God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 1008
ตอนที่ 1008
“ลัทธินั่นหรือ? เหมือนเคยได้ยินมาบ้าง” ดวงตาสีม่วงของเหยาซือหยานเผยอาการครุ่นคิด “ก่อนหน้านี้เหมือนจะมีลูกค้าส่วนหนึ่งได้รับภารกิจมา เป็นการตรวจสอบลัทธิแห่งการทำลายล้าง ยังมีโพสต์บอกเล่าอยู่เลย เถ้าแก่ลองตรวจสอบดูได้”
ลั่วฉวนนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมาพร้อมป้อนคำค้นหาเข้าไปจนพบเจอที่เกี่ยวข้อง
หลังผ่านไปหลายนาที การค้นหาจึงจบลง
“ใช่ที่เถ้าแก่กล่าวถึงหรือไม่?” เหยาซือหยานเอ่ยถาม
“ใช่” ลั่วฉวนพยักหน้ารับ
เนื้อหาของโพสต์กล่าวถึงภารกิจอันเรียบง่าย ข้อมูลและสถานที่มีครบ ส่วนข้อมูลเชิงละเอียดอื่นใดนอกจากนั้นไม่มี
ทว่าลั่วฉวนที่เดิมสงสัยอยู่ก็ไม่ได้ผิดหวังกับข้อมูลนี้แต่อย่างใด
เหมือนว่าลูกค้าทั้งหลายจะเข้าเก๋อหลัวไปทำภารกิจกันแทบไม่ขาด สำหรับลั่วฉวนที่ไม่เคยรับภารกิจ เขาได้แต่ข้อสรุปเช่นนี้ให้ตัวเอง
ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ดังนั้นเขาจึงขึ้นไปยังชั้นบน
ก่อนจะกลับเข้าห้องเขาอาบน้ำชำระกายเรียบร้อยพร้อมขึ้นนอน
ที่ออรัน วันนี้เป็นคืนที่หลายคนไม่อาจนอนหลับ
คฤหาสน์จ้าวเมืองถึงขั้นจับกุมลัทธิแห่งการทำลายล้างได้ นี่จึงเป็นข่าวที่ประชากรชาวออรันตื่นเต้นยามได้รับฟัง
ส่วนสาเหตุว่าทำไมพลังเวทมนตร์ของผู้คนในลัทธิเลือนหาย เรื่องนี้กลายเป็นว่าเอลวิสได้ใช้กระบวนการวิธีบางอย่างจัดการไป
และทางด้านจ้าวเมืองออรันก็ไม่คิดเปิดเผยข้อมูลเรื่องลั่วฉวน ดังนั้นประชากรชาวออรันจึงยอมรับต่อคำอธิบายนี้
สำหรับพวกเขาแล้ว หนึ่งในสามขั้วอำนาจในโลกจะมีอะไรที่น่าเหลือเชื่อคงอยู่ มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร
“เป็นยังไงบ้าง?” เอลวิสเดินเข้าไปยังเรือนคุมขังแห่งออรัน ตรงหน้าคือพัศดีวัยกลางคน
“ท่านจ้าวเมือง วิญญาณของพวกคนจากลัทธิได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ข้าไม่อาจสอบถามเรื่องราวอื่นใดได้เลย” พัศดีเผยท่าทีอับจน
การได้รับข้อมูลจากผู้ต้องขังที่สภาพจิตมีปัญหาถือเป็นความท้าทายอันมหาศาล และก็ได้เห็นชัดว่าไม่อาจประสบผลสำเร็จ
“สภาพจิตใจแตกสลายหลังหมดสติงั้นหรือ?” เอลวิสพึมพำกับตนเอง จากนั้นเขาจึงออกคำสั่งใหม่ “จับตาดูเอาไว้ หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงให้รีบรายงานโดยทันที”
“ทราบแล้วขอรับ” พัศดีตอบรับ
วันถัดมาช่วงเช้าตรู่
ลั่วฉวนลืมตาตื่น สายตามองไปยังเพดานด้านบนอย่างเหม่อลอย
เสียงเบาบางของฝนดังจากภายนอก มันคล้ายย้ำเตือนให้เขาทราบว่าได้เวลาลุกขึ้นแล้ว
เมื่อลุกขึ้น เขาจึงไปเปิดประตูและเดินออกไปนอกห้อง
เหยาซือหยานออกมาจากห้องเวลาเดียวกันนี้พอดี
“อรุณสวัสดิ์เถ้าแก่”
“อรุณสวัสดิ์”
เป็นคำทักทายเหมือนดังทุกวัน
จากนั้นเขาจึงไปล้างหน้าและลงไปชั้นล่าง
ก่อนอื่นคือไปเปลี่ยนป้ายปิดหน้าร้านให้เป็นเปิด
แม้ว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแม้ไม่มีป้ายนี้ ลั่วฉวนก็คิดว่าสมควรต้องทำเป็นพิธี
ที่ด้านนอกร้าน ร่างที่คลุมด้วยชุดสีดำพร้อมหน้ากากสีดำปิดบังใบหน้ายืนอยู่ ราวกับว่ารอคอยอยู่ตรงนั้นมานานมากแล้ว
เป็นบุคคลในชุดดำที่มาถึงเมื่อคืน
ลั่วฉวนถึงกับชะงัก เขาไม่ทราบว่าไฉนอีกฝ่ายยืนรอที่ตรงนี้
แม้กระนั้นเขาก็กล่าวออก “ร้านยังไม่เปิดทำการจนกว่าจะถึงเวลา แต่เข้ามาในร้านก่อนได้”
ไม่กี่วินาทีถัดจากนั้น ร่างอีกฝ่ายจึงพยักหน้าตอบสนองต่อคำกล่าวของลั่วฉวนและเดินเข้ามาในร้าน
ลั่วฉวนเกิดงสัยเล็กน้อยต่อปฏิกิริยาตอบสนองที่ค่อนข้างช้าของอีกฝ่าย
หรือว่าวิญญาณจะได้รับผลกระทบจากจิตแห่งเงาเหมือนดังชาวไซเรน?
แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายยังคงมีสติครบถ้วน
เมื่อเข้ามาในร้านแล้ว อีกฝ่ายจึงไปหยุดยืนตรงหน้าต้นไม้โลก
ร่างนั้นไม่พูดกล่าว เพียงแต่ยืนเงียบงันที่ตรงนั้น
ท่าทีของต้นไม้โลกก็เหมือนดังที่เป็นต่อลูกค้าอื่น การเคลื่อนไหวตอบสนองไม่มี กระทั่งกิ่งและใบก็แทบไม่ขยับ
ร้านกว้างขวาง ดังนั้นตอนนี้จึงดูโล่ง
เมื่อมีลูกค้าประหลาดเช่นนี้เข้ามายืนอยู่ บรรยากาศจึงค่อยแปลกขึ้นทีละน้อย
ลั่วฉวนรู้สึกว่าบรรยากาศเช่นนี้ต้องหาทางคลี่คลาย
เขาคิดไปครู่ก่อนจะกล่าว “มื้อเช้าไหม?”
ร่างในชุดดำหันกลับมองมาทางลั่วฉวน
แม้หน้ากากสีดำปิดบังใบหน้าหมดสิ้น แต่ลั่วฉวนก็ยังรับรู้ได้ถึงความรู้สึกสงสัยที่กระทบถึงตนเอง
“ทานมื้อเช้าไหม?” ลั่วฉวนถามย้ำ
“ได้” ร่างในชุดดำตอบสนองเชื่องช้าเหมือนดังเคย และเสียงที่ตอบก็แหบห้าว
นี่เป็นอีกครั้งที่ลั่วฉวนได้ยินเสียงของอีกฝ่าย
ทว่าหากเทียบกับเมื่ออคืน เสียงนั้นคล้ายมีอารมณ์ความรู้สึกแฝงอยู่มากขึ้น
ลั่วฉวนจึงเดินขึ้นไปยังชั้นสอง
เหยาซือหยานกำลังยุ่งกับงานในครัว
พบเห็นลั่วฉวนเดินเข้ามาจึงถาม “หือ? เถ้าแก่มีอะไรหรือ?”
“วันนี้น่าจะต้องเพิ่มส่วนของอีกคนหนึ่ง” ลั่วฉวนกล่าวบอก
“หือ?” เหยาซือหยานเผยสีหน้าฉงนใจตอบกลับ
“คนที่มาเมื่อวานนี้… ลูกค้าคนนั้นมาอีกแล้ว” ลั่วฉวนตอบกลับไป
เหยาซือหยานจึงนึกถึงร่างในชุดดำขึ้นมา “บุคคลในชุดดำผู้นั้น?”
“เหมือนว่าจะรออยู่หน้าร้านตลอดทั้งคืน” ลั่วฉวนคิดไปครู่ก่อนจะกล่าวเสริม “คิดว่าอาการทางจิตอาจจะมีปัญหาอะไรสักอย่าง”
“เป็นเช่นนี้” เหยาซือหยานยิ้มตอบ “เพิ่มสำหรับหนึ่งที่? เรื่องเล็กน้อย”
“ให้ช่วยอะไรไหม?” ลั่วฉวนเอ่ยถาม
“ข้าจัดการเอง” เหยาซือหยานยิ้มตอบอย่างมั่นใจ
“กล่าวไปแล้ว รับอันนี้ไป ใส่เพิ่มให้ลูกค้าคนนั้นด้วย” ลั่วฉวนนึกอะไรขึ้นมาได้
เหยาซือหยานมองผลไม้ที่ลั่วฉวนส่งมา นางอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปเล็กน้อย
เมื่อลั่วฉวนกลับลงมาชั้นร่าง อีกฝ่ายก็ยังคงยืนอยู่หน้าต้นไม้โลก ซึ่งก็ไม่ทราบว่าคิดอะไรอยู่กันแน่
ลั่วฉวนจึงรู้สึก ว่าการรดน้ำต้นไม้โลกวันนี้อาจจะต้องเลื่อนไปอีกสักหน่อย
นอกจากนี้แล้วก้อนดำน้อยก็ออกจากกิ่งต้นไม้โลกเมื่อใดไม่ทราบ ตอนนี้มากองแหมะอยู่กับโต๊ะรับเงินแล้ว
ลั่วฉวนเดินไปยังที่นั่งตนเองก่อนจะนั่งลงและหยิบโทรศัพท์วิเศษขึ้นมาเล่น
เขาค่อยได้เห็นว่าลูกค้าหลายคนของร้านส่งข้อความมาหาตนผ่านทางแอพแชท
ปู้หลี่เกื๋อ : “เถ้าแก่ บุคคลในชุดดำไปที่ร้านต้นตำรับเมื่อคืน แต่ข้าไม่เห็นเขากลับออกมา”
หลิวลู่อวี่ : “เถ้าแก่เหมือนจะมีลูกค้าใหม่ที่ค่อนข้าง… พิเศษไปหน่อย พวกเราไม่อาจรับรู้ถึงอะไรจากอีกฝ่ายได้เลย ผู้อาวุโสเหวินกล่าวว่าเป็นตัวตนพิเศษ”
……
ถ้อยคำเหล่านี้ล้วนหมายถึงบุคคลในชุดดำ
ลั่วฉวนตรวจสอบเวลา พบว่าส่งมาหลังมื้อเย็น
นอกจากนี้แล้วบุคคลในชุดดำก็มาถึงร้านต้นตำรับตอนทานมื้อเย็น ดังนั้นจึงสมควรผ่านหน้าร้านน้อยหยวนก่วยก่อนจะมาถึงที่ร้านต้นตำรับ
แต่ทำไมมาเสียมืด?
ลั่วฉวนหันมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัยที่ติดค้างในใจ
เมื่อถอนสายตากลับ เขาจึงค่อยตอบข้อความแชทเหล่านั้นกลับไปทีละคน
จากนั้นจึงเข้ากลุ่มแชททางการของร้านต้นตำรับ
แม้ว่ายังเป็นช่วงเช้าตรู่ แต่กลุ่มแชทก็ค่อนข้างคึกคักระดับหนึ่งอยู่แล้ว