My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 655
ตอนที่ 655 พบเบอร์นาร์ดอีกครั้ง
“คุณผู้หญิงคะ พวกเราอยู่บนเครื่องบิน คุณทําแบบนี้ไม่ได้นะคะ” แอร์โฮสเตสสาวกล่าว ถึงแม้ว่าอลิซจะไม่สนใจเธอ แต่เธอก็ยังคงพูดโน้มน้าวต่อไป
อย่างไรก็ตาม อลิซไม่มองเธอแม้แต่น้อยและยังคงนวด(?)ฉิงเฟิงต่อไป
เมื่อแอร์สาวเห็นว่าอลิซไม่แคร์คําพูดเธอ เธอก็แทบจะร้องไห้ เธอจึงหันไปมองฉิงเฟิงและกล่าวว่า “คุณผู้ชายคะ พวกเราอยู่บนเครื่องบิน คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหมคะ ? ถ้าเรื่องนี้เปิดเผยออกไปฉันโดนหักเงินเดือนแน่”
เมื่อเห็นแอร์สาวกําลังจะร้องไห้ ฉิงเฟิงก็รู้สึกไม่ดี เขาจับมืออลิซและกล่าวว่า “พอเลยเธอหยุดนวดได้แล้ว”
“ขอบคุณค่ะ กาแฟแก้วนี้ให้ฟรีแทนคําขอบคุณ” ใบหน้าของแอร์สาวแดงขึ้นเล็กน้อยและเธอก็ส่งแก้วกาแฟไปให้ฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงยิ้มตอบ เขารับกาแฟมาและพยักหน้า
แอร์สาวมองฉิงเฟิงอย่างเอียงอายจากนั้นเธอก็หันกลับไป ใบหน้าที่แดงด้วยความเขินอายนั้นน่ารักมาก
ถึงแม้ว่าอลิซจะไม่เคยเรียนการนวดมาก่อน แต่ฝีมือการนวดของเธอก็ดีมาก หลังจากได้การนวดจากเธอ ฉิงเฟิงก็รู้สึกผ่อนคลาย
เที่ยวบินจากเมืองตงไห้ไปยังกรุงปารีสในทวีปยุโรปใช้เวลาบิน 12 ชั่วโมง ตอนนี้เพิ่งผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้นยังอีกตั้ง 10 กว่าจะถึงที่หมาย
“อลิซ ฉันจะนอนพักสักหน่อย ใกล์ถึงแล้วปลุกฉันด้วยนะ” ฉิงเฟิงกล่าวและหลับตาลง เขาต้องการที่จะชาร์จพลังงานและอยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุด เพราะการต่อสู้แลกชีวิตที่รุนแรงกําลังรอเขาอยู่
ในขณะที่ฉิงเฟิงกําลังหลับ แอร์สาวก็กลับมาอีกครั้งเพราะเธออยากคุยกับฉิงเฟิง แต่เมื่อเธอเห็นฉิงเฟิงหลับ แล้วเธอก็ทําได้เพียงจากไปด้วยความผิดหวัง
หลังจากผ่านไป 12 ชั่วโมง เครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบินนานาชาติกรุงปารีส
“บอสคะ พวกเรามาถึงปารีสแล้ว” อลิซสะกิดฉิงเฟิงเพื่อปลุกเขา
เฉิงเฟิงลืมตาขึ้นในทันทีและบิดขี้เกียจยืดเส้นยืดสาย เขาได้พักผ่อนและรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก การนอนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการฟื้นฟูความแข็งแรงของร่างกาย
“ไปกันเถอะ” ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและเดินลงจากเครื่องพร้อมกับอลิซ
ที่ล็อบบี้ของสนามบิน เบอร์นาร์ดขับรถโรลส์รอยซ์ใส่ชุดสูทสีดําเต็มยศมาพร้อมกับบอดี้การ์ดหลายสิบคนที่อยู่ข้างหลังเขา (เบอร์นาร์ดมีบทตอน 100 กว่าๆที่มาพร้อมกับบารอนสมิธ ขอให้ฉิงเฟิงไปรักษาพ่อที่โดนยาพิษ เผื่อใครลืม)
เบอร์นาร์ดไม่เพียงแค่เป็นมหาเศรษฐีผู้ร่ํารวยมหาศาลของกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ยังติด 1 ใน 100 อันดับมหาเศรษฐีที่ร่ํารวยที่สุดในโลกของฟอร์บส์อีกด้วย เขามีสินทรัพย์หลายแสนล้านเหรียญ เขามีสถานะทางสังคมที่สูงมาก ประชาชนทั่วไปที่เห็นเขาที่สนามบินต่างก็รู้ว่าเขาเป็นใคร
“มายก็อด ! ชายคนนั้นใช่มิสเตอร์เบอร์นาร์ดนักธุรกิจชาวฝรั่งเศสหรือเปล่า ? เขามาทําอะไรที่สนามบิน ?”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูจากที่เขามาพร้อมกับบอดี้การ์ดหลายสิบคน เขาดูเหมือนจะมารอรับใครบางคน
“มารับคน ? ล้อกันเล่นหรือเปล่า เขาคือมหาเศรษฐีเชียวนะ ใครหน้าไหนกันที่เขาต้องมารอรับด้วยตัวเอง ?”
ทุกคนที่สนามบินต่างก็ถูกเถียงกันไม่หยุด ใบหน้าของพวกเขาดูตกใจมาก
ในเวลานี้ สาวงามผมบลอนด์ที่อยู่ไม่ไกลจากเบอร์นาร์ดก็เดินตรงไปหาเขา เธอเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ ในประเทศฝรั่งเศส เมื่อเธอเห็นเบอร์นาร์ดมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งในที่สาธารณะก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะต้องการสัมภาษณ์เขา
เธอเดินไปหาเบอร์นาร์ดถามว่า “สวัสดีค่ะคุณเบอร์นาร์ด วันนี้คุณมาที่สนามบินทําไมคะ ?”
เบอร์นาร์ดมองเธอและกล่าวว่า “ผมมารอรับคน “
รอรับคน ?
ถึงแม้ว่าเธอพอจะคาดเดาได้ว่าเขาต้องกําลังรอรับใครสักคน แต่พอได้ยินจากปากเจ้าตัว เธอก็ตกใจไม่น้อย
จากที่เธอรู้มา แม้แต่นายกเทศมนตรีของกรุงปารีส เบอร์นาร์ดก็ยังไม่ยอมให้พบ แล้วใครในโลกนี้ที่จะมีสถานะสูงส่งพอจนทําให้คนอย่างเบอร์นาร์ดต้องมารอรับตัวเอง ?
ทันใดนั้นอลิซก็เห็นเบอร์นาร์ดและกล่าวว่า “บอสคะ ดูนั่นสิ เบอร์นาร์ดมารอพวกเรา”
ฉิงเฟิงยิ้มและเดินไปหาเบอร์นาร์ดพร้อมกับอลิซ
เมื่อฉิงเฟิงเดินเข้ามา สาวงามผมบลอนด์จากสถานีโทรทัศน์ก็มีสีหน้าหงุดหงิดและกล่าวว่า “ขอโทษนะคะ ชั้นกําลังสัมภาษณ์คุณเบอร์นาร์ด คุณช่วยถอยไปหน่อยได้ไหมคะ ?”
เมื่อเผชิญหน้ากับสาวงามผมลอนด์ ฉิงเฟิงก็ยิ้มเล็กน้อยและเพียงแค่มองไปที่เธอ เขาเดินหน้าต่อไป ทําให้เธอโกรธเล็กน้อยที่ฉิงเฟิงไม่ฟังคําพูดของเธอ
แต่ถ้าการกระทําของฉิงเฟิงทําให้สาวงามคนนี้โกรธ ดังนั้นคําพูดต่อมาของเขาจะทําให้เธอต้องโกรธมากกว่าเดิม เขากล่าวว่า “เคราน้อย ทําไมตานายเป็นหมีแพนด้าแบบนี้ละ ? นอนไม่พอเหรอไง ?”
Wtf ?เคราน้อย !?
ใบหน้าของสาวงามผมบลอนด์เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง เธอทํางานด้านสื่อสารมวลชนและสัมภาษณ์ผู้คนมามากมาย บางคนเป็นชาวฝรั่งเศส ส่วนบางก็เป็นชาวจีน ถ้ามองตามวัฒนธรรมของชาวจีน ศักดิ์ฐานะของเบอร์นาร์ดเทียบได้กับข้าราชการส่วนพระองค์ของจักรพรรดิ
ทําไมชาวจีนคนนี้ถึงได้หยาบคายนัก ? เขาเรียกคณเบอร์นาร์ดว่าเคราน้อยได้อย่างไรกัน ?
“คุณเบอร์นาร์ดเป็นคนร่ํารวยที่สุดคนหนึ่งของฝรั่งเศสและเป็นหนึ่งในคนที่ร่ํารวยที่สุดของโลก นายมันแค่ลิงเหลือง กล้าดียังไงมาเรียกคุณเบอร์นาร์ดเช่นนี้ ! ขอขมาเขาซะ”
จากมุมมองของสาวงามผมบลอนด์คนนี้ เบอร์นาร์ดไม่เพียงแค่เป็นคนรวยแต่เขายังเป็นความภาคภูมิใจของชาวฝรั่งเศส ตอนนี้เขาได้รับการ “ดูหมิ่น” จากคนจีนทําให้เธอรู้สึกอึดอัดมาก
หลังจากได้ยินว่าสาวงามผมบลอนด์สบถใส่ฉิงเฟิง เบอร์นาร์ดก็คิ้มขมวดและตะโกนใส่เธออย่างดุร้ายว่า “คุณหุบปากไปซะ ! ฝ่าบาทวูฟคิงเรียกฉันว่าเคราน้อยมันคือเกียรติยศของฉันที่ไม่มีสิ่งใดทดแทนได้ !”
“คุณเบอร์นาร์ด ชั้นช่วยพูดรักษาหน้าให้คุณนะคะ คุณมาด่าชั้นยังงี้ได้อย่างไร ?”
สาวงามผมบลอนด์กล่าวด้วยความงนงง
“นังบ้า ! งี่เง่า เธอคิดว่าเธอเป็นใคร ? เธอกล้าดียังไงมาสั่งสอนฝ่าบาทวูฟคิงว่าต้องทําตัวอย่างไร ?” เบอร์ นาร์ดจองไปที่สาวงามผมบลอนด์และตะคอกอย่างดุเดือด
หลังจากสบถใส่สาวงามผมบลอนด์ เบอร์นาร์ดก็หันไปทางฉิงเฟิงและโค้งคํานับทักทายเขาด้วยความเคารพอย่างสุดหัวใจ เขากล่าวว่า “ฝ่าบาทวูฟคิง เคราน้อยขอต้อนรับท่านสู่กรุงปารีสครับ”
เบอร์นาร์ดเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ํารวยและน่านับถือ แต่ต่อหน้าฉิงเฟิง เขาไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นนอกจากเป็นคนรับใช้ที่จงรักภักดี
เมื่อเธอเห็นเบอร์นาร์ดโค้งคํานับทักทายฉิงเฟิงและเรียกตัวเองว่า เคราน้อย” เธอก็อดไม่ได้ที่จะต้องประหลาดใจ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตกใจ เธอช็อคจนพูดไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร
เธอได้แต่คาดเดาว่าชาวจีนคนนี้เป็นใครกันแน่ถึงสามารถทําให้เบอร์นาร์ดต้องปฏิบัติตัวเช่นนี้ เธอมองฉิงเฟงอย่าหวาดกลัวผสมไปกับความอยากรู้
จิงเฟิงไม่สนใจเธออีกและหันไปกล่าวกับเบอร์นาร์ดว่า “พวกเราไปกันเถอะ ว่าแต่ นายยังไม่บอกฉันเลยว่า ทําไมตาของนายดูง่วงขนาดนี้ละเคราน้อย งานยุ่งหรือ ?”
“ฝ่าบาทวูฟคิง ผมแค่ไม่ได้นอนมาสามวัน นี่คือข้อมูลทั้งหมดของกาโตร์คิงที่ผมเก็บรวบรวมผ่านคนของผมครับ” เบอร์นาร์ดหยิบซองกระดาษออกจากแจ็คเก็ตของเขาและส่งให้ฉิงเฟิงด้วยความเคารพ
“นี่…นาย”
ฉิงเฟิงรู้สึกประทับใจมากในขณะที่เขารับซองมาจากเบอร์นาร์ด
ฉิงเฟิงเพิ่งจะโทรบอกเบอร์นาร์ดเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าเขากําลังจะมากรุงปารีสเพื่อต่อสู้กับกาโตร์คิงในอารีน่า โลกใต้ดิน เขาไม่ได้คาดคิดแม้แต่น้อยว่าเบอร์นาร์ดจะรวบรวมข้อมูลให้เขาโดยไม่หลับไม่นอนถึง 3 วัน ไม่แปลกใจเลยที่ทําไมขอบตาของเขาถึงคล้ําเป็นหมีแพนด้าขนาดนี้