My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 641
ตอนที่ 641 ผู้ชายขายน้ำ ?
“ฉิงเฟิง ฤดูหนาวปีนี้หนาวมาก ดื่มเหล้าสักหน่อยจะทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น”
หลินจือจิบชาและรู้สึกแปลกๆ ร่างกายของเขารู้สึกหนาวสั่น ดังนั้นเขาจึงบอกให้ฉิงเฟิงดื่มเหล้าเพื่อทำให้ร่างกายอุ่นขึ้น
หนาวเหรอ ?
หลินเสวยี่ยขมวดคิ้ว เครื่องปรับอากาศในห้องนั่งเล่นก็เปิดอยู่และเครื่องทำความร้อนก็ยังใช้การได้ อุณหภูมิตอนนี้ก็ถือพอดีแล้ว มันหนาวตรงไหนกัน ?
ซึ่งความจริงก็คือพ่อของเธอต้องการดื่มเหล้า เขาชอบดื่มมากและดื่มเป็นประจำวันเวลาอยู่ที่บ้านบางทีก็ดื่มคนเดียว บางทีก็ดื่มกับเพื่อน ๆ
แต่หลินเสวี่ยไม่ชอบดื่มเหล้า เธอดื่มเพียงเล็กน้อยเป็นพิธีหรือเวลาออกงาน เมื่อตอนที่เธอยังเด็ก พ่อของเธอชอบเมาแล้วอาละวาด เธอไม่ชอบกลิ่นเหล้าและก็ไม่ชอบคนดื่มจัดตั้งแต่นั้นมา แต่ตอนนี้ในเมื่อพ่อของเธอเปรยทางอ้อมและอุตส่าห์มาเยี่ยม เธอจึงต้องทำเฉยๆไป
ฉิงเฟิงสังเกตเห็นความไม่สบายใจของหลินเสวี่ย แต่ตอนนี้พ่อตาของเขามาเยี่ยมเป็นแขกเขาจึงต้องสวมบทเป็นลูกเขยที่ดีและไม่ขัดใจ
“พ่อตา คุณรอสักครู่นะ ผมจะไปซื้อเหล้ามาให้” ฉิงเฟิงกล่าวและเดินออกจากบ้านเขาต้องออกไปซื้อเหล้า เพราะเหล้าที่เก็บไว้ในบ้านหมดเกลี้ยงไปนานแล้ว
Noble Palace เป็นสถานที่ระดับไฮเอ็นด์ และไม่มีร้านสะดวกซื้อหรือร้านค้าที่เขาสามารถหาซื้อเหล้าได้ ดังนั้นเขาต้องออกไปข้างนอก
แต่โชคดีที่มีร้านสะดวกซื้ออยู่ที่หน้าทางเข้าชุมชน ร้านนี้ชื่อว่าร้านสะดวกซื้อ Noble ถึงแม้ว่ามันจะตั้งชื่อตามชุมชน แต่เจ้าของก็เป็นคนในชุมชนอื่นที่อยู่ถัดไป
เจ้าของร้านชื่อซูหว่านหรู เธอเป็นหญิงม่ายวัยสามสิบกว่า สามีของเธอเสียชีวิตในอุบัติเหตุทำให้เธอได้รับมรดกเป็นจำนวนมาก
เธออาจจะดูมีความสุขและมีชีวิตชีวากับเงินมรดกจำนวนนี้ แต่พ่อตาแม่ยายของเธอป่วยหนักและจำเป็นต้องได้รับการดูแล เธอไม่แต่งงานใหม่ เพื่อเลี้ยงดูพวกเขาเธอจึงเปิดร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ที่หน้าทางเข้า Noble Palace ซึ่งมันทำให้เธอสะดวกในการดูแลพวกเขา
ฉิงเฟิงเคยมาที่นี่มาก่อน ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับร้านนี้ เมื่อเขาเดินเข้าไปก็เห็นซุหว่านหรูกำลังจัดเรียงสิ่งของๆบนชั้นวาง
ซูหว่านหรูมีใบหน้าสวย ดวงตาของเธอส่องประกายเหมือนน้ำในสระ ริมฝีปากสีแดงของเธอดูเซ็กซี่ ชุดสีขาวที่เธอสวมใส่นั้นช่วยขับเน้นส่วนโค้งเว้าบนร่างกายของเธอ ดังที่มีคนกล่าว ผู้หญิงที่อยู่ในวัย 30 นั้นถือเป็นช่วงที่เซ็กซี่ที่สุดแล้ว
อาจจะเป็นเพราะว่าชั้นวางของนั้นสูงเกินไปสำหรับเธอ ซูหว่านหรูเสียหลักในตอนที่พยายามจะเอาไวน์ไปวางไว้บนชั้นและกำลังจะร่วงลงกับพื้น ไม่เพียงแค่นั้น ขวดไวน์ที่อยู่บนชั้นวางก็กำลังจะหล่นลงมาด้วยเช่นกัน ซึ่งในกรณีนี้ไม่เพียงแค่เธอจะหกล้มลงกับพื้น แต่เธออาจได้รับบาดเจ็บเมื่อขวดไวน์ตกลงพื้นด้วยเช่นกัน
ฉิงเฟิงซึ่งเข้ามาและเห็นฉากนี้พอดี แน่นอนว่าเขาต้องช่วยเธอ
วูบ !
ฉิงเฟิงมาอยู่ข้างตัวซูหว่านหรูในพริบตา เขาโอบรอบเอวของเธอไว้และจับขวดที่กำลังตกลงมาอย่างง่ายดายราวกับการแสดงมายากล จากนั้นเขาก็นำมันกลับไปวางบนชั้น
ซูหว่านหรูที่คิดว่าตัวเองกำลังจะล้มฟาดพื้นไปแล้วกลับพบว่าเธอกำลังอยู่ในอ้อมแขนของชายคนหนึ่ง กลิ่นอายของผู้ชายจากร่างกายของเขาทำให้สติของเธอเตลิด เธอรู้สึกเขินอายและหัวใจเต้นรัว
เธอไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนใดมากขนาดนี้นับตั้งแต่สามีของเธอเสียชีวิต ไม่ต้องพูดถึงชายหนุ่มที่หล่อเหลาคนนี้เลย เธอมีปัญหาในการพยายามผละจากอ้อมแขนของเขา
ฉิงเฟิงรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เขาแค่จะมาหาซื้อเหล้าให้พ่อตาและบังเอิญช่วยเธอไว้เพราะเห็นว่าเธอกำลังจะหกล้ม แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเธอไม่ยอมออกไปอ้อมแขนของเขา
ถ้าเธอลุกไม่ขึ้นก็ไม่เป็นไร แต่ปัญหาคือฝ่ามือของเขาอยู่ตรงกันของเธอ ซึ่งมันเป็นสภาพที่ดูไม่ค่อยดีนัก มันทำให้ฉิงเฟิงอึดอัดใจ
“นั่นนายกำลังทำอะไรอยู่ ??” มีเสียงคนพูดดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขาในขณะที่ฉิงเฟงกำลังจะวางเธอลง
คนพูดเป็นชายหนุ่มอายุราวๆยี่สิบ เขาย้อมผมสีเหลืองสว่างและมีรอยสักเต็มแขน เพียงมองแค่แวบแรกก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนดี
“พี่สะใภ้ ฉันไม่รู้เลยนะว่าพี่จะเป็นคนแบบนี้ กลางวันแสกๆเลยเหรอ !” ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มเย้ย
“หยางผิง อย่าพูดเหลวไหล ฉันเสียหลักล้มแต่ผู้ชายคนนี้มาช่วยฉันเอาไว้ต่างหาก”
ซูหว่านหรูผละจากอ้อมแขนของฉิงเฟิงอย่างงุ่มง่ามและพูดเสียงดัง
ซูหว่านหรูรู้ว่าหยางผิงเป็นน้องชายของสามีที่เสียชีวิตไปวันๆเขาไม่ทำอะไรเลยเอาแต่เล่นการพนัน เขาเป็นคนไร้แก่นสาร
“พี่สะใภ้ ฉันไม่คิดเลยนะว่าพี่จะคว้าผู้ชายคนใหม่เร็วขนาดนี้ทั้งๆที่พี่ชายของฉันเพิ่งจะตายไปไม่นาน ฉันมั่นใจว่าถ้าเขารู้เขาต้องปืนออกจากหลุมศพด้วยความโกรธแน่นอน” หยางผิงกล่าวด้วยน้ำเสียงส่อเสียด
“หยางผิง พอได้แล้วกับเรื่องไร้สาระ เขาช่วยฉันไว้เมื่อกี้ เรื่องมันก็มีแค่นั้น !”
“ช่วยพี่ ? เหอะ ! พี่คิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบหรือไง ? แล้วที่อยู่ในอ้อมแขนของมันโดยไม่ยอมลุกเมื่อกี้มันหมายความว่าอะไร ?”
“ฉัน ฉัน ฉัน… “
“ฉันอะไร ? แก้ตัวไม่ขึ้นแล้วสิ ? เอางี้แล้วกันพี่เอามาล้านหยวนแล้วฉันจะไม่พูดอะไร” หยางผิงกล่าวและยิ้มอย่างมีเลศนัย
อันที่จริงแล้วหยางผิงต้องการอย่างอื่นนอกจากเงิน เขาต้องการตัวของพี่สะใภ้ผู้งดงามคนนี้อีกด้วย แต่เขาไม่พูดออกมาเพราะมีคนนอกอย่างฉิงเฟิงอยู่
“หยางผิง เงินก้อนนั้นเป็นเงินที่เอาไว้ดูแลพ่อแม่ ฉันให้เธอไม่ได้หรอก” ซูหว่านหรูขุ่นเคืองและปฏิเสธในทันที
“พี่สะใภ้ ถ้าพี่ไม่เอาเงินให้ฉัน ฉันจะบอกแม่ว่าพี่เลี้ยงผู้ชายและเอาเงินประกันของพี่ชายไปปรนเปรอผู้ชายขายน้ำของพี่ !” หยางผิงชี้ไปที่ฉิงเฟิงและกล่าว
เลี่ยงผู้ชาย ? ผู้ชายขายน้ำ ??
ฉิงเฟิงไม่พอใจเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เขาแค่จะมาซื้อเหล้าให้พ่อตาและช่วยเจ้าของร้านจากอุบัติเหตุเท่านั้น แต่ตอนนี้เขากลับมาถูกชี้หน้าว่าเป็นผู้ขายน้ำ
แต่แน่นอนว่าฉิงเฟิงจับใจความจากการสนทนาของพวกเขาได้แล้ว หยางผิงคนนี้ต้องการเงินประกันจากการเสียชีวิตของพี่ชาย ส่วนซ่หว่านหรูไม่ยอมให้เพราะต้องการเก็บเงินไว้ดูแลพ่อแม่ยามเจ็บป่วย เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเรื่องความขัดแย้งทางผลประโยชน์
“นาย หยางผิงใช่ไหม โทษทีนะแต่ช่วยให้เกียรติกันหน่อย ฉันเป็นลูกค้า ฉันแค่จะมาซื้อเหล้ากลับบ้านและฉันไม่ใช่ผู้ชายขายน้ำอย่างที่นายเข้าใจ” ฉิงเฟิงมองไปที่หยางผิงและกล่าวด้วยความไม่พอใจ
หยางผิงแสยะยิ้มออกมาและสบถว่า “ตอแหล ! ซื้อเหล้าเรอะ ? นายคิดจะซื้อเหล้าจากนมพี่สะใภ้ฉันอะดิ ดูหน้าก็รู้ นายมันไม่ใช่คนดี”
“ฉันจะพูดเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะ ฉันมาที่นี่เพื่อซื้อเหล้า ฉันไม่ได้มีเวลามากพอจะมาเล่นไร้สาระกับนาย ฉันขอแนะนำให้นายอย่ามายุ่งกับฉันก่อนที่มันจะสายเกินไป”
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและกล่าวด้วยความหงุดหงิด
“พ่อตากำลังรอเหล้าอยู่แต่ไอ้บ้าหยางผิงนี่ก็พร่ำเรื่องไร้สาระไม่เลิก มันน่ารำคาญจริงๆ”