My MCV and Doomsday - ตอนที่ 581
Chapter 581: กลับไปยังสถานที่แห่งความหลอกหลอนในอดีต
หลัวหลัวร้องออกมาอย่างตื่นเต้น เมื่อเจียงลู่ฉีพูดว่ามันสามารถกินน้ําสีเงินขวดที่สองได้ มันพุ่งตัวไปหาหลี่ยู่ซินที่ถือขวดไว้ในมือของเธอ และโยนมันขึ้นไปบนฟ้า มันก็พองตัวเหมือนกับบอลลูนและกลืนกินขวดไปทั้งขวด
หลัวหลัวมีท่าทางที่พึงพอใจมาก กับรางวัลที่มันได้รับ มันถูหน้าไปบนฝ่ามือของเจียงลู่ฉี และก็กระโดดขึ้นไปบนทัวร์
เซียงซัวไฮตกตะลึงกับสิ่งที่เธอเห็น เธอไม่เคยคิดเลยว่าน้ําสีน้ําเงินนั่นจะกลายเป็นอาหารให้กับเจ้าหลัวหลัว
เนื่องด้วยโรคระบาด ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนในพื้นเจียงซูทางเหนือต่างตกอยู่ในอันตราย เมื่อเธอเป็นหัวหน้าแล้ว เซียงซัวไฮจึงไปยังเมืองชิงไห่เพื่อขอความเชื่อเหลือ แต่ความพยายามของเธอมันไม่ได้ส่งผลอะไร
เจียงลู่ฉีโบกมือและสั่งต่อ “ออกเดินทางได้!”
เป้าหมายของพวกเขาในครั้งนี้ คือเศษซากปรักหักของเกาะเชนไฮ ตามคําพูดของหลัวเจียเฟิงแล้ว องค์กรลับยังต้องการเวลาอีกสักพักในการเริ่มลงมือทําภารกิจ ด้วยเหตุนี้นี่เอง ทีมฉ่หยิงจึงยังมีเวลาในการเตรียมการสําหรับโรคระบาดในเขตเจียงซูแล้ว เขาก็ต้องการหาต้นกําเนิดของมันด้วยเช่นกัน มันไม่ใช่เพียงเพื่อเซียงซัวไฮ้ แต่มันเป็นความสงสัยของเขาด้วยเช่นกัน เขาต้องการเรียนรู้ถึงต้นกําเนิดของมันด้วย
ในโลกที่ล่มสลายเช่นนี้ ไม่มีสิ่งใดที่แปลกประหลาดหรือเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป น้ําสีน้ําเงินสามารถที่จะสร้างโรคระบาดระดับชาติหรือระดับโลกได้เลย ด้วยความคิดเหล่านี้ในหัวของเขา เจียงลู่ฉีต้องการที่จะหาจุดอ่อนของมันก่อนและหาวิธีทางแก้ไข
สําหรับเลี้ยงลู่ฉีที่มีรถ MCV และเป็นผู้นําทีมที่ทรงพลังแล้ว สถานการณ์นี้มันไม่ได้แย่เกินไป ยังไงก็ตาม เมื่อสิ่งหนึ่งเปลี่ยนแปลงไป มันก็ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นตามมา เจียงลู่ไม่ต้องการที่จะให้เกิดภัยพิบัติที่คล้ายกับการระบาดของไวรัสอีกครั้งหนึ่ง
เจียงลู่ฉีสงสัย แต่ไม่ได้กังวลใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของน้ําสีน้ําเงินกับหลัวหลัว
ในขณะที่เจียงลู่ฉีจมอยู่ในความคิด จี้หยิงสตาร์ทรถอีกครั้งหนึ่ง พวกเธอมุ่งตรงไปยังจินหลิงและผ่านเจียงซูเหนือไป เพื่อที่จะไปยังเป้าหมายของพวกเขา เกาะเชนไฮ ตลอดตามทางจํานวนของซอมบี้นั้นลดลง ในขณะที่จํานวนของคนติดเชื้อนั้นมากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับซอมบี้แล้ว คนติดเชื้อทั้งดุดันกว่าและทรงพลังกว่า แต่สําหรับที่มฉ่หยิงแล้ว มันไม่มีค่าอะไร ไม่มีสิ่งกีดขวางอันใดตลอดทางที่สร้างปัญหาให้กับทีมจี้หยิง ถ้าทีมอื่นผ่าน ทางที่ทีมจี้หยิงเดินทางไปพวกเขาคงจะได้รับประสบการณ์เลวร้ายอย่างแน่นอน
เมื่อพวกเขากําลังจะถึงจินหลิง พวกเขากลับเจอปัญหาเล็กน้อย แต่ค่อนข้างจริงจัง รถถังของจางไฮ้น้ํามันหมด ไม่ต้องสงสัยเลยว่ารถถังรุ่น 99 สามารถที่จะเปรียบได้กับรุ่นระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นความหนาของเกราะ ความสามารถในการจู่โจมและด้านอื่น แต่ในเวลาเดียวกัน การกินน้ํามันของมันก็ชั้นหนึ่งเหมือนกัน มันกินน้ํามันสี่ลิตรต่อกิโลเมตร! เสือกลืนน้ํามัน” ยังไม่มากพอที่จะอธิบายเรื่องนี้เลย
ถึงแม้ว่าถังน้ํามันของจางไฮ้จะเต็มไปด้วยกระสุนและน้ํามัน เมื่อพวกเขาออกมาจากเมืองชิงไห่ มันก็ขับไปได้แค่ห้าร้อยกิโลเมตรในถนนที่ซับซ้อนแบบนี้
เจียงลู่ฉีรู้สึกว่าปัญหานี้มันน่าปวดหัวมาก สุดท้ายแล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายสําหรับพวกเขาที่จะหาน้ํามันในโลกที่ล่มสลายเช่นนี้
รถบัสของเจียงลู่ฉีก็ใช้น้ํามันเยอะมากเหมือนกัน แต่มันใช้น้ํามันเบนซิน ไม่ใช่ดีเซล ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ได้แก่นกลางของเจ้าหลุมดํา เจียงลู่ฉีก็ไม่จําเป็นต้องหาน้ํามันให้กับรถบัสของเขาอีกแล้ว
“พวกเราควรที่จะไปที่จินหลิงก่อน พวกเราจะคอยตรวจสอบปั้มน้ํามันตามทางเอา” เจียงลู่ฉีพูด แต่เขาไม่ได้คาดหวังมากสักเท่าไหร่
“โอเคครับ พี่เจียง” จางไฮ้ตอบ
จางไฮ้ตระหนักได้มานานแล้ว เมื่อเทียบกับรถทัวร์ รถถังของเขาด้อยกว่าในทุกด้าน ในเวลาเดียวกัน รถทัวร์ไม่เพียงแต่จะทรงพลัง แต่มันยังสบายอีกด้วย หญิงสาวหลายคนอาศัยอยู่ในนั้น พวกเธอต่างกินอาหารและอาบน้ําได้ทุกเมื่อที่พวกเธอต้องการ มันเทียบได้กับประสบการณ์ที่สุดแสนพิเศษในโลกที่ล่มสลายเช่นนี้
“พี่เจียงคะ ในที่สุด พวกเราก็กลับมายังจินหลิงแล้ว” เจียงจู่อิงพูด
เมืองจินหลิงคือเมืองที่เจียงอิงเข้ามหาวิทยาลัย มันเป็นหนึ่งในเมืองที่รุ่งเรืองที่สุดในมณฑลรัฐ แต่หลังจากการระบาดของไวรัสและโรคระบาด แม้แต่ถนนหลักยังเต็มไปด้วยรถที่ถูกทิ้งร้างไว้เต็มไปหมด
โชคดีที่ในปีนี้ คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ได้สร้างทางไว้เข้าแล้ว เซียงซัวไฮ้ก็รู้ถึงเส้นทางนี้
“พวกเราใกล้ถึงแล้วค่ะ มันมีค่ายของผู้รอดชีวิตห่างออกไปประมาณสิบกิโลเมตร ก่อนที่ฉันจะออกไปจากเจียงซูทางเหนือ ฉันได้ส่งสมาชิกไปหลายคนเพื่อตรวจสอบสถานการณ์โดยรวม แต่สถานการณ์ของจินหลิงก็ยังอันตรายด้วยเหมือนกัน” เซียงซัวไฮ่พูด เธอค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับสมาชิกของเธอและคิดถึงพวกเขาตลอดเวลา ถ้าพวกเขากําลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดอยู่ล่ะ? หรือว่าพวกเขาจะยอมแพ้แล้ว?
“เอาละ ไปดูกันเถอะ” เจียงลู่ฉีพูด เขาต้องการที่จะรู้เกี่ยวกับโรคระบาดนี้ และถ้าพวกเขาพบเจอกับคนที่เซียงซัวไฮรู้จัก พวกเขาก็ถามได้โดยตรง
เซียงซัวไฮ่พยักหน้า และเธอนําทางไป
ห่างออกไปสิบกิโลเมตรจากพวกเขาคือที่พัก มันมีตึกที่พักนับสิบตึกและคฤหาสน์อีกสองแห่ง ต้นไม้ก็ถูกถอนออกไป เหลือทิ้งไว้แต่พื้นที่ว่างไว้ปลูกอาหาร ในขณะที่ด้านนอกของชุมชนมีรถและเฟอร์นิเจอร์มากมาย “กําแพงเมือง” ได้ถูกกองไว้ด้วยของหลายอย่าง พื้นที่แห่งนี้ได้ถูกซ่อนไว้อย่างลึกลับมาก เพื่อที่จะซ่อนว่ามีคนอยู่แถวนี้ พื้นที่บริเวณนี้ต่างหลบอยู่ด้านหลังสิ่งที่ถูกทิ้งร้างไว้ หลังจากวันที่โลกล่มสลาย พื้นที่ปลอดภัยและ ฐานทัพหลายแห่งต่างสร้างขึ้นมาทั่วประเทศ ดังนั้นคนธรรมดาจึงรวมตัวกันอยู่ภายใต้การปกป้องของกองทัพ และพึ่งพาการป้องกันที่แข็งแกร่ง แต่มันก็ยังมีคนจํานวนมากที่อาศัยในที่พักแบบนี้ ซึ่งมันเปรียบได้กับค่าย
ผู้คนหลายคนต่างนั่งขดตัวกันอยู่ในห้องมืดและน่าหม่นหมอง พวกเขาทุกคนต่างดูน่าซึมเศร้า ตัวตนของซอมบี้ก็เป็นปัญหาที่โหดแล้ว แต่ในตอนนี้พวกเขายังต้องจัดการกับคนติดเชื้ออีก เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงภัยอันตรายด้านนอก คนทั้งหมดในกลุ่มต่างซ่อนตัวอยู่ด้านใน
ทันใดนั้นเอง เสียงท้องร้องของเด็กสาวดังขึ้น เธอส่ายหัวและพูด “หนูไม่หิว หนูไม่หิว”
ทุกคนต่างมองไปที่เธออย่างเศร้าสร้อย ไม่เพียงแต่สาวน้อย แต่พวกเขาทั้งหมดต่างไม่ได้กินอะไรกันมากมายสักเท่าไหร่ในช่วงวันเหล่านี้ อาหารแทบทั้งหมดต่างกําลังจะหมดลง หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน พวกเขาสามารถที่จะหาอาหารได้เพียงแค่เล็กน้อย นอกจากนี้แล้ว พวกเขายังต้องแบ่งอาหารครึ่งหนึ่งให้กับหัวหน้าของพวกเขาอีก
“เซี่ยวหนาน” หญิงสาวอีกคนเดินไปหาเด็กสาวและยื่นถ้วยมาม่าให้กับเธอ เด็กสาวส่ายหัวและตอบกลับ “พี่หลู่คะ ขอบคุณนะ แต่ฉันไม่ต้องการหรอก พี่กินมันได้เลย…” แต่เมื่อเธอพูดเสร็จ ตาของเธอจ้องไปที่ถ้วยมาม่า เธอกลืนน้ําลาย เพราะว่าเธอกําลังหิวอยู่
ชายกลางคนวัยห้าสิบปีลุกขึ้นยืน เขาดูผอมแห้งและโทรมมาก เขาเป็นเพียงคนเดียวในกลุ่มที่เป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ ปกติแล้วมันเป็นเขาที่ออกไปหาอาหาร และเขาก็มีสหายอีกหลายคน แต่คนเหล่านั้นต่างตาย หรือไม่ก็ติดเชื้อกันไปหมดแล้ว
ความยากของการหาอาหารมันยากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่เมื่อเห็นสาวน้อยที่หิวโหยแล้ว ชายวัยกลางคนรู้ดีว่าเขาจะต้องออกไปหาอาหาร
“ฉันจะไปยังห้างกูฮั่ว” เขาพูด
เมื่อได้ยินคําพูดของเขา ผู้คนทั้งหมดในกลุ่มต่างตกใจ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าห้างกูฮั่วคือพื้นที่อันตรายมากที่สุด มันมีซอมบี้มากมายในนั้น และมันน่าจะมีคนติดเชื้อหลายคนอยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน
“มันอันตรายเกินไป” หญิงสาวพูดขึ้น
“ใช่ แต่มันน่าจะเป็นที่เดียวที่ยังมีอาหารอยู่ ถ้าฉันหาอาหารได้แล้ว พวกเราก็จะยังอยู่ไปได้อีกหนึ่งเดือน ไม่อย่างงั้นแล้ว พวกเราก็จะ…” ชายวัยกลางคนไม่ได้พูดต่อ
ทุกคนรู้ดีว่าพวกเขายังทนไหวได้มากสุดก็แค่อีกหนึ่งอาทิตย์กับอาหารที่พวกเขามี มันโอเคสําหรับผู้ใหญ่ แต่สําหรับเด็กเล็กแล้ว พวกเขาก็จะหิวจนตายได้อย่างง่ายดาย
“ไม่นะ… พวกเราสัญญาแล้วนี่ว่าเราจะอยู่ด้วยกัน พ่อ!” ดวงตาของหญิงสาวแดงขึ้น
“ใช่ ลุงฮง รอก่อน พวกเราไม่สามารถปล่อยให้คุณไป..” คนอื่นพูดอย่างเศร้าสร้อย
นอกจากชัยวัยกลางคนแล้ว ที่เหลือต่างคือผู้หญิงและเด็ก ด้วยเหตุนี้ พวกเธอจึงไม่สามารถทําอะไรได้เลย
“ฉันแก่แล้ว และฉันก็ไม่ได้เป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติด้วย ดังนั้นฉันไม่ต้องกินมันหรอก” หญิงวัยกลางคนพูด คนที่เหลือต่างร้องไห้ออกมาเสียงดัง มันเป็นเรื่องยากสําหรับพวกเธอที่จะใช้ชีวิตอยู่
“เฮอลู่” ชายวัยกลางคนลูบไปที่หัวของเด็กหญิงอย่างนุ่มนวล เขายังจําได้ถึงตอนเธอยังเป็นทารก ตอนที่เขาอุ้มเธอออกมาจากห้องคลอด แต่ตอนนี้ เด็กหญิงที่น่ารักตอนนี้โตขึ้นและกลายเป็นเด็กที่สง่างามไปแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะไอไวรัสนี้แล้ว ลูกสาวของเขาก็คงจะเรียนจบมหาวิทยาลัย หางานที่เธออยากทํา เธอก็จะพบกับผู้ชายที่เธอรัก แต่งงานและคลอดหลานมาให้กับเขาแล้ว
“เฮอลู่ เธอจะต้องทําตัวเป็นเด็กดีนะ ถ้าฉันกลับมาไม่ได้แล้ว แม่และฉันต่างปรารถนาให้เธอเป็นคนที่มีความสุขนะ” เขาพูดกับเฮอลู่ที่ร้องไห้ออกมาอย่างเศร้าสร้อย