The Almighty Ring – มหัศจรรย์แหวนปริศนาสะท้านโลก - ตอนที่ 93
ตอนที่ 93
“กรี๊ดดดดดดดดดด” เสียงแหลมกระแทกมายังแก้วหู
“นักเวทย์! พวกเธอโดนไบ้(การไบ้คือการห้ามใช้เวทย์มนตร์)ไหม?” เฟ่ยรีบหันไปถาม
“ไม่ ฉันไม่โดน!” โรสตะโกน
“ขอบคุณพระเจ้า!” เฟ่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฟ่ยเริ่มรู้สึกกลัวการต่อสู้โดยปราศจากการฮีลเพราะนั่นมันค่อนข้างจะหนักหน่วงไปหน่อย
“ตึกตึกตึ่กตึ่กกก…”
“เสียงอะไรหน่ะ?” เฟ่ยอยู่ใกล้กับบอสที่สุด เขาจึงไม่ได้ยินเสียงอะไร แฟงที่อยู่หลังสุดได้ยินและตะโกนถาม
“มีอะไรผิดปกติงั้นหรอจั่มมั่ม?” เฟ่ยถาม
“มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล!” แฟงตอบ
ทันทีที่สิ้นเสียงของแฟง ไม่เพียงแต่พวกผู้หญิงจะเริ่มได้ยินเสียงแล้วนั้นเฟ่ยก็เริ่มได้ยินด้วยเช่นกัน
มันเป็นเสียงวิ่งของฝูงสิ่งมีชีวิต!! และพวกมันก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย!
“ไม่ดีแล้วแบบนี้ บอสนี่มัน ปลุกให้ฝูงสัตว์กลายพันธุ์ฟักตัว!!” เฟ่ยตะโกน
“เอาไงต่ออาเฟ่ย!” โรสถาม
“ทุกคนมารวมตัวที่ฉันเดียวนี้!” เฟ่ยตะโกนเรียกทุกคุนมาเกาะกลุ่มกันไว้
เนื่องจากบอสเพิ่งจะใช้น้ำลายกัดกร่อนไป มันน่าจะยังคงคูลดาวน์อยู่เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหาที่จะรวมตัวกัน
ผู้โจมตีระยะใกล้อย่างโรเซตแพนทอมและเหมยนั้นอยู่ใกล้กับเฟ่ยอยู่แล้วจึงแทบไม่ต้องขยับเลยด้วยซ้ำ พวกที่โจมตีระยะไกลก็วิ่งมาทันทีที่เฟ่ยเริ่มสั่ง ส่วนสายฮีลนั้นมีปัญหานิดหน่อยหากพวกเขาเริ่มวิ่งและหยุดฮีล อาจทำให้เฟ่ยนั้นตายได้
“หัวหน้า! ช่วยฮีลฉันต่อไปก่อน ส่วนเหมียวหยุดฮีลแล้ววิ่งมานี่ได้เลย” เฟ่ยพูด
“เหมียวฮีลฉันแทน แล้วให้หัวหน้าวิ่งมาบ้าง!” ทันทีที่เหมียววิ่งมาถึง เฟ่ยก็ตะโกนบอกกับโรส
“โอเค!” โรเซตโรสหยุดฮีลและวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ
ทันทีที่โรเซตโรสหยุดฮีล เลือดของเฟ่ยก็ลดลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเหมียวจะพยายามฮีลอย่างไม่หยุด นักบวชจะมีความสามารถในการฮีลแบบกลุ่มมากกว่า การฮีลแบบเดี่ยวนั้นถ้าเปรียบกับไนท์แล้ว ไนท์ได้เปรียบกว่ามากในการฮีลแบบเดี่ยว
“เร็วเข้า!” เฟ่ยตะโกนขึ้นเพื่อบอกให้โรสวิ่งให้เร็วกว่าเดิมเพราะตอนนี้ เฟ่ยเห็นสัตว์กลายพันธุ์ตัวใหญ่ยักกำลังเข้ามาใกล้ๆมากๆแล้ว
“โฮลี่ชิท!” เมื่อแฟงประจำที่เรียบร้อยแล้วเขาก็หันไปเห็นกับกองทัพสัตว์กลายพันธุ์วิ่งมาด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ยักษ์เสียงวิ่งของพวกมันเป็นกลุ่มเหมือนกับเสียงแผ่นดินไหวไม่มีผิด
สัตว์กลายพันธ์ระดับอีไลท์กว่า 50ตัวพวกมันตัวเท่าลูกหมาได้แค่ว่ารูปร่างของมันไม่ได้น่ารักเช่นนั้น น่าตาที่หน้าขยะแขยงและเมือกที่เต็มตัวพวกมันก็ทำให้ชวนอ้วกอีกด้วย พวกมันวิ่งมาด้วยความเร็วจนบางตัวล้มลงไม่เป็นท่าแต่เพื่อนๆของมันหาได้สนใจไม่ พวกมันเหยียบหัวพวกตัวที่ล้มโดยไม่ได้กังวลแต่น้อยว่ากรงเล็บอันเรียวยาวของพวกมันจะเผลอไปทิ่มแทงพวกเพื่อนๆของพวกมันเอง
“สายฮีล เร็วเข้า ฮีลเพิ่มอีก! จั่มมั่มนายช่วยเปลี่ยนไปใช้สกิลคลาวด์อาร์ทที แดซเซิลเธอไปคอยปกป้อกพวกสายฮีลเอาไว้! ” เฟ่ยตะโกนขึ้นในขณะที่เขากำลังสั่งเกตความเร็วของพวกมอนส์เตอร์ว่าเมื่อใดที่เขาจะใช้สกิลเสียงร้องแห่งสงครามได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะดึงพวกมันทั้งหมดมาโจมตีเขาได้ในคราวเดียว!
เขาไม่สามารถปล่อยให้พวกมอนสเตอร์พวกนี้ทำอะไรตามอำเภอใจได้ เนื่องจากมีสามถึงสี่คนในปาร์ตี้ที่สวมเกราะเป็นแบบเสื้อคลุมขนาดที่พวกโจรใส่เกราะที่ดีขึ้นมาหน่อยเป็นเกราะอ่อนยังถูกลุมได้ไม่นานก็ถูกขย้ำเละแหลกไม่เป็นชิ้นดี ทางเดียวที่จะรอดคือเฟ่ยต้องใช้สกิลเพื่อยั่วยุพวกมันทั้งหมดมาให้ได้
ทันทีที่มอนสเตอร์เข้ามาในสนามรบ พวกมันกรูกันเข้าไปหานักฮีลทั้งสองที่อยู่ใกล้เฟ่ยที่สุด!
เฟ่ยรอจนวินาทีสุดท้ายจนกระทั่งพวกมันกำลังจะเข้ามาตะครุบเหยื่อที่แสนบอบบางทั้งคู่
เสียงร้องแห่งสงคราม!!
ถึงกระนั้นก็สามารถดึงพวกมันได้ไว้ไม่ทั้งหมด แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่โดนเข้าอย่างจัง พวกมันกว่า 40 ตัวหันความสนใจเฟ่ย อีก 6-7 ตัว แดซเซิลแดนก็พุ่งไปล่อความสนใจของพวกมันเพื่ออุดช่องโหว่
-22
-15
-20
-18
…
แม้จะไม่ใช่ความเสียหายที่มากอะไรเนื่องจากได้รับพลังป้องกันจากคลาวด์แอร์แต่ถึงกระนั้นด้วยจำนวนที่มากโข ของพวกมันก็สร้างความหายได้เกือบพันต่อรอบ!
อย่างไรก็ตามหากรับความเสียหายพันกว่าๆก็คงให้ตัวฮีลทั้งสองช่วยฮีลได้อย่างไม่ยาก แต่นี่เฟ่ยต้องรับการโจมตีจากบอสอยู่แล้ว และยังต้องมารับความเสียหายเพิ่มอีกเป็นพัน !
“ไม่ต้องสนใจพวกมอนส์เตอร์ หันไปรีบฆ่าบอสดีกว่า!” ในตอนนี้เฟ่ยไม่เห็นทางเลือกที่ดีกว่านี้แล้ว บอสยังมีเลือดเหลืออยู่ 18 % แม้โอกาสที่จะฆ่าบอสให้ตายได้ก่อนนั้นจะค่อนข้างเสี่ยงแต่มันก็คุ้มค่าที่จะลองดู
ตอนนี้พวกเขาทุกคนหันไปโจมตีบอสและแฟงก็เปิดใช้สกิลศิลปะแห่งไฟเพื่อที่จะกระจายความเสียหายไปยังมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ
เลือดของเฟ่ยกับบอสลดฮวบอย่างรวดเร็วไม่ต่างกัน
*ติ้ง*
แสงสีทองปรากฏขึ้นเหนือหัวของเฟ่ย สกิลพิเศษของเบซิ่งแฮมเมอร์เปิดใช้งานอีกครั้ง เฟ่ยได้เลือดคืนมา 50 %
ปราการหุ้มเกราะ !!
เฟ่ยเปิดใช้สกิลนี้ด้วยความจวนตัว แต่มันมีผลต่อการโจมตีสามครั้งแรกเท่านั้น มอนสเตอร์กว่า 40 ตัวลุมเค้าอยู่ทำให้มันแทบไม่ช่วยอะไรสักเท่าไร
“ฆ่ามัน!!” ขณะที่ทุกคนรวมถึงแดซเซิลก็หันมาโจมตีบอสกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา
“โอ้ว…”
เสียกรีดร้องดังลั่นเลือดของจักรพรรดินีลดลงจนหมดในที่สุด!
“ติ้ง! คุณได้กำจัดจักรพรรดินีกลายพันธุ์สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 250,000 แต้ม!”
“เย่ๆๆๆๆ” เสียงเฮจากสาวๆดังลั่น ขณะที่เหมยนั้นเสียงดังสุดเพราะเธอก้าวสู่เลเวล 24 เรียบร้อยแล้ว
“ก็ไม่เห็นจะสักเท่าไรเลย!” โรสพูดเชิงเย้ยหยันด้วยความสะใจ
“ฉันก็ว่างั้นหล่ะ !” เฟ่ยพยักหน้า ขนาดมอนสเตอร์ระดับอีไลท์ 50 ตัวลุมยังเอาเค้าไม่ลง ตอนนี้เขาเป็นแทงค์ที่หาตัวจับยากไปอีกระดับแล้ว
หลังจากบอสตาย พวกเขาก็ไล่ฆ่าพวกสัตว์กลายพันธุ์ที่เหลือจนหมด ตอนนี้กระทั้งเหมยก็มีเลเวลเท่ากับ แฮปปี้ดรั้งแล้ว ตอนนี้ปาร์ตี้ของเฟ่ยครองตารางลำดับอย่างสมบูรณ์แบบ
“ว้าววาววว มาดูกันเถอะว่าบอสดรอปอะไรบ้าง!!” เหมียวพูดด้วยความรู้สึกตื่นเต้น จักรพรรดินีเป็นบอสที่เลเวลสูงที่สุดตั้งแต่พวกเขาเล่นเกมส์นี้มา ไม่แปลกที่จะตกใจกันอย่างมาก และเป็นไปได้อย่างยิ่งว่ารางวัลที่ได้จากบอสตัวนี้นั้นมันจะโผล่มาในรูปแบบกล่องสมบัติ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น คงได้ของกันอย่างล้นหลามแน่นอน!!
…………….