POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) - ตอนที่ 694 หาทางรับมือกับหวังอันชิ
EP 694 หาทางรับมือกับหวังอันชิ
ไม่กี่วันหลังจากนั้น
เมื่อเข้าสู่เดือนสิงหาคม ความร้อนในอากาศค่อยๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ในเช้าวันศุกร์ดงซูบินขับรถซานตาน่าคันใหม่ไปที่สํานักคณะกรรมการพรรคหนานฉาง และขึ้นไปชั้นบนในห้องประชุม วันนี้มีประชุมที่ อบต. ซึ่งเป็นการ ประชุมสรุปงานด้านสิ่งแวดล้อม เมื่อดงซูบินเข้ามาในห้องประชุม หัวหน้า สํานักงานส่วนใหญ่และผู้นําของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมารวมกัน และ ผู้คนในสํานักงานรัฐบาลก็ยุ่งกันมากและพวกเขาเตรียมพร้อมด้าน เอกสารและวัสดุ
เมื่อดงซูบินมาถึง เหล่าคนในสํานักงานก็ยืนอึ้งกันไปสักพัก
หลายคนพยายามมองเขาด้วยห่างตาและเลี่ยงที่จะสบสายตาตรงๆกับเขา
“พี่หลิว พี่ก็มางานนี้ด้วยหรอ”
“ผมเองเพิ่งมาถึง คุณมาถึงเมื่อไหร่”
“นานแล้ว เหลาหลี่ ก็อยู่มาถึงแล้วนิ สบายดีหรือเปล่า?”
“ดูเหมือนเขาจะป่วยเล็กน้อยอีกทั้งถ่ายเหลวเหมือนจะท้องเสีย ไม่มีอะไรมากหรอก”
“อืม ก็ดี”
พวกผู้บริหารหลายคนทักทายกันและนั่งลง แต่ไม่มีใครทักทายดงซูบินเลย
แม้แต่คนเดียว
ดงซูบินเองก็เข้าใจสถานการณ์นี้ดี และเขาเองก็ชินกับมันแล้ว ดังนั้นวันนี้เขา จึงเลือกที่จะมาสายและเข้ามาตอนเริ่มการประชุม
ไม่นานนายกเทศมนตรีโยฮวาก็มาถึง
ตอนเริ่มการประชุม ทุกคนนั่งทางขวา
ดงซูบินสังเกตเห็นการแสดงออกของเกิงโยฮวาหรือตามปกติใบหน้าสวยสงบเล็กดูเหมือนเธอเองน่าจะหายโกรธเขาแล้ว และดูเหมือนเธอพยายามที่จะไม่ สบตากับดงซูบินและทําเหมือนเป็นคนไม่รู้จักกัน เธอกวาดอย่างเย็นชาดูเหมือนว่าดงซูบินได้ยินมาจากที่ห้องโถงว่าวันนี้เป็นการประชุมเกี่ยวกับด้านสิ่งแวดล้อม ดงซูบินไม่ได้สนใจฟังการประชุมเลยเขาเอาเวลาเหล่านี้ไปนั่งมองเกิงโยฮวาสงสัยว่าเธอสวมชุดชั้นในอะไรในวันนี้สีแดงหรือเปล่า? สีเนื้อ? ลูกไม้? หรือเป็น สีเขียวสดใส? นอกเหนือจากการเข้าร่วมการประชุมแล้ว ดงซูบินไม่ได้พบเธอ บ่อยนักในเดือนนี้ เกิงโยฮวาดูเหมือนจะยุ่งมากในที่ทํางาน เธอเองไม่ได้กลับมา ที่หอพักเขตเลยเป็นซึ่งมันก็นานมากแล้วและไม่ส่งข้อความกลับและการโทรศัพท์หาเธอยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ดูเหมือนสีหน้าของดงซูบินั้นเต็มไปด้วยความหดหู่
ทันใดนั้น เวทีก็เงียบลง และคําพูดของเกิงโยฮวาก็จบลงในทันที
เจ้าหน้าที่ทุกคนหันมองไปทางเธอโดยปกติแล้วเธอจะแสดงสีหน้าเย็นชา
ออกมา พวกเขาทั้งหมดพยายามมองหาว่าเธอหยุดพูดทําไม และไม่เข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้น
ดูเหมือนเกิงโยฮวาจะมองไปที่ ดงซูบินซึ่งมั่งแต่เหม่อลอยจ้องหน้าของเกิง โยฮวา เธอพูดขึ้นมาทันทีว่า: “เลขาธิการซูบิน!”
“ครับ?” ดงซูบินที่กําลังเหม่อลอยอยู่เขาก็ได้สติทันทีเมื่อได้ยินเสียงของเกิง โยฮวา “นายกเทศมนตรีโยฮวา?
น้ําเสียงของเกิงโยฮวาเย็นลงเล็กน้อย “ลองทวนสิ่งที่ฉันพูดไปทั้งหมดตะกี้สิ!”
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดในห้องต่างใช้ฝ่ามือแปะไปที่หน้าผาก ดูเหมือนทุกคนจะรอลุ้นว่าดงซูบินจะตอบยังไง
ดงซูบินยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยิน เขาบอกว่าคุณพูดมาสิบนาทีแล้ว และคุณไม่ จําเป็นต้องพูด เมื่อคุณคิดว่าจะพูดที่ไหน สหายคนไหนที่จะพูดซ้ํากับคุณ และ เขาเองก็ไม่ได้ฟังสิ่งที่เกิงโยฮวากําลังพูดถึง เพราะมั่วแต่ชื่นชมรูปร่างของเธอและเดาว่าเธอสวมชุดชั้นใน
ดงซูบินไม่ได้พูด
เอ๋อเหมย ผู้อํานวยการสํานักงานมณฑล มองไปที่ดงซูบิน
เฉิงเฟิง รองหัวหน้าแผนกส่ายหัวเล็กน้อย
บรรยากาศของสถานที่นั้นน่าเบื่อ ฉันฟังแต่เสียงที่ดูเย็นชาของเธอ แน่นอน ว่าเรื่องงานใครอยากจะไปฟังกันเล่า นายกโยฮวายังกลับมาเรียกถามฉันอีก!” กล่าว แต่เห็นได้ชัดว่ามันมุ่งเป้ามาที่ ดงซูบิน เพียงอย่างเดียว
ตอนนี้ดงซูบินถูกท้าทายอีกครั้ง และจําได้ว่ามันเป็นครั้งแรกในเดือนนี้
บางคนยิ้ม บางคนอยากหัวเราะ มันทําให้ดงซูบินนั้นแทบจะทนไม่ได้
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้ทุกคนเริ่มแยกย้าย และ เกิงโยฮวาก้าวออกจาก ห้องประชุมด้วย และดูเหมือนว่าการประชุมครั้งนี้จะเลิกเร็วกว่าปกติ
ดงซูบินมองย้อนกลับไปที่ด้านหลังที่น่าสนใจของนายกเทศมนตรีโยฮวา
ทันทีที่เขาเอื้อมมือออกไปและส่ายหัว เพราะคิดว่ามันไม่เหมาะสมที่จะทําเช่นนี้
ถึงแม้เขาจะทําใจเกี่ยวกับสถานะในตอนนี้ได้ แต่ทําไมเขาถึงรู้สึกกดดันขนาด นี้ มีแต่เขาเท่านั้นที่รู้ว่าหวังอันชิ ไม่ได้เป็นคนดีจริงๆ และต้อนนี้หวังอันชิก็ป่วย อยู่ และแน่นอนไม่มีใครอยากทํางานร่วมกับคนที่มีปัญหากับผู้บังคับบัญชาเลย ไม่น่าแปลกใจที่การประชุมนี้ดงซูบินจึงไม่ได้รับการต้อนรับจากใครเลย แต่สิ่งที่ น่าแปลกใจก็คือทําไมเขายังเป็นเป้าหมายของเกิงโยฮวาอยู่? ซึ่งน่าจะไม่เกี่ยว กับการที่เขาส่งน้องชายของเธอไปที่โรงเรียนของพรรค ซึ่งความจริงแล้วทั้งคู่ได้ เคลียร์ปัญหาเรื่องนี้กันแล้วแต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องของคนสองคน ส่วนผู้บริหาร คนอื่นๆยังคิดว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็เป็นเพราะดงซูบินทําให้เกิงโยฮวาขุ่นเคืองใจ และสิ่งที่เกิงโยฮวาแสดงออกมาร้อยละแปดสิบคือการแสดงให้ทุกคน เห็นว่าใครคือผู้บังคับบัญชาสูงสุดและคงไม่สามารถแสดงทัศนคติเช่นเดียวกับตอนที่เธออยู่สองต่อสองกับดงซูบินได้ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดงซูบินทําความเข้าใจได้
อย่างไรก็ตาม ยิ่งนานวันดงซูบินก็ถูกมองด้วยมุมมองลบขึ้นไปเรื่อยๆ
เลขาธิการคณะกรรมการพรรคมณฑล นายกเทศมนตรี จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ กดดันสํานักงานเขตกวางหมิงหรือไม่นั้นไม่มีใครกดได้ แต่ดูเหมือนว่าเคียวของ ยมทูตได้ถูกยกขึ้นและมันจะถูกฟันเมื่อไรไม่มีใครรู้ได้
แล้วดงซูบินล่ะ? ดงซูบินได้แต่นั่งเฉยๆ ความรู้สึกนี้มันแย่มาก
เขาถูกทั้งคณะกรรมการมณฑลและรัฐบาลท้องถิ่นขัดแข้งขัดขามาอยู่ตลอดจนตอนนี้ดงซูบินเองก็ยังไม่ได้มีท่าทีตอบโต้อะไรกลับไปเลย แต่ถึงยังงั้นไม่มีผู้บริหารส่วนไหนกล้ามีปัญหากับเขาโดยตรง แน่นอนในเวลาเดียวกันมีหน่วยงาน เพียงไม่กี่แห่งที่ยินดีร่วมมือกับสํานักงานเขตกวางหมิง แต่ถึงอย่างงั้นก็ไม่ใช่การ ร่วมมืออย่างเต็มใจมากนัก อีกทั้งตอนนี้ผู้บังคับบัญชาสูงสุด ของรัฐบาลในท้อง ถิ่นตอนนี้มีเพียงเกิงโยฮวาเท่านั้น ซึ่งเธอก็ทําหน้าที่เป็นงานเลขาธิการคณะ กรรมการมณฑลไปด้วย ทําให้อํานาจสูงสุดอยู่ที่เธอเพียงคนเดียวซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เธอจะจัดสรรอํานาจของหน่วยงานต่างๆได้มากที่สุด นั้นรวมถึง เรื่องของดงซูบินด้วยเธอ แล้วหวังอันชิล่ะ? ตอนที่เขากลับมาจากอาการป่วย เขาเองก็คงไม่กล้าอ้างหรือหาเรื่องดงซูบินเพียงเพราะว่าดงซูบินไม่ช่วยเหลือเขาตอนที่เขาป่วยเป็นโรคไส้ติ่ง แต่ถึงอย่างงั้นสุดท้ายแล้วหวังอันซิก็จะพยายามหาข้อผิดพลาดมาจัดการกับเขาอยู่ดี เห็นได้ชัดว่าหวังอันชิจะกลายเป็นฝ่ายตรงข้ามกับนายกเทศมนตรีโยฮวาในทันทีที่เขากลับมา
ดูเหมือนสถานการณ์ในตอนนี้ของฝ่ายบริหารมณฑลจะค่อนข้างแย่
ดงซูบินเองจะต้องรีบหาทางรับมือกับหวังอันชิให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะออก
จากโรงพยาบาลมาจัดการกับเขา
ในตอนเช้าสํานักงานเขตกวางหมิง
เมื่อเขากลับมาที่ห้องทํางาน ดงซูบินเริ่มสูบบุหรี่และพยายามคิดหาวิธีป้องกันอย่างเต็มที่
เมื่อดงซูบินพยายามจะใช้เพียงเหตุผลในการจัดการเรื่องนี้มันก็แทบจะเป็นไป ไม่ได้เลย เพราะปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นคือดงซูบินนั้นไปทําให้หลายคนไม่ พอใจกับพฤติกรรมของเขา แต่ดงซูบินก็ยังคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ ในขณะนั้น เขาก็รู้สึกตื่นเต้นและรู้สึกมุ่งมั่นขึ้นมาทันที แต่เมื่อคิดย้อนไปดงซูบินกับมีความ เสียใจอยู่นิดหน่อยที่ไม่ฟังคําแนะนําของหยางจ้าวเต๋อ อันที่จริง ถ้าดงซูบินย้าย ไปที่เขตอื่น ดงซูบินก็จะได้มีโอกาสเริ่มใหม่ แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเจ้า หน้าที่จะต้องถูกจัดระเบียบใหม่ก็ตาม อย่างน้อยก็จะมีการต่อต้านและศัตรูไม่ มากนักเหมือนในตอนนี้ อีกทั้งมันยังทํางานง่ายขึ้นหลายๆ อย่างที่ไม่เหมือนตอน นี้ โอกาสทางด้านการเมืองถูกปิดกั้นไว้ทั้งหมด แม้แต่โอกาสที่คุณสามารถสร้าง ความสําเร็จได้ สิ่งที่คุณทําได้มีเพียงการบริหารสํานักงานทุกวันเท่านั้น มันไม่มีความหายอะไรเลยกับความสําเร็จที่เขาหวังไว้
ตอนนี้ดงซูบินใช้เวลาแยกแยะปัญหาก่อนและหลังและรู้สึกถึงความเร่งด่วนของวิกฤต เขาใช้วิธีแก้ปัญหาที่ละขั้นตอนไป ถ้าเขาไม่ทําแบบนี้ การคงอยู่ใน ตําาแหน่งของเขาก็ไม่น่าจะรอดเช่นกัน จะต้องมีบางคนหาโอกาสเล่นงานเขาและย้ายเขาออกไปแน่นอน!
ต้องมีสักคนที่ต้องการกําจัดฉัน?
แต่คนๆนั้นจะกําจัดฉันด้วยวิธีอะไรกัน
ความกระตือรือร้นของดงซูบินได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งมันเป็นวิธีการทํางานที่เขา ท่าเสมอมา ดูเหมือนดซูบินจะคิดบางอย่างขึ้นมาได้ แต่ก็พยายามสงบสติ อารมณ์ด้วยรอยยิ้ม เมื่อไหร่ที่มีการรายงานดงซูบินยังคงมีความมั่นใจในความสามารถของเขาในการปะทะกับผู้อื่นได้ เพราะหากคุณกําลังจะเข้าสู่สนามรบ คุณจะยืนขึ้นและคุณจะยืนขึ้นเพื่อคนที่สอง หากคุณต่อสู้เพื่อคนที่สอง คุณจะยืน หยัดเพื่อคนที่สามแต่จะยืนไปถึงคนสุดท้ายได้หรือไม่นั้นไม่มีใครตอได้? ยิ่งไป กว่านั้น สิ่งที่เขากําลังปะทะอยู่มันเป็นเรื่องที่ในทางลบ ทุกอย่างมันจะส่งผลกระทบทางลบกับดงซูบินทั้งนั้น มันจะไม่เป็นประโยชน์และไม่มีประโยชน์อะไรเลย!
ตอนนี้ดงซูบินต้องพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และเขาต้องจบปัญหาที่เขาสร้างขึ้นมา ด้วยมือของเขาเอง!
ไม่มีใครรู้ผลลัพธ์จะออกมาเช่นไร!
มีเพียงความสําเร็จ!
นี่คือสิ่งที่ดงซูบินต้องการมากที่สุด!
ตาของ ดงซูบินหรี่ลง ถ้านับเวลาแล้วเขามาทํางานที่หนานาฉางเป็นเวลาสอง เดือนแล้ว แน่นอนว่าผลงานของเขาอย่างหน่วยงานต้นแบบส่งเสริมผู้สูงอายุทําให้เขาสามารถสะสมอํานาจทางการเมืองมาได้ส่วนหนึ่ง แต่ถึงอย่างงั้นอํานาจที่เขามีก็ยังไม่เพียงพอ ดงซูบินรู้สึกว่าเขาต้องทํางานได้ดีขึ้นกว่าเดิมหลังจากนี้จากนั้นเขาจะยกผลงานที่ได้ทั้งหมดเป็นผลงานของนายกเทศมนตรีโยฮวา แน่นอนว่าด้วยวิธีนี้จะสามารถกําจัดสภาพแวดล้อมปัจจุบันและเหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่ของเขากับที่นี้ได้
แต่ไม่มีใครรู้ได้ว่าวิธีการของดงซูบินจะประสบความสําเร็จหรือไม่แต่อย่างใด?
ตอนนี้ดงซูบินรู้เพียงว่าเขาเป็นลูกน้องตามสายบังคับบัญชาของหวังอันชิและมันยากเกินไปสําหรับทุกคนที่จะให้โอกาสดงซูบิน พลิกกลับตัว
ในเวลานี้ดงซูบินเข้าสู่รางการเมืองครั้งแรกหลังจากที่เขาเข้ารับตําแหน่ง
แน่นอน มันไม่ง่ายเลยที่จะเลี่ยงเหตุการที่เขาเจอได้ มีคนจํานวนมากมากมายใน ระบบราชกรที่กําลังตกต่ําลงในช่วงกระแสน้ําทางการเมืองรุนแรงมากขึ้น และไม่มีใครอยากจะสร้างปัญหาขึ้น ซึ่งดงซูบินก็ไม่อยากเป็นหนึ่งในนั้น
ตอนนี้ดงซูบินดับบุหรี่คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน
จุดเปลี่ยน เขาต้องการโอกาสที่จะพลิกกลับตัว!
ความพยายามคิดไตร่ตรองเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน
ความสําเร็จ…..ผลลัพธ์…
ตาของดงซูบินก็ตกลงไปที่หนังสือพิมพ์ที่มุมขวาบนของโต๊ะ มันเป็น หนังสือพิมพ์ของสํานักข่าวเฉินโจวของเมื่อวาน ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังสือพิมพ์ ประจําเขต ดวงตาของดงซูบินนั้นเหมือนว่างเปล่า แต่ภายในใจของเขาดูเหมือน จะคิดบางอย่างมาได้ หากใช้พลังการเร่งกระแสเวลาเพื่อดูวันต่างๆ ของสํานัก ข่าวเฉินโจวโอกาสที่จะปล่อยให้ดงซูบินพลิกกลับมาแก้ไขปัญหาก่อนได้ก็จะเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม ไม่สมควรที่จะคิดเรื่องนี้ สถานที่ทําข่าวในเมืองเฉินโจวใหญ่ เกินไป หยานไทเองอยู่ในส่วนหนึ่งของเฉินโจว และมันครอบคลุมมาถึงหนาน ฉาง ทั้งหมดสํานักข่าวเฉินโจวเป็นดูแล ซึ่งหน้าข่าวมันก็มีไม่กี่หน้า แต่ถ้าเมื่อใช้ พลังไปแล้วมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นมาล่ะ? หรือลองที่สํานักข่าวเช้าอีก ครั้ง? เป็นไปไม่ได้? ขอบเขตดูเหมือนจะใหญ่เกินไป ตอนนี้ดงซูบิน ต้องการเห็น เฉพาะเรื่องที่เกิดในเขตกวางหมิง มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่จะทําให้เขาโฟกัสปัญหา ได้ถูกจุดและเฉพาะเจาะจงที่สุด
เช่น ทางสํานักงานได้เปลี่ยนบุคลากรมาสองสามวันแล้ว
ตัวอย่างเช่น สํานักงานมีรายงานการทํางานสองสามวัน
สิ่งเหล่านี้ไม่มีให้เห็นในหนังสือพิมพ์รายวันของเมืองและสํานักข่วหนานกิง
เสนอข่าวเลย ถึงแม้จะโชคดีแต่ก็ประหมาดไม่ได้ อย่างมากที่สุด จะมีเพียงสอง สามบรรทัดที่อธิบายพื้นที่ ผลของการเร่งกระแสเวลานั้นสั้นอยู่แล้ว ดงซูบินเองก็ ไม่สามารถรออยู่เฉยๆได้ สถานการณ์ปัจจุบันเลวร้ายเกินไปสําหรับเขา ดงซูบินจะไม่ยอมเสียเวลาไปกับเรื่องปล่าวประโยชนอีกต่อไป เขาต้องคิดกลยุทธ์ที่สมบูรณ์แบบ
ถูกต้อง!
ดูเหมือนว่าจะมีหนังสือรายงานรูปแบบคล้ายหนังพิมพ์ในสํานักงาน!
จ๋าไว้ว่าดูเหมือนว่าจะเป็นจดหมายข่าวภายใน!