My MCV and Doomsday - ตอนที่ 472
Chapter 472: ความรุนแรง
‘ปัง! ปัง! ปัง!’
รถบรรทุกของหนักทำลายเสาค้ำสามเสาสุดท้ายที่สนับสนุนตึกและมันก็ขับออกมาจากตึกทั้งตึก! ก่อนที่รถMCV จะออกมาจากตึก เจียงลู่ฉีก็ได้เปลี่ยนมันกลับไปยังรูปแบบรถมินิบัส
สิ่งที่ทุกคนที่อยู่ด้านนอกเห็นก็คือรถมินิบัส ‘กำลังบิน’ อยู่ท่ามกลางอากาศ ในขณะที่ด้านหลังตึกเก่าแก่ก็กำลังพังลงด้วยอัตราที่รวดเร็ว
‘บึ้ม!’
ตึกส่วนที่เหลือก็พังทลายลงไปทางด้านข้างและฝังคนติดเชื้อนับไม่ถ้วนด้านล่างของพวกมัน คนติดเชื้อกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งแต่มันก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย ซากตึกก็อย่างเช่นก้อนหินขนาดใหญ่ก็กองทับอยู่บนถนนและปิดกั้นถนนแปดเลนเดิมและเหลือทางเท้าเพียงครึ่งทางที่สามารถเข้าไปได้ คนติดเชื้อนับพันคนก็ติดจนไปต่อไม่ได้! แรงกดดันต่อยามที่เฝ้าโรงพยาบาลอยู่ก็ลดลงไปอย่างมาก!
“นี่มัน! เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ที่จริงแล้วทหารทั้งหมดต่างมีความคิดเหกมือนกับว่ารถมินิบัสจะถูกทำลายลงไป แต่พวกเขาไม่เคยจินตนาการมาก่อนเลยว่ารถมินิบัสจะทำให้ตึกนั่นถล่มลงมาแทน!
ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงกัน!?
หลังจากที่รถมินิบัสหายเข้าไปด้านในตึก พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเห็นอะไรได้เลยแม้แต่น้อย ไม่มีใครในพวกเขาที่เห็นรูปแบบที่สองของมัน สิ่งที่พวกเขารู้ก็คือตึกมันกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรงและหลังจากนั้นมันก็ถล่มลงมา!
พวกเขาอดที่จะจินตนาการไม่ได้ว่ารถมินิบัสมันทำอะไรลงไปด้านในตึกนั้น ในความคิดของพวกเขาแล้ว แม้ว่ารถมินิบัสจะดูเหมือนได้รับการปรับแต่งมาก็ตามที สุดท้ายแล้วมันก็ยังคงเป็นรถมินิบัสธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ขนาดของมันไม่สามารถเทียบได้เลยกับตึกขนาดใหญ่ สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่ได้เชื่อว่ารถมินิบัสจะสามารถถล่มตึกลงมาได้และพวกเขาก็ต่างสงสัยว่าพวกเขานั้นใช้จรวดอะไรในการทำให้ตึกถล่มลงไป
“อะไร? มันเกิดเหี้..อะไรขึ้นเนี่ย?”จางเกาเฮอพึมพำ สำหรับความรู้สึกของเขาแล้ว เจียงลู่ฉีก็เป็นแค่กัปตันทีมผู้รอดชีวิตธรรมดาทั่วไป รถของเขาจะดุร้ายขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
“โจมตี! โจมตีต่อไป!”เพิงติงหลงตะโกนใส่วิทยุสื่อสารต่อในทันที เมื่อเขาเห็นทหารยืนอยู่เฉยๆและประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่น่ามหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น
ทันทีที่ทหารได้ยินคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของพวกเขา พวกเขาต่างหลุดออกมาจากความมึนงงและเริ่มต้นยิงปืนต่อ ในครั้งนี้ พวกเขาต่างมีกำลังใจเต็มเปี่ยม
“ฆ่าไอ้พวกเหี้..นี่ให้หมด! มาสิ! ฉันต้องการที่จะระบายความโกรธแค้นของฉันที่ได้รับมาในหลายวันที่ผ่านมาแล้วนะ!”
“พี่น้อง อย่ากลัวว่าจะเปลืองกระสุน! เอามันให้ตาย!”ทหารของหน่วยพิเศษตะโกนออกมาและหลังจากนั้นพวกเขาก็ยืนอยู่ด้านบนคูระบายน้ำและหยิบปืนกลและยิงใส่คนติดเชื้ออย่างบ้าคลั่ง พวกเขาต่างอยู่ที่นี่มาสามวันสามคืนและมองคนติดเชื้อเคลื่อนที่ไปมา อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะยิงกระสุนออกมาสักนัด พวกเขาต่างไม่กล้าที่จะทำให้มีเสียงดังเกิดขึ้นอีกด้วย
ในที่สุดพวกเขาก็สามารถที่จะสู้ตามใจต้องการได้แล้ว! ทหารทั้งต่างมีกำลังใจที่เต็มเปี่ยมเริ่มต้นยิงเข้าใส่ทหารและนายพลที่พ่ายแพ้ต่อคนติดเชื้อ ทหารก็เปลี่ยนสถานการณ์ด้วยกำลังปืนที่หนักหน่วงนี้! เมื่อเห็นคนติดเชื้อถูกผลักดันให้ล่าถอยออกจากโรงพยาบาล พวกเขาต่างรู้สึกมีความสุขมาก ตราบเท่าที่พวกเขาปิดประตูได้ พวกเขาก็จะปลอดภัยในระดับหนึ่ง
“ปิดประตู!”จางเกาเฮอใช้วิทยุสื่อสารออกคำสั่ง แต่เขาก็ถูกคัดค้านขึ้นมาโดยเพิงติงหลง “ไม่! สู้ต่อไป! สู้ให้ดุร้ายที่สุดเท่าที่นายสามารถทำได้!”ถนนหลักถูกตัดขาดโดยตึกที่ถล่มลงมาซึ่งทำให้ความเร็วการโจมตีของคนติดเชื้อลดลงอย่างมาก ด้วยเหตุนี้นี่เอง มันจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพวกเขาในการต่อสู้กลับ มิฉะนั้นแล้วละก็ เมื่อพวกเขาติดกับดักอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากการรอคอยความตาย แม้ว่าทีมช่วยเหลือจะมาถึง พวกเขาก็จะต้องจ่ายราคาที่สูงมากในการช่วยเหลือพวกเขาออกมา เพิงติงหลงเชื่อว่านี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพวกเขาในการสวนกลับ! กองกำลังพิเศษของเขานั้นอาจจะไม่ได้มีสมาชิกจำนวนมาก แต่พวกเขาต่างมีกระสุนจำนวนมาก
‘โอมมม’
รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีก็ฝ่าคนติดเชื้อออกมาเหมือนกับกระทิงที่ดุร้ายและพุ่งตรงไปทางประตูโรงพยาบาล
‘เอี๊ยดดด’
พร้อมกับเสียงเบรคที่แสบแก้วหู เจียงลู่ฉีก็ดริฟต์รถ 180 องศาได้อย่างสมบูรณ์แบบและจอดรถมินิบัสของเขาด้านหลังแนวการป้องกัน ด้านหน้ารถมินิบัสถูกปกคลุมไปด้วยเศษเนื้อและเลือดและหัวรบรูปตัว V ก็ยังคงเปล่งประกายความเย็นยะเยียบออกมา ในอีกความหมายหนึ่ง รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีแสดงให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมและความโหดร้ายของสงคราม
“เหี้…! นี่มันยังเป็นรถอยู่อีกเหรอ? แม้กระทั่งรถถังก็ไม่ได้ดุร้ายมากขนาดนี้นะ!”
ทหารทั้งหมดต่างตกตะลึงกับรถมินิบัสที่พิเศษนี้ พวกเขาต่างเห็นรอยขีดข่วนนับไม่ถ้วนบนตัวรถ แต่มันก็ไม่มีส่วนไหนที่พังลงหรือบุบลงเลย พวกเขาต่างเห็นรถมินิบัสขับเข้าไปในตึกและถล่มมันลงมาด้วยตาของพวกเขาเอง แต่มันก็ยังมากเกินกว่าที่พวกเขาจะเชื่อได้อยู่ดี
“อย่าหยุด! รีบสู้มันซะ! คนติดเชื้อกำลังจะข้ามเศษซากปรักหักพังมา!”ใครบางคนตะโกนออกมา
ถึงแม้ว่าตึกที่พังลงจะเปลี่ยนกลายเป็นสิ่งป้องกัน คนติดเชื้อต่างมีความคล่องแคล่ว พวกมันต่างปีนข้ามตึกที่ถล่มลงมาและข้ามเศษซากปรักหักพัง!
ด้วยเหตุนี้นี่เอง คนติดเชื้อต่างกำลังพุ่งมาทางโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง!
เจียงลู่ฉีก็เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกันและหลังจากนั้นเขาก็แค่กดปุ่มลงไป หลังจากนั้น ปากกระบอกปืนสีดำก็ปรากฏขึ้นด้านหน้าของรถมินิบัส
‘ปืนใหญ่สุญญากาศ ยิง!’
‘บึ้ม!’
คลื่นอากาศก็เห็นได้ด้วยตาเปล่าและส่งคลื่นกระแทกอันุร้าย คนติดเชื้อที่กำลังข้ามเศษซากปรักหักต่างโดนแรงกระแทกจากคลื่นแรงกระแทกและเปลี่ยนกลายเป็นเศษเนื้อชิ้นเล็กๆที่ปลิวกระจายล่องไปตามลม
‘รถมินิบัสนี่มัน! ไม่ต้องสงสัยเลยนี่คือสิ่งผลิตจากเทคโนโลยีมืด’จางเกาเฮอมองไปที่รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีอย่างตกตะลึง
เขานั้นเก่งกาจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของทหารจีนและไม่มีรถคันไหนที่ถูกสร้างขึ้นมาแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงความทรงพลังของรถมินิบัสและอุปกรณ์ทำลายล้างที่ติดตั้งกับมันเลย วัตถุดิบของโครงรถก็ไม่สามารถที่จะหาพบได้เลย แม้กระทั่ง MBT รุ่น 99 หรือแผ่นเหล็กโลหะของดาดฟ้าเรือบรรทุกเครื่องบินก็ไม่ได้ทรงพลังมากเท่านี้ เกราะของ MBT รุ่น 99 นั้นต่อต้านการเจาะเกราะของขีปนาวุธขนาดใหญ่ แต่ความหนาของมันหนากว่าหนึ่งเมตร แผ่นเหล็กโลหะของดาดฟ้าเรือบรรทุกเครื่องบินสามารถที่จะทนทานต่อการแรงกระแทกอันรุนแรงของการลงจอดของเครื่องบินแต่ความหนาของมันก็แค่ไม่กี่สิบเซนติเมตร นอกจากนี้ รูปแบบของเกราะและโลหะพิเศษนั้นเป็นความลับพิเศษ ประชาชนธรรมดาทั่วไปจะสามารถไปหาวัตถุดิบแบบนั้นได้ได้อย่างไรกัน? ความหนาของตัวโครงรถมินิบัสของเจียงลู่ฉีก็เพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตรและพิจารณาถึงส่วนที่ถูกสร้างขึ้นมาจากกระจก! จางเกาเฮอไม่เคยเห็นกระจกกันกระสุนแบบนั้นมาก่อน
ในเวลาเดียวกัน เจียงลู่ฉีก็ปล่อยให้หยิงเป็นคนขับและหลังจากนั้นเขาก็ออกมาจากคนขับรถและเขาก็ปีนขึ้นไปบนดาดฟ้า เจียงลู่ฉีก็ถือปืนอัตโนมัติไรเฟิลรุ่น 95 มาสองกระบอก! กระสุนก็ได้ถูกยิงออกไป
“ปัง ปัง ปัง!”
ความแม่นยำของเจียงลู่ฉีนั้นแม่นยำอย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาจะยิงออกไปโดยใช้มือเพียงข้างเดียวทั้งสองกระบอกก็ตามและอยู่ห่างไกลออกไปอีกร้อยเมตรซึ่งมันไม่ได้ส่งผลกระทบกับความแม่นยำในการยิงปืน เจียงลู่ฉีก็ไม่ได้ยิงหัวของคนติดเชื้อ เนื่องจากพวกมันก็สามารถที่จะพุ่งไปด้านหน้าต่อหลังจากที่หัวของมันโดนยิง ด้วยเหตุนี้นี่เอง เจียงลู่ฉีจึงเลือกที่จะยิงมันไปที่ขาและแขนของพวกมัน
เลือดนั้นสาดกระจายไปทั่วทุกแห่งและเพียงเวลาไม่นานก็เปลี่ยนสนามแห่งการนองเลือด! กระสุนสามสิบนัดก็ถูกใช้ไปในชั่วพริบตา เจียงลู่ฉีก็ทิ้งปืนกระบอกหนึ่งลงไปบนพื้นและเปลี่ยนแม็กกาซีนด้วยมือข้างหนึ่งและหลังจากนั้นเขาก็ใช้เท้าเตะปืนที่อยู่บนพื้นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งและก็เปลี่ยนแม็กกาซีนอีกครั้งหนึ่ง การเปลี่ยนแม็กกาซีนของปืนอัตโนมัติรุ่น 95 นั้นทำได้ยากยิ่งกว่าการเปลี่ยนปืนรุ่น 81 อย่างไรก็ตามสำหรับเจียงลู่ฉีแล้ว เขาเปลี่ยนมันได้อย่างไหลลื่นซึ่งใช้เวลาเพียงแค่สองวินาที กระสุนก็ถูกยิงออกไปจากปากกระบอกปืนอีกครั้งหนึ่ง ที่จริงแล้ว การยิงของเจียงลู่ฉีนั้นทรงพลังกว่าการยิงปืนด้วยปืนกลสองสามกระบอกของคนอื่นเสียอีก สุดท้ายแล้วความแม่นปืนของเขาก็ยอดเยี่ยมมาก