My MCV and Doomsday - ตอนที่ 474
Chapter 474: โอกาสในการเอาชีวิตรอดเป็นสิ่งสุดท้าย
จางเกาเฮอเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ ดังนั้นเขาจึงสังเกตเห็นคุณหลี่ในทันทีที่ตามเขามา “หลี่เฉิง?” จางเกาเฮอประหลาดใจ แต่หลังจากนั้นเขาก็มีปฏิกิริยาทันที เมื่อเขาคิดว่าหลี่เฉิงนั้นน่าจะเป็นหนึ่งในทีมผู้เชี่ยวชาญที่เจียงลู่ฉีได้ช่วยเหลือ
หลังจากการระบาดของไวรัส ภรรยาของจางเกาเฮอได้เปลี่ยนกลายเป็นซอมบี้และเขาก็ได้ฆ่าเธอโดยการยิงไปที่เธอทันทีที่เธอเปลี่ยนกลายเป็นพวกมัน ด้วยเหตุนี้ เหตุการณ์เช่นนี้จึงเป็นหนึ่งในเสี้ยวหนามที่บาดหมางในหัวใจของเขา เพราะเหตุผลนี้ เมื่อเขาพบกับหลี่เฉิงที่เป็นญาติกับภรรยาของเขา เขาจึงรับเขาเข้ามาคุ้มครอง
ที่จริงแล้วหลี่เฉิงมีหน้าที่รับผิดชอบสำหรับการจัดการส่วนเล็กๆในโรงพยาบาลเซียหยวน หลังจากการก่อตั้งพื้นที่ปลอดภัยเซียหยวน คุณหลี่ก็กลายเป็นผู้จัดการของสถาบันวิจัยขึ้นเนื่องจากจางเกาเฮอและการใช้เส้นสายของเขา บุคลากรด้านในสถาบันวิจัยต่างเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ปกติแล้วจะเต็มไปด้วยการทดลองและค้นคว้าวิจัย ดังนั้นมันจึงไม่มีใครในพวกเขาที่สนใจการจัดการและด้วยเหตุนี้นี่เองหลี่เฉิงก็ได้รับตำแหน่งในปัจจุบันมา
ในเวลาเดียวกัน จางเกาเฮอก็ขมวดคิ้ว เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าหลี่เฉิงนั้นตัวกระตุกอย่างรุนแรง
“คุณโอเคไหมครับ?”จางเกาเฮอถาม
หลี่เฉิงมึนงงหลังจากได้ยินคำถามของเขาและหลังจากนั้นเขาก็ฝืนฉีกยิ้มอันน่ารังเกียจของเขาออกมา “ฉันสบายดี แต่ฉันหวาดกลัวมาก มากๆเลย…”
“นายกำลังจะไปหาหมองั้นเหรอ? ฉันต้องการที่จะไปกับนายนะ ฉันกลัวเล็กน้อยที่จะอยู่ที่นี่”หลี่เฉิงพูด
จางเกาเฮอต้องการที่จะถามคำถามเพิ่มอีกสักสองคำถาม แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดของหลี่เฉิงแล้วเขาก็คิดว่าการตามหาหมอนั้นเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุด “อย่าตามผมมาจะดีกว่าครับ คุณสามารถที่จะหาห้องพักไว้พักผ่อนได้ข้างบนตึกครับ”จางเกาเฮอพูด
“ฉันต้องการที่จะช่วยนายนะ”หลี่เฉิงพูด เขาก็เดินตามจางเกาเฮอไปและในเวลาเดียวกันเขาก็มองกลับไปยังทางประตูโรงพยาบาล ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังก็ตกกระทบไปที่เจียงลู่ฉี
ที่จริงแล้ว มันเหลือคนติดเชื้อเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ดังนั้นทหารที่เฝ้าประตูโรงพยาบาลก็เพียงพอที่จะจัดการพวกมันแล้ว
เจียงลู่ฉีก็กลับไปยังรถมินิบัสของเขาและพาเจียงจู้อิงลงมาจากรถ สุดท้ายแล้วรถมินิบัสของเขาก็เต็มไปด้วยคนจำนวนมากบนรถและมันก็ไม่สะดวกสำหรับการรักษา เจียงลู่ฉีตั้งใจที่จะอุ้มเจียงจู้อิงเข้าไปในตึก
หลี่ยู่ซินก็รีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว “ฉันต้องการที่จะตามจู้อิงไปด้วย”ความสามารถพิเศษของเธอสามารถที่จะช่วยจู้อิงได้และเธอก็รู้ดีว่าปู่และแม่ของเธอนั้นปลอดภัยดีบนรถมินิบัส
หลันซิหยู่ก็ลงมาจากรถมินิบัสด้วยเช่นกัน “ฉันต้องการที่จะไปด้วยคน ฉันต้องการที่จะได้ยินสิ่งที่หมอต้องการจะพูดออกมา พวกเราสามารถที่จะใช้มันเป็นข้ออ้างอิงได้ในอนาคต”
“เยี่ยม!”เจียงลู่ฉีพยักหน้า พวกเธอจำเป็นที่จะต้องรู้เกี่ยวกับกระบวนการวิวัฒนาการมากกว่านี้ หลิงกำลังจะวิวัฒนาการแล้ว แต่มันก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เธอถึงจะวิวัฒนาการ
เพิงติงหลงก็เรียกทหารออกมาสองนายและบอกพวกเขาให้นำทางไปยังห้องพยาบาล ทหารทั้งสองคนต่างตื่นเต้นเล็กน้อยที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับเจียงลู่ฉี
ในตอนนี้จางเกาเฮอก็ได้มาถึงหน้าห้องทำงานที่ทหารยืนเฝ้ายามอยู่ จางเกาเฮอก็เปิดประตูและหลังจากนั้นหมอและพยาบาลนับสิบคนก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเขา
“คุณหมอเว่ย คุณหมอโจ ได้โปรดมากับผมด้วยครับ”จางเกาเฮอพูดอย่างสุภาพ หลังจากนั้นเขาก็พูดอะไรบางอย่างกับหมอทั้งสองและเขาก็ถามขึ้น “คุณต้องการที่จะให้ผมส่งใครบางคนไปเอาเซรุ่มนั้นมาด้วยไหมครับ?”
“ไม่ละ ฉันเก็บเซรุ่มทั้งหมดในเครื่องเพาะเชื้อไว้และพกมันไว้กับตัวหน่ะ”หมอโจพูดออกมา เซรุ่มเหล่านี้ต่างสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นหมอโจจึงพกพวกมันไว้ติดตัวเขาตลอดเวลา
หลี่เฉิงที่ยืนอยู่ด้านหลังจางเกาเฮอจดจ้องไปที่เครื่องเพาะเชื้ออย่างไม่วางตา
“คุณต้องการให้ใครสักคนช่วยคุณไหมครับ?”จางเกาเฮอถาม
“ไม่จำเป็น เซรุ่มถูกใส่อยู่ในเข็มแก้วและมันก็บอบบางอย่างมาก ถ้ามันหล่นแล้วละก็มันจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายอย่างมาก”คุณหมอโจพูดออกมา
“หลี่เฉิง? ทำไมคุณถึงยังอยู่ที่นี่กัน?”จางเกาเฮอมองกลับไปและเขาก็สังเกตเห็นหลี่เฉิงตามเขามา
“นายต้องการที่จะไปช่วยรักษาคนไข้ที่กัปตันเจียงพามางั้นเหรอ? ฉันได้ยินจากบทสนทนาของพวกนาย นายรู้ดีว่าถ้ามันไม่ใช่เพราะการช่วยเหลือของกัปตันเจียงแล้วละก็ ฉันก็คงจะตายไปแล้ว ดังนั้นฉันต้องการที่จะมากับนายและช่วยเขา”หลี่เฉิงพูด ในขณะที่ก้มหัวไปด้วย
โชคดีที่หมอสองคนได้ถูกพาลงบันไดไปพร้อมกับทหารแล้ว จางเกาเฮอก็พูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่หลี่เฮิงพูดและหลังจากนั้นเขาก็พูดออกมา “โอเค งั้นตามผมมาละกันครับ”
หลี่เฉิงก็ตามเขาไปและเมื่อพวกเขาเดินผ่านหน้าต่างแก้ว เขาก็มองขึ้นไปและเห็นเงาสะท้อนกลับออกมา ในตอนนี้ใบหน้าของเขาน่ารังเกียจอย่างมาก เขาก็สัมผัสได้ที่คอเสื้อของเขาและเปิดเผยรอยบาดแผลของเขา บาดแผลบนคอของเขาไม่มีเลือดไหลออกมาแล้ว แต่เขาก็สามารถที่จะรู้สึกถึงบางสิ่งที่น่าขยะแขยงด้านในนั้น เมื่อพวกเขากำลังจะเดินไปถึงประตูห้องพยาบาล หลี่เฉิงก็ได้ยินเสียงเจียงลู่ฉีที่กำลังพูดคุยอยู่กับใครสักคนหนึ่ง ทหารทั้งสองคนกำลังถามเจียงลู่ฉีเกี่ยวกับความสามารถในการยิงปืนด้วยความชื่นชมของพวกเขา อย่างไรก็ตาม หลี่เฉิงก็รู้สึกว่าบทสนทนาของพวกมันน่ารำคาญอย่างมาก ดังนั้นความเกลียดชังในหัวใจของเขาก็เพิ่มอีกครั้งหนึ่งและสุดท้ายแล้วเขาก็เลิกลังเลใจ
“คุณหมอโจครับ มันไม่น่าจะเป็นเรื่องง่ายเลยสำหรับคุณในการถือเครื่องเพาะเชื้อที่หนักแบบนั้น ให้ผมช่วยถือเถอะนะครับ”หลี่เฉิงเดินมาที่ด้านข้างของหมอโจอย่างรวดเร็วและหลังจากน้นเขาก็จะเอื้อมมือออกไปจับเครื่องเพาะเชื้อจากมือของหมอโจ หมอโจก็ตกตะลึงและรีบหดมือของเขาอย่างรวดเร็ว “ไม่จำเป็น! ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือของนาย”
ในเวลาเดียวกัน เสียงหนึ่งก็ดังก้องขึ้นมาในความคิดของหลี่เฉิง ‘ทางที่ดีนายอย่าขยับจะดีกว่านะ’
มันเป็นเสียงของผู้หญิง แต่หลี่เฉิงคิดว่ามันเป็นเสียงของผี เมื่อเสียงนี้ดังก้องขึ้นมาในหัวของเขาโดยตรง
ในเวลาเดียวกัน เจียงลู่ฉีและคนอื่นก็เดินออกมาจากห้องพยาบาล เมื่อเขาเหลือบตามองไป หลี่เฉิงก็เห็นหญิงสาวที่มีหน้าตาที่ดูพิเศษที่ยืนอยู่ข้างเจียงลู่ฉี ท่าทางและท่วงท่าของเธอนั้นสง่างามอย่างมาก เมื่อเขาเห็นหญิงสาวคนนี้ เขาก็เข้าใจได้ในทันทีเลยว่าเสียงที่เขาได้ยินนั้นคือเสียงของหญิงสาวคนนี้
เจียงลู่ฉีมองไปที่หลี่เฉิงและพูดออกมา “ความกล้าของนายนี้มันต่ำยิ่งกว่าหนูอีกนะ นายกล้าดียังไงที่จะพยายามจับไปที่เซรุ่มกัน?”เมื่อได้ยินคำพูดของเจียงลู่ฉี หลี่เฉิงก็หวาดกลัวอย่างมาก เขาได้ยินเห็นถึงพลังอันน่าหวาดหวั่นของเจียงลู่ฉีมาก่อน ด้วยเหตุนี้นี่เองความขับข้องใจของเขาถูกเปลี่ยนกลับกลายเป็นความหวาดกลัว
จางเกาเฮอตกตะลึงมาก เขาแค่ต้องการที่จะหยุดหลี่เฉิง แต่เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าหลี่เฉิงจะกล้าทำแบบนั้น เมื่อเห็นใบหน้าอันซีดขาวของหลี่เฉิงและร่างกายที่แข็งทื่อของเขา จางเกาเฮอก็รู้แล้วว่าการตัดสินของเจียงลู่ฉีนั้นถูกต้อง ด้วยเหตุนี้นี่เองจางเกาเฮอจึงเดินไปจับมือของหลี่เฉิงในทันที
‘ปัง!’
ปืนพกก็หล่นลงไปบนพื้น
“หลี่เฉิง!”จางเกาเฮอจับไปที่ข้อมือของหลี่เฉิงและมองไปที่เขาอย่างดูถูก “นายต้องการที่จะทำอะไรกัน? นายรู้ไหมว่านายจะโดนยิงตายกับสิ่งที่นายทำหน่ะ?”
หลี่เฉิงตัวกระตุกอย่างรุนแรงและเปิดเผยร่องรอยแห่งความสิ้นหวังออกมาในดวงตาของเขา เจียงลู่ฉีก็มองไปที่เขาอย่างไม่ได้สนใจอะไร ต้องขอบคุณที่หลันซิหยู่สัมผัสได้ถึงสภาวะอารมณ์ที่ไม่คงที่ของหลี่เฉิงหรือไม่อย่างงั้นแล้วเขาก็คงจะทำลายเซรุ่มได้แล้ว
“ฉันไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกต่อไปแล้ว…”หลี่เฉิงพึมพำ
จางเกาเฮอก็ไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ดังนั้นเขาจึงถามอีกครั้งหนึ่ง “บอกพวกเรามาว่านายต้องการที่จะทำอะไรกันแน่!?”
หลี่เฉิงนั้นเป็นแค่ญาติที่ยังมีชีวิตอยู่ของภรรยาเขา ดังนั้นจางเกาเฮอถึงไม่ต้องการที่จะยิงเขา แต่เขาก็จะต้องให้คำอธิบายกับเจียงลู่ฉีแล้ว จางเกาเฮอรู้ดีว่าเขาควรที่จะทำให้เจียงลู่ฉีพึงพอใจมากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้นี่เอง หลี่เฉิงก็เปิดปากของเขาและกัดเข้าไปที่มือของจางเกาเฮอ จางเกาเฮอกรีดร้องออกมาและตบเข้าใส่หลี่เฉิงในทันที
หลี่เฉิงก็ถูกสะบัดหลุดและล้มลงกับพื้นไม่สามารถที่จะลุกขึ้นได้อีกต่อไป เขาก็นอนลงบนพื้นพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาทางปากของเขา
“นายบ้าไปแล้วงั้นเหรอ!?”จางเกาเฮอตะโกนออกมาหลังจากเห็นมือของเขา โชคดีที่ผิวหนังของเขาหนาพอ ดังนั้นมันจึงเหลือเพียงแค่รอยฟันแค่นั้น ผิวหนังของเขายังคงอยู่ดี
“ฮ่าๆๆๆ…”หลี่เฉิงเพียงแค่หัวเราะออกมาเหมือนกับคนบ้า แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เจียงลู่ฉีกำลังดูฉากไร้สาระที่เกิดขึ้นอย่างเงียบงัน ในขณะที่หลี่ยุ่ซินกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูของเขา หลังจากนั้นเจียงลู่ฉีก็เริ่มต้นหัวเราะออกมาและถามกับหลี่เฉิง “นายได้รับบาดเจ็บงั้นเหรอ?”
จางเกาเฮอมึนงงและถามกลับไปในทันที “กัปตันเจียง คุณหมายความว่าอะไรกันครับ?”
“นายสามารถที่จะไปตรวจสอบเขาได้ ฉันคิดว่าเขาต้องการที่จะล้างแค้นกับฉัน แต่หลังจากที่ถูกจับได้แบบต่อหน้าต่อตาแล้ว เขาก็ตัดสินใจที่จะกัดนาย ในความคิดของฉันแล้ว ทันทีที่นายได้รับการติดเชื้อทางกองทัพก็จะถูกทำลายจากด้านในและคนจำนวนมากก็จะตายไปพร้อมกันกับนาย ถ้าทีมของฉันถูกลากไปกับเรื่องนี้ด้วย เขาก็จะทำตามเป้าหมายของเขาสำเร็จ มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยใช่ไหมละ?”เจียงลู่ฉีถาม
หลี่เฉิงยังคงเงียบอยู่ แต่เขาก็เปิดเผยรอยยิ้มกว้างออกมาอย่างพึงพอใจ เขาตั้งใจที่จะทำลายเซรุ่มในตอนแรก แต่เขาก็รู้สึกตัวก่อนที่เขาจะเริ่มทำลายมันและทำให้หลี่เฉิงกลายเป็นบ้า
“หลี่เฉิง นายมันน่ารังเกียจมาก!”จางเกาเฮอตะโกนออกมาด้วยความจริงอันแสนเจ็บปวด
“ที่จริงแล้ว ฉันพึ่งจะค้นพบวิธีการรักษาใครบางคนที่พึ่งได้รับการติดเชื้อมาค่ะ”หลี่ยู่ซินพูดขึ้นมา เธอนั้นได้รับปรสิตมาก่อนหน้านี้และทำการศึกษามันและพยายามที่จะใช้ความสามารถทางแพทย์ในการฆ่ามัน ปรสิตประเภทนี้สามารถที่จะขยายตัวได้ในจำนวนหลายเท่าอย่างวรวดเร็วและแพร่กระจายไปทั่วร่าง ทันทีที่มันไปถึงสมองแล้วละก็ ไม่สำคัญว่าจะเป็นวิธีการอะไร พวกเธอก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้
คำพูดของหลี่ยู่ซินเหมือนกับระเบิดที่ดังก้องที่ข้างหูของหลี่เฉิงและเขาก็มองไปที่เธออย่างประหลาดใจ
“ช่วยด้วย! ช่วยด้วยนะ!”หลี่เฉิงพยายามที่จะคว้าโอกาสในการมีชีวิตรอดอย่างสุดท้ายของเขา เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าหญิงสาวคนนี้จะค้นพบวิธีการรักษา
ในเวลานี้ เจียงลู่ฉีก็ก้าวมาด้านหน้าและพูดกับจางเกาเฮอ “ถ้านายใช้โอกาสที่มีในการจัดการกับเขาก่อนหน้านี้แล้วละก็ เรื่องราวคงจะไม่กลายเป็นแบบนี้”
และหลังจากนั้นเจียงลู่ฉีก็ยกมือขวาขึ้นอย่างไหลลื่นและทันใดนั้นปืนพกก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา ปากกระบอกปืนก็เล็งตรงไปที่หัวของหลี่เฉิง!