My MCV and Doomsday - ตอนที่ 475
Chapter 475: เจียงจู้อิงได้สติ!
“ไม่ ไม่ ไม่!”หลี่เฉิงตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ทุกสิ่งที่เขาทำมันมาเป็นเพราะว่าเขาคิดว่าเขามีชะตาที่จะต้องตาย ความสิ้นหวังจึงเข้าครอบงำเขาและด้วยเหตุนี้นี่เองเขาจึงได้ตัดสินใจละทิ้งความเป็นมนุษย์ไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้ยินคำพูดของหลี่ยู่ซินแล้วเขาก็ได้ฟื้นคืนความหวังของเขากลับมา แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว เจียงลู่ฉีไม่ต้องการที่จะฟังคำพูดไร้สาระของหลี่เฉิงอีกต่อไปแล้ว
‘ปัง!’
หลุมอันนองเลือดก็ปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของหลี่เฉิง เขากระตุกตัวหลายต่อหลายครั้งก่อนที่จะล้มลงไปบนพื้น โชคดีที่ปรสิตยังไม่ได้เข้าควบคุมเขา ดังนั้นร่างกายของเขาจึงไม่ได้กระตุกตัวต่อไป
จางเกาเฮอที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยืนนิ่งเฉยแล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาและส่ายหัว หลังจากที่หลี่เฉิงตายลงไป เขาก็ตระหนักได้ว่าการตัดสินใจของเจียงลู่ฉีนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเขาก็เป็นคนที่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ หลังจากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาทำภารกิจที่แสนสำคัญได้ล้มเหลว
“มันเป็นความผิดของผมเองทั้งหมดเลยครับ!”จางเกาเฮอพูดกับเจียงลู่ฉีในทันที มันเป็นครั้งแรกสำหรับจางเกาเฮอที่ขอโทษผู้รอดชีวิตธรรมดาทั่วไป
“ยู่ซิน”เจียงลู่ฉีพูด
หลี่ยู่ซินพยักหน้า เธอเหลือบมองไปที่จางเกาเฮออย่างเงียบงัน
ความกังวลใจของจางเกาเฮอไม่สามารถที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้เลยและเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าทุกวินาทีที่ผ่านไปเหมือนกับชั่วนิจนิรันดร์
สุดท้ายแล้วหลี่ยู่ซินก็ส่ายหัวของเธอและพูดออกมา “คุณไม่ได้ติดเชื้อค่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอแล้ว จางเกาเฮอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ถึงแม้ว่าผิวหนังของเขายังคงไม่เป็นอะไร มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริงที่หลี่เฉิงได้กัดเขาลงไป
เมื่อเห็นปืนในมือของเจียงลู่ฉีแล้วเขาก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ ถ้าหลี่ยู่ซินค้นพบว่าเขาติดเชื้อแล้วละก็เจียงลู่ฉีอาจจะไม่ลังเลเลยแม้แต่เล็กน้อยในการยิงมาที่เขา…และพร้อมกับความแม่นยำในการยิงปืนของเจียงลู่ฉีแล้วละก็ เขาก็จะต้องตายอย่างแน่นอน
“ให้หมอทั้งสองคนมาก่อนเป็นอันดับแรก”เจียงลู่ฉีพยักหน้าและพูดออกมา
เหตุผลหลักที่เขาตัดสินใจฆ่าหลี่เฉิงเป็นเพราะว่าชายคนนี้ต้องการที่จะทำลายเซรุ่มซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถช่วยปลุกน้องสาวของเขาจากการหลับลึก เจียงจู้อิงที่กำลังนอนอยู่บนเตียงด้านในโรงพยาบาลนั้นได้หลับมาเป็นเวลานานมากแล้ว เจียงลู่ฉีก็หวังว่าน้องสาวของเขาจะตื่นมาเร็วเท่าที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
“ไม่มีปัญหาครับ”จางเกาเฮอรีบพาหมอโจและหมอเว่ยเข้าไปในห้องพยาบาล
หมอทั้งสองคนก็เดินมาด้านข้างเตียงและหลี่ยู่ซินก็เดินกลับไปยืนเคียงข้างเจียงจู้อิง เธอก็บอกหมอทั้งสองคนในรายละเอียดเกี่ยวกับเจียงจู้อิง ตราบเท่าที่เธออยู่ที่นั่นแล้วละก็เครื่องฟังเสียงทางการแพทย์หรือเครื่องมือแพทย์อย่างอื่นเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น เธอก็ได้บอกสภาพร่างกายในตอนนี้ของเจียงจู้อิงกับหมอทั้งสองคน
หมอเว่ยคิดอะไรบางอย่างและพูดออกมา “เธอกำลังอยู่ในกระบวนการวิวัฒนาการจริงๆ สำหรับเหตุผลว่าทำไมเธอถึงอยู่ในสภาพร่างกายแบบนั้นแล้วละก็ ผมขอโทษที่พวกเราไม่ได้รู้มันอย่างชัดเจนเท่าไหร่ พวกเรากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นกับการศึกษากระบวนการวิวัฒนาการของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ มันเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน เมื่อประสบการณ์ที่ทุกคนได้รับมันแตกต่างกันไป”
“แต่พวกเราได้ทดลองเซรุ่มมามากกว่าสิบครั้งแล้วและพวกเราก็สามารถที่จะพูดได้อย่างมั่นใจเลยว่ามันมีประโยชน์สำหรับการวิวัฒนาการครั้งที่สองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม”
คำพูดของหมอเว่ยทำให้เจียงลู่ฉีรู้สึกมีความสุข ตราบเท่าที่เซรุ่มมีประสิทธิภาพแล้วละก็การพยายามอันหนักหน่วงที่เขาทำมาทั้งหมดนั้นคุ้มค่าแล้ว
หมอโจมองไปที่จางเกาเฮอ หลังจากที่เห็นจางเกาเฮอพยักหน้า หมอโจก็หยิบเครื่องเพาะเชื้อออกมาและวางไว้บนโต๊ะ หลังจากนั้นหมอโจก็หยิบหลอดที่บรรจุเซรุ่มออกมาอย่างระมัดระวัง เจียงลู่ฉีก็สังเกตเห็นว่าเซรุ่มนั้นเป็นสีแดงใสและภายใต้แสงอาทิตย์มันเปลี่ยนเป็นสีม่วง
หลี่ยู่ซินก็ถกแขนเสื้อข้างหนึ่งของเจียงจู้อิงขึ้นเปิดเผยแขนที่ขาวและผอมเรียวของเจียงจู้อิง หลังจากนั้นเข็มก็แทงลงไปที่หลอดเลือดแดงของเจียงจู้อิงและเซรุ่มก็ถูกดันเข้าไปอย่างนุ่มนวล เจียงลู่ฉีก็ยืนอยู่ข้างเตียงและกุมมืออีกข้างหนึ่งของเจียงจู้อิงแน่นๆ
“เธอหลับไปหลายวันแล้วนะ มันถึงเวลาที่เธอจะต้องตื่นขึ้นได้แล้ว!”เจียงลู่ฉีพูด
เหมือนกับเธอได้ยินเสียงของเจียงลู่ฉี เจียงจู้อิงก็ลืมตาขึ้นและลุกขึ้นมานั่งในทันที ดวงตาของเธอปกคลุมไปด้วยแสงสีเงิน แต่เพียงเวลาไม่นานแสงสีเงินก็สว่างวาบเหมือนกับสายฟ้าและเจียงจู้อิงก็ล้มตัวลงไปนอนอีกครั้งหนึ่ง ภายใต้ช่วงเวลานี้ ไม่เพียงแต่เจียงลู่ฉีจะรู้สึกถึงพลังของเจียงจู้อิง แต่เขาก็ยังคงรู้สึกอุณหภูมิร่างกายของเธอที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน แม้กระทั่งเตียงก็ยังสั่นสะเทือน
ในเวลาเดียวกัน เจียงลู่ฉีก็ปล่อยมือของเธอออกในทันทีและตะโกนออกมาในเวลาเดียวกัน “ถอยไป!”
เจียงลู่ฉีดึงหลี่ยู่ซินกลับไปด้านหลัง หมอทั้งสองคนก็ต่างถอยหลบไปด้วยเช่นกัน
ในเวลาเดียวกันเจียงจู้อิงที่กำลังนอนอยู่บนเตียงนั้นก็เปล่งกระแสไฟฟ้าออกมาเหมือนกับว่าตัวเธอถูกปกคลุมไปด้วยเส้นใยของสายฟ้า กระแสไฟฟ้าสีเงินขาวก็ทำลายเตียงโลหะในทันที หลังจากนั้นมันก็สว่างวาบขึ้นและทั่วทั้งห้องก็สว่างจ้า
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็ต่างเห็นผมของเธอกำลังลอยอยู่และพวกเขาก็สัมผัสได้ถึงความเสียวซ่านบนผิวหนังของพวกเขา หมอทั้งสองและหลี่ยู่ซินก็ไม่สามารถที่จะทนยืนได้อีกต่อไป ดังนั้นพวกเขาจึงรีบเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
จางเกาเฮอก็ตกตะลึงกับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง เขาก็ไม่เคยคาดคิดเลยว่าน้องสาวของเจียงลู่ฉีจะมีความสามารถที่ทรงพลังเช่นนี้
‘มันเป็นไปได้ยังไงกัน? ทำไมหญิงสาวที่ผอมบางแบบนั้นถึงปลดปล่อยพลังงานที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ออกมากัน?’
พวกเขาต่างยืนอยู่ด้านนอกประตู แต่เมื่อมองผ่านประตูกระจกเข้าไป พวกเขาก็สามารถเห็นกระแสสีขาวเงินที่ส่องประกายอยู่ด้านในและมันก็เกือบที่จะไปถึงโลหะนำไฟฟ้าทั้งหมด
ทั้งมือ ใบหน้าหรือดวงตาของเจียงจู้อิงต่างส่องประกายไฟฟ้า เมื่อเห็นฉากที่เกิดขึ้น เจียงลู่ฉีก็ยืนมองอย่างเงียบๆและเขาก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจ เขานึกถึงตอนที่เขาพบน้องสาวของเขา เธอก็มีความสามารถที่จะผลิตกระแสไฟฟ้านับพันโวลต์ได้แล้วซึ่งมันก็เป็นตัวเลขที่ทรงพลังแล้วในเวลานี้
กระแสไฟฟ้าของปลาไหลไฟฟ้าตัวเต็มวัยนั้นสามารถที่จะผลิตขึ้นมาได้สูงสุดที่แปดร้อยโวลต์ซึ่งมันก็เพียงพอสำหรับการฆ่าคนธรรมดาทั่วไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่มีการวิวัฒนาการของพละกำลังความแข็งแกร่งของมนุษยืก็ไม่สามารถที่จะเปรียบเทียบกับคนธรรมดาได้อีกต่อไป สำหรับผู้มีพลังเหนือธรรมชาติบางคน กระแสไฟฟ้าพันโวลต์อาจจะไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับเขา เมื่อเจียงจู้อิงใช้กระแสไฟฟ้าของเธอในเขตวูซุย เธอก็รู้สึกว่ากระแสไฟฟ้าของเธอไม่เพียงพอที่จะจัดการกับสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังที่พวกเธอได้เผชิญหน้ากับมัน
โชคดีที่เธอก็วิวัฒนาการในที่สุด แต่โดยปราศจากเครื่องวัด พวกเขาก็ไม่รู้ว่าการโจมตีด้วยกระแสไฟฟ้าที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอนั้นมากเท่าใด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถวัดกระแสไฟฟ้าด้านในห้องได้ เจียงลู่ฉีก็มั่นใจในความสามารถของน้องสาวของเขาว่าได้พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด เซลล์ของเจียงจู้อิงเปลี่ยนกลายเป็นเซลล์ใหม่ที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ที่จริงแล้วความสามารถพิเศษประเภทนี้นั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก เจียงลู่ฉีก็เดาว่ามันเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมน้องสาวของเขาถึงหลับไปนานขนาดนั้น
ในเวลาเดียวกัน เจียงจู้อิงก็เหมือนกับตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ เธอก็ยืดแขนและทันใดนั้นมันเหมือนกับว่ากระแสไฟฟ้าทั้งหมดที่อยู่ในห้องต่างถูกดึงกลับและพวกมันก็รวมตัวกันที่นิ้วมือของเจียงจู้อิงและหลังจากนั้นกระแสไฟฟ้าก็เกาะตัวเป็นหมอกกระแสไฟฟ้าบนนิ้วของเธอ นิ้วอันเรียวบางของเจียงจู้อิงก็เต็มไปด้วยพลังงานอันน่าหวาดหวั่น พวกมันต่างสานกันเป็นรูปภาพอันสวยงามที่เต็มไปด้วยพลังและความสวยงาม