The Almighty Ring – มหัศจรรย์แหวนปริศนาสะท้านโลก - ตอนที่ 104
MMORPG: อภินิหารแหวน
ตอนที่ 104 คนญี่ปุ่น
เวลา หกโมงเช้า…. เซิร์ฟเวอร์ปิดตัวลงและเฟ่ยก็กลับสู่โลกแห่งความจริง
เฟ่ยเดินทางไปโรงเรียนเพื่อเข้าในคาบเรียนแรกเหมือนปกติ แต่ด้วยผลของการใช้เลือดวิวัฒนาการ ทำให้การเดินทางไปโรงเรียนดูเหมือนว่าจะสั้นลงอย่างมาก ไม่เพียงแต่ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีแต่เฟ่ยแทบจะไม่เหนื่อยหรือหายใจเร็วเลยด้วยซ้ำ
ยังไม่จบ… แม้แต่คำถามที่ยากๆของอาจารย์เฟ่ยยังเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ได้ง่ายๆ ความจำของเขาแทบจะเหมือนกับยัดพจนานุกรมเข้ามาในหัวได้ทันทีที่เปิดอ่าน แถมจินตนาการของเขาในวิชาศิลปศาสตร์ก็ดูจะเพิ่มขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ
“ฮี่ๆ ดูเหมือนสติปัญญาของฉันจะเพิ่มขึ้นด้วยนะเนี่ย ถ้าฉันดื่มมันเข้าไปเยอะกว่านี้หล่ะก็ฉันต้องกลายเป็นนักวิชาการชั้นยอดแน่นอน!” เฟ่ยพึมพำ
เพียงการเพิ่มเลือดวิวัฒนาการสิบขวด ความฉลาด ก็เพิ่มขึ้น 10 แต้ม และนั่นทำให้การเรียนรู้กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา เมื่อแหวนของเขามีเลเวลที่สูงขึ้นเขาจะนำอุปกรณ์ที่เพิ่มความฉลาดมาใส่ในชีวิตจริงเพียงเท่านั้นเขาก็จะกลายเป็นเด็กอัจฉริยะไปโดยปริยาย หรือเปล่านะ?
ความคิดมากมายกำลังวิ่งไปวิ่งมาในหัวเขา มันไหลผ่านจากสมองไปสู่ร่างกายทำให้เขารู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงนอนหลับไปแล้ว แต่ตอนนี้เขานั่งฟังอาจารย์อย่างตั้งใจและเข้าใจมันง่ายๆไม่ต่างจากการฟังเพลง
หลังจากคาบเรียนในตอนเช้าเลิก เฟ่ยก็รู้สึกทันทีว่าแค่นี้มันยังเพียงพอสำหรับเขา
“พี่เฟ่ย ไปหาอะไรกินกัน” แฟงเดินมาแตะที่ไหล่ของเฟ่ยและพูดขึ้น
“ได้ ไปสิ!” เฟ่ยเก็บข้าวของและลุกขึ้นยืนเพื่อออกไปหาข้าวกลางวันทาน
ทั้งคู่เดินพร้อมกันออกจากอาคารเรียนไปยังตึกโรงอาหาร เมื่อผ่านสนามหญ้าของโรงเรียนพวกเขาก็เจอกับกลุ่มนักเรียนกลุ่มใหญ่ที่กำลังรวมตัวกัน
“พี่เฟ่ยไปดูกันเถอะพี่ ตรงนั้นมันมีอะไรกัน!” แฟงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จมูกของเขาไวอย่างกับสุนัขและนั่นทำให้เค้าเป็นคนช่างสอดรู้สอดเห็น
ก่อนที่เฟ่ยจะได้ตอบ แฟงก็ดึงแขนเขาเข้าไปยังฝูงชน หลังจากที่ไปโผล่หน้ากลุ่มคนมุง เขาก็ได้พบกับ นักเรียนสองกลุ่มกำลังเผชิญหน้ากัน หนึ่งในนั้นนำโดยซูเฮาจากห้องหก และ อีกกลุ่มเป็นนักเรียนที่มีชุดยูนิฟอร์มต่างออกไปนั่นแสดงถึงว่า เกิดการยกพวกตีกันต่างสถาบันเกิดขึ้น!
“เกิดอะไรขึ้นกัน?” เฟ่ยถามด้วยความสงสัย
“พวกพังค์จากโรงเรียนมัธยมนากาวะหน่ะสิที่พยายามเข้ามาหาเรื่อง แต่ซูเฮาหัวหน้าของพวกเราหน่ะกำลังช่วยปกป้องพวกเราอยู่” ใครก็ไม่รู้จากฝูงชนพูดขึ้น
“โรงเรียนมัธยมนากาวะหรอ? ฉันไม่ยักกะเคยได้ยินชื่อ” เฟ่ยขมวดคิ้วเมื่อได้ยินชื่อของโรงเรียน
“มันเป็นโรงเรียนเอกชน ของพวกคนญี่ปุ่นหน่ะ สำหรับเด็กต่างชาติที่มาจากญีปุ่นเท่านั้น” แฟงอธิบาย
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ” เฟ่ยพยักหน้าเขาได้ยินมากว่าเศรษฐกิจของจีนนั้นแข็งแกร่งกว่าญี่ปุ่น พวกญี่ปุ่นส่วนมากไม่สามารถเลี้ยงชีพได้เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศ ดังนั้นพวกเขาจึงย้ายรกรากมาหางานทำในประเทศจีนและนั่นทำให้ต้องยกครอบครัวของพวกเขามาด้วย แต่บางคนไม่ต้องการให้ลูกๆเข้าเรียนโรงเรียนที่สอนด้วยภาษาจีนเพราะนั่นอาจจะทำให้มันยากเกินไปและด้วยอีกเหตุผลคือไม่อยากให้วัฒนธรรมของคนจีนกลืนกินลูกๆของพวกเขา นั่นจึงเป็นเรื่องไม่แปลกที่มีโรงเรียนสำหรับคนญี่ปุ่นเกิดขึ้นในประเทศจีน
“พวกเขามีธุรอะไรถึงได้มาที่นี่หล่ะ?” เฟ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
“เห้อ ! ก็พวกเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนหน่ะสิพวกนั้นบ้าไปแล้ว พวกเขาเริ่มโครงการเด็กแลกเปลี่ยนเพื่อให้พวกเราผูกมิตรกับพวกนั้น นายไม่ได้เข้าเรียนในวันเสาร์สินะถึงไม่ได้รู้เรื่องเอาซะเลย” นักเรียนจากห้องอื่นพูด
“อะไรนะ กับพวกญี่ปุ่นเนี่ยนะ?” เฟ่ยพูดด้วยใบหน้าเบะ ที่ดูรังเกียจพวกนั้น
……………
“ออกไปจากที่นี่ซะ!”
“พวกเราไม่ออก มาโชว์ให้ดูหน่อยสิว่าเขาที่นี่เขาเล่นบาสกันยังไง!” พวกนักเรียนญี่ปุ่นได้พูดท้าทายซูเฮาและคนอื่นๆด้วยภาษาจีนที่ฟังดูขัดหูขัดตา
“ฮ่า! พวกแกอยากจะลองใช่ไหมหล่ะ งั้นทำไมพวกแกไม่โชว์ก่อนหล่ะว่าหมูเค้าเล่นบาสกันยังไงหมูนะมันคงจะเคี้ยวง่ายใช่ไหมหล่ะ? ” ซูเฮาหัวเราะและโบกแขนออก เขาไม่ใช่พวกขี้ขลาดตาขาวเรื่องแบบนี้ไม่ทำให้เขากลัวอยู่แล้ว
“ใช่แล้วหล่ะหมูหน่ะนะเคี้ยวง่ายอร่อยด้วย!” เด็กญี่ปุ่นตอบกลับโดนไม่ได้รับมุกอะไร
“เดี๋ยวนะ! บากะ ! แกเรียกใครหมูวะ ?! อย่าเก่งแต่ปากแล้วกัน”
“แน่นอน เราสูงอย่างต่ำๆก็ 170 เซน พวกแกหน่ะไม่ต่างจากลูกหลานของคนแคระทำไมพวกเราต้องกลัวพวกแกด้วย” ซูเฮาเยาะเย้ยพวกนั้นอีกครั้ง
“จะเล่นแบบเต็มหนามหรือครึ่งหนามเลือกมา!” ซูเฮายิ้ม
“พวกเราคนน้อยกว่างั้นขอแบบครึ่งสนามสามคน!” นักเรียนญี่ปุ่นตอบ
“พี่เฟ่ย จะมากับพวกเราสักหน่อยไหม ?” ซูเฮาสังเกตเห็นเฟ่ยที่อยู่ที่นั่นและทุกคนรู้ถึงความเก่งกาจของเฟ่ยดีหลังการแข่งขันครั้งล่าสุดที่เป็นเหมือนกับนรกของห้อง 9
“เอ่อฉัน…” เฟ่ยกำลังจะปฎิเสธ เขาก็หันหน้าไปเจอกับเด็กญี่ปุ่นคนนึงสูง 160 กว่า ดวงตาและรอยยิ้มจางๆของเขาบ่งบอกว่ากำลังเยาะเย้ยโรงเรียนของเฟ่ยอย่างมาก เฟ่ยไม่สนใจเรื่องการได้หน้าจากการแข่งครั้งนี้สักเท่าไหร่ แต่เขาก็ยอมไม่ได้หากพวกนักเรียนโรงเรียนอื่นจะมาประกาศชัยชนะในที่แห่งนี้ที่ที่เป็นโรงเรียนของเขา!
“เอาสิ ฉันเอาด้วย!”
“งั้นมาสอนให้ไอ้ยุ่นรู้กันว่าการเล่นบาสที่แท้จริงมันเป็นยังไง!!” ซูเฮาพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่พวกนักเรียนญี่ปุ่น
ทันใดนั้นชายร่างใหญ่ที่เป็นพวกของซูเฮาที่เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์ประจำเขาสูงเกือบๆ 2 เมตรก็เดินเข้าไปหาพวกญี่ปุ่น
“พวกนี้เหมือนเด็กประถมเลยหว่ะ ! ทีมเราครบ 3 แล้วแล้วพวกนายจะให้ใครลง” ชายร่างใหญ่พูดขึ้น
“คาโตะ มัตซุย ไปกัน!” เวลานั้นเองคนที่กำลังมองเฟ่ยอยู่นั้นก็ก้าวเข้ามายังสนาม
……………..