My MCV and Doomsday - ตอนที่ 462
Chapter 462 – อุบัติเหตุ
วันต่อมา…
ทีมของผู้รอดชีวิตก็มาถึงกันอย่างต่อเนื่องและในตอนกลางวัน เมื่อเสียงไซเรนดังขึ้น ทหารก็นำข้อความมาส่งให้กับทีมของเจียงลู่ฉี ทีมทั้งหมดต่างรวมตัวกันที่ส่วนกลางของสำนักงาน
ในครั้งนี้ เจียงลู่ฉีตัดสินใจที่จะพาแค่หลันซิหยู่ไปกับเขาเพียงแค่นั้น ก่อนจะผ่านเส้นสีเหลืองไป เจียงลู่ฉีก็เห็นคนประมาณสามร้อยคนเข้าไปแล้ว ทีมส่วนใหญ่ต่างส่งตัวแทนมาเพียงแค่สองหรือสามคนเท่านั้น ดังนั้นผู้รอดชีวิตที่อยู่ตรงนี้ต่างมีประมาณแค่ 20% ของสมาชิกทีมทั้งหมด
“พี่เจียง เข้าไปด้านในกันเถอะค่ะ”หลันซิหยู่พูดออกมาอย่างนุ่มนวล ผู้รอดชีวิตเหล่านี้ต่างเป็นชายที่บึกบึนและกล้าหาญ รูปลักษณ์ของหลันซิหยู่เป็นที่ดึงดูดความสนใจของคนจำนวนมากในทันที หลันซิหยู่ไม่เพียงแต่สวยงามแต่ก็ยังมีบุคลิกที่น่าทึ่งพร้อมกับความสามารถทางจิตที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมากที่เธอจะเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจ แต่หลันซิหยู่ไม่คุ้นชินสักเท่าไหร่
“ไปกันเถอะ”เจียงลู่ฉีพยักหน้า
ในเวลาเดียวกัน กลุ่มคนก็แบ่งออกเป็นสองอย่างฉับพลันและหลังจากนั้นทหารที่ได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดีหลายต่อหลายคนก็โผล่ออกมาจากกลุ่มคน เห็นได้เด่นชัดว่ากลุ่มคนเหล่านี้ต่างมีประสบการณ์ที่เผชิญหน้ากับความตายมานับครั้งไม่ถ้วนและแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่มีมากซึ่งได้รับมาจากการพบกับประสบการณ์ชี้เป็นชี้ตายนับครั้งไม่ถ้วน แม้กระทั่งดวงตาของพวกเขาก็ดูไม่เหมือนกับคนปกติทั่วไป เมื่อพวกเขาเดินผ่านผู้รอดชีวิตคนอื่น ผู้รอดชีวิตเหล่านั้นต่างอดที่จะตัวสั่นไม่ได้และมันก็มีร่องรอยของความอิจฉาซ่อนอยู่ในดวงตาของพวกเขา
เจียงลู่ฉีก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับพวกเขามากสักเท่าไหร่ แต่เมื่อหลันซิหยู่มองกลับไป เธอก็แจ้งเขาว่าผู้รอดชีวิตที่ได้รับการฝึกฝนเหล่านั้นต่างเดินตรงมาหาพวกเธอ
“ฉันจำไม่ได้ว่าพวกเราเคยพบกับคนกลุ่มนั้นมาก่อน”หลันซิหยู่พูด
เจียงลู่ฉีขมวดคิ้ว “ใช่ พวกเราไม่รู้จักพวกเขา”ในความเป็นจริง เจียงลู่ฉีก็ตัดสินใจที่จะกลับในวันนี้ สำหรับการเป็นพันธมิตรกับลู่ฉางเฟย เขาสามารถทำได้เพียงแค่รู้สึกเสียใจเพียงเท่านั้น
เมื่อคิดว่าคนเหล่านั้นอาจจะต้องการสร้างปัญหาให้กับเขา เจียงลู่ฉีก็รู้สึกหงุดหงิด ไม่มีใครหวังว่ามันจะมีปัญหาใหม่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่ง เจียงลู่ฉีก็หยุดเดินและจับไปที่ปืนในขณะที่ผลักหลันซิหยู่ไปด้านหลังเขาและหลังจากนั้นเขาก็จ้องไปที่กลุ่มนั้น
คนที่นำมานั้นเป็นผู้หญิงผมยาวที่สวมชุดเรียบร้อยพร้อมกับผมหางม้า เธอนั้นสวมเสื้อกั๊กสีดำที่รัดแน่นพร้อมกับกางเกงขาสั้น เปิดเผยให้เห็นถึงผิวที่ขาวและขาเรียวยาว บนขาข้างหนึ่งนั้นมีรอยสักรูปเสือที่มีสีสันทำให้เธอนั้นดูเป็นสาวงามที่ดูดุร้ายและป่าเถื่อน อาวุธของเธอก็ดูน่าตกใจมาก เมื่อมันเป็นขวานเล่มใหญ่ เธอไม่ได้มีความสามารถทั่วไปอย่างแน่นอน มิฉะนั้นแล้วละก็ ผู้คนมากมายคงสงสัยว่าทำไมเธอถึงใช้ขวานยักษ์
“มีอะไร?”เจียงลู่ฉีถาม
หญิงสาวคนนั้นมองไปที่เจียงลู่ฉีและเธอก็ดึงเสื้อกั๊กของเธอออกมาและหลังจากนั้นประกายแสงสีเงินสว่างวาบขึ้นในมือของเธอ การกระทำของเธอนั้นคล่องแคล่วมากจนผู้รอดชีวิตที่มองพวกเธออยู่ตามการเคลื่อนไหวของเธอได้ทัน
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนที่ของเธอก็หยุดลง เมื่อปากกระบอกปืนสีดำจ่อไปที่หัวของเธอ ชายที่ทรงพลังหลายคนที่อยู่ด้านหลังหญิงสาวคนนั้นต่างประหลาดใจในตอนแรกและหลังจากนั้นพวกเขาก็จับไปที่อาวุธของพวกเขาในทันที
หญิงสาวคนนั้นก็แบมือของเธอออกและยิ้มออกมาเล็กน้อยและเธอก็พลิกข้อมือของเธอ มีดในมือของเธอก็ตกลงบนหิมะใต้เท้าของเธอ “อย่าเข้าใจผิด มันไม่ใช่การโจมตีโดยมีเจตนาร้าย”
ในเวลาเดียวกัน เสียงของปากกระบอกปืนก็ได้ยินมาจากหน้าต่างของบ้านทั้งสองฝั่ง
“นายทำอะไรอยู่? การต่อสู้ไม่ได้รับอนุญาตให้เกิดขึ้นที่นี่นะ!”ทหารคนหนึ่งตะโกนออกมา
เจียงลู่ฉีจ้องไปที่หญิงสาวคนนั้นและวางปืนพกของเขาลง
“การโจมตีโดยไม่มีเจตนาร้ายงั้นเหรอ เธอต้องการลอบโจมตีฉันต่างหาก!”เจียงลู่ฉีถามอย่างโกรธเคือง ถึงแม้ว่าเขาจะวางปืนของเขาลง เขาก็สามารถที่จะยกมันขึ้นได้อีกครั้งในพริบตา เจียงลู่ฉีก็ระมัดระวังตัวอย่างมาก เมื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มคนเหล่านี้
“พวกเราแค่ต้องการทดสอบนาย พวกเราได้คำตอบของพวกเราแล้ว นายคือเจียงลู่ฉีใช่ไหมละ? ฉันสามารถที่จะบอกได้จากหญิงสาวดวงตาสีเทาที่อยู่ด้านหลังของนาย ฉันได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับนายมากมายสำหรับคืนที่ผ่านมา”หญิงสาวคนนั้นพูดออกมา “เอาละ พวกเราคือสมาชิกของเสือร้าย”
‘เสือร้าย….’เจียงลู่ฉีจำได้ว่าพวกเขาเห็นขบวนรถของเสือร้ายมาก่อนหน้านี้ มันเหมือนกับว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่งอย่างมาก
“ฉันจะปล่อยไปในครั้งนี้ แต่ถ้าเธอมาทดสอบฉันอีกรอบแล้วละก็ฉันอาจจะลั่นไกปืนก็ได้นะ”เจียงลู่ฉีพูดออกมาอย่างเย็นชา เขาอดที่จะรู้สึกไม่ดีกับทีมเสือร้าย
“โอ้ พระเจ้า!”ชายที่อยู่ด้านหลังผู้หญิงอดที่จะอุทานออกมาไม่ได้ หลังจากที่เห็นเจียงลู่ฉีเดินจากไปพร้อมกับหลันซิหยู่ “ชายคนนี้ไม่รู้ไม่ต่ำที่สูงจริงๆ”
หญิงสาวคนนั้นก็ขมวดคิ้วด้วยเช่นกัน “ลั่นไกงั้นเหรอ? หนุjมน้อยนั่นจะสามารถสู้กับฉันได้ยังไงกัน?”
เจียงลู่ฉีดูเหมือนกับหนุ่มนักศึกษา แต่หญิงสาวคนนั้นก็ดูไม่ได้แก่กว่าเขามากสักเท่าไหร่ “เหี้…. ไม่เคยมีใครเอาปืนชี้หน้าฉันมาก่อน!”หญิงสาวคนนั้นหงุดหงิด เมื่อเธอคิดถึงฉากที่เกิดขึ้นด้านหน้าเธอ
‘บึ้ม!’
เสียงคำรามของเครื่องยนต์นั้นดังก้อง เมื่อรถติดเกราะของกองทัพสองคันนั้นขับตรงไปตรงส่วนกลาง เมื่อติดตามรถทหารบก ชุดยูนิฟอร์มสีเขียวก็เป็นลายอำพรางรวมทั้งทหารก็ทำการแสดงความเคารพกันเป็นแถวและทำให้ผู้รอดชีวิตที่กำลังพูดคุยกันอยู่ก็ตระหนักได้ทันทีทีว่าพวกเขาเป็นตัวตนที่สำคัญก็ปรากฏตัวขึ้น
หญิงสาวคนนั้นก็เหลือบมองไปที่หลังของเจียงลู่ฉีและหลันซิหยู่และหลังจากนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างเยือกเย็น “พวกเราจะไม่สนใจพวกเขาแล้ว ไปกันเถอะ!”และหลังจากนั้น เธอก็นำพาเพื่อนร่วมทีมของเธอไปที่ด้านหน้า
สมาชิกบางคนขององค์กรหายนะต่อซอมบี้ต่างยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน แต่เจียงลู่ฉีก็ไม่เห็นทั้งโฮวติงคุนและลู่ฉางเฟย เขาก็เดาว่าพวกเขาทั้งคู่ต่างกำลังฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บอยู่
ผู้คนหลายคนก็เดินลงมาจากรถยนต์ติดเกราะและรถทหารบก
พวกเขาก็คือลี่หยินฉิง เสือดาวรวมทั้งผู้บังคับบัญชาหวัง นอกจากนี้แล้วเจียงลู่ฉีก็ยังเห็นชายอีกสองคนที่เขาไม่เคยพบมาก่อนและนายพลผมขาวธรรมดาทั่วไป
นายพลหัวหงอกที่ยืนอยู่ด้านหน้าลี่หยินฉิงแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณที่กล้าแกร่ง เจียงลู่ฉีเดาว่านายพลคนนี้เป็นผู้บังคับบัญชาของภารกิจนี้
ผู้บังคับบัญชายืนอยู่บนรถกองทัพบกและดวงตาอันเย็นยะเยือกก็กวาดตามองไปรอบๆฝูงชน จนกระทั่งส่วนกลางนั้นเงียบลง ผู้บังคับบัญชาก็เริ่มพูดออกมา “ฉัน นายเหลียนไม่ชอบที่จะพูดอะไรไร้สาระ วันนี้พวกเรามารวมตัวกันเพื่อที่จะพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นที่สนามรบส่วนหน้า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่! อย่างไรก็ตาม พวกเราไม่สามารถที่จะให้คำตอบได้อย่างแน่ชัด! สิ่งเดียวที่พวกเราสามารถบอกได้ก็คือพวกเราได้รับการสูญเสียอย่างหนักหน่วง! กองกำลังส่วนใหญ่ของพวกเราเข้าไปในรังสัตว์ป่าและไม่เคยได้รับการกลับออกมา! เจ้าหน้าที่และทหารต่างเสียชีวิตจำนวนมาก! รวมทั้งผู้บังคับบัญชาหวังที่ทีมของเขาได้รับการสูยเสียอย่างมากที่สุด แต่เขาโชคดีที่หลบหนีกลับมาได้…”
เมื่อเจียงลู่ฉีได้ยินดังนั้น เขาก็จ้องไปที่ผู้บังคับบัญชาหวังที่กำลังก้มหัวลงเล็กน้อและเหมือนกับร่างกายของเขาสั่นสะท้านไปด้วยความตื่นเต้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างจากกัน เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวก็ยังคงแจ้งว่ามันสัมผัสได้ถึงการไหลเวียนพลังงานกลายพันธุ์ที่ไม่รู้จักมาจากเขา
‘อะไรกัน?’เจียงลู่ฉีคิด
ผู้บังคับบัญชาเหลียนพูดต่อ “พวกเราได้ค้นพบรังสัตว์ป่าขนาดใหญ่ แต่มันเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นบางอย่าง พวกเราได้โจมตีมันก่อนที่จะมันจะสร้างปัญหาให้กับพื้นที่ปลอดภัยเซียหยวน! พวกนายทั้งหมด ไม่สำคัญว่าพวกนายจะอาศัยอยู่ในเซียหยวนหรืออยู่เพื่อที่หาที่พักที่ปลอดภัยจะต้องช่วย! ในช่วงเวลาที่เลวร้ายเช่นนี้ พวกเราทั้งหมดต้องการที่จะหามีพื้นที่ปลอดภัยในการกินและนอน พื้นที่ปลอดภัยเซียหยวนนั้นเป็นบ้านของพวกเรา! ในการสวนกลับครั้งนี้ กองทัพจำเป็นที่จะต้องให้พวกนายทำการท้าทายภารกิจที่ยากและสำคัญมากที่สุด! แน่นอนว่าคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกองทัพ ฉันไม่สามารถที่จะสั่งการนายได้ แต่ถ้านายไม่มีแผนที่จะรับภารกิจในครั้งนี้ นายจะไม่มีสิทธิ์ในการร่วมภารกิจเกี่ยวกับกองทัพในเซียหยวนอีกต่อไป!”
หลังจากผู้บังคับบัญชาเหลียนพูดเสร็จ คนมากมายก็เริ่มกระซิบกระซาบกัน
สำหรับคนที่มีความตั้งใจที่จะอยู่เซียหยวนเป็นเวลานาน ข่าวนี้นับว่าเป็นข่าวร้ายอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม เจียงลู่ฉีก็ไม่ได้รับผลกระทบกับมัน เขาก็เหลือบตามองไปที่ลี่หยินฉิงที่ยืนอยู่ด้านข้างรถกองทัพบก ถ้าเขาไม่ได้เห็นเขาเป็นตัวเป็นตนแล้วะลก็ เจียงลู่ฉีก็สาบานเลยว่าเขาสัมผัสได้ถึงตัวตนที่คล้ายคลึงกับสัตว์ป่ากลายพันธุ์ที่ดุร้าย
ในเวลาเดียวกัน ลี่หยินฉิงก็หันกลับไปมองเจียงลู่ฉีในฝูงชนในทันที อย่างไรก็ตาม เจียงลู่ฉีก็สังเกตเห็นถึงดวงตาอันเย็นยะเยือกและไม่แยแส มันเหมือนกับว่าเขากำลังมองไปที่มดยังไงยังงั้นอยู่
เจียงลู่ฉีก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาและหลังจากนั้นก็หันกลับไปมองคนอื่น
ในเวลาเดียวกัน ผู้บังคับบัญชาหวังก็ได้พูดกับลี่หยินฉิง “ฉันได้ยินว่าเจียงลู่ฉีได้ปฏิเสธนายอีกครั้งหนึ่งแล้วเมื่อวานนี้?”
“ใช่ มีใครบางคนที่ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องดีๆที่เกิดขึ้นกับเขา”ลี่หยินฉิงพูดอย่างใจเย็น
“นายโกรธหรือเปล่า?”ผู้บังคับบัญชาหวังถาม
“ไม่ มันไม่มีค่าให้พูดถึง มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับทีมนี้ในการอาศัยอยู่ในเซียหยวนในอนาคต”ลี่หยินฉิงพูดกออกมาอย่างเยือกเย็น
“นั่นเกี่ยวกับเขา แล้วบทลงโทษมันเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้วงั้นเหรอ? นายอาจจะไม่ได้ฆ่าบิวเรน แต่ความตายของบิวเรนนั้นเป็นเพราะของนาย”ผู้บังคับบัญชาหวังพูด
“คุณโอเคไหมครับ? ทำไมคุณถึงตัวสั่นขนาดนั้นครับ?”ลี่หยินฉิงถามมาอย่างฉับพลัน
“ฉันโอเคดี”ผู้บังคับบัญชาหวังส่ายหัวและก้มปิดใบหน้าอันซีดขาวของเขา เขาก็สั่นสะท้านอย่างมากเหมือนกับว่าเขาไม่สามารถที่จะทนมันได้ไหว แม้กระทั่งฟันของเขาก็สั่นด้วยเช่นกัน
เจียงลู่ฉีกวาดตามองผ่านฝูงชนและเขาก็มองไปที่ผู้บังคับบัญชาหวัง เขาก็สังเกตเห็นการแสดงออกที่พิลึกพิลั่นของเขา หลังจากนั้นเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวก็ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ‘ตรวจพบการไหลเวียนพลังงานที่ไม่รู้จัก ระดับพลังงานของมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง’
“ซิหยู่ สแกนชายคนนั้นที”เจียงลู่ฉีพูดออกมาในทันที
หลันซิหยู่พยักหน้าและหลังจากนั้นเธอก็ใช้พลังจิตทั้หงมดของเธอล็อคไปยังผู้บังคับบัญชาหวังโดยปราศจากการยุ่งเกี่ยวกับใครอื่น ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่มีความสามารถด้านพลังจิตน่าจะอยู่ด้วย ดังนั้นหลันซิหยู่ไม่ต้องการที่จะสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็นขึ้น อย่างไรก็ตามมันก็ยังเสี่ยงที่จะทำแบบนั้น
ในความคิดของเจียงลู่ฉีแล้ว มันคุ้มพอที่จะเสี่ยงและเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำการตรวจสอบ
หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่ง การแสดงออกของหลันซิหยู่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ‘เปลวเพลิงของจิตวิญญาณของชายคนนั้นมัน..’
ในเวลาเดียวกัน ผู้บังคับบัญชาหวังก็เหมือนกับสัมผัสได้ถึงการตรวจสอบของหลันซิหยู่และก็ยกหัวของเขาขึ้นในทันที
เจียงลู่ฉีประหลาดใจมาก เมื่อดวงตาของผู้บังคับบัญชาหวังเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงเลือดและการแสดงออกของเขาก็แปลกประหลาด
‘สีของเปลวเพลิงจิตวิญญาณของเขาเปลี่ยนไปเป็นเหมือนกับสัตว์ป่ากลายพันธ์และซอมบี้!’
“รอก่อน!”เจียงลู่ฉีตะโกนออกมาและหลังจากนั้นเขาก็รีบเดินออกมาจากฝูงชนและเดินไปเดินยังด้านหน้า
ดวงตาของเจียงลู่ฉียังคงจดจ้องไปที่ผู้บังคับบัญชาหวังอยู่ตลอดเวลาและเมินเฉยต่อเสียงของคนที่กำลังบ่น เขานั้นตกตะลึงกับสิ่งที่หลันซิหยู่ค้นพบแล้ว มันเป็นความรู้ธรรมดาทั่วไปที่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมีภูมิต้านทานต่อไวรัสและแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถต้านมันได้ พวกเขาก็ควรที่จะแสดงให้เห็นถึงลักษณะของการกลายพันธุ์ในระเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม ผู้บังคับบัญชาหวังก็ยังคงเป็นคนธรรมดาทั่วไปเมื่อคืนนี้
เมื่อเจียงลู่ฉีก้าวขึ้นไปด้านหน้า ร่างของผู้บังคับบัญชาหวังก็กระตุกอย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่องๆ เขาก้าวถอยไปสองก้าวและดวงตาของเขาก็แสดงให้เห็นถึงการดิ้นรนอยู่
ผู้บังคับบัญชาทั้งหมดต่างจ้องไปที่เจียงลู่ฉีที่กำลังเดินมาหาพวกเขาอย่างรวดเร็วเหมือนกับกระทิงที่ดุร้าย
ลี่หยินฉิงขมวดคิ้วและถามออกมา “นายกำลังทำอะไรอยู่ เจียงลู่ฉี?”เขาไม่ต้องการที่จะเห็นเจียงลู่ฉีในช่วงเวลานี้เลย
“ฉันมีคำถาม!”
“ในช่วงเวลานี้ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ที่จะถามงั้นเหรอ? นายสงสัยสิ่งที่พวกเราพูดงั้นเหรอ? ไม่สำคัญว่านายจะมีคำถามอะไร กฏระเบียบก็ยังเป็นแบบเดิม ถ้านายไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมกับภารกิจนี้ นายก็จะสูญเสียในการทำภารกิจที่เกี่ยวข้องกับกองทัพในอนาคต”ลี่หยินฉิงตอบอย่างเย็นยะเยือก
เจียงลู่ฉีพูดไม่ออกกับที่ลี่หยินฉิงเข้าใจเขาผิด แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะเสียเวลา ดังนั้นเขาจึงเมินเขาไป เขานั้นไม่ได้อยู่ห่างจากรถกองทัพบกสักเท่าไหร่และไม่มีใครในฝูงชนที่อยู่ด้านหน้าเขา คนที่ปิดบังเส้นทางของเขาก็มีแค่ทหารไม่กี่นาย รวมทั้งสมาชิกของทีมเสือร้าย
ลี่หยินฉิงขมวดคิ้วและส่งสัญญาณให้สมาชิกของเขาหยุดเจียงลู่ฉี
“ผู้บังคับบัญชาเสือดาวได้โปรดหันกลับไปดูผู้บังคับบัญชาหวังด้วย!”เจียงลู่ฉีตะโกนออกมาอย่างดังก้อง
คำพูดและการกระทำของเจียงลู่ฉีทำให้เสือดาวตกตะลึง เขาอดที่จะคิดและหันกลับไปดูผู้บังคับบัญชาหวังไม่ได้
ทันใดนั้น ผู้บังคับบัญชาหวังก็คำรามออกมาและพุ่งเข้าใส่ลี่หยินฉิงที่อยู่ใกล้ที่สุด
สิ่งที่เจียงลู่ฉีประหลาดใจก็คือผู้บังคับบัญชาหวังนั้นมีการระเบิดพละกำลังที่แข็งแกร่งและความเร็วที่แม้กระทั่งผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 อย่างเสือดาวก็ไม่สามารถตามได้ทัน
ในเวลาเดียวกัน ลี่หยินฉิงก็รู้สึกถึงลางร้ายและต้องขอบคุณสัญชาตญาณการต่อสู้ของเขา เขาก็หลบไปด้านข้างในขณะที่จับไปยังไหล่ของผู้บังคับบัญชาหวังและกดมันลงไป โชคดีที่ลี่หยินฉิงนั้นต้านทานผู้บังคับบัญชาหวังได้ทันท่วงที!