Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ - ตอนที่ 103
“บางคนเชื่อว่านี่เป็นพลังแห่งโชคชะตา เธอไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องเหนือจริงไปหน่อยงั้นเหรอ” ผู้อำนวยการเฉินหัวเราะ “ผู้คนเหล่าเชื่อว่าด้วยพลังแห่งโชคชะตาทำให้พวกสิ่งก่อสร้างหรือทางด่วยส่วนใหญ่ยังไม่ถูกทำลาย
“พลังแห่งโชคชะตา?” เกาเผิงไม่พูดอะไร เขาไม่คิดว่าทฤษฎีนี้จะช่วยอะไรเขาได้ อย่างไรก็ตามหากเล่าเรื่องนี้ให้ใครต่อใครฟัง พวกเขาคงหัวเราะแน่ๆ
เกาเผิงยังคงดำเนินการวิจัยและทดลองต่อไป เขาได้นำเนื้อเยื่อมาทดสอบไปมาเป็นเวลา 3ชั่วโมง
ในที่สุดผู้อำนวยการเฉินก็พบจุดอ่อนของไส้เดือนเผ่ามนุษย์กินคน จุดอ่อนของมันยังมีรูปแบบคล้ายกับแบบดั้งเดิม นั่นก็คือการสูญเสียความชุ่มชื้น
ซึ่งผลลัพธ์นี้ก็ใกล้เคียงของเกาเผิงเช่นกัน จุดอ่อนที่ผู้อำนวยการเฉินค้นพบไม่แตกต่างจากแผงข้อมูลของเกาเผิงเลย
“มาดูนี่สิตัวการที่ทำให้ไส้เดือนเผ่ามนุษย์กินคนหลบหนีอออกจากอาณาเขต” ผู้อำนวยการเฉินเรียกเกาเผิงเข้ามา
ที่ด้านหน้าของผู้อำนวยการเฉินมีโปรเจ๊กเตอร๋ตั้งอยู่ เขาเสียบ USB เข้าที่โปรเจ๊กเตอร์และมันก็เริ่มฉายภาพอย่างช้าๆ
มีทรายและสายลมในพื้นที่กว้าง มันอาจถูกถ่ายในช่วงเที่ยงๆ
ทะเลทรายแห่งนี้ดูแห้งแล้งมาก ภาพที่ถ่ายถูกถ่ายจากมุมสูง มีเสียงเครื่องยนต์ดังเป็นระยะๆ แสดงนี่เป็นโดรนแบบไร้คนขับ
จู่ๆบนจอมีแสงไฟส่องสว่างสองดวงปรากฏขึ้น มันกำลังตกลงมาสู่กลางทะเลทราย
มันเป็นขีปนาวุธที่ถูกส่งออกไป
*ตูม ตูม*
แรงระเบิดกินวงกว้างมาก มีควันสีดำรูปเห็ดลอยขึ้นสูง จากนั้นควันก็ค่อยๆหายไป ทิ้งรอยระเบิดไว้เบื้องล่าง
จากนั้นฉากก็เปลี่ยนเป็นภาพจากโดรนอีกตัว มันเข้าไปถ่ายตรงบริเวณทรายดูดใกล้ๆ
จู่ๆก็มีเงาบางอย่างพุ่งมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
โดรนไร้คนขับไม่อาจหลบมันได้ ตัดถูกตัดเป็นชิ้นและร่วงจากท้องฟ้า
หลังจากนั้นตรงบริเวณทรายดูดได้เริ่มเคลื่อนไหว มันได้ดูดทรายรวมเข้าตรงกลางและก่อตัวสูงขึ้น เป็นอะไรที่ท้าทายกฎฟิสิกส์มาก
ดูเหมือนจะมีตัวอะไรอยู่ข้างในนั้น
ที่ยอดของกองทรายเหมือนมีของเหลวแปลกๆไหลออกมา และท้ายที่สุดก็มีสัตว์ประหลาดสูงถึง 10เมตรได้โผล่ออกมา ทั่วทั้งร่างของมันมีแต่ทรายและไม่มีขา ดูเหมือนรูปปั้นที่ก่อจากทราย ตรงบริเวณที่มันติดกับทราย ค่อยๆแพร่รัศมีสีดินรอบๆตัวอย่างช้าๆ
สัตว์อสูรตัวนั้ดูเหมือนจะสังเกตการณ์คงอยู่ของโดรนไร้คนขับได้ มันหันไปมองอย่างช้าๆนิ่งๆไร้ความรู้สึก ด้วยดวงตาที่ไร้ดวงตาของมัน รูที่ตาทั้งสองของมันกลวงโบ๋และดูลึกมาก
[ชื่อสัตว์อสูร] ผู้ปกครองผืนทะเลทราย
[เลเวล] 41(ชนชั้นราชวงศ์)
[ระดับ] สูง
[คุณสมบัติ] ธาตุทราย / ดิน
[ลักษณะพิเศษ] พันธมิตรทราย (เอฟเฟ็คที่หนึ่ง – รูปแบบติดตัว: เมื่อผู้ปกครองผืนทะเลทราย อยู่ในพื้นที่ทะเลทราย มันจะสร้างลูกน้องที่เป็นสัตว์อสูรธาตุทรายออกมา พวกมันจะฟังผู้ปกครองผืนทะเลทรายอย่างเคร่งครัด หากผู้ปกครองผืนทะเลทรายบาดเจ็บมันสามารถกินลูกน้องเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตได้
เอฟเฟ็คที่สอง – หากผู้ปกครองผืนทะเลทรายกินลูกน้องอสูรทรายเป็นจำนวนมากๆ จะทำให้ได้รับบัพเสริมความแข็งแกร่งในการต่อสู้ตามจำนวนที่มันกินเข้าไป แต่พอผ่านไประยะของบัพจะค่อยๆลดลง)
[ทักษะ] บงการทราย เลเวล 3
[จุดอ่อน] 1.ผู้ปกครองผืนทะเลทรายมีแก่นจิตวิญญาณแห่งทรายอยู่ในตัวมัน หากทำลายแก่นจิตวิญญาณแห่งทรายได้จะทำให้มันอ่อนแอลงมาก 2.ธาตุน้ำแข็ง
มันเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เกาเผิงเคยเห็นมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นสัตว์อสูรชนชั้นราชวงศ์
“นี่เป็นสัตว์อสูรที่ทำให้ไส้เดือนเผ่ามนุษย์กินคนต้องระเห็จออกจากทะเลทรายต้าหลี่ใช่มั่ย” นักวิจัยหวังพึมพำด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
“มันเป็นสัตว์อสูรชนชั้นราชวงศ์” เขาพูดด้วยเสียงสั่นๆ “แถมยังเป็นธาตุที่หายากอีกด้วย”
ผู้อำนวยการเฉินวางไหล่ไปที่นักวิจัยหวัง “อย่าได้กังวลไป พวกเราจะจัดการมันในไม่ช้าก็เร็ว”
เกาเผิงนั่งฟังอยู่เงียบๆก็พบว่าพ่อแม่ของนักวิจัยหวัง ถูกฆ่าโดยสัตว์อสูรชนชั้นราชวงศ์เมื่อประมาณ 1ปีที่ผ่านมา พวกเขาถูกฆ่าอย่างโหดร้ายแม้แต่ซากของพ่อแม่ของเขาก็ยังไม่เหลือ
“ทางกองทัพได้ตั้งชื่อของมันว่า ผู้ปกครองผืนทะเลทราย” ผู้อำนวยการเฉินกล่าวอย่างเคร่งขรึม
เมื่อเกาเผิงได้ยินชื่อที่ผู้อำนวยเฉินได้บอกมา เขาก็สะดุ้งทันที
‘พวกเขาไปเอาชื่อของมันมาจากไหน มันตรงกับแผงข้องมูลของฉันเลย’
เขาคิดอยู่เสมอว่าพวกชื่อต่างๆ จะขึ้นอยู่กับแผงข้อมูลของเขาเท่านั้น แต่พบว่าเขาคิดผิด บางครั้งชื่อที่เขาเห็นก็ไม่ตรงกับหนังสือหรือตำราที่ไหนเลย
ราวกับว่าข้อมูลของเขาได้รับจะมาจากข้อมูลที่ชั้นสูงกว่ายังไงยังงั้น
‘เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะ ข้อมูลชั้นสูงนี่มัน’ ดูเหมือนเกาเผิงจะเข้าใจอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับแผงข้อมูลของเขาอย่างงงๆ ‘มันจะเข้าใจแต่ไม่เข้าใจ ช่างมันเถอะค่อยเก็บมาคิดทีหลัง’
“ทะเลทรายต้าหลี่อยู่ห่างจากเมืองฉางอานราวๆ 200กิโลเมตร แต่สำหรับสัตว์อสูรชนชั้นราชวงศ์ระยะแค่ี้ถือว่าเป็นเพียงระยะสั้นๆเท่านั้น ปกติพวกมันจะไม่ค่อยออกจากอาณาเขตของมัน แต่หากปล่อยมันไว้มันจะยกระดับกลายเป็นชนชั้นราชาในตำนาน กระบวนการที่จะถึงขั้นนั้นใช้เวลานานมากดังนั้นพวกมันจะหาสถานที่เหมาะสมกับก่อนจะสะสมพลังเพื่อวิวัฒนาการ”
“แค่เจอพื้นที่ที่เหมาะสมก็พอเพียงที่จะทำห้พวกมันวิวัฒนาการแล้ว หากมันเจอมันจะไล่สัตว์อสูรตัวอื่นเพื่อตั้งรกรากที่นั่น” ผู้อำนวยการเฉินหยุดพูดพักหนึ่งก่อนจะพูดต่อ “อย่างไรก็ตามเราจะเข้าไปโจมตีอย่างไรไม่ให้มันรู้ตัวดังนั้นเราต้องหาอะไรอย่างอย่างเกี่ยวกับมันเพื่อช่วยเหลือทางกองทัพ”
“พวกเราต้องไม่ทำให้ความปลอดภัยของชาวเมืองฉางอานนับล้านขึ้นอยู่กับอารมณ์ของมัน” ผู้อำนวยการเฉินกล่าวอย่างจริงจัง
“แต่พวกเราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับพวกมันเลยนะครับ เราไม่สามารถปั้นน้ำเป็นตัวได้หรอกนะครับ” นักวิจัยกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
“ทางกองทัพได้จับอสูรทรายตัวเล็กๆมา จำนวนหนึ่ง พวกมันดูคล้ายผู้ปกครองผืนทะเลทราย พวกเราอาจใช้พวกมันวิเคราะห์โครงสร้างร่างกายของผู้ปกครองผืนทะเลทรายได้นะ อสูรทรายกำลังถูกส่งมาที่นี่ในเร็วๆนี้” ผู้อำนวยการเฉินกล่าว
ทันทีที่ผู้อำนวยการเฉินพูดจบ ประตูก็เปิดออกทันที มีนายทหารจากกองทัพหลายนายออกจากลิฟต์ พวกเขาได้เข็นกล่องโลหะที่ปิดผนึกเอาไว้
มีเสียงกระแทกจากข้างในกล่องอย่างต่อเนื่อง
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame