหารขององค์กรระดับชาติเท่านั้น
เทพมือระเบิดซึ่งมองภาพเหตุการณ์ข้างนอกผ่านช่องแคบระหว่างผ้าม่านจมดิ่งเข้าสู่ห้วงความคิดของตนเองไปครู่ใหญ่…
ด้วยการที่เทพมือระเบิดเป็นถึงเจ้าของเว็บบอร์ดผู้ฝึกตนชื่อดัง เขาคลุกคลีอยู่ในวงการผู้ฝึกตนมานาน แค่เพียงมองดูการต่อสู้เขาก็พอจะคาดเดาตัวตนที่แท้จริงของบุคคลทั้งสองได้
คนแรกผู้ชายร่างสูงในผ้าคลุม ระหว่างการต่อสู้เขาไม่เคยยกมือออกห่างจากกางเกงเลย ซึ่งนั่นเป็นนิสัยของคนซึ่งปกปิดอาวุธของตน จุดสําคัญอยู่ที่ลักษณะการต่อสู้ของเขา เขาจะเล็งแต่เฉพาะจุดตายเพียงอย่างเดียว นั่นสามารถบ่งบอกได้เลยว่าชายผู้นี้ต้องเป็นนักฆ่ามือโปรหรือมือลอบสังหารขององค์กรบางองค์กรอย่างแน่นอน
แต่ทว่าผู้หญิงอีกฝั่งก็ไม่ได้ดูอ่อนแอ แม้ว่าการโจมตีจะไม่ได้รุนแรงเทียบเท่าฝ่ายชายแต่การเคลื่อนที่ของเธอดูแปลกประหลาด
เธอสามารถหลบการโจมตีจากจุดบอดซึ่งเธอไม่สามารถมองเห็นได้อย่างน่าอัศจรรย์
สัญชาตญาณของเทพมือระเบิดบอกว่าผู้หญิงคนนี้มีประสบการณ์การต่อสู้อย่างโชกโชน ซึ่งสะท้อนออกผ่านการเคลื่อนไหวของเธอ
ยิ่งไปกว่านั้นเขารู้สึกว่าเขาเคยพบเจอเธอที่ไหนมาก่อน…
ตอนนี้เขารู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
แล้วเราจะทํายังไงดี?
หลังจากหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและอัดวีดีโอก่อนที่จะส่งไปให้หวังลิ่ง
ในวีดีโอนั้นมีแค่เพียงประกายแสงพุ่งผ่านกันไปมา…
ถ้าหากเป็นแค่ภาพถ่ายแม้แต่เงาก็ไม่สามารถถ่ายติดได้
แต่ถ้าหากเป็นวีดีโอ เทพมือระเบิดเชื่อว่าด้วยสายตาของหัวหน้าแก๊งหวังลิงแห่งเว็บบอร์ดผู้ฝึกตน เขาจะต้องมองเห็นมันอย่างแน่นอน
หลังจากการต่อสู้กว่าสิบนาทีผ่านไป ทั้งสองฝ่ายต่างหยุดการโจมตีและยืนเผชิญหน้ากัน
“การที่จะพบเจอใครที่เก่งกาจเทียบเท่าฉันได้แบบนี้ ปัจจุบันมีอยู่เพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถปกปิดพลังวิญญาณตัวเองได้ถึงขั้นนี้” ชายในผ้าคลุมยืนกอดอกและจ้องไปทางจอมมารกัวผีอย่างชื่นชม
ทางด้านจอมมารกัวผีนั้นหายใจอย่างเหนื่อยหอบ มือทั้งสองข้างกุมอยู่ที่หัวเข่าทั้งสองของตนเอง
พลังของเจียงหลิวเย่นั้นยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่ควบคุมร่างนี้ได้ไม่ดีพอ ทําให้การต่อสู้ครั้งนี้กินแรงของเขาไปมากกว่าที่เขาคิด นี่ขนาดยังไม่นับที่เขาจะต้องแบ่งสมาธิไปควบคุมจุดถ่วงของภูเขาสองลูกบนหน้าอกของเขาอีก!
ถ้าหากไม่เป็นเพราะประสบการณ์การต่อสู้ของเขาที่สั่งสมมานาน เขาคงตายไปไม่ต่ํากว่า 800 รอบแล้ว!
เขาจ้องไปยังผู้ชายในผ้าคลุมเบื้องหน้าของเขาอย่างไม่อาจละสายตาได้ จอมมารกัวผู้รู้กลัวเล็กน้อย…ทําไมเขาต้องมาพบเจอกับตัวประหลาดถึงสองตัวภายในเวลาใกล้เคียงกันแบบนี้ด้วย?
การผสานดวงวิญญาณระหว่างเขาและเจียงหลิวเย่นั้นมีข้อจํากัดอู่ หลังจากพวกเขาแยกออกจากกันแล้ว พวกเขาจะไม่สามารถใช้ร่างของเจียงหลิวเย่ได้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
ถ้าหากพวกเขายังขึ้นเข้าปะทะกันอีก สถานการณ์คงเลวร้ายไปมากกว่านี้ จอมมารเฒ่าจึงตัดสินใจเริ่มเอ่ยเจรจาขึ้นก่อน “น้องชาย…พวกเราเข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่า?”
ชายในผ้าคลุมยกมือขึ้นจับคางอย่างครุ่นคิด “เข้าใจผิด? แล้วทําไมคุณถึงปรากฏตัวที่นี่ได้?”
จอมมารกัวผี “ฉันตามต้นฮาวธอร์นมาจนถึงที่แห่งนี้เพื่อที่จะตามหาใครบางคน!”
ชายยในผ้าคลุม “ช่างบังเอิญเสียจริง ผมก็ได้รับคําสั่งให้มาตามหาคนผู้ซึ่งอยู่ใต้ต้นฮาวธอร์นต้นนี้!”
จอมมารกัวผี “…”
“ได้โปรดวางใจ มาสเตอร์ของผมได้กําชับไว้ว่าให้จับเป็นคุณกลับไป ผมก็จะทําเต็มสุดความสามารถ!” ภายใต้ผ้าคลุมชายหนุ่มแสยะยิ้มเผยให้เห็นฟันขาว จากนั้นมือขวาของเขาได้เรียกกระบี่เล่มสีแดงฉานดั่งโลหิตออกมา “คุณผู้หญิง ถ้าหากคุณยอมมากับผมแต่โดยดี ผมสัญญาว่าคุณจะไม่เป็นอันตราย ระดับของคุณอยู่เพียงแค่ วิญญาณก่อกําเนิด คุณก็แค่ดิ้นรนสู่ความตาย แต่ถ้าหากคุณยังขัดขืนต่อไป ผมคงไม่มีทางเลือกที่จะต้องฉีกร่างคุณเป็นชิ้นๆก่อนจะพากลับไป”
จอมมารกัวผักลืนน้ําลายลงคออีกใหญ่ “….” ไอเจ้านี่มันไม่ใช่แค่เก่งอย่างเดียวแล้ว มันยังโรคจิตอีกต่างหาก!!!”
จอมมารกัวผี “น้องชาย ฉันว่ามันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างแน่นอน ฉันมาที่นี่เพื่อที่จะขโมยกระบี่…”
“ขโมยกระบี่?” ชายในผ้าคลุมเปลี่ยนท่าทีทันทีที่ได้ยินจุดประสงค์ของจอมมารกัวผี “มาสเตอร์ของผมมอบอเวจีหลบหนีให้แก่ผมตั้งแต่ตอนที่ผมยังเด็ก คุณยังกล้าที่จะขโมยมันไปจากผมงั้นหรอ?”
จอมมารเฒ่ารู้สึกจนปัญญาที่จะอธิบายให้ผู้ชายตรงหน้าเขาฟังแล้ว
เขารู้ดีเลยว่าเป้าหมายของเด็กหนุ่มตรงหน้าเนี่ยไม่ใช่ตัวเขา…แต่เขาสามารถสรุปเรื่องเรื่องหนึ่งได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้: นั่นก็คือ เขาไม่ควรที่จะคุยเรื่องเหตุผลกับคนบ้า!
เป็นเพราะว่าข้อจํากัดหลายอย่างทางด้านร่างกาย จอมมารจึงอยากที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่ไม่มีความหมาย แต่สถานการณ์ในตอนนี้เขาจําเป็นที่จะต้องกําจัดมาสเตอร์คอน(master-Con) ***ตรงหน้านี้เสียก่อน
***master-Con แปลทํานองเดียวกันกับ sis-con bra-Con พวกที่รักพี่สาว/น้องสาว พี่ชาย/น้องชาย
“งั้นก็ได้เจ้าหนู! แกทําให้ฉันโมโหเองนะ!”
จอมมารกัวผีกัดฟันแน่นและทันใดนั้นเอง ไอพลังดํามืดก็เริ่มทะลักออกมาจากตัวเจ๊งหลิวเยผ่านกายทวารทั้ง7
หมอกควันสีดําเริ่มก่อตัวเป็นกลุ่มก้อนเมฆบนหัวของจอมมาร มันเป็นอสูรควันซึ่งผู้ฝึกตนที่มีระดับต่ํากว่าแก่นแท้วิญญาณไม่สามารถมองเห็น
อันที่จริงแล้วอสูรควันตัวนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่จอมมารกัวผืนํากลับมาจากประตูมิติในอดีต หลังจากที่มันยอมสยบแก่เขาเขาก็เลี้ยงดูมันเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง เขาเลี้ยงดูมันด้วยยเลือดมนุษย์และวิญญาณอาฆาต
ก่อนที่ตัวเขาจะถูกผนึกลงไปในหน้ากากผีดิบ เจ้าอสูรควันตัวนี้ก็มีพลังถึงระดับช่องว่างเสริมแกร่งแล้ว* [ขอใช้ชื่อนี้ไปก่อนนะครับ]
ด้วยสภาพร่างกายของเขาที่เป็นแบบนี้ ดูเหมือนจะเป็นการโต้กลับที่ได้ผลดีที่สุดเท่าที่เขาจะคิดได้แล้ว
เมื่ออสูรควันปรากฏตัว คลื่นลมเปลี่ยนทิศทางพัดเข้ามาทางสวนหลังบ้านของเทพมือระเบิด
เทพมือระเบิดซึ่งแอบดูสถานการณ์อยู่ข้างในตัวบ้านร้องออกมาด้วยความตกใจ “แย่ละสิ!”
“มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอคุณเทพมือระเบิด?” สองคิงชูเห็นท่าทางตกใจของเทพมือระเบิดจึงเอ่ยถามขึ้น
ใบหน้าของเทพมือระเบิดดูเศร้าสร้อยขณะที่หันไปทางสวนหลังบ้าน “บล็อกโคลี่ของคุณปู่หวัง ฉันยังไม่ได้เก็บเกี่ยวมันเลย!”